Q
ความเร็วสูงสุดของ McLaren 540C คือเท่าไหร่
McLaren 540C ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่บรรลุความเร็วระดับนี้จากปัจจัยหลายด้านร่วมกัน เครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.8 ลิตร ให้พลังงานเพียงพอในการขับเคลื่อนไปถึงความเร็วดังกล่าว การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ เช่น ช่องรับอากาศขนาดใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยลดแรงต้านอากาศในขณะวิ่งที่ความเร็วสูง ส่งผลให้สามารถเร่งและรักษาความเร็วสูงสุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบายังช่วยเพิ่มสมรรถนะโดยรวม การผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ทรงพลัง การออกแบบลู่ลม และวัสดุน้ำหนักเบา ทำให้ McLaren 540C มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจด้วยความเร็วสูงสุดถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
แมคลาเรน 540C น้ำหนักเท่าไหร่
McLaren 540C มีน้ำหนักตัวรถ 1311 กิโลกรัม น้ำหนักที่ค่อนข้างเบานี้เป็นผลมาจากการใช้วัสดุขั้นสูงและแนวคิดการออกแบบของแบรนด์ McLaren ที่มักเลือกใช้วัสดุเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งช่วยลดน้ำหนักรวมของรถและเพิ่มสมรรถนะโดยรวม รถที่เบากว่าจะเร่งได้เร็ว เบรกได้มีประสิทธิภาพ และควบคุมได้ดียิ่งขึ้นทั้งบนถนนและในสนามแข่ง น้ำหนัก 1311 กิโลกรัมของ McLaren 540C ส่งผลให้มีตัวเลขสมรรถนะที่น่าประทับใจ เช่น ความเร็วสูงสุด 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.4 วินาที ยังช่วยให้เกิดอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่สมดุล ไม่ว่าจะขับขี่บนถนนหรือท้าทายความเร็วในสนาม ก็สามารถมอบประสบการณ์ที่เร้าใจได้เต็มที่
Q
McLaren 540 มีแรงม้ากี่แรง
คุณอาจต้องการทราบข้อมูลของรถรุ่น 2020 McLaren 540C 3.8L V8 ซึ่งมีกำลังสูงสุด 540 แรงม้า รถคันนี้ให้พละกำลังที่โดดเด่น โดยสามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 3799 ซีซี จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น นอกจากสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 11.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ตสมรรถนะสูง การจัดวางกำลังและระบบขับเคลื่อนเช่นนี้มอบประสบการณ์ขับขี่ที่เร้าใจและเร่งเร้าอารมณ์ความเร็วได้อย่างเต็มที่
Q
McLaren 540C สูงเท่าไหร่
McLaren 540C มีความสูง 1202 มิลลิเมตร รถสปอร์ตแบบสองที่นั่งคันนี้มีความสูงที่เหมาะสมกับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ช่วยลดแรงต้านลมและเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ ตัวถังที่เตี้ยยังเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้รูปลักษณ์ของรถดูโดดเด่นและสะดุดตา นอกจากนี้ รถยังมีความยาว 4530 มิลลิเมตร และความกว้าง 2095 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นมิติที่ส่งผลดีต่อทั้งสมรรถนะและภาพลักษณ์ของรถ McLaren 540C มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 19800000 บาทไทย มอบประสบการณ์ด้านสมรรถนะและสไตล์ระดับสูงสำหรับผู้ที่มีกำลังซื้อ
Q
McLaren 540C มีการบริโภคน้ำมันอย่างไร
แมคคลาเรน 540C มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันตามมาตรฐานอยู่ที่ 11.1L/100km สำหรับซูเปอร์คาร์รุ่นนี้ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 3.8L แรงม้าสูงแบบนี้ การสิ้นเปลืองน้ำมันที่มากขึ้นก็เป็นเรื่องปกติเพราะมันให้ประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียมอยู่แล้ว แต่ในชีวิตจริง อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอาจแตกต่างจากค่ามาตรฐานได้จากหลายปัจจัย เช่น สไตล์การขับของคุณเอง ถ้าชอบเหยียบกระแทกๆ เบรคกะทันหันบ่อยๆ น้ำมันก็จะหมดเร็ว แต่ถ้าขับเรียบๆ สบายๆ ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ส่วนสภาพถนนก็สำคัญเหมือนกัน ถ้าติดไฟแดงบ่อยๆ หรือต้องขับในที่การจราจรหนาแน่น น้ำมันก็จะหมดไว แต่ถ้าเป็นทางหลวงโล่งๆ อัตราสิ้นเปลืองก็จะดีขึ้น ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าตัวเลขในชีวิตจริงไม่ตรงกับค่ามาตรฐานที่ผู้ผลิตบอกไว้
Q
แรงม้าของ McLaren 540C มีกี่แรงม้า
McLaren 540C มีกำลัง 540 แรงม้า ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ รหัส M838TE ให้กำลังสูงสุด 397 กิโลวัตต์ หรือ 540 แรงม้า ที่ 7500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตร ที่ช่วง 3500 ถึง 6500 รอบต่อนาที เทคโนโลยีทวินเทอร์โบช่วยลดอาการรอรอบของเทอร์โบ ส่งกำลังได้ราบรื่นต่อเนื่อง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 จังหวะ ที่เปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ชุดระบบขับเคลื่อนนี้ทำให้ McLaren 540C เร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.4 วินาที แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมบนถนน
Q
McLaren 540C วิ่งเร็วเท่าไหร่?
McLaren 540C ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถสปอร์ตแบบสองที่นั่งคันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 540 แรงม้า เร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.4 วินาที โครงสร้างน้ำหนักเบาและการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ช่วยเสริมสมรรถนะขณะใช้ความเร็วสูง ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 จังหวะ ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ McLaren 540C จึงเป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่เร้าใจบนท้องถนน
Q
ปีอะไรเป็น McLaren 540C
McLaren 540C มีหลายรุ่นตามปีที่วางจำหน่าย โดยรุ่นปี 2020 คือ McLaren 540C 3.8L V8 ราคา 19800000 บาทไทย ความเร็วสูงสุด 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3.4 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 11.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ใช้น้ำมันเบนซิน จัดอยู่ในกลุ่มรถสปอร์ต เครื่องยนต์วางกลางแบบ V8 พร้อมโครงสร้างตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ MonoCell II ให้สัดส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่โดดเด่นในระดับเดียวกัน ตัวรถยาว 4530 มิลลิเมตร กว้าง 2095 มิลลิเมตร สูง 1202 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1311 กิโลกรัม มี 2 ประตู 2 ที่นั่ง ระบบเกียร์ DCT ยางหน้าขนาด 225/35 R19 มาพร้อมระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับและผู้โดยสาร
Q
ความแตกต่างระหว่าง McLaren 570S และ 540C คืออะไร?
McLaren 570S และ 540C มีความแตกต่างกันในหลายด้าน 570S มีราคาประมาณ 2658000 ถึง 2948000 บาท ส่วน 540C ราคาอยู่ที่ 19800000 บาท 570S มีราคาสูงกว่า ในด้านสมรรถนะ 570S ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 38 ลิตร ทวินเทอร์โบ กำลังสูงสุด 419 กิโลวัตต์ หรือ 570 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 32 วินาที ขณะที่ 540C มีกำลังสูงสุด 397 กิโลวัตต์ หรือ 540 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 35 วินาที 570S จึงมีกำลังมากกว่าและเร่งได้เร็วกว่า ด้านการออกแบบ 570S ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มากขึ้น ตัวรถจึงเบากว่าและมีดีไซน์ที่โดดเด่น แม้ทั้งสองรุ่นจะมีประตูแบบปีกผีเสื้อแต่รายละเอียดด้านท้ายรถต่างกัน ในด้านอุปกรณ์ 570S มีระบบปรับช่วงล่างที่ 540C ไม่มี ช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับตัวตามสภาพถนนและตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น มอบประสบการณ์ที่มั่นคงและสบายกว่า
Q
McLaren 540C ราคาเท่าไหร่
McLaren 540C มีราคาจำหน่าย 19.8 ล้านบาท เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.8 ลิตร ความเร็วสูงสุด 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.4 วินาที ใช้น้ำมันเบนซิน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 11.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เกียร์ดูอัลคลัตช์ (DCT) พร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐาน เช่น สัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย และถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตัวรถออกแบบอย่างประณีต ความยาว 4530 มิลลิเมตร กว้าง 2095 มิลลิเมตร สูง 1202 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1311 กิโลกรัม มีประตู 2 บาน และที่นั่ง 2 ที่ ให้ประสบการณ์ขับขี่เร้าใจแก่ผู้ที่เป็นเจ้าของ
Q&A ล่าสุด
Q
แรงบิดของ Toyota Vios 2020 คือเท่าไร
รถโตโยต้า Vios รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดประเทศไทย ใช้เครื่องยนต์ 1NZ-FE ขนาด 1.5 ลิตร ให้แรงบิดสูงสุดที่ 140 นิวตันเมตร (ประมาณ 14.3 กิโลกรัมเมตร) ซึ่งจะเข้าถึงจุดแรงบิดสูงสุดที่ความเร็ว 4,000 รอบ/นาที เมื่อทำงานร่วมกับเกียร์ CVT จะให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลในเมือง เหมาะสมกับสภาพการจราจรที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆในกรุงเทพฯ แรงบิดเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บอกความสามารถในการเร่งและปีนเขาของรถ โดย Vios ถูกตั้งค่าให้เน้นประหยัดน้ำมันและใช้งานในชีวิตประจำวัน แรงบิดที่ตอบสนองดีในรอบต่ำทำให้ขับขี่สะดวกทั้งในสภาพการจราจรติดขัดหรือการเดินทางระยะสั้นที่พบได้บ่อยในไทย หากผู้ขับขี่ต้องการพลังมากขึ้น สามารถเลือกรุ่น GR-S ที่เป็นเวอร์ชั่นสปอร์ต (หากมีจำหน่าย) แต่ควรตรวจสอบรายละเอียดเพราะข้อมูลอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีและรุ่นย่อย ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้บำรุงรักษาระบบเกียร์และระบบระบายความร้อนอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาประสิทธิภาพ และควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำอย่าง 0W-20 ที่เหมาะสมกับภูมิอากาศร้อนเพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีขึ้น
Q
ขนาดล้อของ Toyota Vios 2020 คือเท่าไหร่
โตโยต้า วีออส รุ่นปี 2020 ในตลาดไทยมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว จับคู่กับยางขนาด 185/60 R15 ซึ่งให้สมดุลทั้งความสบายในการขับขี่และความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยในไทย ขนาดยางดังกล่าวช่วยยึดเกาะถนนเปียกได้ดีและลดแรงต้านการหมุน ทำให้เหมาะทั้งกับการขับในกรุงเทพที่การจราจรหนาแน่นและการเดินทางไกล หากผู้ใช้ต้องการอัปเกรดล้อ ควรตรวจสอบให้เป็นไปตามกฎหมายจราจรไทย โดยทั่วไปขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อใหม่ไม่ควรต่างจากเดิมเกิน 3 เปอร์เซ็นต์ และต้องเลือกค่า J ของล้อให้เหมาะสมเพื่อรักษาความมั่นคงในการขับขี่ รถในระดับเดียวกันเช่น ฮอนด้า ซิตี้ ก็มักใช้ล้อ 15 นิ้วเช่นกันแต่สเปกยางอาจต่างออกไป ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามการใช้งานจริง ทั้งนี้ควรตรวจสอบการสึกหรอของยางเป็นประจำโดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝน และรักษาความดันลมยางให้อยู่ที่ประมาณ 22 ถึง 24 บาร์ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
Q
รถโตโยต้า วีออส ปี 2020 ประหยัดน้ำมันไหม?
รถโตโยต้า วีออส รุ่นปี 2020 ในตลาดไทยนั้นประหยัดน้ำมันได้ดีมากครับ ด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดธรรมดา คู่กับเกียร์ CVT ตัวเลขสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจากทางบริษัทบอกไว้ว่าประมาณ 5.5-5.8 ลิตร/100 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองไทยทั้งในเมืองที่ต้องหยุดๆ เริ่มๆ และการเดินทางไกล โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงราคาน้ำมันที่ค่อนข้างสูงในไทย ทำให้จุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันของวีออสนี้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันมาก ส่วนระบบแอร์ที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ดีแม้อากาศร้อนจัดของไทยก็ไม่ทำให้น้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมค่าบำรุงรักษาก็ไม่สูงจนเกินไป เหมาะกับคนงบประมาณจำกัด ถ้าอยากให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น แนะนำให้บริการตามกำหนด ใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสม และขับขี่อย่างมีสติ หลีกเลี่ยงการเหยียบกระแทกหรือเบรกกะทันหัน ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน วีออสยังได้เปรียบเรื่องความทนทานและอัตราการครองรถในตลาดไทย ซึ่งก็นับเป็นปัจจัยที่น่าคิดไม่น้อยเลยครับ
Q
โทโยต้า วีออส มีถุงลมนิรภัยกี่ใบ
จำนวนถุงลมนิรภัยของโตโยต้า วีออสในตลาดไทยขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและออปชันที่เลือก โดยรุ่นใหม่ที่จำหน่ายในปัจจุบันมักติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ได้แก่ คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมด้านข้าง อย่างไรก็ตามผู้บริโภคควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดผ่านเว็บไซต์โตโยต้า ประเทศไทยหรือสอบถามผู้แทนจำหน่ายโดยตรง เนื่องจากแต่ละปีหรือตัวรุ่นพิเศษอาจมีความแตกต่าง ภายใต้สภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยในไทย นอกจากจำนวนถุงลมนิรภัยแล้ว เจ้าของรถควรตรวจสอบระบบเซนเซอร์และสายไฟของถุงลมเป็นระยะเพื่อป้องกันการชำรุดหรือความชื้น อีกทั้งการใช้เข็มขัดนิรภัยควบคู่กันจึงจะป้องกันได้สูงสุด โตโยต้า วีออสซึ่งเป็นรถยอดนิยมในไทยมีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยตามมาตรฐาน ASEAN NCAP สอดคล้องกับความต้องการด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นในตลาดไทย ผู้บริโภคยังสามารถเปรียบเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกันเช่น ฮอนด้า ซิตี้ หรือมาสด้า 2 เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ แต่ท้ายที่สุดควรเลือกตามงบประมาณและการใช้งานจริง
Q
2020 Toyota Vios มีแรงม้าเท่าไร
รถโตโยต้า Vios รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดประเทศไทยมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ แบบธรรมชาติ โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อยด้วยกัน รุ่นมาตรฐานให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า (ประมาณ 79 กิโลวัตต์) ส่วนรุ่นปรับแต่งพิเศษสามารถทำกำลังได้ถึง 110 แรงม้า (ประมาณ 81 กิโลวัตต์) คู่กับเกียร์ CVT หรือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่ออกแบบมาเพื่อประหยัดน้ำมันและตอบโจทย์การขับขี่ประจำวันในเมืองได้ดี โดยเฉพาะระบบระบายความร้อนและแอร์ที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ทำให้ขับสบายแม้ต้องใช้รถนานๆ
จริงๆแล้วแรงม้าไม่ใช่ตัววัดประสิทธิภาพรถเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องดูปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย เช่น แรงบิดที่รอบต่างๆ น้ำหนักตัวรถ และการตั้งค่าเกียร์ สำหรับคนไทยที่กำลังเลือกซื้อรถ ถ้าต้องการขับขึ้นเขาบ่อยหรือขับทางไกลอาจเน้นรถที่ให้แรงบิดสูงที่รอบต่ำ แต่ถ้าอยากประหยัดน้ำมันจริงๆ เกียร์ CVT ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
Vios ถือเป็นรถซีดานคอมแพคขายดีอันดับต้นๆของไทย ที่สำคัญคือความทนทานและบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน โดยตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่มักให้บริการรับประกันนานถึง 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบที่ดึงดูดลูกค้าได้ไม่น้อย
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย