Q

ราคาทาสี Mazda 3 คือเท่าไหร่

ในประเทศไทย ราคาพ่นสี Mazda3 จะแตกต่างกันตามความเสียหายของตัวรถ ประเภทสี และผู้ให้บริการ โดยทั่วไป การพ่นสีเฉพาะจุดมีราคาประมาณ 3 000 ถึง 8 000 บาท ส่วนการพ่นสีทั้งคันอาจต้องใช้เงิน 15 000 ถึง 30 000 บาทหรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้สีแท้จากโรงงานหรือสีคุณภาพสูงจากผู้ผลิตภายนอก รวมถึงขนาดและทำเลของอู่ซ่อม เช่น ในกรุงเทพมหานคร ราคาจะสูงกว่าต่างจังหวัด เลือกอู่ที่มีคุณภาพมีผลต่อความเรียบเนียนและความทนทานของสี แนะนำใช้ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Mazda หรืออู่พ่นสีมืออาชีพที่มีชื่อเสียงเพื่อให้สีตรงกันและสีคงทน หากรถยังอยู่ในระยะประกัน ควรตรวจสอบว่างานพ่นสีจะไม่กระทบต่อเงื่อนไขการรับประกัน การดูแลสีอย่างสม่ำเสมอ เช่น เคลือบแว็กซ์หรือเคลือบแก้ว ช่วยลดรอยขีดข่วนและการซีดจาง เพิ่มอายุการใช้งานของสี ในสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกของไทย ยังต้องระวังปกป้องสีจากรังสียูวีและฝนกรด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ MAZDA3 ปี 2022 ต้องการน้ำมันเบนซินเกรดพรีเมียมหรือไม่?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 นั้น ทางผู้ผลิตแนะนำให้ใช้เบนซินหมายเลข 91 หรือสูงกว่านั้นเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด แต่ไม่ได้บังคับว่าต้องใช้เบนซินระดับพรีเมียมเสมอไป จะใช้เบนซินธรรมดาหมายเลข 87 ก็ได้ตามปกติ แต่เครื่องยนต์อาจจะตอบสนองได้ไม่เต็มที่และประหยัดน้ำมันน้อยลงเล็กน้อย สาเหตุเป็นเพราะเครื่องยนต์ Skyactiv-G ของ Mazda ออกแบบมาให้มีอัตราส่วนการอัดสูง การใช้เบนซินคุณภาพสูงจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงการน็อค โดยเฉพาะเวลาอากาศร้อนหรือเมื่อขับทางไกลบ่อยๆ แต่ถ้าใช้รถแค่ในเมืองเป็นหลัก การเติมเบนซินธรรมดาก็ไม่เป็นไร ไม่ทำลายเครื่องยนต์ แค่ถ้าจะขับทางไกลหรืออยากได้ความรู้สึกในการขับที่ดีขึ้น แนะนำให้อัพเกรดเป็นเบนซินคุณภาพสูงจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเรื่องคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย เพราะแต่ละปั๊มอาจแตกต่างกัน แนะนำให้เลือกเติมปั๊มใหญ่ที่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องยนต์ที่อาจเกิดจากน้ำมันคุณภาพต่ำ เวลานำรถเข้าศูนย์บริการก็ให้ช่างตรวจสอบการสะสมคาร์บอนในเครื่องยนต์ด้วย จะได้ปรับเลือกใช้เบนซินให้เหมาะกับการใช้งานจริงของเรา
Q
อัตราการประหยัดน้ำมันของ Mazda 3 รุ่นปี 2022 คือเท่าไร?
Mazda 3 รุ่นปี 2022 ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดีมาก โดยข้อมูลจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและระบบขับเคลื่อน สำหรับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 7.8 ลิตร/100 กม. ในเมือง และ 5.6 ลิตร/100 กม. บนทางหลวง ส่วนค่าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ประมาณ 6.5 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร จะประหยัดยิ่งกว่า ด้วยอัตราสิ้นเปลืองรวมต่ำถึง 4.5 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับคนที่ขับทางไกลบ่อยหรือเน้นเรื่องประหยัดน้ำมัน เทคโนโลยี Skyactiv ของ Mazda ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้อย่างชัดเจน ด้วยการปรับแต่งเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดน้ำหนักตัวรถ และปรับเกียร์ให้เหมาะสม โดยยังคงความรู้สึกในการขับที่สนุกเหมือนเดิม สำหรับในเมืองไทยที่การจราจรค่อนข้างติดขัด แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีระบบ i-stop ที่จะช่วยดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดรถไฟแดงหรือหยุดแป๊บๆ ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกเยอะ Mazda 3 ยังมีโหมดขับขี่ให้เลือกหลายแบบ เช่น โหมดประหยัดหรือโหมดสปอร์ต ให้ปรับใช้ตามถนนและความชอบส่วนตัว เพื่อบาลานซ์ระหว่างสมรรถนะกับความประหยัด ถ้าอยากประหยัดน้ำมันยิ่งกว่านี้ก็อาจมองหารถไฮบริดหรือรถไฟฟ้า แต่ Mazda 3 รุ่นเครื่องยนต์ทั่วไปยังคงมีความเหนือกว่าในด้านการตอบสนองและความสนุกในการขับขี่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความรู้สึกของการขับรถจริงๆ
Q
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 จำเป็นต้องใช้แก๊สโซฮอล์พรีเมียมหรือไม่?
คู่มือทางการของ Mazda 3 รุ่นปี 2022 แนะนำให้ใช้เชื้อเพลิงที่มีออกเทน 91 ขึ้นไปเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แต่ไม่ได้บังคับว่าต้องใช้เท่านั้น ถ้าเติมน้ำมันธรรมดาอย่างเบนซิน 91 ลงไปเครื่องยนต์ก็สามารถปรับจังหวะการจุดระเบิดให้เหมาะสมได้ แต่กำลังเครื่องและประหยัดน้ำมันอาจลดลงนิดหน่อย เทคโนโลยี Skyactiv-G ของ Mazda ออกแบบมาให้สมดุลระหว่างประหยัดน้ำมันและกำลังส่ง แก๊สโซฮอล์ออกเทนสูงจะช่วยให้เครื่องยนต์อัตราส่วนอัดสูงทำงานได้เต็มที่ โดยเฉพาะเวลาอากาศร้อนหรือขับขึ้นเขา บรรเทาปัญหาการน็อคของเครื่องยนต์และช่วยให้เครื่องทำงานเรียบขึ้น ถ้าใช้รถแค่ในเมืองและอยากประหยัด ก็เติมน้ำมันธรรมดาได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าต้องขับทางไกลหรืออยากได้สมรรถนะการขับขี่เต็มที่ แนะนำให้เลือกน้ำมันออกเทนสูงไว้ก่อน ข้อควรระวังคือน้ำมันแต่ละปั๊มคุณภาพไม่เหมือนกัน ควรเลือกปั๊มที่ไว้ใจได้ และอย่าลืมเติมน้ำยาทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงตามที่ผู้ผลิตแนะนำเป็นประจำ เพื่อดูแลหัวฉีดและห้องเผาไหม้ ส่วนรถเทอร์โบมักจะอ่อนไหวกับเลขออกเทนมากกว่า แต่ Mazda 3 ปี 2022 ทุกรุ่นเป็นเครื่องยนต์แบบแอทโมสเฟียร์ เลยปรับตัวได้ดีกว่า
Q
เครื่องยนต์อะไรที่อยู่ใน Mazda 3 ปี 2022?
รุ่น Mazda 3 ปี 2022 มาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ Skyactiv-Technology 2 แบบ ให้เลือกตามสไตล์การขับขี่ เครื่องยนต์แรกเป็นแบบ 2.0 ลิตร 4 สูบ แบบดูดธรรมดา (กำลังสูงสุด 155 แรงม้า แรงบิดสูง 200 นิวตันเมตร) ส่วนอีกรุ่นเป็น 2.5 ลิตร 4 สูบ (กำลังสูงสุด 186 แรงม้า แรงบิดสูง 252 นิวตันเมตร) ทั้งคู่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และบางรุ่นมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือกด้วย เครื่องยนต์ทั้งสองแบบนี้ถูกออกแบบให้มีอัตราส่วนอัดสูง ช่วยประหยัดน้ำมันในเมืองแต่ยังเร่งฉิวเวลาแซง ส่วนใครที่ชอบขับทางไกล แนะนำรุ่น 2.5 ลิตรเลย เพราะแรงกว่านิดนึงเหมาะกับทางหลวง ส่วนรุ่น 2.0 ลิตรก็เพอร์เฟกต์สำหรับขับรถไปทำงานประจำวัน สิ่งที่น่าสนใจคือ Mazda 3 ทุกรุ่นไม่ใช้เทอร์โบ แต่ใช้เทคโนโลยีปรับระบบไอดี-ไอเสียและหัวฉีดน้ำมันให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เวลาเจออากาศร้อนๆ เครื่องยังคงเสถียรและดูแลรักษาไม่ยาก แถมเติมน้ำมันแค่เบนซิน 91 ก็พอแล้ว หาเติมตามปั้มทั่วไปได้สบายๆ ใช้ไปนานๆ ก็ประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้ดีเลยทีเดียว
Q
2022 Mazda 3 ผลิตที่ไหน?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ส่วนใหญ่ผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น เม็กซิโก และไทย โดยรุ่นที่ขายในไทยบางส่วนถูกประกอบที่โรงงานอาเซียนในจังหวัดชลบุรี โรงงานนี้ทำงานตามมาตรฐานคุณภาพระดับโลกของมาสด้าทุกขั้นตอน เพื่อให้รถยนต์มีคุณภาพเทียบเท่ารุ่นที่ผลิตในญี่ปุ่นเลยทีเดียว เครื่องยนต์สกายแอคทีฟและดีไซน์โคโดะที่มาพร้อมในรุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในตลาดไทย เพราะประหยัดน้ำมันและขับเคลื่อนคล่องตัวเหมาะกับสภาพถนนในเมืองเป็นพิเศษ ที่น่าสนใจคือโรงงานอาเซียนแห่งนี้ไม่เพียงแต่ผลิตรถพวงมาลัยขวาเพื่อจำหน่ายในประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการผลิตที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง สำหรับผู้บริโภคแล้ว การเลือกรถที่ประกอบในประเทศจะได้รถเร็วขึ้นและได้รับบริการหลังการขายที่คุ้มค่ากว่า ในขณะที่รุ่นนำเข้าจะมีตัวเลือกอุปกรณ์สูงให้เลือกมากกว่า แนะนำให้เลือกตามความต้องการจริงๆ ของคุณจะดีที่สุด
Q
รถ Mazda3 ปี 2022 จะมีอายุการใช้งานได้นานแค่ไหน
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ในสภาพการใช้งานและการดูแลรักษาปกติ คาดว่าจะวิ่งได้เกิน 2 แสนถึง 3 แสนกิโลเมตร แต่อายุการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับนิสัยการขับ ขั้นตอนการดูแลรักษา และปัจจัยสภาพแวดล้อมในพื้นที่ รถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Skyactiv ที่ให้ประสิทธิภาพความทนทานของเครื่องยนต์และเกียร์ในระดับดี รวมถึงการป้องกันสนิมตัวถังที่เหมาะกับสภาพอากาศชื้น แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และตรวจสอบระบบเบรกอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ นอกจากนี้ในเขตอากาศร้อนควรระวังเรื่องความร้อนที่อาจทำให้แบตเตอรี่และชิ้นส่วนยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนและแอร์ทุก 6 เดือน สำหรับเจ้าของที่ต้องการใช้รถยาวนาน การเลือกอะไหล่แท้จากศูนย์และการปฏิบัติตามคู่มือการดูแลรักษาของผู้ผลิตจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากที่สุด เทคโนโลยี Skyactiv ของ Mazda ไม่เพียงช่วยประหยัดน้ำมัน แต่ยังเพิ่มความทนทานด้วยโครงสร้างตัวถังแข็งแรงพิเศษ ซึ่งเป็นจุดสำคัญสำหรับการใช้งานในเมืองที่การจราจรหนาแน่นหรือการขับบนถนนชนบทผสมกัน
Q
ปัญหาทั่วไปของ Mazda3 ปี 2022 มีอะไรบ้าง?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ในตลาดบ้านเรานั้นถือว่าทนทานพอสมควร แต่ก็มีปัญหาบางจุดที่ควรระวัง เช่น มีเจ้าของรถบางรายรายงานว่าหม้อแบตเตอรี่ 12V อาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติในสภาพอากาศร้อนชื้น แนะนำให้ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำว่ามีการกัดกร่อนหรือไม่ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศแบบร้อนชื้น นอกจากนี้ระบบ idle stop ของเครื่องยนต์ Skyactiv-G อาจเพิ่มภาระให้แบตเตอรี่เมื่อต้องเจอกับการจราจรที่ติดขัดบ่อยๆ สามารถปิดชั่วคราวเพื่อยืดอายุการใช้งานได้ ส่วนระบบมัลติมีเดียอาจมีปัญหาการเชื่อมต่อ CarPlay ไม่เสถียรบ้าง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการอัปเดตระบบให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดก็สามารถแก้ไขได้ แล้วยังมีเรื่องสีรถแบบ Soul Red ที่ถึงจะสวยงามแต่ค่าซ่อมแซมค่อนข้างสูง แนะนำให้ทำประกันสีรถจากศูนย์จะดีกว่า ที่น่าสนใจคือเทคโนโลยี Skyactiv ของรถรุ่นนี้เหมาะมากสำหรับการขับบนเส้นทางขึ้นเขา เนื่องจากเครื่องยนต์อัตราส่วนกำลังอัดสูงช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีแม้ในพื้นที่ภูเขาอย่างเชียงใหม่ และระบบ GVC ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงบนถนนลื่นๆ ขอแนะนำให้ใช้ยางที่แนะนำโดยโรงงานเดิมเมื่อขับรถในฤดูฝน การจัดแนวล้อสี่ล้อเป็นประจำสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาการบดเบี่ยงเบนได้
Q
มูลค่าขายต่อของ Mazda 3 ปี 2022 คือเท่าไร?
ในตลาดมือสองท้องถิ่น รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 มีอัตราการรักษามูลค่าค่อนข้างคงที่ โดยขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทาง และระดับอุปกรณ์ ส่วนใหญ่จะรักษามูลค่าได้ประมาณ 65%-75% ของราคารถใหม่ โดยเฉพาะรุ่นระดับกลางถึงสูงที่ติดตั้งเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0L อย่างรุ่น Carbon Edition นั้นเป็นที่นิยมมากกว่า เพราะมีอุปกรณ์มาตรฐานเช่น ไฟ LED พวงมาลัยหนัง ทำให้เวลาขายต่อจะเสียมูลค่าน้อยกว่ารุ่นพื้นฐานประมาณ 5%-8% สีแดง Soul Red Crystal แม้จะต้องจ่ายเพิ่มตอนซื้อรถใหม่ แต่เวลาขายมือสองจะรักษามูลค่าได้มากกว่าสีอื่นประมาณ 3%-5% ปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษามูลค่าคือการมีประวัติการบริการจากตัวแทนจำหน่ายอย่างสม่ำเสมอ และการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยจากโรงงานเช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจเวลาขายต่อได้มาก เมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน Mazda 3 ได้รับความนิยมในตลาดมือสองอย่างต่อเนื่องเนื่องจากเทคโนโลยี Skyactiv ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันและขับเคลื่อนดี แนะนำว่าก่อนขายควรเปรียบเทียบราคาในแพลตฟอร์มขายมือสองชั้นนำ และเตรียมประวัติการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วนเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด
Q
Mazda 3 รุ่นปี 2022 ควรใช้น้ำมันชนิดใด
สำหรับ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ทางผู้ผลิตแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องเกรดความหนืด SAE 0W-20 ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องความหนืดต่ำที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเครื่องยนต์ขณะสตาร์ทเครื่องตอนเย็นและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดี เหมาะสมเป็นพิเศษกับการขับขี่ในสภาพอากาศร้อนที่มีการสตาร์ทเครื่องบ่อยครั้ง แต่หากรถของคุณมีระยะทางใช้งานเกิน 80,000 กิโลเมตรหรือพบปัญหาน้ำมันเครื่องลดลงเล็กน้อย อาจพิจารณาอัพเกรดไปใช้เกรด 5W-30 เพื่อเพิ่มการป้องกันเครื่องยนต์ในอุณหภูมิสูง แนะนำให้เลือกน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (ทั้งแบบเต็มสังเคราะห์และกึ่งสังเคราะห์) เนื่องจากทนทานต่อการเกิดออกซิเดชันในอุณหภูมิสูงได้ดีกว่าน้ำมันเครื่องแร่ ควรเลือกน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงที่ได้การรับรองมาตรฐาน API SP หรือ ILSAC GF-6 ยี่ห้อที่หาซื้อได้ทั่วไปในประเทศไทยเช่น เชลล์ เฮลิกซ์ อัลตรา มอบบิล 1 หรืออิเดมิตสึ ZEPRO ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ระยะเวลาการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องควรอยู่ที่ทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 12 เดือน (แล้วแต่อย่างไหนมาถึงก่อน) แต่หากขับขี่ในสภาพรถติดนานหรือขับแบบอัดอาจลดระยะเหลือ 8,000 กิโลเมตร ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำและหากพบสัญญาณไฟเตือนสีเหลืองที่หน้าปัดควรรีบเติมน้ำมันเครื่องทันที เมื่อทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องแบบเดิมของผู้ผลิตไปพร้อมกันเพื่อประสิทธิภาพการกรองที่ดีที่สุด และไม่ควรผสมน้ำมันเครื่องต่างยี่ห้อกัน หากต้องการเปลี่ยนยี่ห้อควรล้างระบบน้ำมันเครื่องให้สะอาดก่อนเสมอ
Q
รถ Mazda 3 ปี 2022 มีความน่าเชื่อถือไหม?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 นี่เรื่องความน่าเชื่อถือถือว่าทำงานได้ดีเลยครับ เครื่องยนต์ Skyactiv-G และระบบเกียร์ Skyactiv-Drive ที่ผ่านการทดสอบจากตลาดมานั้นให้ความมั่นใจได้เรื่องความเสถียร แถมยังเจอปัญหาน้อยเวลาขับขี่ประจำวัน โดยเฉพาะการใช้งานในเมืองหรือเดินทางไกล โครงสร้างตัวรถใช้เหล็กความแข็งแรงสูง เรื่องความปลอดภัยถือว่าอยู่ในระดับดีเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน แถมยังออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศและความชื้นในไทยได้เป็นอย่างดี ภายในห้องโดยสารทำออกมาได้ละเอียดและครบเครื่อง พร้อมระบบ i-Activsense ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับขี่ แต่อย่างไรก็ตามค่าบำรุงรักษาของมาสด้าจะสูงกว่ารถญี่ปุ่นบางยี่ห้ออยู่หน่อย แต่ถ้าเข้าศูนย์บริการตามกำหนดก็ช่วยให้รถสภาพดีได้ในระยะยาว ส่วนเรื่องค่าซื้อขายต่อนั้น Mazda 3 ในตลาดบ้านเราค่อนข้างทรงตัว ถ้าเป็นรถอายุ 3 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 60% ของราคาใหม่ สำหรับคนที่ชอบความสนุกในการขับและต้องการความน่าเชื่อถือด้วย รุ่นนี้นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ลองทดลองขับดูก่อนตัดสินใจ เพราะระบบบังคับเลี้ยวที่แม่นยำของมันนี่แหละที่ทำให้การขับขี่สนุกมาก

ข้อดี

ภายในรถมีการตกแต่งที่ดี ด้วยโทนสีดำที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยสปอร์ตหรู คุณภาพของวัสดุภายในรถดี การออกแบบทำให้รถดูหรูหราและขั้นสูง การจัดวางแผงอุปกรณ์สะดวกในการใช้งาน
ที่นั่งสบาย การออกแบบที่นั่งตรงกับร่างกาย รองรับด้านข้างที่ดีสำหรับคนขับและผู้โดยสาร สามารถนั่งนานๆ โดยไม่รู้สึกเหนื่อย และที่นั่งขับสามารถปรับได้ 10 ทิศทางโดยใช้ไฟฟ้า
ฟังก์ชันและคุณสมบัติที่ดี มีจอภาพที่คนขับสามารถดูได้ สามารถแสดงความเร็วในการเร่งและการใช้น้ำมัน มีกล้องทั่วรถที่ติดตั้งอย่างดี
สมรรถนะทางการจับคืนดินเป็นอย่างดี ระบบความแข็งแรงกับที่อยู่ใต้รถดีเยี่ยม สมรรถนะทางการจับคืนดินสูงในระหว่างการเลี้ยวหรือในส่วนที่อยู่ใต้รถที่เดินทาง ขับเคลื่อนไม่อย่างรวดเร็ว การเร่งและหมุนกำลังไม่เปลี่ยนแปลงมากจากรุ่นก่อนหน้านี้ น้ำหนักของรถเพิ่มขึ้น

ข้อเสีย

การปรับเปลี่ยนคุณลักษณะของที่นั่งคนขับและที่นั่งผู้โดยสารไม่ตรงกัน ที่นั่งของคนขับสามารถปรับได้ 10 ทิศทาง แต่ที่นั่งของผู้โดยสารไม่สามารถเติมเต็ม 10 ทิศทาง ฟีเจอร์ที่นั่งไม่ได้ตอบสนองความต้องการอย่างเต็มที่
แต่ฟังก์ชั่นของระบบควบคุมการท่องเที่ยวไม่เพียงพอ แม้ว่าจะสามารถเพิ่มหรือลดความเร็วของรถและตามรถที่อยู่ด้านหน้าผ่านเส้นทางที่กว้าง แต่ไม่มีฟังก์ชั่น Stop-and-go
พื้นที่ภายในรถไม่สะกดกว่าผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน มาสด้ามักมีข้อเสียด้านพื้นที่ที่นั่งด้านหลังในแทบทุกรุ่น แต่รุ่น Mazda 3 Sedan ปี 2019 กว้างขึ้นเล็กน้อยกว่าที่ผ่านมา แต่ยังไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน
ความสบายของชานเส้นไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน เมื่อขับขี่บนถนนที่ไม่ราบหรือถนนที่มีลูกรัง คุณจะรู้สึกถึงการสั่น โดยมีความรู้สึกว่ามีการสั่นสะเทือนจากพื้นผิวที่ยางกระทบ

Q&A ล่าสุด

Q
2023 Santa Fe มีระบบขับเคลื่อนทุกล้อ (AWD) ไหม?
รถยนต์ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2023 นั้นมีแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) จริงๆ ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ HTRAC จะปรับการกระจายกำลังระหว่างล้อหน้าและล้อหลังอัตโนมัติตามสภาพถนน ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะในถนนลื่นหรือเวลาออฟโรดเล็กน้อย โดยเฉพาะเหมาะกับพื้นที่ที่ฝนตกบ่อยๆ นอกจากแบบ AWD แล้ว Santa Fe ยังมีแบบขับเคลื่อนล้อหน้าให้เลือกด้วยนะ ถ้าใช้วิ่งในเมืองเป็นประจำ แบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะประหยัดน้ำมันกว่า ระบบ AWD ของ Santa Fe ยังมีโหมดขับขี่หลายแบบให้เลือกใช้ ทั้งโหมดสบายๆ โหมดประหยัด โหมดสปอร์ต และโหมดอัจฉริยะ ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพถนนและสไตล์การขับขี่ ส่วนเรื่องพื้นที่ภายในก็กว้างขวางกว่า SUV คลาสเดียวกัน ที่นั่งแถวสามก็พอใช้สำหรับครอบครัว ส่วนท้ายรถก็จุของได้เยอะ เหมาะสำหรับการเดินทางไกลจริงๆ เรื่องความปลอดภัยก็ครบครัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ระบบเตือนจุดบอด ช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาขับบนถนนสภาพซับซ้อน ถ้ามีงบพอและต้องการความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น แบบ AWD ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แนะนำให้ลองไปทดลองขับทั้งสองแบบที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
Q
ค่าประกันภัยสำหรับรถ Hyundai Santa Fe ปี 2023 เท่าไหร่?
ค่าเบี้ยประกันสำหรับ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2023 นั้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นรถ (แบบเบนซิน 2.5L หรือแบบไฮบริด 1.6T), ราคาซื้อรถ, อายุและประวัติการขับขี่ของเจ้าของรถ รวมถึงนโยบายของบริษัทประกัน โดยทั่วไปค่าเบี้ยประกันต่อปีจะอยู่ที่ประมาณ 15,000-35,000 บาท แนะนำให้ตรวจสอบราคาที่แน่นอนผ่านเว็บไซต์บริษัทประกันหรือแพลตฟอร์มเปรียบเทียบราคา เพราะความแตกต่างระหว่างประกันเต็มรูปแบบ (ครอบคลุมการชน, ภัยธรรมชาติ และความรับผิดต่อบุคคลที่สาม) กับประกันพื้นฐานอาจสูงถึง 40% นอกจากนี้ รุ่นไฮบริดอาจมีค่าเบี้ยประกันสูงกว่ารุ่นเบนซินประมาณ 10%-15% เนื่องจากค่าซ่อมแซมที่สูงกว่า การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการขโมยแบบ GPS หรือการเลือกความรับผิดชอบส่วนแรกที่สูงขึ้นสามารถช่วยลดเบี้ยประกันได้ประมาณ 5%-10% ในตลาดไทย บริษัทประกันชั้นนำเช่น วิริยะ ธรรมภักดี มักมีส่วนลดสำหรับปีแรกเมื่อทำประกันรถใหม่ และการซื้อประกันผ่านสถาบันการเงินที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์อาจได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ในการเลือกประกันรถยนต์ นอกจากราคาแล้ว ควรพิจารณาประสิทธิภาพในการเคลม (โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ) และเครือข่ายศูนย์ซ่อมที่ครอบคลุม เพราะบางบริษัทอาจกำหนดให้ใช้ศูนย์ซ่อมเฉพาะซึ่งอาจส่งผลต่อสิทธิประกันจากศูนย์บริการของตัวแทนจำหน่าย
Q
รถ Hyundai Santa Fe ปี 2023 มีแถวที่สามหรือไม่?
รุ่น Hyundai Santa Fe ปี 2023 ในบางรุ่นระดับตัดแต่งนั้นมีตัวเลือกที่นั่งแถวที่สามให้เลือกจริงๆ รุ่นนี้จัดอยู่ในประเภท SUV ขนาดกลาง ที่มีการจัดเรียงที่นั่งแบบ 2+3+2 รวมเป็น 7 ที่นั่ง โดยแถวที่สามจะเหมาะกับเด็กหรือผู้ใหญ่สำหรับการเดินทางระยะสั้นมากกว่า สำหรับครอบครัวที่ต้องเดินทางพร้อมกันหลายคนบ่อยๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริง ในตลาดไทย Santa Fe มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร และรุ่นไฮบริดเทอร์โบ 1.6 ลิตร ซึ่งระบบไฮบริดนั้นช่วยประหยัดน้ำมันและยังให้กำลังขับเคลื่อนที่เพียงพอ เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นอย่างดี แถมยังมาพร้อมกับชุดความปลอดภัย SmartSense ของ Hyundai ที่มีระบบ cruise control อัตโนมัติและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งในการขับขี่บนถนนติดขัดในกรุงเทพหรือการเดินทางไกล แต่อย่างไรก็ตาม รุ่น 7 ที่นั่งจะทำให้พื้นที่กระโปรงหลังลดลง แนะนำให้ลองชั่งน้ำหนักความต้องการก่อนซื้อ ถ้าเปรียบเทียบกับรถ SUV 3 แถวที่นั่งในระดับเดียวกันก็จะมี Toyota Fortuner Isuzu MU-X ให้เลือก แต่ Santa Fe ได้เปรียบในเรื่องเทคโนโลยีและความหรูหราของห้องโดยสาร แนะนำให้ไปทดลองสัมผัสพื้นที่ภายในด้วยตัวเองที่โชว์รูมก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
Q
2023 Santa Fe เปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างไรบ้าง?
รุ่น 2023 ของ Hyundai Santa Fe ในตลาดบ้านเราเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วถือว่ามีจุดขายที่ดีไม่น้อย โฉมใหม่ที่ออกแบบมาให้ดูหนักแน่นและทรงพลังมากขึ้นเหมาะกับคนที่ชอบ SUV ฟีลลิ่งบึกบึน ส่วนภายในใช้วัสดุคุณภาพสูงขึ้น แถมยังอัพเกรดระบบเทคโนโลยีด้วยหน้าจอความบันเทิงล่าสุดที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ทำให้ใช้งานได้สะดวกมาก ในส่วนเครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งแบบ 2.5 ลิตร แอสปายร์ปกติ และแบบ 1.6 ลิตร เทอร์โบไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการเซฟค่าน้ำมัน เมื่อเปรียบเทียบกับ Honda CR-V หรือ Toyota Highlander แล้ว Santa Fe ยังได้เปรียบในเรื่องความยืดหยุ่นของพื้นที่โดยสาร โดยเฉพาะเบาะแถวสามที่นั่งสบายกว่า เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ ด้านความปลอดภัยมาพร้อมระบบ SmartSense มาตรฐานครบทุกรุ่น ทั้งควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เตือนออกเลน เรียกได้ว่าไม่เป็นรองใคร ส่วนบริการหลังการขายก็มีศูนย์บริการครอบคลุม ค่าบำรุงรักษาก็สมเหตุสมผล ใช้ยาวๆ ก็อุ่นใจ ถ้ามีงบประมาณพอและเน้นความคุ้มค่าแบบจัดเต็มพร้อมเทคโนโลยีครบเครื่อง รุ่นนี้น่าจับตามอง แนะนำให้ลองทดลองขับและเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันก่อนตัดสินใจ
Q
อัตราการบริโภคน้ำมันของ Hyundai Santa Fe 2023 เป็นเท่าไร?
รถ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2023 มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่แตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์ โดยแบบเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร แบบดูดธรรมดาจะกินน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 8.5-9.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตรจะประหยัดน้ำมันกว่าคือเฉลี่ยประมาณ 6.5-7.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ตัวเลขจริงอาจแตกต่างกันไปบ้างขึ้นอยู่กับสไตล์การขับและสภาพถนน รุ่นนี้ถ้าขับในเมืองที่รถติดบ่อยๆจะกินน้ำมันมากหน่อย แต่พอขับทางไกลหรือบนทางหลวงจะประหยัดขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทางไกล ส่วนรุ่นไฮบริดตอนนี้ยังไม่มีขายในประเทศไทย แต่คอยติดตามกันได้เลย ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้น ควรดูแลรักษารถให้ดี เช่น เติมลมยางให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการเหยียบกระแทกหรือเบรกกระทันหัน Santa Fe เป็น SUV ขนาดกลางที่กินน้ำมันพอๆกับรถระดับเดียวกัน แต่ได้ความสบายและพื้นที่กว้างขวาง พร้อมฟีเจอร์ครบครัน น่าจับตามองสำหรับครอบครัว สรุปว่าถ้าคุณขับทางไกลบ่อย รุ่นดีเซลน่าจะเหมาะกว่า แต่ถ้าขับแค่ในเมือง รุ่นเบนซินก็พอแล้วครับ
ดูเพิ่มเติม