Q

ล้อแม็กของ ORA Good Cat มีขนาดเท่าไหร่?

ORA Good Cat ทุกรุ่นใช้ยางขนาดเดียวกันทั้งล้อหน้าและล้อหลัง คือขนาด 215/50 R18 ซึ่งเป็นการเลือกขนาดยางที่คำนึงถึงสมรรถนะ การควบคุม และความสบายในการขับขี่อย่างลงตัว ตัวเลข 215 หมายถึงความกว้างของหน้ายาง ซึ่งยางที่กว้างขึ้นจะช่วยให้หน้ายางสัมผัสพื้นถนนได้มากขึ้น เพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ ทั้งตอนเร่ง เบรก และเข้าโค้ง ตัวเลข 50 คืออัตราส่วนแก้มยาง ช่วยซับแรงกระแทกจากพื้นถนน ทำให้ขับขี่นุ่มนวลขึ้น ตัวอักษร R18 หมายถึงขอบล้อมีขนาด 18 นิ้ว ซึ่งเข้ากันได้ดีกับดีไซน์ตัวรถ ระบบช่วงล่าง และระบบบังคับเลี้ยว ทำให้รถขับได้อย่างมั่นคงและสวยงามตามสไตล์.
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Ora Good Cat มีอะไรบ้าง?
แม้ Ora Good Cat จะมีจุดเด่นหลายด้าน แต่ก็มีข้อด้อยบางประการที่ควรพิจารณาเช่นกัน เริ่มจากพื้นที่เก็บของด้านหลังที่ค่อนข้างเล็ก ถ้าขับรถออกทริปกับครอบครัวแล้วต้องขนของเยอะ อาจรู้สึกว่าไม่เพียงพอ รถรุ่นนี้จะเหมาะกับการเดินทางคนเดียวมากกว่า เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบายนัก โดยเฉพาะเวลาเจอถนนขรุขระ เพราะขนาดตัวรถและระบบช่วงล่างมีผลต่อความนุ่มนวลของการโดยสาร นอกจากนี้ ระบบเบรกบางครั้งจะมีเสียงดังขณะใช้งาน ซึ่งอาจสร้างความรำคาญ ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถก็ยังไม่ค่อยลื่นไหล การใช้งานยุ่งยาก ผู้ช่วยเสียงบางทีก็ค้างหรือเด้งขึ้นมาเองโดยไม่มีเหตุผล อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในเรื่องความสะดวก เช่น ประตูฝั่งคนขับเท่านั้นที่สามารถปลดล็อกแยกได้ เวลาพาเด็กขึ้นรถอาจไม่สะดวก เบาะปรับไฟฟ้าก็มีแค่ฝั่งคนขับ บางจุดของรถยังให้วัสดุที่ดูเป็นพลาสติกเกินไป เช่น ที่ปัดน้ำฝน และในวันที่ฝนตกหนัก ความเร็วสูงสุดของที่ปัดน้ำฝนอาจไม่เพียงพอ ด้านหลังไม่มีช่องแอร์หรือไฟในห้องโดยสาร การซับแรงกระแทกของช่วงล่างยังทำได้แค่ระดับทั่วไป และเพลงในระบบก็มีให้เลือกไม่มากนัก โดยรวมคือยังมีหลายจุดที่ควรปรับปรุงสำหรับการใช้งานที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นค่ะ
Q
ORA Good Cat อยู่ในกลุ่มรถ Segment ไหน?
ORA Good Cat จัดอยู่ในกลุ่มรถ B-Segment หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า “รถขนาดเล็ก” ซึ่งรถประเภทนี้จะมีขนาดตัวถังที่เล็ก กะทัดรัด คล่องตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นถนนแคบๆ หรือที่จอดรถจำกัดก็เอาอยู่ สำหรับ ORA Good Cat ตัวรถมีความยาว 4,254 มม. กว้าง 1,848 มม. สูง 1,596 มม. และระยะฐานล้อ 2,650 มม. ซึ่งถือว่าขนาดกำลังดี ใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีระยะทางขับขี่สูงสุด 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และอัตราการใช้พลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 11.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เหมาะมากกับคนที่ใช้รถในเมืองเป็นประจำ ทั้งประหยัดทั้งใช้งานได้จริงค่ะ
Q
มูลค่าการขายต่อของ Ora Good Cat ประมาณเท่าไหร่?
ราคาขายต่อของรถยนต์มือสองอย่าง Ora Good Cat นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปีรุ่น ระยะทางที่ใช้งาน สภาพรถโดยรวม และความต้องการในตลาด โดยทั่วไปแล้ว รถไฟฟ้าแบบ Ora Good Cat มักจะได้รับผลกระทบจากสภาพแบตเตอรี่และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ล่าสุด ราคาเริ่มต้นของรถมือสองรุ่น Ora Good Cat GT อยู่ที่ 65,520 บาท ส่วนรุ่นมาตรฐาน Ora Good Cat เริ่มต้นที่ 50,000 บาท แต่นี่เป็นแค่ราคาเบื้องต้นเท่านั้น ราคาจริงอาจแตกต่างกันไป เวลาขายรถ Ora Good Cat มือสอง ถ้ารถได้รับการดูแลดี ใช้งานน้อย และมีเอกสารครบถ้วน ก็มีโอกาสได้ราคาดี นอกจากนี้ ถ้ารุ่นนั้นมีฟีเจอร์พิเศษหรือเป็นที่นิยมในตลาด ก็อาจช่วยเพิ่มมูลค่ารถได้ ในทางกลับกัน ถ้ามีการอัปเกรดสำคัญในรุ่นใหม่ๆ หรือตลาดรถไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลง ก็อาจทำให้ราคาขายต่อลดลงได้
Q
Ora Good Cat มีกี่ซีซี
คำถามและคำตอบนี้ยกเลิกแล้ว ไม่ต้องแปลหรือนำขึ้นแสดง
Q
PCD ของล้อ ORA Good Cat คือขนาดเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะรูดุมล้อ) ของรถ ORA Good Cat คือ 5×114.3 มม. หมายความว่ามีรูน็อต 5 รู วางเรียงบนวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มม. ซึ่งเป็นขนาดที่ใช้กันทั่วไปในรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda City, Toyota Yaris และ Nissan Almera ที่ผลิตขายในไทย ทำให้การหาล้อแม็กรุ่นอื่นๆ มาเปลี่ยนหรือแต่งล้อในไทยทำได้ง่าย มีตัวเลือกเยอะ อย่างไรก็ตาม เวลาจะเปลี่ยนล้อ ควรดูนอกจาก PCD แล้ว ยังต้องเช็กขนาดรูดุมกลาง (CB) และค่า Offset (ET) ให้ตรงด้วย โดย ORA Good Cat มีขนาดรูดุมกลางประมาณ 63.4 มม. (แนะนำให้เช็กกับรถจริงอีกครั้งเพื่อความชัวร์) ควรเลือกร้านล้อที่ได้มาตรฐาน ให้ช่างช่วยลองใส่จริงก่อนซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าใส่ได้พอดี ไม่สั่น ในช่วงหน้าฝนของไทยที่ถนนลื่น ควรเลือกยางที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนดีเพื่อความปลอดภัย และถ้าคิดจะเปลี่ยนล้อใหม่ แนะนำให้ใช้ล้อที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก. หรือ TISI) และขนาดต้องตรงกับที่จดทะเบียนไว้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเวลาไปตรวจสภาพรถหรือเคลมประกันค่ะ
Q
รถ ORA Good Cat รองรับระบบ Apple CarPlay ไหม?
รถ ORA Good Cat รองรับระบบ Apple CarPlay ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ iPhone ได้อย่างลงตัว แค่เชื่อมต่อมือถือกับพอร์ต USB ในรถด้วยสายเคเบิลก็ใช้ได้ทันที โดยฟีเจอร์นี้เหมาะมากกับอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ เพราะเวลาขับรถคุณไม่ต้องก้มไปกดโทรศัพท์ให้เสี่ยงอันตราย แค่ใช้ผ่าน CarPlay ก็จัดการแผนที่ ฟังเพลง หรือรับสายได้สะดวกเลย แต่ต้องระวังหน่อยนะครับ บางรุ่นอาจต้องอัปเดตระบบผ่าน OTA ก่อนถึงจะใช้ CarPlay ได้ แนะนำให้ถามพนักงานขายตอนซื้อรถว่าซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือเปล่า อีกเรื่องที่ควรจำไว้คือต้องอัปเดต iOS บน iPhone ให้ใหม่เสมอจะได้ใช้งานได้ลื่นๆ และควรใช้สายเคเบิลแท้จาก Apple ครับ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่ถนนวุ่นวาย CarPlay จะช่วยนำทางคุณได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ขับรถสะดวกขึ้นมาก แถมรถรุ่นนี้ยังรองรับ Android Auto สำหรับคนใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ด้วย ช่วยลดความเสี่ยงเวลาต้องจับโทรศัพท์ขณะขับรถในช่วงหน้าฝนได้ดีเลยทีเดียว
Q
ยี่ห้อยางรถของ Ora Good Cat มีอะไรบ้าง?
ORA Good Cat ที่วางจำหน่ายในไทย ส่วนใหญ่จะมาพร้อมยางติดรถจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น Giti หรือ Maxxis โดยยี่ห้อของยางอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยและล็อตการผลิต ขนาดยางที่พบได้บ่อยคือ 215/50 R17 หรือ 215/55 R18 ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ให้ทั้งความนุ่มนวลในการขับขี่และการยึดเกาะถนนได้ดี เหมาะกับสภาพถนนในเมืองที่หลากหลายของไทย รวมถึงถนนลื่นในช่วงหน้าฝน แนะนำให้เจ้าของรถในไทยหมั่นตรวจเช็คลมยางและการสึกหรอของยางอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนที่ลมยางมีแนวโน้มจะขยายตัว ควรรักษาค่าลมยางให้อยู่ในระดับที่ผู้ผลิตแนะนำ ซึ่งมักจะระบุไว้ที่ขอบประตูฝั่งคนขับหรือฝาถังน้ำมัน เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยาง หากต้องเปลี่ยนยางในไทย สามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการรถยนต์อย่าง B-Quik ซึ่งมีบริการตรวจเช็คและเปลี่ยนยางอย่างมืออาชีพ หรือจะเลือกใช้ยางแบรนด์เดิมหรือระดับพรีเมียมอย่าง Michelin หรือ Bridgestone ก็ได้ เพื่อความเงียบในการขับขี่และประสิทธิภาพบนถนนเปียกที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนที่เส้นทางลื่นง่ายค่ะ
Q
ORA Good Cat เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกัน
ORA Good Cat ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนรถรุ่นอื่นๆ ค่ะ ในส่วนของข้อดี รถรุ่นนี้มาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 เช่น กล้องมองรอบคัน 360 องศา และระบบจอดรถอัตโนมัติด้วย AI ซึ่งช่วยให้ขับง่ายขึ้น โดยเฉพาะมือใหม่หรือผู้หญิงที่ต้องการความมั่นใจเวลาใช้งาน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สตาร์ทรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ และสามารถสั่งงานผ่าน Bluetooth ได้อีกด้วย การชาร์จไฟก็รวดเร็วพอสมควร ชาร์จจาก 15% ไปถึง 80% ด้วยระบบชาร์จเร็วแบบ DC ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรด้านหน้าให้แรงบิดที่ต่อเนื่อง ทำให้การเร่งความเร็วลื่นไหลดี แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน เช่น พื้นที่เก็บของด้านหลังค่อนข้างเล็ก ถ้าต้องเดินทางไกลหรือขนของเยอะอาจไม่สะดวก และเนื่องจากขนาดตัวรถกับช่วงล่าง ทำให้เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบาย โดยเฉพาะเวลาวิ่งผ่านถนนขรุขระ บางคนที่ใช้งานจริงยังบ่นเรื่องเบรกมีเสียงแปลกๆ ระบบความบันเทิงบางทีรวน เช่น ผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียงใช้งานไม่ได้เป็นบางครั้ง ระบบปลดล็อกประตูทีละบานไม่สะดวก ปรับเบาะอัตโนมัติได้น้อย ที่ปัดน้ำฝนไม่ค่อยดี ไม่มีช่องแอร์หรือไฟอ่านหนังสือด้านหลัง ระบบกันเสียงไม่ค่อยดี และเพลงที่ติดมากับรถก็ค่อนข้างธรรมดา สุดท้าย รถรุ่นนี้จะเหมาะกับเราหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนค่ะ ถ้าชอบดีไซน์น่ารัก ขับในเมืองเป็นหลัก และเน้นความประหยัด ก็ถือว่าน่าใช้ไม่น้อยเลยค่ะ
Q
ความกว้างของ Ora Good Cat คือเท่าไร
ความกว้างของรถ ORA Good Cat ในแต่ละรุ่นนั้นมีความแตกต่างกัน โดยรุ่นปี 2022 และ 2021 จะมีความกว้างอยู่ที่ 1,825 มม. ส่วนรุ่นปี 2024 นั้นกว้างขึ้นมาอีกหน่อยอยู่ที่ 1,848 มม. ความกว้างของรถถือเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อการจัดวางพื้นที่ภายใน การควบคุมรถ รวมไปถึงการขับขี่บนถนนด้วยนะครับ ถ้ารถกว้างมากขึ้นก็จะทำให้มีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้น ผู้โดยสารและคนขับก็จะนั่งสบายขึ้น แต่ข้อควรระวังคือเวลาเจอถนนแคบๆ หรือต้องจอดในที่จำกัด อาจต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นนิดหน่อยครับ
Q
ภาษีรถยนต์ของ ORA Good Cat อยู่ที่เท่าไหร่ ?คำนวณยังไง?
รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) มักจะได้รับอัตราภาษีที่พิเศษกว่าปกติ อย่างเช่น ORA Good Cat ที่เป็นรถไฟฟ้า 100% ก็เสียภาษีรถยนต์ปีละแค่ประมาณ 800-1,500 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปมาก นี่เป็นนโยบายส่งเสริมจากรัฐบาลไทยที่อยากให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้าให้มากขึ้น แนะนำให้เจ้าของรถในไทยจ่ายภาษีรถยนต์ระหว่างวันที่ 1 มกราคมถึง 30 เมษายนของทุกปี จะไปจ่ายที่กรมการขนส่งทางบก (Department of Land Transport) หรือที่สาขาธนาคารบางแห่งก็ได้ แต่ถ้าช้ากว่านี้อาจโดนค่าปรับเพิ่มนะ นอกจากภาษีรถยนต์ที่ถูกแล้ว การซื้อ ORA Good Cat ยังได้สิทธิประโยชน์อื่นๆ จากรัฐบาลอีก เช่น ส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท และยังได้สิทธิ์ไม่ต้องเสียค่าผ่านทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย สำหรับใครที่ต้องขับรถในเมืองบ่อยๆ สิทธิ์พวกนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยล่ะ!

ข้อดี

ออกแบบภายนอกที่น่ารักและไม่เหมือนใคร
ส่วนที่อยู่ในรถที่สบายด้วยพื้นที่ที่ดี
ระยะทางการใช้งานแบตเตอรี่เพียงพอสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน
คุณสมบัติความปลอดภัยและเทคโนโลยีล้ำหน้า

ข้อเสีย

ประสิทธิภาพที่ความเร็วสูงจำกัด
บางคนอาจรู้สึกว่าความเร็วในการชาร์จช้า
มูลค่าการขายรถเก็บอาจไม่สูงมาก

Q&A ล่าสุด

Q
哪一个更快, M5 หรือ M8
ในตลาดไทย รุ่นบีเอ็มดับเบิลยู M5 (F90) และ M8 (G15/G16) ที่พบบ่อย M8 มีสมรรถนะเร่งและความเร็วสูงกว่าบ้าง โดย M8 Competition ใช้เครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลัง 625 แรงม้า เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.2 วินาที ส่วน M5 Competition มีกำลัง 617 แรงม้า เร่ง 0-100 ใน 3.3 วินาที ข้อดีนี้มาจากน้ำหนักตัวรถ M8 ที่เบากว่าและการออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น แต่ M5 ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและดีไซน์สี่ประตูที่ใช้งานได้จริงกว่า จึงได้รับความนิยมมากกว่าในสภาพอากาศฝนตกบ่อยและความต้องการของครอบครัว รถทั้งสองรุ่นมีราคาขายในไทยเกิน 10 ล้านบาท แต่การเซ็ตสมรรถนะเน้นคนละแบบ M8 มุ่งเน้นการขับขี่บนสนามแข่งและความเร็วสูง ส่วน M5 เหมาะกับการขับขี่ประจำวัน ควรระวังว่าอากาศร้อนในไทยมีผลต่อการระบายความร้อนของเครื่องยนต์เทอร์โบ ควรเลือกอุปกรณ์ระบายความร้อนเพิ่มและดูแลบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ รถสมรรถนะสูงเหล่านี้จะปลดปล่อยศักยภาพเต็มที่ในสนามแข่งรอบกรุงเทพฯ เช่น Bira Circuit แต่ในการขับขี่บนถนนทั่วไปต้องระวังเรื่องกฎหมายจำกัดความเร็วอย่างเคร่งครัดในไทย
Q
M8 เป็นรถซุปเปอร์คาร์หรือไม่
บีเอ็มดับเบิลยู M8 เป็นรถคูเป้หรูสมรรถนะสูง แม้จะมีพละกำลังแรงและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่จัดว่าเป็นซูเปอร์คาร์ ซูเปอร์คาร์มักเน้นสมรรถนะสูงสุด น้ำหนักเบา และผลิตจำนวนจำกัด เช่น บางรุ่นของเฟอร์รารี่หรือแลมโบร์กินี ส่วน M8 ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มรถ GT หรู เหมาะกับการขับทางไกลและใช้งานประจำวัน ในประเทศเขตร้อนอย่างไทย M8 มีความสะดวกสบายและปรับตัวได้ดี ด้วยระบบช่วงล่างและแอร์ที่รองรับสภาพอากาศร้อนและถนนหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและโหมดขับขี่หลายรูปแบบของ M8 ช่วยให้ขับขี่คล่องตัวทั้งในเมืองที่รถติดและเส้นทางภูเขา หากสนใจซูเปอร์คาร์จริงๆ สามารถพิจารณา Porsche 911 Turbo S หรือ McLaren GT ที่มีสมรรถนะและดีไซน์ใกล้เคียงกับคำนิยามซูเปอร์คาร์แบบดั้งเดิมมากกว่า
Q
M8 เป็น BMW ที่เร็วที่สุดหรือไม่
ในบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น M8 เป็นรถสมรรถนะสูงที่โดดเด่นแต่ไม่ใช่รุ่นที่เร็วที่สุดในสายการผลิต รุ่นที่เร็วที่สุดคือบีเอ็มดับเบิลยู M5 CS ที่เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 3 วินาที และความเร็วสูงสุด 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหลังปลดล็อกความเร็ว ส่วน M8 Competition เร่ง 0-100 ได้ 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุดเท่ากันที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในการขับขี่บนสนามแข่ง M5 CS มีสมรรถนะดีกว่า ในไทยด้วยข้อจำกัดทางถนนและกฎหมายจราจร ความเร็วสูงสุดจึงไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลือกซื้อรถ แต่ M8 ยังคงเป็นรถหรูสมรรถนะสูงที่เหมาะกับผู้บริโภคระดับพรีเมียม มีทั้งพลังแรงและความสะดวกสบายเหมาะกับการขับขี่ในกรุงเทพฯ และทางด่วนของไทย หากสนใจรถสมรรถนะสูง สามารถศึกษารุ่น M อื่นๆ เช่น M3 M4 ที่มีความนิยมสูงในไทยและง่ายต่อการดูแลรักษา พร้อมมอบความสนุกในการขับขี่
Q
ราคารถ BMW M8 อยู่ที่เท่าไหร่
ราคารถ BMW M8 ในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านบาท แต่ราคาอาจมีการปรับขึ้นลงบ้างจากอุปกรณ์เสริมที่เลือก ส่วนลดจากตัวแทนจำหน่าย หรือโปรโมชั่นต่างๆ รถรุ่น M8 เป็นเรือธงสมรรถนะสูงจาก BMW ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่ ให้กำลังสูงสุดกว่า 600 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ทำให้การขับขี่เต็มไปด้วยความแรงและความมันส์ สำหรับในไทย รถหรั่งระดับนี้มักจะมีอุปกรณ์เสริมที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ ของเรา เช่น ระบบแอร์ประสิทธิภาพสูงและกระจกกันรังสียูวี ต้องบอกเลยว่าเมืองไทยมีภาษีนำเข้ารถค่อนข้างสูง นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้รถหรั่งอย่าง M8 มีราคาแพง นอกจาก M8 แล้ว ตลาดไทยยังมีรถสมรรถนะสูงหรูๆ ให้เลือกอีกเพียบ เช่น Mercedes-AMG GT หรือ Porsche 911 ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบตามความชอบและงบประมาณได้เลย ถ้าสนใจซื้อ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายโดยตรงเพื่อขอราคาล่าสุดและรายละเอียดบริการหลังการขาย รวมถึงควรคำนึงถึงการดูแลรักษารถในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยด้วยนะ
Q
ยาริสดีสำหรับการเดินทางไกลหรือไม่
รถยนต์โตโยต้า ยาริส เป็นรุ่นที่เหมาะกับการขับขี่ระยะไกล โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบประเทศไทย เครื่องยนต์ 1.2L หรือ 1.5L อาจจะไม่แรงมากแต่ประหยัดน้ำมันดี เหมาะกับทั้งการขับในเมืองและบนทางหลวง เกียร์ CVT ทำงานลื่นๆ ช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับทางไกล ภายในรถสำหรับรุ่นเล็กแล้วถือว่ากว้างขวางพอสมควร เบาะนั่งก็รองรับร่างกายได้ดี แต่ถ้าเป็นสภาพอากาศร้อนๆของไทย แนะนำให้เลือกรุ่นสูงหน่อย เพราะรุ่นพื้นฐานบางแบบอาจไม่มีช่องแอร์ด้านหลัง เรื่องบริการหลังการขายในตลาดไทยก็ครบครัน ซ่อมบำรุงง่ายและค่าใช้จ่ายไม่สูง ที่น่าสนใจคือระยะความสูงจากพื้นรถที่มากกว่ารถเก๋งทั่วไป ทำให้เหมาะกับสภาพถนนบางเส้นในชนบทที่อาจไม่ค่อยดีนัก สำหรับคนไทยที่ต้องการรถประหยัดแต่ต้องขับทางไกลบ่อยๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริง แต่ถ้าต้องการพาครอบครัวหรือมีสัมภาระมากๆ อาจต้องมองหารถที่ใหญ่กว่านี้หน่อย
ดูเพิ่มเติม