Q
สำหรับรุ่น Tesla Model 3 มีไมล์เท่าไหร่
ระยะทางการขับขี่ของ Tesla Model 3 จะแตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มีระยะทางประมาณ 491 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ส่วนรุ่น Long Range อยู่ที่ประมาณ 602 กิโลเมตร และรุ่น Performance ราวๆ 547 กิโลเมตร ข้อมูลเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างเมื่อใช้งานจริงในประเทศไทย ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่ สภาพถนน และสภาพอากาศ แม้ว่าอากาศร้อนของไทยจะส่งผลต่อแบตเตอรี่ไม่มากนัก แต่การเปิดแอร์บ่อยๆ อาจทำให้ระยะทางลดลงเล็กน้อย แนะนำให้เจ้าของรถวางแผนการชาร์จให้ดี โชคดีที่ Tesla มีเครือข่ายสถานี Supercharger ในไทยแล้ว ช่วยให้เดินทางไกลได้สบายๆ Model 3 เป็นรถไฟฟ้ายอดนิยมที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานประจำวันและการท่องเที่ยวในวันหยุดของคนไทยได้อย่างดี แถมยังอัพเดตระบบผ่านทางอากาศ (OTA) ได้เสมอ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพรวมถึงระบบจัดการแบตเตอรี่ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การใช้งานลื่นไหลกว่าเดิม
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ความจุแบตเตอรี่ของ Tesla Model 3 คือเท่าไหร่
ความจุแบตเตอรี่ของ Tesla Model 3 จะแตกต่างกันไปตามรุ่นรถ ในตลาดไทยปัจจุบัน รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มีความจุแบตเตอรี่ประมาณ 57.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ส่วนรุ่น Long Range และ Performance จะติดตั้งแบตเตอรี่ประมาณ 75 กิโลวัตต์-ชั่วโมง และ 82 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ตามลำดับ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตหรือการอัปเดตคอนฟิก จึงแนะนำให้ตรวจสอบสเปกล่าสุดผ่านเว็บไซต์ Tesla ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการก่อนตัดสินใจซื้อรถ
สำหรับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เช่น การเปิดแอร์บ่อยขึ้นในสภาพอากาศร้อนจะทำให้ใช้พลังงานมากขึ้น ดังนั้นเจ้าของรถควรวางแผนการชาร์จให้เหมาะสม และใช้ประโยชน์จากเครือข่าย Supercharger ของ Tesla ที่กำลังขยายตัวในประเทศไทย
ที่น่าสนใจคือระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ของ Tesla สามารถตรวจสอบและควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสำคัญมากสำหรับประเทศเขตร้อนอย่างไทย ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่และรักษาความปลอดภัยในการขับขี่
Q
วิธีเปิดที่นั่งที่ทำความร้อนด้านหลัง Tesla Model 3
การเปิดใช้งานระบบทำความร้อนเบาะหลังใน Tesla Model 3 นั้นง่ายมาก แค่เข้าไปที่เมนูควบคุมแอร์ผ่านหน้าจอกลาง จากนั้นแตะไอคอนทำความร้อนเบาะที่ด้านล่างของหน้าจอ เลือกเบาะหลังก็สามารถปรับระดับความร้อนได้แล้ว โดยปกติแล้ว Model 3 จะมีให้เลือก 3 ระดับ เหมาะกับอากาศเย็นๆ ในช่วงฤดูฝนหรือทางเหนือของไทย ที่ควรรู้คือรุ่นเก่าบางคันอาจต้องอัปเดตซอฟต์แวร์ก่อนถึงจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ แนะนำให้ตรวจสอบการอัปเดตระบบรถอย่างสม่ำเสมอ เวลาใช้ในไทยแนะนำให้เปิดแอร์ควบคู่ไปด้วยเพื่อควบคุมความชื้นในรถ เพราะอากาศร้อนชื้นของไทยอาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ระบบทำความร้อนเบาะของ Tesla ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้ความร้อนสม่ำเสมอและประหยัดไฟกว่าวิธีแบบเดิมๆ ซึ่งเหมาะกับค่ากระแสไฟฟ้าในไทยที่ค่อนข้างสูง ถ้าใช้เป็นเวลานานแนะนำให้ปรับความร้อนอยู่ที่ระดับกลางแทนการเปิดเต็มกำลัง จะได้ทั้งความสบายและประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ในวันที่อากาศร้อนควรปิดระบบนี้เมื่อลงจากรถเพื่อไม่ให้เปลืองไฟโดยเปล่าประโยชน์ การดูแลรายละเอียดเล็กน้อยแบบนี้จะช่วยให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น
Q
การปรับความสูงและตำแหน่งของพวงมาลัย Tesla Model 3 ต้องทำอย่างไร
การปรับความสูงและตำแหน่งพวงมาลัยของ Tesla Model 3 เมื่อขับขี่ในประเทศไทยนั้นทำได้ง่ายมาก แค่เข้าไปที่เมนู "ควบคุม" ในหน้าจอกลาง แล้วเลือก "คันเร่งและพวงมาลัย" จากนั้นกด "ปรับพวงมาลัย" ก็สามารถปรับพวงมาลัยด้วยมือให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับท่านได้ พอปรับเสร็จก็กดบันทึก แบบนี้คนไทยรูปร่างต่างกันก็ขับสบาย แถมยังช่วยให้ขับทางยาวๆ ไม่เมื่อยล้า อีกอย่างพวงมาลัยของ Model 3 ยังปรับโหมดการขับได้ตามใจเลย เช่น ในกรุงเทพฯ ที่รถติดๆ สามารถเลือกโหมด "สบายๆ" เพื่อให้พวงมาลัยเบาขึ้น หรือถ้าขับนอกเมืองหรือขึ้นทางด่วนก็สลับไปโหมด "สปอร์ต" ให้รู้สึกมันส์ๆ มากขึ้น แถมช่วงหน้าฝนหรืออากาศเย็นๆ ฟังก์ชันทำความร้อนพวงมาลัยก็ช่วยให้อุ่นมือได้ดี การออกแบบที่ชาญฉลาดของ Tesla ทําให้การปรับเปลี่ยนเหล่านี้ใช้งานง่ายมาก แม้แต่ผู้ใช้ชาวไทยที่สัมผัสกับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรกก็สามารถเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว
Q
วิธีการลบควันในรถ Tesla Model 3
สำหรับเจ้าของ Tesla Model 3 ที่ต้องเผชิญกับอากาศร้อนชื้นในประเทศไทย การเปิดโหมด "Bio Weapon Defense Mode" จะช่วยกำจัดควันหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในรถได้อย่างรวดเร็ว ระบบนี้ใช้แผ่นกรอง HEPA พร้อมระบบปรับอากาศประสิทธิภาพสูง ที่สามารถฟอกอากาศให้สะอาดได้ภายในไม่กี่นาที โดยเฉพาะเวลาติดรถยนต์ในกรุงเทพฯ ที่เจอกับไอเสีย หรือช่วงฤดูฝนที่ความชื้นสูง แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองแอร์เป็นประจำ (ในไทยควรตรวจสอบทุก 1-1.5 หมื่นกิโลเมตร) และใช้แอป Tesla เปิดระบบระบายอากาศล่วงหน้าเพื่อลดอุณหภูมิในรถ รถ EV นั้นมีความแน่นกระชับกว่าหากเทียบกับรถน้ำมัน แต่สภาพอากาศร้อนของไทยอาจทำให้สารระเหยจากวัสดุภายในรถกระจายตัวเร็วขึ้น อาจเสริมด้วยถ่านกัมมันต์หรือสเปรย์ photocatalyst ช่วยฟอกอากาศ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่อาจทำลายหน้าจอควบคุมส่วนกลาง หากต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ควรเลือกที่ร่มและใช้ม่านบังแดด พร้อมเปิดฟังก์ชัน cabin overheat protection ของ Tesla เพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในรถไม่ให้เกิน 40 องศา วิธีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถในเขตร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
สีที่ดีที่สุดสำหรับ Tesla Model 3 คืออะไร
การเลือกสีที่ดีที่สุดสำหรับ Tesla Model 3 ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและความต้องการในการใช้งาน แต่สี Pearl White และ Midnight Silver Metallic เป็นตัวเลือกยอดนิยม สี Pearl White ไม่เพียงแต่ดูแลง่ายและสะท้อนแสงแดดได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของไทย ในขณะที่สี Midnight Silver Metallic ให้ความรู้สึกหรูหราเรียบร้อยและไม่ค่อยเห็นฝุ่น นอกจากนี้สีแดงและสีน้ำเงินก็เป็นตัวเลือกสำหรับคนชอบความโดดเด่น แต่ต้องดูแลทำความสะอาดบ่อยครั้งเพื่อคงความสวยงาม สภาพแวดล้อมในไทยทั้งฝนตกบ่อยและอากาศร้อนมีผลต่อสีรถ ดังนั้นแนะนำให้เลือกการเคลือบสีหลายชั้นหรือขัดแว็กซ์เป็นประจำเพื่อยืดอายุสีรถ แม้ว่ารุ่น Model 3 จะมีกระบวนการทาสีที่ค่อนข้างดี แต่ด้วยมลภาวะและรังสี UV ในไทยที่ค่อนข้างแรง ไม่ว่าคุณจะเลือกสีไหนก็ควรดูแลรักษาอย่างเหมาะสม นอกจากนี้สภาพการจราจรในไทยที่ค่อนข้างแออัด รถสีอ่อนจะทำให้ผู้ขับขี่คนอื่นมองเห็นได้ง่ายขึ้นในเวลากลางคืน จึงปลอดภัยกว่า แต่สุดท้ายแล้วการเลือกสีควรคำนึงถึงความชอบส่วนตัวและงบประมาณ เพราะสีพิเศษบางสีอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Q
Tesla Model 3 จะเปิดตัวเมื่อไหร่
Tesla Model 3 เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมของ Tesla ที่ตอนนี้ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับวันวางจำหน่ายในประเทศไทย แต่จากแผนการตลาดระดับโลกของเทสลาและนโยบายส่งเสริมรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย คาดว่ารถรุ่นนี้น่าจะเข้ามาในตลาดไทยภายใน 1-2 ปีนี้ ลูกค้าชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดได้ทางเว็บไซต์ Tesla หรือตัวแทนจำหน่ายในประเทศ Model 3 ได้รับความนิยมทั่วโลกจากสมรรถนะการขับขี่ที่ยาวไกล ระบบช่วยขับอัตโนมัติอันล้ำสมัย และดีไซน์ภายในที่เรียบหรู ถ้าเข้ามาไทยก็จะเพิ่มทางเลือกให้คนรักสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งช่วยผลักดันให้โครงสร้างพื้นฐานด้าน EV ของไทยพัฒนาขึ้นอีกขั้น รัฐบาลไทยตอนนี้มีมาตรการลดภาษีสำหรับรถ EV นำเข้า และกำลังขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณดีสำหรับ Model 3 และรถ EV รุ่นอื่นๆ ที่จะมาแน่นอน ถ้าสนใจก็เตรียมตัวไว้ก่อนได้เลย ศึกษาข้อมูลการใช้รถ EV และจุดชาร์จให้พร้อม จะได้จับจองเมื่อถึงเวลา
Q
วิธีการเปิดใช้งานฟังก์ชัน Summon บน Tesla Model 3 ปี 2023
หากต้องการใช้ฟังก์ชัน Summon หรือระบบเรียกรถอัตโนมัติใน Tesla Model 3 รุ่นปี 2023 ที่ประเทศไทย สิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบคือรถต้องติดตั้ง Hardware 3.0 และต้องซื้อชุด Full Self-Driving (FSD) หรือสมัครบริการนี้ไว้แล้ว หลังจากนั้นก็แค่เปิดฟังก์ชันนี้ผ่านแอป Tesla ในส่วน "Summon" เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อนและฝนชุก แนะนำให้ใช้ในพื้นที่โล่งเพื่อป้องกันไม่ให้เซ็นเซอร์ได้รับผลกระทบจากฝนหรือความร้อนสูง ต้องระวังไว้ว่า Summon ในประเทศไทยถูกจัดอยู่ในระดับ L2 ซึ่งหมายความว่าคุณยังต้องคอยดูตลอดเวลาและพร้อมที่จะควบคุมรถได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะในที่จอดรถแคบๆ แบบไทย ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้รถเข้าออกจากช่องจอดได้เอง แต่ต้องคอยสังเกตสิ่งกีดขวางรอบข้าง ส่วนเรื่องพวงมาลัยที่ไทยเป็นแบบซ้ายมือนั้น ไม่มีปัญหากับการทำงานของ Summon เลย ไม่ต้องปรับอะไรเพิ่มเติม หากเจอปัญหาเรื่องสัญญาณเน็ตเวิร์ก ลองเชื่อมต่อกับเครือข่าย 4G/5G ของผู้ให้บริการในไทยอย่าง AIS หรือ TRUE เพื่อให้ระบบตอบสนองเร็วขึ้น Tesla จะอัปเดตระบบผ่าน OTA อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ Summon ทำงานได้ดีขึ้นในสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของไทย
Q
วิธีการดูแรงดันลมในยาง Tesla Model 3
ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย การรักษาความดันลมยางที่เหมาะสมสำหรับ Tesla Model 3 (แนะนำให้อยู่ที่ 2.9-3.1 bar เมื่อยางเย็น) เป็นเรื่องสำคัญมาก คุณสามารถตรวจสอบความดันลมยางแบบเรียลไทม์ผ่านหน้าจอสัมผัสในรถโดยไปที่ "บริการ - ระบบตรวจสอบความดันยาง" หรือจะใช้เครื่องวัดความดันยางแบบธรรมดาก็ได้ เนื่องจากอากาศร้อนในไทยมักทำให้ความดันลมยางเพิ่มขึ้น แนะนำให้ตรวจเช็คตอนเช้าที่รถยังเย็นจะได้ค่าที่แม่นยำกว่า ระบบตรวจสอบความดันยาง (TPMS) ของ Tesla จะแจ้งเตือนอัตโนมัติหากมีความผิดปกติ แต่การตรวจเช็คด้วยตนเองเป็นประจำก็เป็นนิสัยที่ดี โดยเฉพาะก่อนเดินทางไกล ในช่วงฤดูฝนของไทย ควรเช็คความลึกของดอกยางด้วยว่าเพียงพอสำหรับการระบายน้ำหรือไม่ เพื่อป้องกันการลื่นไถล หากไฟเตือนความดันยางขึ้น ควรจอดรถในที่ปลอดภัยและตรวจสอบทันที หากจำเป็นให้ไปที่ศูนย์บริการ การรักษาความดันลมยางที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ แต่ยังช่วยให้ปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย
Q
วิธีการใช้ควบคุมความเร็วอัตโนมัติในรถยนต์ Tesla Model 3
การใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติของ Tesla Model 3 ในประเทศไทยนั้นง่ายมาก แค่ดึงก้านบังคับด้านขวาของพวงมาลัยลงหนึ่งครั้งก็จะเปิดใช้งานระบบ Cruise Control แต่ถ้าดึงสองครั้งติดกันจะเป็นการเปิดระบบ Autopilot ที่สามารถปรับความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถข้างหน้าอัตโนมัติ เหมาะมากสำหรับขับบนทางด่วนกรุงเทพฯที่รถติดหรือเส้นทางขึ้นเขาที่เชียงใหม่ แต่อย่าลืมว่าอากาศร้อนและฝนตกบ่อยในไทยอาจส่งผลต่อความแม่นยำของเซนเซอร์ แนะนำให้ล้างกล้องและเรดาร์บริเวณตัวรถเป็นประจำ ส่วนป้ายจราจรในไทยก็ต่างจากมาตรฐานสากลนิดหน่อย ควรจับพวงมาลัยไว้เสมอเพื่อพร้อมควบคุมรถทุกเมื่อ Model 3 ยังมีระบบจดจำสัญญาณไฟจราจรได้ แต่บางสี่แยกที่ไม่มาตรฐานในไทยอาจทำให้ระบบทำงานไม่ถูกต้อง จะมีเสียงเตือนให้ผู้ขับเข้าไปควบคุมแทน ระบบความปลอดภัยเช่นเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติของ Tesla ช่วยลดความเครียดในการขับขี่ในสภาพการจราจรที่วุ่นวายของไทยได้ดี แต่ต้องจำไว้เสมอว่าระบบเหล่านี้ไม่สามารถแทนที่การตัดสินใจของมนุษย์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
Q
วิธีปิดไฟเตือนภัยบนรถยนต์ Tesla Model 3
ถ้าคุณใช้ Tesla Model 3 และอยากปิดไฟเตือน อันดับแรกให้เข้าไปที่ไอคอนควบคุมรถทางซ้ายล่างของหน้าจอสัมผัส แล้วเลือกเมนู "ไฟรถ" จากนั้นกดปุ่ม "ปิดไฟเตือน" เป็นอันเรียบร้อย แต่ถ้าหน้าจอไม่ทำงาน ให้กดลูกล้อด้านซ้ายของพวงมาลัยค้างไว้ประมาณ 10 วินาทีเพื่อรีสตาร์ทระบบบังคับ ในสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้ตรวจสอบระบบไฟรถเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนควรเช็คให้แน่ใจว่าไฟอัตโนมัติทำงานปกติ จะได้ไม่เกิดปัญหาไฟเตือนเปิดเองเพราะน้ำเข้า ต้องบอกเลยว่าระบบไฟเตือนของ Tesla ต่างจากรถน้ำมันทั่วไป เพราะมีเซ็นเซอร์อัจฉริยะมากขึ้น เช่น แฟลชสองครั้งโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่ารถเอียงผิดปกติหรือชน ไฟฉุกเฉินจะเปิดอัตโนมัติ ซึ่งดีต่อความปลอดภัยในสภาพการจราจรที่วุ่นวายของกรุงเทพฯ ถ้าไฟเตือนเปิดบ่อยๆ โดยไม่มีสาเหตุ อาจเป็นเพราะเซ็นเซอร์ถูกบังหรือระบบต้องการอัปเดต แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการ Tesla ในไทยเพื่อตรวจเช็คอย่างมืออาชีพ ที่นี่มีสาขาราชการทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา อีกอย่างกฎหมายไทยกำหนดว่ารถทุกคันต้องมีระบบไฟเตือนที่ใช้งานได้ปกติ ดังนั้นไม่แนะนำให้ผู้ใช้รถถอดหรือดัดแปลงชิ้นส่วนเอง เพราะอาจมีผลต่อการต่อทะเบียนรถปีต่อไป
Q&A ล่าสุด
Q
วิธีการปรับกระจกมองหลัง Tesla Model Y
เวลาขับ Tesla Model Y ในประเทศไทย การปรับกระจกข้างมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ ก่อนอื่นให้เข้าไปที่เมนู "Controls" ในหน้าจอกลาง แล้วเลือก "Mirrors" จากนั้นใช้ลูกกลิ้งด้านขวาของพวงมาลัยเพื่อปรับมุมกระจกซ้าย-ขวา ให้สามารถมองเห็นถนนด้านหลังได้ชัดเจน เมื่อปรับได้ตามต้องการแล้วกดบันทึก แถมยังมีฟีเจอร์กระจกอัตโนมัติปรับความเข้มซึ่งใช้ง่ายมากเวลาที่แดดแรงๆ ในไทย ช่วยลดแสงแยงจากรถคันหลังได้ดี ส่วนเรื่องการจราจรของไทยที่รถมอเตอร์ไซค์เยอะ แนะนำให้ปรับกระจกให้เห็นจุดบอดทั้งสองข้างให้ชัดเจนเพื่อความปลอดภัย อีกทั้งกระจกยังมีระบบไล่ฝ้าอัตโนมัติเวลาฝนตก ช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนในช่วงฤดูฝนของไทย ที่สะดวกกว่านั้นคือสามารถบันทึกการตั้งค่าสำหรับผู้ขับแต่ละคนแยกกันได้ แล้วสลับผ่านโปรไฟล์ผู้ขับได้ทันที ไม่ต้องมานั่งปรับใหม่ทุกครั้ง
Q
Tesla Model Y ใช้แบตเตอรีประเภทอะไร
Tesla Model Y ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งหลักๆ แล้วมี 2 ประเภทด้วยกัน คือ แบตเตอรี่แบบ Lithium Iron Phosphate (LFP) และแบตเตอรี่แบบ NCA/NCM โดยจะขึ้นอยู่กับรุ่นและประเทศที่ผลิต สำหรับตลาดไทย Model Y น่าจะเน้นใช้แบตเตอรี่แบบ LFP มากกว่า เพราะแบตเตอรี่ประเภทนี้ทำงานได้เสถียรกว่าในสภาพอากาศร้อน อายุการใช้งานยาวกว่า และยังช่วยลดต้นทุนได้ดี ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนชื้น แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนถือเป็นเทคโนโลยีหลักของรถไฟฟ้าในปัจจุบัน เพราะให้พลังงานสูงและชาร์จไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนแบตเตอรี่ LFP แม้จะให้พลังงานน้อยกว่าแบบ NCA/NCM เล็กน้อย แต่มีความปลอดภัยสูงกว่า เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน สำหรับคนไทยแล้ว การเข้าใจประเภทของแบตเตอรี่จะช่วยวางแผนการชาร์จและการบำรุงรักษาได้ดีขึ้น เช่น แบตเตอรี่ LFP สามารถชาร์จเต็ม 100% ได้บ่อยๆ ในขณะที่แบตเตอรี่แบบ NCA/NCM ควรชาร์จแค่ 80% เพื่อยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ รัฐบาลไทยกำลังผลักดันโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถไฟฟ้า ทำให้การชาร์จไฟในอนาคตจะสะดวกยิ่งขึ้น และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ของ Model Y ก็ตอบโจทย์การใช้งานในไทยได้เป็นอย่างดี
Q
Tesla Model Y ระยะทางการวิ่งคือกี่กิโลเมตร
ระยะทางขับขี่ของ Tesla Model Y จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและสภาพการขับขี่ โดยรุ่น Standard Range ในมาตรฐานการทดสอบ WLTP จะวิ่งได้ประมาณ 455 กิโลเมตร (หรือประมาณ 283 ไมล์) ส่วนรุ่น Long Range วิ่งได้ประมาณ 540 กิโลเมตร (ประมาณ 335 ไมล์) และรุ่น Performance วิ่งได้ประมาณ 514 กิโลเมตร (ประมาณ 319 ไมล์) ตัวเลขเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ในทางปฏิบัติขึ้นอยู่กับสภาพถนน สไตล์การขับขี่และสภาพอากาศ ในประเทศไทยซึ่งมีอากาศร้อนและมีการจราจรที่ต้องหยุด-เดินบ่อยๆ ในเมือง อาจส่งผลให้ระยะทางลดลงเล็กน้อย แต่ระบบปรับอากาศแบบปั๊มความร้อนของ Model Y จะช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้ดี สำหรับคนไทย ความสะดวกของสถานีชาร์จก็สำคัญ ตอนนี้ในเมืองใหญ่และตามทางด่วนเริ่มมีสถานี Supercharger ให้ใช้แล้ว ถ้าใช้ร่วมกับที่ชาร์จที่บ้านก็เพียงพอต่อการใช้งานประจำวัน นอกจากนี้ ค่าดูแลรักษารถไฟฟ้ามักถูกกว่ารถน้ำมัน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว แบตเตอรี่ของ Model Y ออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศร้อน เหมาะกับเมืองไทย ถ้าคิดจะซื้อรถไฟฟ้า แนะนำให้สำรวจจุดชาร์จใกล้บ้านหรือที่ทำงานก่อน และลองคุยกับคนที่ใช้อยู่จริงๆ เพื่อตัดสินใจได้เหมาะกับตัวเองที่สุด
Q
วิธีทำความสะอาดที่นั่งในรถ Tesla Model Y
เวลาทำความสะอาดเบาะรถ Tesla Model Y แนะนำให้เลือกวิธีทำความสะอาดตามวัสดุของเบาะ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ถ้าเป็นเบาะหนังเทียม ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาดๆ เช็ดเบาๆ พร้อมน้ำยาทำความสะอาดที่มีค่า pH เป็นกลาง หลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีแอลกอฮอล์หรือสารฟอกขาวเพราะอาจทำลายพื้นผิว หลังทำความสะอาดแนะนำให้เปิดแอร์โหมดลดความชื้นเพื่อช่วยให้แห้งเร็ว สำหรับเบาะผ้า ให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดก่อน แล้วตามด้วยน้ำยาทำความสะอาดผ้าเฉพาะจุดสำหรับคราบสกปรก เนื่องจากอากาศไทยร้อนทำให้น้ำยาแห้งเร็ว ควรทำในที่ร่มและเปิดพัดลมช่วยระบายอากาศ
การดูแลรักษาปกติ แนะนำทำความสะอาดเบาะอย่างน้อยเดือนละครั้ง ช่วงฤดูฝนอาจเพิ่มความถี่เพื่อป้องกันเชื้อรา แนะนำให้วางถ่านกัมมันต์ในรถเพื่อดูดความชื้น แม้เบาะ Tesla จะออกแบบมาให้ทนทาน แต่การทำความสะอาดสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความสดชื่นภายในรถ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นหรือรถน้ำมัน หลักการทำความสะอาดคล้ายกัน แต่ต้องระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับข้อกำหนดการดูแลวัสดุเบาะของแต่ละยี่ห้อ
Q
ความแตกต่างระหว่าง Tesla Model 3 และ Y คืออะไร
Tesla Model 3 กับ Model Y แตกต่างกันที่การออกแบบและความสะดวกใช้งาน โดย Model 3 เป็นรถเก๋งขนาดกลางตัวต่ำ ขับเคลื่อนคล่องตัวกว่า เหมาะกับคนที่ชอบความสนุกในการขับขี่หรือใช้ในเมือง ส่วน Model Y เป็น SUV ขนาดกะทัดรัด ตัวสูงกว่า ภายในกว้างขวาง โดยเฉพาะส่วนหัวของผู้โดยสารหลังและพื้นที่กระโปรงท้ายที่ใหญ่กว่า เหมาะสำหรับครอบครัวหรือคนที่ต้องการพื้นที่บรรทุกของมากขึ้น ทั้งสองรุ่นใช้แพลตฟอร์มเดียวกันและมีเทคโนโลยีร่วมกันหลายอย่าง เช่น แบตเตอรี่ มอเตอร์ และระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ แต่ในตลาดไทย Model Y มีความสูงจากพื้นมากกว่าเล็กน้อย ทำให้เหมาะกับสภาพถนนบางพื้นที่ที่อาจไม่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ Model Y ยังมีตัวเลือกเก้าอี้ 7 ที่นั่งซึ่งเพิ่มความสะดวกในการใช้งานอีกด้วย ทั้งสองรุ่นให้ระยะทางขับขี่ใกล้เคียงกัน แต่ตัวเลขอาจแตกต่างกันไปตามขนาดล้อและระบบขับเคลื่อน สำหรับคนไทยที่ชอบดีไซน์สปอร์ตและการขับขี่สมรรถนะสูง Model 3 เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการพื้นที่กว้างและใช้งานได้หลากหลายกว่า Model Y จะตอบโจทย์มากกว่า ทั้งสองรุ่นรองรับเครือข่าย Supercharger ของ Tesla ในไทยที่สามารถชาร์จได้สะดวกทั้งในเมืองใหญ่และสถานที่ท่องเที่ยว
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Tesla เจอศึกหนัก ลดราคา Model 3 สู้ตลาดจีน
ธนวัฒน์Sep 2, 2025

Tesla เตรียมเปิดตัว Model 3+ รุ่นใหม่ในประเทศจีน
ธนวัฒน์Jul 28, 2025

นอกจาก Model Y L แล้ว Tesla ยังจะเปิดตัว Model 3+ ในประเทศจีน
Kevin WongJul 18, 2025

Tesla Model 3ได้รับคะแนนสูงสุดจากEuro NCAPในปี 2025 กลายเป็นรถใหม่ที่ปลอดภัยที่สุดในยุโรป
Kevin WongJul 8, 2025

Tesla Model 3 รุ่นปี 2025 คว้ามาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP
พงศธรMay 23, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย