Q
ภาษีรถยนต์ (Road Tax) ของ Mazda3 ต้องจ่ายเท่าไหร่? แล้วคิดยังไง?
ในประเทศไทย ค่าภาษีรถยนต์มาสด้า 3 จะคำนวณตามขนาดเครื่องยนต์เป็นหลัก โดยกรมการขนส่งทางบกเป็นผู้กำหนดอัตราค่าภาษี รถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 600 ซีซี จะเสียภาษีปีละ 50 บาท ส่วนรถขนาด 600-1800 ซีซี เสีย 600-1400 บาท และขนาด 1800-2000 ซีซี เสีย 1800-2000 บาท ยิ่งเครื่องยนต์ใหญ่ภาษีก็ยิ่งสูง มาสด้า 3 ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรหรือ 2.0 ลิตร ดังนั้นค่าภาษีต่อปีจะอยู่ที่ประมาณ 600-2000 บาท แต่จำนวนที่แน่นอนต้องให้กรมภาษีท้องที่คำนวณอีกที เวลาคำนวณภาษี เจ้าของรถต้องเตรียมเล่มทะเบียนรถกับบัตรประชาชนไปยื่นผ่านเว็บไซต์ DLT หรือที่ขนส่งจังหวัด ถ้าชำระเกินกำหนดอาจโดนค่าปรับได้ นอกจากนี้ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ไทยได้เริ่มใช้นโยบายภาษีสิ่งแวดล้อม รถที่ได้มาตรฐานไอเสียสูงอาจได้ลดหย่อนภาษีบ้าง แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบระบบไอเสียเป็นประจำเพื่อลดค่าภาษี ข้อสำคัญคือภาษีรถยนต์ไม่เหมือนกับพรบ. ซึ่งเป็นค่าประกันภัยภาคบังคับ ทั้งสองอย่างต้องชำระให้ตรงเวลาถึงจะขับขี่ได้อย่างถูกกฎหมาย ถ้าไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานานสามารถขอหยุดชำระภาษีชั่วคราวได้ แต่เมื่อจะนำรถกลับมาใช้ต้องชำระเงินค้างทั้งหมดก่อน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Mazda 3 นีอะไรบ้าง?
แม้ว่า Mazda3 จะได้รับความนิยมในตลาดไทยจากดีไซน์ที่สวยงามและสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ยังมีข้อสังเกตบางประการที่ควรพิจารณา
อย่างแรกคือพื้นที่เบาะหลังค่อนข้างแคบ ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวไทยที่มักโดยสารหลายคน โดยเฉพาะในกรณีเดินทางไกล พื้นที่วางขาอาจรู้สึกอึดอัด
นอกจากนี้ ช่วงล่างของ Mazda3 ถูกเซ็ตมาในแนวสปอร์ต แม้จะให้ความมั่นคงและควบคุมดีในทางโค้ง แต่เมื่อเจอสภาพถนนที่ไม่เรียบในบางพื้นที่ของไทย จะรู้สึกกระด้างและไม่ค่อยสบาย
อีกจุดที่ควรพิจารณาคือค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอะไหล่แท้จากศูนย์ซึ่งมีราคาสูงกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน อาจเป็นภาระกับผู้ใช้งานบางกลุ่ม
แม้เทคโนโลยี Skyactiv จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี แต่เมื่อเปิดแอร์ในสภาพอากาศร้อนแบบไทย อัตราการสิ้นเปลืองจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สุดท้ายคือเรื่องของระบบเก็บเสียง ที่ยังมีจุดให้พัฒนา โดยเฉพาะเวลาขับเร็วหรือใช้งานในเมืองที่มีเสียงรบกวนมาก
ถึงแม้จะมีข้อด้อยเหล่านี้ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของ Mazda3 ที่เน้นความสนุกในการขับขี่มากกว่าความอเนกประสงค์ เหมาะกับผู้บริโภคชาวไทยรุ่นใหม่ที่ชอบความโดดเด่นและประสบการณ์หลังพวงมาลัยเป็นหลัก
Q
Mazda 3 อยู่ใน Segment ไหน?
Mazda3 ในตลาดไทยจัดอยู่ในกลุ่ม C-segment หรือรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็ค ไม่ว่าจะเป็นตัวถังแบบซีดานหรือแฮทช์แบ็ก ซึ่งถือเป็นเซกเมนต์ยอดนิยมในประเทศไทย คู่แข่งหลักคือรถญี่ปุ่นอย่าง Toyota Corolla และ Honda Civic
Mazda3 ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นไทย ด้วยดีไซน์ “KODO – Soul of Motion” ที่โดดเด่น และสมรรถนะการขับขี่ที่สนุก มาพร้อมเทคโนโลยี Skyactiv ที่เน้นความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดของกรุงเทพฯ
ในตลาดไทย Mazda3 มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร โดยรุ่น 2.0 ลิตรจะมาพร้อมระบบ G-Vectoring Control ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเข้าโค้ง ช่วยให้การขับขี่มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Mazda3 รุ่นที่จำหน่ายในไทยยังมีการปรับจูนช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนนในประเทศไทยโดยเฉพาะ รองรับทั้งถนนเมืองและพื้นที่ที่มีสภาพพื้นผิวไม่เรียบ
ราคาจำหน่ายของรถในกลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 800,000 – 1,200,000 บาท ถือเป็นกำลังหลักของตลาดรถบ้านในไทย ผู้บริโภคจำนวนมากเลือกซื้อด้วยระบบผ่อนรายเดือน เพราะ Mazda3 ถือว่ามีมูลค่าคงเหลือ (resale value) ดีในระยะยาว ขายต่อแล้วขาดทุนน้อยเมื่อเทียบกับหลายรุ่นในระดับเดียวกัน
Q
มูลค่าขายต่อของ Mazda 3 คือเท่าไหร่?
Mazda3 ในตลาดรถมือสองของไทยจัดว่ามีมูลค่าคงเหลืออยู่ในระดับกลางค่อนไปทางดี โดยรถที่มีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปี จะมีมูลค่าคงเหลือราว 60-65% ส่วนรถอายุ 5 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 50-55% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถ รุ่นย่อย และความต้องการของตลาดในช่วงเวลานั้น
ในไทย รถญี่ปุ่นได้รับการยอมรับสูง และ Mazda3 ก็เป็นที่นิยมด้วยดีไซน์ KODO ที่โดดเด่น รวมถึงเทคโนโลยี Skyactiv ที่เน้นความประหยัดและทนทาน ทำให้รุ่นนี้เป็นที่ต้องการในตลาดรถมือสอง โดยเฉพาะรุ่นที่มีออปชันสูงหรือรุ่นดีเซล จะมีราคาขายต่อที่ดีกว่า
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาขายต่อ ได้แก่ ประวัติการเข้าศูนย์บริการ การเกิดอุบัติเหตุ และสภาพของตัวถังรถที่อาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศชื้นของไทย แนะนำให้เจ้าของรถเก็บบันทึกการเข้ารับบริการที่ศูนย์ให้ครบถ้วน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือเวลาขายต่อ
เมื่อเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกัน Mazda3 มีอัตราการคงมูลค่าที่ต่ำกว่า Toyota Corolla เล็กน้อย แต่ดีกว่า Honda Civic ส่วนหนึ่งมาจากภาพลักษณ์ของแบรนด์และต้นทุนในการบำรุงรักษาที่ต่างกัน
นอกจากนี้ นโยบายส่งเสริมรถยนต์ประหยัดพลังงาน (Eco Car) และมาตรการภาษีของรัฐบาล อาจทำให้ราคารถใหม่ผันผวน ส่งผลกระทบทางอ้อมต่อราคารถมือสองด้วย ดังนั้นก่อนขาย ควรตรวจสอบราคาตลาดปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้ว ราคาขายต่อในกรุงเทพฯ จะสูงกว่าจังหวัดอื่นประมาณ 5-10%
Q
Mazda 3 มีกี่ CC
มาสด้า 3 รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,998 ซีซี หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า 2.0L แรงม้าเยอะพอสมควร ขับสบายทั้งในเมืองและบนทางด่วน จะแซงหรือเร่งเมื่อไหร่ก็มั่นใจ ทุกรุ่นย่อยของมาสด้า 3 ใช้เครื่องยนต์ขนาดเดียวกันเลย แม้จะต่างกันที่ราคา ยาง หรืออุปกรณ์เสริมบางอย่าง แต่เรื่องกำลังไม่ต้องห่วง ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่มั่นคงและแรงดีทั้งตอนจอดๆ ไปๆ ในเมืองหรือเวลาครูดความเร็วสูงบนทางหลวง เรียกว่าเอาอยู่ทุกสถานการณ์จริงๆ
Q
Mazda3 ใช้เครื่องยนต์อะไร?
Mazda3 ที่จำหน่ายในตลาดไทย ส่วนใหญ่จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Skyactiv-G แบบไม่มีเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 158 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร โดยกำลังสูงสุดจะออกที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 4,000 รอบ/นาที
เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยีหัวฉีดตรง (Direct Injection) พร้อมฝาสูบและเสื้อสูบผลิตจากอะลูมิเนียม ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่สามารถเปลี่ยนเกียร์เองได้ (แบบ Manual Mode)
Mazda3 ยังมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร สำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดน้ำมันและมีงบประมาณจำกัด ส่วนเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรจะเหมาะกับผู้ที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่มากกว่า ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการและสไตล์การใช้งานของตนเอง
Q
Mazda3 ใช้เกียร์แบบไหน?
Mazda3 ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด (6AT) ซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและต่อเนื่อง ช่วยให้การขับขี่ทั้งในเมืองที่ต้องเจอการหยุด-เคลื่อนตัวบ่อย ๆ หรือการวิ่งทางไกลบนถนนความเร็วสูงเป็นไปอย่างราบรื่น
เกียร์ 6AT นี้สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้อัตโนมัติตามสภาพการขับขี่และลักษณะการเหยียบคันเร่งของผู้ขับ ช่วยให้ขับง่าย ประหยัดแรง และเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีความทนทานและเชื่อถือได้ ช่วยลดความกังวลเรื่องปัญหาเกียร์ในระยะยาว ทำให้ใช้งานได้อย่างสบายใจ
Q
PCD (รูน็อตล้อ) ของ Mazda3 คือขนาดเท่าไหร่?
PCD (Pitch Circle Diameter) ของ Mazda3 อยู่ที่ขนาด 5x114.3 มม. หมายความว่าล้อแม็กของรถรุ่นนี้มีรูน็อต 5 รู และตำแหน่งของรูน็อตจะเรียงกันเป็นวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มม.
ขนาดนี้ถือว่าเป็นสเปกมาตรฐานที่พบได้บ่อยในรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda และ Toyota ทำให้ในไทยสามารถหาอะไหล่หรือเปลี่ยนล้อแม็กได้ง่าย และสะดวกเวลาต้องการอัปเกรดระบบเบรกหรือเปลี่ยนล้อใหม่
การรู้ขนาด PCD เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากเลือกล้อที่มีขนาดไม่ตรง อาจทำให้ไม่สามารถติดตั้งได้ หรืออาจเกิดปัญหาในการขับขี่ เช่น การสั่นหรือไม่ปลอดภัยในระยะยาว
ในสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยของประเทศไทย ควรเลือกใช้ล้อแม็กและยางที่มีคุณภาพดี เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพถนนที่ลื่นหรือขรุขระ และการเลือกรุ่นของยางหรือขนาดล้อที่เหมาะสม ยังช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่และยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย
Q
Mazda3 รองรับ Apple CarPlay ไหม?
Mazda3 รุ่นล่าสุดที่วางจำหน่ายในประเทศไทยรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay แล้ว ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone สามารถใช้งานแอปต่าง ๆ บนหน้าจอรถยนต์ได้โดยตรง เช่น แผนที่นำทาง เพลง หรือการโทรออก-รับสาย เพิ่มความสะดวกในการขับขี่อย่างมาก
โดยทั่วไปแล้ว Mazda3 ตั้งแต่ปี 2019 ขึ้นไป จะมี Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่สำหรับรุ่นที่เก่ากว่านั้น อาจต้องนำรถไปอัปเกรดระบบที่ศูนย์บริการ Mazda ที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย
ในไทย ผู้ใช้จำนวนมากนิยมเชื่อมต่อ CarPlay เพื่อใช้ Google Maps หรือ Waze ในการหลีกเลี่ยงรถติด โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ รวมถึงใช้งานแอปเพลงอย่าง Spotify หรือ Joox เพื่อความบันเทิงระหว่างเดินทาง
แนะนำให้ใช้สายชาร์จแท้หรือสายคุณภาพดีเมื่อต่อ CarPlay เพื่อป้องกันปัญหาการเชื่อมต่อไม่เสถียร และนอกจาก Apple CarPlay แล้ว Mazda3 ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้มือถือระบบแอนดรอยด์อีกด้วย
Mazda3 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในไทยด้วยจุดเด่นด้านการควบคุมที่ดีและความประหยัดน้ำมัน ยิ่งเมื่อผสานกับระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะเหล่านี้ ก็ยิ่งเพิ่มความคุ้มค่าและน่าใช้งานมากขึ้นอีกขั้น
Q
Mazda3 ใช้ยางยี่ห้ออะไร?
ยางติดรถเดิมของ Mazda3 ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและรุ่นย่อย โดยส่วนใหญ่มักใช้ยางจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น Bridgestone, Dunlop หรือ Yokohama ซึ่งเป็นยางที่ได้รับความนิยมในไทยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะด้านการยึดเกาะบนถนนเปียกและความทนทานที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย
เมื่อต้องเปลี่ยนยางใหม่ ผู้ใช้ในไทยสามารถเลือกแบรนด์อื่นที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เช่น Michelin รุ่น Primacy หรือ Goodyear รุ่น Assurance ซึ่งมีสมรรถนะดีทั้งในช่วงฤดูฝนและอุณหภูมิสูงของไทย อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านยางหรือศูนย์บริการทั่วไป
คำแนะนำสำหรับเจ้าของรถคือ เลือกยางตามลักษณะการใช้งาน เช่น ถ้าต้องการความเงียบและนุ่มสบาย หรือเน้นความทนทานก็ควรเลือกรุ่นที่เหมาะสม และอย่าลืมตรวจสอบลมยางและความลึกของดอกยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนของไทย ควรเน้นยางที่มีประสิทธิภาพในการรีดน้ำเพื่อลดความเสี่ยงในการลื่นไถล
Q
Mazda 3 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
มาสด้า 3 เป็นรถเก๋งขนาดกลางที่ขายดีในตลาดไทย ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ตและทันสมัย พร้อมด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหราและให้ความรู้สึกพรีเมียม แถมยังขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัวเหมาะกับสภาพถนนทั้งในเมืองและนอกเมืองของไทย นอกจากนี้เทคโนโลยี Skyactiv ยังช่วยประหยัดน้ำมันซึ่งเป็นข้อดีในเมื่อราคาน้ำมันไทยค่อนข้างสูง ระบบความปลอดภัยอย่าง i-Activsense ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างวุ่นวายของไทย อย่างไรก็ตาม มาสด้า 3 มีข้อเสียคือพื้นที่เบาะหลังค่อนข้างคับ สำหรับครอบครัวไทยที่ชอบเดินทางพร้อมหน้าพร้อมตาอาจจะรู้สึกอึดอัดหน่อย ส่วนค่าบำรุงรักษาก็สูงกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นอื่นๆ เล็กน้อย และที่สำคัญในอากาศร้อนๆ แบบไทย บางคนอาจรู้สึกว่าแอร์ไม่ค่อยเย็นเท่าที่ควร ถ้าคุณเป็นคนชอบความสปอร์ตและความสวยงามของดีไซน์ มาสด้า 3 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าอยากได้รถที่กว้างขวางและค่าดูแลถูกกว่านี้ อาจต้องมองหารุ่นอื่น ในตลาดไทยยังมีคู่แข่งอย่างโตโยต้า คอร์ลล่า หรือฮอนด้า ซีวิค ที่น่าสนใจเหมือนกัน แนะนำว่าก่อนซื้อควรลองขับเปรียบเทียบดูให้ดี และอย่าลืมเลือกรุ่นที่เหมาะกับอากาศร้อนแบบไทย เช่น มีกระจกกันความร้อนและระบบแอร์ที่แรงพอสู้กับแดดเมืองไทยได้
Q&A ล่าสุด
Q
รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกในปี 2024 คือรุ่นอะไร?
จากข้อมูลยอดขายรถยนต์ทั่วโลกปี 2024Toyota Corolla ยังคงเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในโลก ด้วยความน่าเชื่อถือ ประหยัดน้ำมัน และราคาคุ้มค่า ทำให้รถรุ่นนี้ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั่วโลก รวมถึงในตลาดไทยด้วย โดยเฉพาะรุ่น Hybrid ที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นและความต้องการรถประหยัดพลังงานของคนไทย ประเทศไทยเป็นตลาดรถยนต์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความสำเร็จของ Toyota Corolla ในไทยก็มาจากกลยุทธ์การผลิตภายในประเทศ โดยรถที่ผลิตจากโรงงานไทยนอกจากจะจำหน่ายในประเทศแล้วยังส่งออกไปยังตลาดเพื่อนบ้าน ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน นอกจาก Corolla แล้ว คนไทยยังนิยมรถปิกอัพอย่าง Toyota Hilux และ Isuzu D-MAX ที่ใช้งานได้ดีในพื้นที่ชนบทและภาคอุตสาหกรรม แต่ในระดับโลก รถเก๋งขนาดกะทัดรัดอย่าง Corolla ยังคงเป็นผู้นำด้านยอดขาย แม้ปัจจุบันจะมีการผลักดันรถ EV จากรัฐบาลไทยและอาจมีรถพลังงานใหม่เข้ามาในลิสต์ยอดขายในอนาคต แต่รถยนต์สันดาปภายในและ Hybrid ยังคงเป็นตัวเลือกหลักของตลาดในขณะนี้
Q
แบรนด์รถยนต์ใดมีการเรียกคืนสินค้ามากที่สุดในปี 2024?
ในปี 2564 ยอดเรียกคืนรถในตลาดไทยมีหลายแบรนด์ โดยเฉพาะรถอเมริกันและญี่ปุ่น เช่น Ford ที่เรียกคืนบางรุ่นเนื่องจากต้องอัปเกรดระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น ส่วน Toyotaได้ปรับปรุงระบบจัดการแบตเตอรี่ในรถไฮบริด การเรียกคืนครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าแบรนด์เหล่านี้ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมในไทยที่ทั้งร้อนและชื้น ผู้บริโภคไทยควรเข้าใจว่าการเรียกคืนรถเป็นมาตรการเชิงรุกของบริษัทเพื่อลดความเสี่ยง ไม่ใช่ปัญหาคุณภาพ โดยข้อมูลการเรียกคืนทั้งหมดจะประกาศผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก (DLT) เราแนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบข้อมูลการเรียกคืนเป็นระยะผ่านทางศูนย์บริการหรือเว็บไซต์ DLT ตามกฎหมายไทย ศูนย์บริการต้องซ่อมแซมรถที่ถูกเรียกคืนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ข้อสังเกตสำคัญคือประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รุ่นที่ผลิตในประเทศจะถูกปรับแต่งให้เหมาะกับถนนไทย แต่ชิ้นส่วนมาตรฐานระดับโลกอาจทำให้เกิดการเรียกคืนได้ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับลักษณะเฉพาะของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
Q
รถที่ดีที่สุดในโลกในปี 2024 คืออะไร?
ในปี 2024 รถหรูที่ทั่วโลกจับตามองที่สุดต้องยกให้ Rolls Royce Phantom Series II ที่ นิยามใหม่ประสบการณ์การขับขี่ระดับไฮเอนด์ด้วยงานคราฟต์แฮนด์เมดระดับมาสเตอร์พีซ เริ่มตั้งแต่กริลล์แบบพาร์เธนอนอันเป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงหลังคาดาวที่ทำให้ลูกค้าระดับท็อปของไทยรู้สึกถึงความพิเศษและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว แถมเครื่อง V12 ยังให้กำลังงานลื่นไหลสมบูรณ์แบบ ทั้งในสภาพการจราจรติดขัดหรือวิ่งเร็วบนถนนซับซ้อนของกรุงเทพฯ ส่วนด้านรถไฟฟ้า ตลาดไทยน่าจับตาที่สุดคือเทสลา โมเดล เอส เพลด ที่มาพร้อมสมรรถนะระดับ 1,020 แรงม้า จาก 3 มอเตอร์ เร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.1 วินาที โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จในไทยที่พร้อมรับ และระบบจัดการความร้อนแบตเตอรี่ที่ทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น แบบไทย ที่น่าสนใจคือ Toyota Century SUV รถหรูสัญชาติญี่ปุ่นที่ถูกใจคนไทย ด้วยการผสมผสานระหว่างดีไซน์เอเชียนเอลิแกนซ์กับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด V6 พร้อมเบาะหลังแบบ Executive ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับวัฒนธรรมการทำงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม เวลาซื้อรถหรูในไทย ควรเช็กให้ดีว่าเป็นแบบพวงมาลัยขวา และควรเลือกรุ่นที่มีระบบปรับอากาศแรงพิเศษ พร้อมสารเคลือบเซรามิกเกรดสูง เพื่อรับมือกับสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อย ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้สำคัญกว่าการเลือกแค่แบรนด์ดังๆ
Q
รถยนต์รุ่นใดในปี 2024 ที่จะมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด?
จากรายงานคาดการณ์ความทนทานของรถยนต์ปี 2024 และลักษณะเฉพาะของตลาดไทย รถปิกอัพอย่าง Toyota Hilux Revo และ Isuzu D-Max คาดว่าจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เพราะใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลที่พัฒนามาอย่างดี โครงสร้างแข็งแรง และค่าซ่อมบำรุงไม่สูง เหมาะสมกับสภาพถนนหลากหลาย terrain และอากาศร้อนของประเทศไทย ส่วนแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Honda CR-V และ Toyota Fortuner ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน เพราะมีผลงานด้านความทนทานระดับโลก และการผลิตในประเทศทำให้หาอะไหล่ได้ง่าย บำรุงรักษาสะดวก
สำหรับรถไฟฟ้า อย่าง BYD ATTO 3 และ MG ZS EV มีศักยภาพในการใช้งานยาวนานจากประกันแบตเตอรี่ (มักให้ประกัน 8 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร) แต่ต้องคำนึงถึงความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จในประเทศไทยด้วย
ถ้าจะเลือกรถที่ใช้งานได้ยาวนาน แนะนำให้ดู 3 ปัจจัยหลัก คือ เครือข่ายบริการหลังการขายของแบรนด์ในไทย, อัตราการรักษามูลค่ารถ (resale value) และเสียงรีวิวจากผู้ใช้ในประเทศ เพราะปัจจัยเหล่านี้สะท้อนความทนทานของรถในสภาพจริงของไทยได้ดี นอกจากนี้การบำรุงรักษาสม่ำเสมอและการขับขี่ที่ถูกวิธีก็ช่วยยืดอายุรถได้ไม่ว่ายี่ห้อไหนก็ตาม
Q
รถยนต์ที่ถูกนำไปรีไซเคิลมากที่สุดในปี 2024 คือรุ่นอะไร?
คาดการณ์ว่าในปี 2024 รถยนต์ที่ถูกส่งไปกำจัดมากที่สุดในประเทศไทยยังคงเป็นรถเก๋งประหยัดน้ำมันจากญี่ปุ่นที่ใช้งานมานานกว่า 15 ปี โดยเฉพาะรุ่นยอดนิยมอย่าง Toyota Vios และ Honda City ที่ผลิตช่วงต้นปี 2000 ซึ่งชิ้นส่วนต่างๆเริ่มเสื่อมสภาพจากการใช้งานยาวนาน ทำให้ค่าซ่อมบำรุงสูงขึ้น แถมยังมีนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลไทยที่ให้เงินช่วยเหลือสำหรับการเปลี่ยนรถเก่าที่ปล่อยมลพิษสูง ส่งผลให้เจ้าของรถเลือกส่งรถไปกำจัดแทนที่จะซ่อมแซม ส่วนรถกระบะที่ผลิตในประเทศอย่าง Isuzu D-MAX หรือ Toyota Hilux แม้จะมีจำนวนเยอะแต่กลับไม่ค่อยถูกส่งไปกำจัดเพราะโครงสร้างแข็งแรงและหาอะไหล่ซ่อมง่าย ในแง่สิ่งแวดล้อม รัฐบาลไทยกำลังผลักดันมาตรฐานการปล่อยมลพิษยูโร 5 ซึ่งจะเร่งกำจัดรถเก่าที่ไม่ผ่านมาตรฐาน โดยแนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์และระบบการปล่อยมลพิษอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนรถเก่าและรถใหม่ในเวลาที่เหมาะสม ทั้งได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศในเมือง
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Mazda 3 ดูดี แต่ไม่ตอบโจทย์? เผยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายไม่ดี
ธนวัฒน์Sep 10, 2024

Mazda 3 Hatchback ราคาเริ่มต้นที่ 166,059 ริงกิต จะเลือกทั้งสองรุ่นนี้อย่างไรดีนะ?"
AshleyJul 15, 2024

Mazda 3 มีราคาตั้งแต่ THB 979,000 เป็นรถเก๋งซี-เซกเมนต์สง่างามที่สุดไหม?
LienJun 12, 2024

สงครามระหว่าง Sedan C-segment ในไทย: Honda Civic RS ปะทะ Toyota Corolla Altis ปะทะ Mazda 3
LienApr 15, 2024

ข่าวลือ: Toyota และ Mazda ร่วมมือกันพัฒนารถรุ่นถัดไป MX-5 และ GR86
ณัฐวุฒิOct 20, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย