Q
MG ZS เติมลมยางกี่ปอนด์?
ค่าลมยางมาตรฐานของ MG ZS โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 2.3 ถึง 2.5 บาร์ (ประมาณ 33 ถึง 36 psi) ทั้งนี้อาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามรุ่นปีของรถ ขนาดยาง หรือสภาพการบรรทุก แนะนำให้ตรวจสอบคู่มือรถหรือสติกเกอร์ที่กรอบประตูฝั่งคนขับเพื่อความแม่นยำ
ด้วยสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย อุณหภูมิที่สูงอาจทำให้ค่าลมยางเพิ่มขึ้น จึงควรตรวจสอบลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะก่อนเดินทางไกล และควรเช็คลมยางขณะยางเย็นเพื่อความแม่นยำ การเติมลมยางที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยประหยัดน้ำมันและเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการที่ยางร้อนเกินไปจากแรงดันต่ำ โดยเฉพาะในสภาพถนนที่ร้อนจัดของไทย
หากใช้งานบรรทุกของหนักหรือวิ่งทางขึ้นเขาบ่อย ควรพิจารณาเพิ่มลมยางล้อหลังขึ้นอีกประมาณ 0.1–0.2 บาร์ตามคำแนะนำในคู่มือ นอกจากนี้ การเติมลมยางด้วยไนโตรเจนซึ่งมีให้บริการตามปั๊มน้ำมันหรือร้านยางบางแห่งในไทย ยังช่วยลดผลกระทบจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้นอีกด้วย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ MG ZS มีอะไรบ้าง?
MG ZS เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ขายดีในตลาดไทย แม้จะมีความสมดุลในหลายด้าน แต่ก็มีข้อด้อยบางจุดที่ควรรู้ไว้ เช่น ในสภาพอากาศร้อนของไทย บางผู้ใช้รายงานว่าประสิทธิภาพระบบแอร์อาจไม่แรงพอเมื่อใช้งานหนัก โดยเฉพาะเวลาติดอยู่ในรถนานๆ อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเย็นสบาย ส่วนเครื่องยนต์ 1.5L แบบดูดธรรมดา แม้จะประหยัดน้ำมันแต่เมื่อต้องลากเต็มคันหรือขับขึ้นเขาในพื้นที่ต่างจังหวัดอาจรู้สึกได้ว่ากำลังไม่ค่อยพอ เวลาแซงจึงต้องเผื่อระยะมากขึ้น สำหรับวัสดุภายในรถ แม้จะทนทานแต่ใช้พลาสติกแข็งค่อนข้างเย็น ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์คนที่ชอบความรู้สึกพรีเมียมเท่าไร ต้องบอกว่าคนไทยให้ความสำคัญกับความทนทานและบริการหลังการขายค่อนข้างมาก แนะนำว่าควรไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายจริงๆ โดยเฉพาะระบบแอร์และการออกตัวบนทางชัน เพื่อความชัวร์ และลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross ที่อาจมีจุดเด่นด้านการตั้งเครื่องยนต์หรือประสิทธิภาพแอร์ที่ต่างออกไป แล้วเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานในไทยได้ดีที่สุด
Q
MG ZS อยู่ในกลุ่ม Segment ไหน
MG ZS เป็นรุ่นที่อยู่ในระดับ C-Segment ซึ่งโดยทั่วไปก็จัดอยู่ในกลุ่มรถ SUV ขนาดเล็กได้เช่นกัน การแบ่งระดับของรถยนต์จะพิจารณาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นระยะฐานล้อ ขนาดตัวถัง ระบบแต่งเติม รวมถึงกำลังเครื่อง เป็นต้น สำหรับ MG ZS แล้วมีระยะฐานล้อ 2585 มม. ความยาว 4323 มม. ความกว้าง 1809 มม. และความสูงอยู่ระหว่าง 1628-1653 มม. จากขนาดตัวถังเหล่านี้ก็ถือว่าเข้าข่าย SUV ขนาดเล็กพอดี โดยทั่วไปแล้ว SUV ขนาดเล็กแบบนี้เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก เพราะจอดง่าย ขับเคลื่อนคล่องตัว ด้วยตำแหน่งระดับนี้ MG ZS จึงตอบโจทย์การเดินทางในเมืองได้ดี มีพื้นที่ภายในรถที่เพียงพอสำหรับครอบครัวทั่วไปหรือการใช้งานส่วนตัว ทำให้มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่สนใจรถประเภทนี้ในตลาด
Q
MG ZS ขายต่อได้ราคาเท่าไหร่? หรือ MG ZS ราคาตกไหม?
MG ZS ในตลาดรถมือสองของไทยถือว่ามีอัตราการขายต่อในระดับปานกลางถึงค่อนข้างดี โดยมูลค่าขายต่อจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุการใช้งาน ระยะทาง รุ่นย่อย และประวัติการดูแลรักษารถ โดยทั่วไปแล้ว รถที่มีอายุประมาณ 3 ปี จะมีมูลค่าคงเหลืออยู่ที่ประมาณ 50%-60% ของราคารถใหม่ ซึ่งถือว่าสูงกว่ารถญี่ปุ่นบางรุ่นในระดับเดียวกัน แต่ยังต่ำกว่ายี่ห้อที่มีชื่อเสียงเรื่องการขายต่ออย่าง Toyota
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาขายต่อของ MG ZS ได้แก่ การที่ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มยอมรับแบรนด์ MG มากขึ้น รวมถึงต้นทุนการผลิตที่ต่ำจากการประกอบภายในประเทศ ขณะที่รุ่น ZS EV แบบไฟฟ้าล้วนมีอัตราการลดราคาที่เร็วกว่ารุ่นเบนซิน เนื่องจากเทคโนโลยีแบตเตอรี่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว
นอกจากนี้ ตลาดรถมือสองในไทยยังให้ความสำคัญกับประวัติการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ (4S) และการใช้ชิ้นส่วนแท้จากโรงงาน ดังนั้นผู้ใช้ควรเก็บเอกสารการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วน รุ่นไฮบริดและไฟฟ้ามีโอกาสขายต่อได้ราคาดีกว่ารุ่นน้ำมันในบางกรณี จากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ แต่ควรตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่ เนื่องจากกลายเป็นปัจจัยใหม่ในการประเมินราคารถมือสองในไทย ปัจจุบันเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายของ MG ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในไทย ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการดูแลรักษารถและส่งผลดีต่อมูลค่าขายต่อโดยรวมอีกด้วย
Q
รถ MG ZS มีกี่ CC?
MG ZS ถือเป็นรถ SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย โดยในแต่ละรุ่นย่อยจะมีขนาดเครื่องยนต์แตกต่างกันเล็กน้อย รุ่นหลักที่วางจำหน่ายคือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ความจุจริงอยู่ที่ 1,498 ซีซี มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยสมรรถนะที่เพียงพอและประหยัดน้ำมันในระดับดี
ในบางรุ่นอาจมีการนำเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร เทอร์โบ (ความจุจริง 1,349 ซีซี) เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการกำลังเครื่องยนต์ที่แรงขึ้น ในขณะที่ยังคงประหยัดเชื้อเพลิง
MG ZS ได้รับการออกแบบให้ผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษของไทย ซึ่งมีความเข้มงวดมากขึ้นในช่วงหลัง อีกทั้งในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย แนะนำให้เจ้าของรถหมั่นตรวจสอบระบบระบายความร้อนและระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
นอกจากนี้ รถที่มีเครื่องยนต์ความจุ 1.5 ลิตร ยังอยู่ในช่วงอัตราภาษีที่ค่อนข้างประหยัดเมื่อเทียบกับรถที่มีความจุมากกว่านี้ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ MG ZS มีราคาคุ้มค่าและแข่งขันในตลาดได้ดี สำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและการใช้งานจริง การรู้ขนาดเครื่องยนต์จะช่วยในการประเมินสมรรถนะและต้นทุนการดูแลรักษาในระยะยาว ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ทดลองขับเพื่อสัมผัสประสบการณ์ขับขี่จริงด้วยตัวเอง
Q
MG ZS ใช้เครื่องยนต์อะไร?
MG ZS มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 1.5L แนตเชอรัลลีแอสพายเรชัน รูปแบบการจ่ายอากาศเป็นแบบแนตเชอรัลลีแอสพายเรชัน มีความจุกระบอกสูบ 1498mL ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า กำลังสูงสุด 84kW ที่ 6000rpm แรงบิดสูงสุด 150N·m ที่ 4500rpm เครื่องยนต์นี้ให้ความรู้สึกเร่งที่ลื่นไหลและนุ่มนวล เหมาะกับการใช้งานในเมืองเพราะให้กำลังพอดี ไม่ว่าจะเจอสภาพการจราจรติดขัดก็ขับได้อย่างสบายๆ ระบบเกียร์เป็นแบบ CVT ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เรียบขึ้น เพิ่มความสบายในการขับขี่ นอกจากนี้เครื่องยนต์ยังประหยัดน้ำมันดี อัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐานอยู่ที่ 6.4L/100km ช่วยให้เจ้าของประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
Q
MG ZS มีเกียร์อะไรบ้าง? หรือ MG ZS ใช้เกียร์แบบไหน?
MG ZS มาพร้อมกับเกียร์ CVT ที่ทำงานแบบไร้ขั้น ซึ่งเทคโนโลยีเกียร์แบบนี้ได้รับการพัฒนามาอย่างดีแล้ว มีความน่าเชื่อถือสูง ระบบเปลี่ยนเกียร์ทำงานลื่นไหลจนแทบไม่รู้สึก ทำให้การขับขี่นุ่มนวลตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี เวลาขับจริงๆก็รู้สึกว่าเกียร์ตอบสนองดี แม้จะเกิดอาการลื่นไปก็ยังควบคุมได้ง่าย ไม่มีอาการปัดท้ายน่ากลัวอย่างที่คิด
ถึงแม้แต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างในเรื่องอุปกรณ์เสริมบ้าง แต่ทุกรุ่นล้วนใช้เกียร์ตัวนี้เหมือนกัน ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพด้านกำลังและความลื่นไหลในการขับขี่ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้เกียร์ CVT ยังทำงานประสานกับเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว ระบบเปลี่ยนเกียร์เข้าใจง่าย มีแรงตอบสนองที่ดี ทำให้ผู้ขับรู้สึกสบายมือเวลาขับ และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นประจำ
Q
ล้อ MG ZS ใช้ PCD เท่าไหร่?
ขนาด PCD (Pitch Circle Diameter) ของล้อ MG ZS คือ 5x114.3 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่พบได้บ่อยในรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทย โดยเฉพาะรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda และ Toyota ทำให้ผู้ใช้ MG ZS สามารถเลือกเปลี่ยนหรืออัปเกรดล้อแม็กได้ง่ายขึ้น ด้วยล้อที่มีขนาดตรงกันในท้องตลาด
PCD เป็นค่าที่สำคัญสำหรับการติดตั้งล้อ หากเลือกขนาดไม่ตรง อาจส่งผลให้เกิดการสั่นหรือการสึกหรอของช่วงล่าง ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนและมีฝนตกบ่อยแบบประเทศไทย ที่ต้องใส่ใจเรื่องความทนทานของล้อและยางเป็นพิเศษ
แนะนำให้ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนล้อแม็ก เลือกล้อที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และตรวจสอบความแน่นของน็อตล้อเป็นประจำ หากไม่แน่ใจในสเปกล้อของรถ ควรอ้างอิงจากคู่มือรถหรือสอบถามจากศูนย์บริการ MG ที่ได้รับการแต่งตั้ง เพื่อความมั่นใจในการใช้งานและความปลอดภัยสูงสุดขณะขับขี่
Q
MG ZS รองรับ Apple CarPlay หรือไม่?
MG ZS ในตลาดไทยมีการติดตั้งระบบ Apple CarPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone เชื่อมต่อกับระบบในรถได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้งานฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ผ่านหน้าจอกลางรถได้โดยตรง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยทั้งการเดินทางในเมืองหรือทริปยาวๆ อีกทั้งในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทย ฟีเจอร์นี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ทำให้การเดินทางปลอดภัยขึ้น นอกจาก Apple CarPlay แล้ว MG ZS ยังรองรับ Android Auto ด้วย จึงตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการต่างกัน โดยทั่วไปรุ่นที่ขายในไทยจะมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่มีการออกแบบอินเทอร์เฟซเรียบง่าย ใช้งานลื่นไหล พร้อมฟังก์ชันควบคุมด้วยเสียงที่ช่วยอำนวยความสะดวกขณะขับขี่ อย่างไรก็ตามฟังก์ชันอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีหรือรุ่นย่อย แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อ ด้วยความที่เทคโนโลยีเชื่อมต่อในรถกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว Apple CarPlay กำลังกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของรถรุ่นใหม่ๆ และอาจมีอัปเดตเพิ่มเติมผ่านระบบ OTA ในอนาคต
Q
MG ZS ใช้ยี่ห้อยางอะไร
ยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานสำหรับ MG ZS ในตลาดไทยอาจแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและระดับการแต่งเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Continental, Bridgestone หรือ Goodyear ที่ให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและความทนทานได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย สำหรับการเปลี่ยนยางใหม่ นอกจากจะเลือกใช้แบรนด์เดิมแล้ว คนไทยยังนิยมใช้ยางคุณภาพดีอย่าง Michelin หรือ Dunlop ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในเรื่องส่วนผสมยางและร่องดอกยางที่ช่วยระบายน้ำได้ดี แนะนำให้ตรวจสอบลมยางและสภาพดอกยางเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝนของไทยที่ต้องมั่นใจว่าดอกยางยังเหลือความลึกเพียงพอ ตามกฎหมายไทยกำหนดว่าดอกยางต้องมีความลึกไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. หากต้องการเปลี่ยนยางสามารถไปที่ศูนย์บริการทางการของ MG หรือร้านยางมาตรฐาน พวกเขาจะช่วยแนะนำยางที่เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นยางที่เน้นความเงียบสบายหรือยางที่เน้นความทนทานเป็นพิเศษ
Q
รถ MG ZS เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
MG ZS เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยจุดเด่นที่การออกแบบภายนอกที่ทันสมัย ฟีเจอร์ครบครัน และราคาที่เข้าถึงง่าย เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและครอบครัวไทยเป็นอย่างดี ภายในรถมีพื้นที่กว้างขวาง รวมถึงกระโปรงหลังที่จุของได้เพียงพอต่อความต้องการประจำวัน ระบบขับเคลื่อนที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติร่วมกับเกียร์ CVT ให้ประหยัดน้ำมัน ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหารถประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกอย่างหน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว และกล้องถอยหลัง เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ แต่ข้อเสียคือแรงเครื่องค่อนข้างเรียบเนิบ เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไปมากกว่าการขับแบบสปอร์ต ส่วนระบบกันเสียงอาจไม่ได้ดีนักเมื่อขับความเร็วสูง แต่เมื่อเทียบกับราคาก็ถือว่ายอมรับได้ MG ZS ยังให้บริการรับประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยรวมแล้วหากคุณมีงบจำกัดแต่ต้องการความคุ้มค่า MG ZS ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้เลือกรุ่นสูงเพื่อระบบแอร์และอุปกรณ์บังแดดที่ทำงานได้ดีขึ้น
Q&A ล่าสุด
Q
คุณสามารถสตาร์ทรถจากระยะไกลได้ใน Mustang ปี 2020 หรือไม่?
Ford Mustang รุ่นปี 2020 บางรุ่นจะมีฟังก์ชัน Remote Start ที่ช่วยสตาร์ทรถจากระยะไกลได้ แต่ต้องดูว่าติดตั้ง FordPass Connect หรือระบบกุญแจอัจฉริยะมาหรือเปล่า โดยในสภาพอากาศร้อนๆ แบบประเทศไทย ฟีเจอร์นี้ถือว่ามีประโยชน์มาก เพราะสามารถเปิดแอร์ล่วงหน้าให้รถเย็นก่อนได้เลย วิธีการใช้งานก็ง่ายๆ แค่กดปุ่มบนรีโมต (เช่น ปุ่มล็อครถค้างไว้แล้วกดปุ่มสตาร์ท) หรือใช้แอป FordPass ก็ได้ แต่ต้องระวังหน่อยว่ารถนำเข้าที่ไทยอาจจะใช้ฟังก์ชันนี้ไม่ได้เพราะกฎหมายหรือสเปคต่างประเทศ แนะนำให้เปิดคู่มือรถรุ่นประเทศไทยหรือสอบถามกับโชว์รูมฟอร์ดในไทยเพื่อความชัวร์ ตอนนี้ฟีเจอร์แบบนี้เริ่มเป็นที่นิยมในตลาดไทยแล้ว เช่น ระบบ Remote Touch ของโตโยต้าหรือ Remote Control ของมิตซูบิชิก็ทำได้เหมือนกัน แต่การใช้งานและเงื่อนไขบริการอาจต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ บางรุ่นอาจต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มเพื่อเปิดใช้งานโมดูลเน็ตเวิร์ค ส่วนช่วงหน้าฝน ฟีเจอร์นี้ยังช่วยไล่ความชื้นบนกระจกก่อนออกรถได้ด้วย ทำให้ขับขี่ปลอดภัยขึ้น สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถมือสอง แนะนำให้เช็คระบบนี้ให้ดีๆ ด้วยเพราะสภาพอากาศร้อนชื้นอาจทำให้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เสื่อมเร็ว
Q
รถ Mustang GT ปี 2020 มีระบบควบคุมการปล่อยตัวหรือไม่?
แน่นอนว่า Ford Mustang GT รุ่นปี 2020 นั้นมาพร้อมกับระบบ Launch Control ที่ช่วยให้การเร่งแบบเส้นตรงนั้นทรงพลังยิ่งขึ้น ด้วยระบบนี้จะช่วยจัดการกำลังม้าสูงถึง 450 แรงม้าจากเครื่องยนต์ V8 5.0 ลิตร ให้ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยควบคุมการลื่นไถลของยางให้ออกตัวได้นุ่มนวลขึ้น แค่ปรับโหมดไปที่ "Track Mode" แล้วเหยียบเบรกค้างไว้ก่อน จากนั้นกดคันเร่งจนสุด ระบบจะตั้งรอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม พอปล่อยเท้าจากเบรกก็พุ่งไปได้เลย แต่ต้องระวังนิดนึงเพราะถนนไทยมักเปียกชื้นบ่อยๆ อาจทำให้ยางเกาะถนนน้อยลง แนะนำให้ลองใช้ในพื้นที่ปิดและผิวถนนแห้ง เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดของ Mustang GT เมื่อทำงานร่วมกับระบบ Launch Control จะช่วยให้เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาทีเท่านั้น แต่ถ้าใช้บ่อยเกินไปอาจทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ เสื่อมเร็วขึ้น แนะนำให้ใช้พอประมาณจะช่วยยืดอายุรถได้
Q
วิธีปลดล็อค Mustang 2020 ด้วยกุญแจ
สำหรับรถยนต์ Ford Mustang รุ่นปี 2020 ที่คุณกำลังจะปลดล็อคนั้น สามารถทำได้ทั้งการใช้ปุ่มกดบนกุญแจหรือผ่านระบบไร้กุญแจ แต่เนื่องจากสภาพอากาศในประเทศไทยที่ร้อนชื้น แนะนำให้ตรวจสอบระดับแบตเตอรี่กุญแจเป็นประจำเพื่อป้องกันการใช้งานไม่ได้ และควรระวังไม่ให้กุญแจเปียกชื้นเพราะอาจทำให้วงจรไฟฟ้าชำรุดได้ หากกุญแจแบตหมดก็ไม่ต้องกังวล แค่ดึงกุญแจสำรองออกมาแล้วใส่ในช่องกุญแจที่ด้ามประตูเพื่อปลดล็อคแบบมือถือได้ สำหรับรุ่นท็อปบางรุ่นในไทยยังมีฟังก์ชันปลดล็อคผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือได้ด้วย แต่ต้องเช็คสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้ดีก่อนใช้ ส่วนในชีวิตประจำวันควรเก็บกุญแจให้ห่างจากโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เพื่อป้องกันการรบกวนสัญญาณ ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นก็โทรหาศูนย์บริการ Ford อย่างเป็นทางการในไทยได้เลย พวกเขามีความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนชื้นต่อรถยนต์และให้คำแนะนำได้อย่างมืออาชีพ นอกจากนี้รถบางรุ่นในตลาดไทยอาจมีระบบป้องกันขโมยเพิ่มเติม แนะนำให้อ่านคู่มือการใช้งานที่มากับรถให้ละเอียดเพื่อทำความเข้าใจวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง
Q
วิธีทำเบิร์นเอาท์ในรถ Mustang ปี 2020
ถ้าจะทำเบิร์นเอาท์ด้วย Ford Mustang รุ่นปี 2020 ในไทย อันดับแรกต้องหาสถานที่ปลอดภัยและโล่ง เช่น สนามแข่งที่ถูกกฎหมายหรือถนนปิด ห้ามทำบนถนนสาธารณะเด็ดขาดเพราะจะผิดกฎหมายจราจรไทย สับ Mustang เข้าโหมดสปอร์ตหรือปิดระบบควบคุมแรงฉุด (กดปุ่มที่คอนโซลกลาง) เปลี่ยนไปใช้เกียร์ธรรมดาและเก็บบันไดไว้ที่เกียร์หนึ่ง ใช้เท้าซ้ายเหยียบเบรกค้างไว้ ค่อยๆ เหยียบคันเร่งด้วยเท้าขวาให้รอบเครื่องขึ้นไปประมาณ 3000-4000 รอบ จากนั้นปล่อยเบรกกะทันหันแล้วเหยียบคันเร่งเต็มที่ ล้อหลังจะหมุนฟรีเนื่องจากกำลังเครื่องเกินจนเกิดอาการเบิร์นเอาท์ ต้องระวังว่าอากาศร้อนของไทยอาจทำให้ยางสึกเร็วเป็นพิเศษ แนะนำให้ใช้ยางสมรรถนะสูงและควบคุมเวลาทำให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้ยางร้อนเกิน เบิร์นเอาท์แม้จะโชว์พลังรถได้แต่ก็ทำให้ยางและระบบส่งกำลังเสียหายเร็ว ถ้าทำบ่อยๆ อาจลดอายุการใช้งานรถได้ ส่วนในไทยที่วัฒนธรรมแต่งรถกำลังบูม ถ้าอยากให้เอฟเฟกต์เด็ดขึ้นก็อัพเกรดดิฟเฟอร์เรนเชียลล้อหลังหรือสูตรยางให้แรงขึ้นได้ แต่ต้องทำถูกกฎหมาย
Q
วิธีเปิดฝากระโปรงหน้ารถ Ford Mustang รุ่นปี 2020
ถ้าจะเปิดฝากระโปรงหน้ารถ Mustang รุ่นปี 2020 อันดับแรกให้คุณเข้าไปในห้องโดยสารด้านคนขับ แล้วมองหาปุ่มเปิดฝากระโปรงซึ่งเป็นห่วงรูปสี่เหลี่ยมอยู่ด้านล่างซ้ายใกล้ๆ เท้าคนขับ ปุ่มนี้ต้องดึงสองครั้งถึงจะปลดล็อก ไม่เหมือนรถบางคันที่ดึงแค่ครั้งเดียว หลังจากดึงสองครั้งแล้ว คุณจะรู้สึกว่าฝากระโปรงเริ่มยกตัวขึ้นเล็กน้อย ให้คุณเดินไปที่หน้าตัวรถ แล้วใช้มือลอดเข้าไปในช่องฝากระโปรงที่เปิดอยู่ ค่อยๆ คลำหาปุ่มปลอดภัยซึ่งซ่อนอยู่ตรงกลางขอบฝากระโปรงด้านหน้า ดึงปุ่มนี้เบาๆ ฝากระโปรงก็จะเปิดขึ้น ถ้ารุ่นของคุณไม่มีแกนไฮดรอลิกช่วยยก คุณต้องหาแกนค้ำฝากระโปรงมาเสียบเข้าช่องที่เตรียมไว้ เพื่อให้ฝากระโปรงตั้งขึ้นอย่างมั่นคง จะได้ตรวจสอบหรือซ่อมบำรุงเครื่องยนต์และส่วนอื่นๆ ได้สะดวก
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

MG ZS มีราคาตั้งแต่ 599,000 บาท เป็นตัวเลือกประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายสูงของผู้บริโภคไม่ซื้อรถไฟฟ้า
Kevin WongMay 15, 2024

MG4 ใหม่กำลังจะเปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ใช้แบตเตอรี่กึ่งแข็งชนิดใด
Kevin WongAug 18, 2025

SAIC เปิดสายการผลิต MG4 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ! วิ่งไกลทะลุ 700 กม. ต่อชาร์จ
ธนวัฒน์Jul 14, 2025

MG เปิดตัว MPV ไฟฟ้าหรูรุ่นใหม่ “MAXUS 9 PLUS” ราคาเริ่ม 1.799 ล้านบาท!
ณัฐวุฒิJul 10, 2025

MG 5 2026 เปิดตัวในจีน ราคาเริ่ม 3.7 แสนบาท มีให้เลือกทั้งเครื่อง 1.5L และ 1.5T
สุรเดชJul 4, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย