Q

ความยาวของ Toyota Yaris Cross คือเท่าไร

รถ Toyota Yaris Cross HEV Smart Toyota Yaris Cross HEV Premium และ Toyota Yaris Cross HEV Premium Luxury ที่เปิดตัวในปี 2023 มีความยาวตัวถังเท่ากันที่ 4310 มิลลิเมตร ความยาวรถเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อการจัดวางพื้นที่ภายในและประสบการณ์การขับขี่โดยรวม เช่น รถที่มีความยาวมากกว่าจะให้พื้นที่วางขาแถวหลังและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางขึ้น ขณะเดียวกันในการจอดรถหรือเลี้ยว ความยาวที่แตกต่างกันยังส่งผลต่อความยากง่ายในการควบคุมรถ โดยรถที่ยาวกว่าจะต้องใช้ทักษะการขับขี่ที่สูงกว่าเล็กน้อย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Toyota Yaris Cross มีอะไรบ้าง?
Toyota Yaris Cross มีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น พื้นที่ภายในรถค่อนข้างแคบ โดยเฉพาะสำหรับคนตัวสูง หากผู้ขับมีความสูงมาก อาจปรับเบาะให้นั่งสบายได้ยาก และหากมีผู้โดยสารที่สูงเกิน 180 ซม. นั่งด้านหน้า คนที่นั่งเบาะหลังจะรู้สึกอึดอัด ในด้านสมรรถนะ รถรุ่นนี้ไม่ได้เน้นความแรง การเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ไม่ได้โดดเด่น และไม่ค่อยให้ความรู้สึก “แรงดึงหลัง” เท่าไหร่ ภายในห้องโดยสารใช้พลาสติกแข็งค่อนข้างมาก ทำให้ความรู้สึกของวัสดุและคุณภาพสัมผัสดูธรรมดา นอกจากนี้ การใช้งานบางฟังก์ชันก็ไม่สะดวก เช่น การปิดบางระบบต้องเข้าไปตั้งค่าลึกในเมนูหน้าจอ บางเมนูใช้งานได้เฉพาะตอนรถจอดเท่านั้น และบางฟังก์ชันต้องทำตามขั้นตอนตามข้อกำหนดของยุโรปทุกครั้งที่ใช้งาน
Q
Toyota Yaris Cross อยู่ใน Segment ไหน?
Toyota Yaris Cross เป็นรถในระดับ C-Segment หรือก็คือรถคอมแพคที่มีขนาดกำลังดี ความยาว 4,310 มม. กว้าง 1,770 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,620 มม. ทำให้ขับขี่ในชีวิตประจำวันได้สะดวกและจอดง่าย มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติ (NA) ให้กำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร และยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเสริมกำลัง ทำให้ระบบรวมให้กำลังสูงถึง 82 กิโลวัตต์ เพียงพอต่อการขับขี่ทั่วไป ราคาอยู่ที่ 789,000 ถึง 899,000 บาท ซึ่งเป็นช่วงราคาที่เหมาะสมสำหรับหลายครอบครัวที่กำลังมองหารรถสักคัน นอกจากนี้ Toyota Yaris Cross ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายครบครัน ทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพ ถุงลมนิรภัย 6 ตัน แอร์หลัง ให้ความสบายทุกที่นั่ง เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง ท่องเที่ยวใกล้ๆ หรือใช้เป็นรถครอบครัวในชีวิตประจำวัน
Q
ราคารถมือสองของ Toyota Yaris Cross ประมาณเท่าไหร่?
ราคารถมือสองของ Toyota Yaris Cross ขึ้นอยู่กับรุ่น ปีที่ผลิต สภาพรถ และระยะทางที่ใช้งาน ปัจจุบันรุ่นปี 2023 เช่น Yaris Cross HEV Smart มีราคาประมาณ 789,000 บาท, รุ่น HEV Premium ราคา 849,000 บาท และรุ่น HEV Premium Luxury ราคา 899,000 บาท ส่วนรุ่นปี 2020 ยังไม่มีข้อมูลการขายชัดเจน ถ้ารถปีใหม่ สภาพดี และวิ่งน้อย ราคาขายต่อก็จะสูงกว่า แต่ถ้ารถเก่า มีรอยหรือวิ่งมาเยอะ ราคาจะลดลงมาก โดยทั่วไปแล้วรถที่ใช้งานไปแล้ว ราคาขายต่อจะลดลงจากราคาป้ายแดงพอสมควร ซึ่งราคาที่แน่นอนควรให้ผู้ประเมินรถมือสองเป็นคนดูโดยตรงเพื่อความแม่นยำ
Q
เครื่องยนต์ของ Toyota Yaris Cross มีความจุกี่ซีซี?
Toyota Yaris Cross ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,496 ซีซี หรือที่เรียกกันว่า 1.5 ลิตร เป็นเครื่องยนต์แบบเบนซินธรรมดา 4 สูบ ระบบดูดอากาศเป็นแบบธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริดที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังเพียงพอต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวัน มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnet Synchronous Motor) ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และมาพร้อมเกียร์ E-CVT ที่ช่วยให้ขับขี่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมันอีกด้วย.
Q
Toyota Yaris Cross ใช้เครื่องยนต์แบบไหน?
Toyota Yaris Cross มีหลายรุ่นให้เลือก โดยบางรุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบธรรมดา (NA) เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (67 กิโลวัตต์) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริด ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรซิงโครนัส ให้กำลังสูงสุด 80 แรงม้า (59 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร เมื่อรวมทั้งระบบแล้ว ให้กำลังรวม 111 แรงม้า และแรงบิดรวม 121 นิวตันเมตร การจับคู่ระหว่างเครื่องยนต์และระบบไฮบริดนี้ ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน ขับขี่นุ่มนวล เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและขับทางไกล ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
Q
เกียร์ของ Toyota Yaris Cross เป็นแบบไหน?
Toyota Yaris Cross ใช้เกียร์แบบ E-CVT ซึ่งเป็นเกียร์ที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การส่งกำลังนุ่มนวล ประหยัดน้ำมัน และขับขี่สบาย เกียร์ E-CVT ยังสามารถปรับอัตราทดได้ตามสภาพถนนและความต้องการของผู้ขับขี่ ช่วยให้รถตอบสนองได้ดีในทุกสถานการณ์ รุ่นต่างๆ ของ Yaris Cross เช่น Smart, Premium และ Premium Luxury ก็ใช้เกียร์แบบนี้ทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจในสมรรถนะที่มั่นคงของตัวรถ
Q
ขนาด PCD ของ Toyota Yaris Cross คือเท่าไหร่?
Toyota Yaris Cross ที่วางขายในไทยใช้ล้อที่มีขนาด PCD 5×100 (หมายถึงมีรูน็อต 5 รู วัดระยะวงกลมได้ 100 มม.) ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานเดียวกับรถ SUV ขนาดเล็กหลายรุ่น เช่น Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross ก็ใช้ขนาดนี้เช่นกัน ถ้าคิดจะเปลี่ยนล้อแม็ก แนะนำให้ตรวจสอบขนาดรูดุมกลาง (CB) และค่า Offset (ET) ให้เหมาะสมด้วย ร้านแต่งรถในไทยส่วนใหญ่จะแนะนำล้อที่ผ่านมาตรฐาน JWL/VIA เพื่อความปลอดภัย และมักแนะนำแบรนด์ดัง เช่น Enkei หรือ Rays ที่เป็นล้อแบบน้ำหนักเบา ช่วยประหยัดน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนล้อที่มีขนาดแตกต่างมากจากเดิม อาจกระทบระบบช่วงล่างหรือเงื่อนไขการรับประกันของศูนย์ แนะนำให้ปรึกษาศูนย์บริการ Toyota ในไทยก่อนตัดสินใจเปลี่ยนครับ
Q
Toyota Yaris Cross มีฟังก์ชัน Apple CarPlay ไหม?
Toyota Yaris Cross รองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay ขึ้นอยู่กับรุ่นและปีของรถ โดยทั่วไปแล้ว รุ่นปี 2022 ขึ้นไปจะมาพร้อม CarPlay แบบไร้สายที่สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่านหน้าจอกลางเพื่อใช้งานแผนที่ ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ได้ทันที แต่สำหรับรุ่นก่อนหน้าหรือรุ่นย่อยบางรุ่นอาจต้องเชื่อมต่อผ่านสาย USB แนะนำให้ตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่าย Toyota ในประเทศไทยก่อนตัดสินใจซื้อ หากพบปัญหาในการเชื่อมต่อ สามารถนำรถเข้ารับบริการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ศูนย์บริการ Toyota ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดได้ฟรีภายในระยะเวลารับประกัน เพื่อให้ระบบรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้เต็มรูปแบบ.
Q
ยางติดรถ Toyota Yaris Cross ใช้ยี่ห้ออะไร?
ยางติดรถเดิมของ Toyota Yaris Cross จะขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและออปชั่นที่เลือก โดยส่วนใหญ่ใช้ยี่ห้อระดับโลก เช่น Bridgestone หรือ Dunlop รุ่นยอดนิยมก็เช่น Bridgestone Ecopia หรือ Dunlop Enasave ที่เน้นความประหยัดน้ำมันและเงียบขณะขับขี่ ขนาดยางที่พบได้บ่อยคือ 215/60 R17 หรือ 215/55 R18 แล้วแต่รุ่น เวลาจะเปลี่ยนยาง แนะนำให้เลือกยี่ห้อและขนาดเดียวกับของเดิม โดยเฉพาะถ้าขับบ่อยช่วงหน้าฝน อาจเลือกยางที่รีดน้ำดีอย่าง Michelin Primacy 4 ก็ได้ แต่หลังเปลี่ยนควรตั้งค่าระบบตรวจเช็คลมยาง (TPMS) ใหม่ และควรหมุนสลับยางตามระยะที่ศูนย์บริการ Toyota เพื่อลดการสึกหรอ เพราะสภาพอากาศร้อนในไทยทำให้ยางเสื่อมเร็ว.
Q
Toyota Yaris Cross เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกันเลย
Toyota Yaris Cross ถือว่าเป็นรถที่ดีรุ่นหนึ่ง มีข้อดีหลายด้าน โดยตัวรถถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม DNGA เป็น SUV ขนาดกะทัดรัด ดีไซน์ทันสมัย โดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหญ่และไฟหน้า LED ที่ดูเฉียบคม กันชนหน้าเสริมมิติให้รถดูสปอร์ตมากขึ้น ด้านความปลอดภัยก็จัดเต็ม มาพร้อม ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ให้ความมั่นใจในการขับขี่ ส่วนระบบขับเคลื่อนเป็นแบบไฮบริด ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 3.8 ลิตรต่อ 100 กม. เหมาะกับการใช้งานในเมือง ภายในออกแบบลงตัว พื้นที่ใช้สอยพอเหมาะ ระยะฐานล้อ 2,620 มม. และความสูง 1,615 มม. เพียงพอต่อการใช้งานประจำวัน อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดที่ควรพิจารณา เช่น สมรรถนะเครื่องยนต์อาจยังไม่ตอบโจทย์การเร่งแซงบนทางด่วน และวัสดุบางจุดในห้องโดยสารอาจไม่หรูหรามากนัก อาจไม่ถูกใจสายเน้นพรีเมียม.

ข้อดี

ขับได้สบายในพื้นที่
ระบบขับเคลื่อนประหยัดน้ำมันรถวิ่งแบบไหลลื่นบนถนนในเมืองที่สภาพถนนไม่ดี,สามารถผ่านทางน้ำที่สะสมอยู่เล็กน้อย
สามารถนำของหายนะหลายตัวไปได้โดยที่ไม่ต้องขูดสระ
ไม่มีคู่แข่งที่เทียบเท่าในชั้นเดียวกันมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์
มาตรฐานด้วยกล้องถ่ายภาพหน้าและหลังบนรถ

ข้อเสีย

พื้นที่สำหรับสัมภาระอาจมากขึ้น
ราคาสูงเมื่อเทียบกับพลังงานและข้อมูลจำเพาะ
พลาสติกของภายในมากเกินไป
ระบบความปลอดภัยน้อยลง ไม่มีระบบความปลอดภัยริเริ่ม
เครื่องเสียงไม่รองรับ Apple CarPlay หรือ Android Auto ไม่มีแผนที่ภายใน

Q&A ล่าสุด

Q
BMW X1 ใหญ่กว่า 1 Series หรือเปล่า
ใช่แล้ว BMW X1 มีขนาดตัวรถที่ใหญ่กว่า 1 ซีรี่ย์ครับ โดย X1 ในฐานะ SUV คอมแพคต์นั้นมีความยาว ความกว้าง ความสูง และระยะฐานล้อที่เหนือกว่า 1 ซีรี่ย์แบบซีดาน โดยเฉพาะในสภาพถนนเมืองไทยที่ค่อนข้างติดขัด X1 จะให้ท่านั่งที่สูงกว่าและมีพื้นที่รอบศีรษะที่กว้างขวางกว่า เหมาะสำหรับการใช้เป็นรถครอบครัว ในขณะที่ 1 ซีรี่ย์จะโดดเด่นเรื่องความคล่องตัวในการขับขี่ เหมาะกับถนนแคบๆ หรือสถานที่ที่ต้องจอดรถบ่อยๆ ในตลาดไทย ทั้งสองรุ่นมีทั้งแบบเบนซินและดีเซล แต่ X1 ยังมีตัวเลือกแบบปลั๊ก-อินไฮบริดที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการประหยัดน้ำมันมากขึ้น ควรระวังว่า X1 มีปริมาตรกระโปรงท้ายที่ใหญ่กว่า 1 ซีรี่ย์ สามารถบรรทุกสัมภาระได้มากกว่า ซึ่งสะดวกมากสำหรับการท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์หรือการกลับบ้านช่วงเทศกาลของคนไทย นอกจากนี้ทั้งสองรุ่นต่างติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ล่าสุดจาก BMW แต่ X1 มีความสูงจากพื้นรถที่มากกว่า ทำให้สามารถรับมือกับถนนลูกรังในบางพื้นที่ของไทยได้ดีกว่า
Q
รถ BMW 1 Series คงมูลค่าได้ดีหรือไม่
ในตลาดประเทศไทย BMW ซีรีย์ 1 ในฐานะรุ่นเอนทรีเลเวลของรถหรู ถือว่ามีอัตราการรักษามูลค่าได้อยู่ในระดับกลางค่อนไปทางดีเมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกัน แต่ตัวเลขจริงจะขึ้นอยู่กับสภาพรถ อุปกรณ์เสริม ประวัติการบริการ และความต้องการในตลาด คนไทยมักชอบรถญี่ปุ่นที่มูลค่าตกน้อยกว่า แต่ BMW ก็ยังได้เปรียบจากแบรนด์และฝีมือการผลิตเยอรมัน โดยเฉพาะรุ่น M Sport หรือเวอร์ชันอุปกรณ์สูงจะขายดีกว่า ใน 3 ปีแรก มูลค่ารถจะลดลงประมาณ 30-40% ซึ่งใกล้เคียงกับรถหรูแบรนด์ญี่ปุ่น แต่หลังจาก 5 ปีอาจจะสู้ Lexus ไม่ค่อยได้ สภาพอากาศร้อนของไทยอาจทำให้ยางและระบบอิเล็กทรอนิกส์เสื่อมเร็วขึ้น แนะนำให้บริการอย่างสม่ำเสมอที่ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการเพื่อรักษามูลค่าไว้ ถ้าพูดกันจริงๆ รถหรูในไทยมักจะรักษามูลค่าได้ไม่ดีเท่ารถปิกอัพหรือ SUV ที่ใช้งานได้จริง แต่จุดเด่นของ 1 ซีรีย์คือขนาดกะทัดรัดเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ แถมยังเป็นที่สนใจของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบแต่งรถ ซึ่งช่วยพยุงราคาตลาดมือสองได้บ้าง ถ้าคิดจะใช้รถยาวๆ แนะนำให้เลือกรุ่นและสีพื้นฐานเช่นขาวหรือดำจะขายต่อได้ง่ายกว่า
Q
BMW 1 Series มีความน่าเชื่อถือหรือไม่
บีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 1 ในประเทศไทยมีความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับกลางค่อนข้างสูง มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จและระบบเกียร์ ZF ที่มีความทันสมัย เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพที่ต้องหยุดและออกตัวบ่อย แต่ควรระวังผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนชื้นต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตามสถิติความขัดข้องของกรมการขนส่งทางบกปี 2565 ปัญหาที่พบบ่อยคือประสิทธิภาพการทำความเย็นของระบบแอร์ประมาณร้อยละ 15 ของกรณีเคลม และการแจ้งเตือนผิดพลาดของเซนเซอร์ในช่วงฤดูฝนซึ่งเกี่ยวข้องกับความชื้น แนะนำให้ตรวจสอบความแน่นหนาของระบบไฟฟ้าทุก 6 เดือน เมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่นในกลุ่มเดียวกัน ค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงของซีรีส์ 1 สูงกว่าประมาณร้อยละ 20 ถึง 30 แต่การรับประกันจากโรงงาน 5 ปีหรือ 100000 กิโลเมตรช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาวได้ ควรใช้ศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองจากบีเอ็มดับเบิลยูเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความเข้ากันได้ของระบบไอไดรฟ์ หากเดินทางไปกลับพื้นที่ภูเขาภาคเหนือบ่อย ควรเลือกติดตั้งชุดช่วงล่างเอ็มสปอร์ตเพื่อเพิ่มความสามารถในการขับขี่บนเส้นทางซับซ้อน ซึ่งสามารถผ่อนชำระปลอดดอกเบี้ยได้ที่ผู้จำหน่ายเชียงใหม่
Q
รถ BMW 1 Series รุ่นที่มีสเปคสูงสุดคืออะไร
รุ่นสูงสุดของ BMW 1 Series ในตอนนี้คือ BMW 128ti ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ ให้กำลังสูงสุดถึง 265 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic sport เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.1 วินาที เผยประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม สำหรับตลาดไทยแล้ว รุ่นนี้โดนใจวัยรุ่นด้วยขนาดตัวที่กะทัดรัดและความคล่องตัวในการขับขี่ แถมยังติดตั้ง M Sport suspension, limited-slip differential และล้ออัลลอยด์ M ขนาด 18 นิ้ว ส่วนภายในตกแต่งด้วยเบาะหนังสังเคราะห์ Sensatec sport seats และพวงมาลัย M sport ด้านเทคโนโลยีก็ครบครันด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าปัดดิจิทัล พร้อมรองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto สำหรับเมืองไทยที่สภาพถนนค่อนข้างซับซ้อน 128ti ถือว่าเหมาะมากเพราะขนาดเล็กกระทัดรัดและระบบบังคับเลี้ยวที่แม่นยำ ช่วยให้ขับในเมืองสะดวกสบาย แถมยังแรงพอสำหรับการขับบนทางด่วนด้วย BMW 1 Series ในฐานะรุ่น entry-level luxury ของแบรนด์ ให้ความคุ้มค่าในตลาดไทย โดยเฉพาะคนที่ชอบความสนุกในการขับแต่ก็ยังต้องการความประหยัดในชีวิตประจำวัน ถ้ามีงบหน่อยก็สามารถอัพเกรดเป็นระบบเสียง Harman Kardon หรือหลังคากระจก panoramic sunroof เพื่อเพิ่มความสบายให้กับการขับขี่ได้อีก
Q
เครื่องยนต์แบบใดที่ดีที่สุดสำหรับ BMW 1 Series
สำหรับผู้บริโภคไทย การเลือกเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดของ BMW ซีรีส์ 1 ขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์การใช้งานเป็นหลัก ถ้าคุณเน้นเรื่องประหยัดน้ำมันและการใช้งานประจำวัน รุ่น 118i ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ B38 1.5 ลิตร 3 สูบเทอร์โบชาร์จถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะเครื่องยนต์นี้ทำงานได้ดีในสภาพการจราจรติดขัดในเมืองของไทย มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ค่อนข้างต่ำ และค่าบำรุงรักษาก็สมเหตุสมผล แต่ถ้าคุณสนุกกับการขับขี่และต้องการพลังที่มากขึ้น รุ่น 128i หรือ M135i xDrive ที่ใช้เครื่องยนต์ B48 2.0 ลิตร 4 สูบเทอร์โบชาร์จจะเหมาะกว่า โดยเฉพาะรุ่น M135i xDrive ที่มีกำลังถึง 306 แรงม้า ซึ่งจะให้พลังและความคล่องตัวสูงบนทางหลวงและเส้นทางภูเขาในไทย อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าสภาพอากาศร้อนของไทยต้องการระบบระบายความร้อนที่ดี ดังนั้นควรเลือกรุ่นที่มีระบบหล่อเย็นครบถ้วน และบำรุงรักษาเป็นประจำเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพในอุณหภูมิสูง นอกจากนี้ รุ่นเครื่องยนต์ที่วางขายในไทยอาจแตกต่างจากยุโรป แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นเพื่อยืนยันสเปกก่อนตัดสินใจซื้อ
ดูเพิ่มเติม