Q

Honda City ควรใช้ช็อคอะไรดี

สำหรับรถ Honda City ถ้าถามว่าควรใช้โช้คอะไรดี โช้คมาตรฐานที่มากับตัวรถก็ตอบโจทย์อยู่แล้ว เพราะออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพถนนและอากาศเมืองไทย ทั้งนุ่มสบายและทนทาน ขับในเมืองทั่วไปไม่มีปัญหา แต่ถ้าอยากได้สมรรถนะสูงขึ้น หรือต้องเจอถนนสภาพแย่บ่อยๆ ลองมองหาโช้คอัพเกรดอย่าง KYB หรือ Monroe ก็ได้ ยี่ห้อนี้หาซื้อง่ายในไทย มีหลายแบบให้เลือก และการปรับแต่งก็เข้ากับรถได้ดี พอพูดถึงสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก โช้คที่ดีควรมีวัสดุยางที่ทนทานเป็นพิเศษ ควรตรวจสอบโช้คเป็นประจำ ดูว่ามีน้ำมันรั่วหรือเสียงผิดปกติหรือเปล่า จะได้มั่นใจในความปลอดภัยและความสบายในการนั่ง ส่วนเวลาอัพเกรดโช้ค ต้องเลือกให้เหมาะกับระบบช่วงล่างของรถ ไม่งั้นอาจเสียสมดุลที่โรงงานตั้งมาให้ ถ้าไม่มั่นใจ แนะนำให้ปรึกษาช่างมืออาชีพหรือศูนย์บริการน่าจะดีที่สุด เขาจะช่วยแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับการใช้งานจริงในไทยให้คุณได้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Honda City มี CarPlay ไหม?
รุ่นล่าสุดของ Honda City ในตลาดไทยตอนนี้ มีฟีเจอร์ Apple CarPlay มาให้ใช้กันแล้ว ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันบน iPhone อย่างเช่น แผนที่การนำทาง เพลง หรือแอปติดต่อสื่อสารต่างๆ ผ่านหน้าจอในรถได้สะดวกขึ้น ช่วยอัพเกรดประสบการณ์การขับขี่โดยเฉพาะในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด ฟังก์ชันนำทางแบบเรียลไทม์ของ CarPlay ถือว่ามีประโยชน์มากๆ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังนิดนึงว่า CarPlay อาจจะไม่ได้มีในทุกรุ่นหรือทุกปีผลิตนะครับ แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับทางโชว์รูมอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ นอกจาก CarPlay แล้ว Honda City ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android ด้วยนะ ถือว่าให้ประสบการณ์การเชื่อมต่อที่คล้ายกัน ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อในรถกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญเวลาซื้อรถ ยี่ห้อต่างๆ จึงพยายามอัพเกรดฟีเจอร์ส่วนนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านความสะดวกและความอัจฉริยะของผู้บริโภค Honda City ในฐานะรถซีดานคอมแพคต์ยอดนิยมของตลาดไทย การที่ Honda คอยอัปเดตฟีเจอร์เทคโนโลยีแบบนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าฮอนด้าให้ความสำคัญกับความต้องการของคนไทยจริงๆ ครับ
Q
วิธีสตาร์ทรถ Honda City ด้วยกุญแจ
ก่อนจะสตาร์ทรถ Honda City ต้องแน่ใจว่าเกียร์อยู่ตำแหน่ง P แล้ว จากนั้นใส่กุญแจเข้าไปในช่องสตาร์ท เหยียบแป้นเบรกสำหรับเกียร์ออโต้ หรือแป้นคลัทช์สำหรับเกียร์ธรรมดา แล้วบิดกุญแจตามเข็มนาฬิกาไปที่ตำแหน่ง "START" พอเครื่องยนต์ติดก็ปล่อยกุญแจได้เลย ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้วอร์มเครื่องสัก 30 วินาทีให้น้ำมันเครื่องไหลเวียนก่อนออกรถ จะช่วยถนอมเครื่องดีครับ ถ้าเป็นรุ่นที่ใช้สมาร์ทคีย์ แค่ถือกุญแจเข้าไปในรถ แล้วเหยียบเบรกกดปุ่มสตาร์ทเครื่องก็ได้แล้ว ใส่ใจกับการตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ที่สำคัญอย่างสม่ำเสมอในการใช้งานประจำวันเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในการเริ่มต้นเนื่องจากไฟฟ้าต่ำ ในฤดูฝนของประเทศไทย หากพบระบบจุดระเบิดที่ชื้นและไม่สามารถสตาร์ทได้ คุณสามารถลองใช้ฟังก์ชั่นกุญแจรีโมทเพื่อปลดล็อก/ล็อกประตูหลายครั้งก่อนเพื่อให้ระบบจดจําสัญญาณใหม่ นอกจากนี้ยังแนะนำให้ตรวจสอบหน้าสัมผัสสวิตช์จุดระเบิดทุก 2 ปีสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงเช่นกรุงเทพมหานครมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการเกิดออกซิเดชันของหน้าสัมผัสส่งผลกระทบต่อความไวในการเริ่มต้น
Q
ยางรถยนต์สำหรับ Honda City รุ่นปี 2021 มีขนาดเท่าไหร่?
ยางมาตรฐานของ Honda City รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยมีขนาด 185/55 R16 ซึ่งเป็นขนาดที่ตอบโจทย์ทั้งความนุ่มสบายและความคล่องตัว เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชานเมืองของไทย โดยตัวเลข 185 หมายถึงความกว้างของยางมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ส่วน 55 คืออัตราส่วนความสูงของแก้มยางต่อความกว้างยาง (ร้อยละ 55) และ R16 หมายถึงล้อแม็กซ์ขนาด 16 นิ้ว สำหรับสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้เลือกยางแบรนด์ดังอย่างบริจสโตนหรือมิชลินที่มีคุณสมบัติการรีดน้ำดีและทนความร้อนสูง ซึ่งทั้งสองแบรนด์มีรุ่นที่เหมาะกับซิตี้โดยเฉพาะ ข้อควรระวังคือแม้การอัพเกรดไปใช้ยางที่กว้างขึ้นจะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะแต่ก็อาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นและอาจส่งผลต่อความแม่นยำของมาตรวัดระยะทาง ดังนั้นควรปรึกษาช่างผู้ชำนาญก่อนตัดสินใจเปลี่ยน นอกจากนี้กฎหมายไทยกำหนดให้ดอกยางต้องมีความลึกไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. และควรตรวจสอบสภาพดอกยางกับความดันลมยางเป็นประจำ (ปกติลมยางหน้าอยู่ที่ 32 psi ลมยางหลัง 30 psi) โดยเฉพาะก่อนเดินทางไกลหรือช่วงเข้าหน้าฝนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
Q
Honda City 2021 ประหยัดน้ำมันหรือไม่?
รถ Honda City รุ่นปี 2021 ถือว่าประหยัดน้ำมันมากๆ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทยและการขับขี่ระยะไกล รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร i-VTEC แบบ CVT นั้นวิ่งได้เฉลี่ย 17-18 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนรุ่นไฮบริด e:HEV นั้นยิ่งประหยัดขึ้นไปอีก ทำได้ถึง 27-28 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วยลดค่าน้ำมันได้อย่างชัดเจน รถรุ่นนี้ขายดีในไทยไม่ใช่แค่เพราะความประหยัด แต่ยังเพราะขนาดตัวรถที่กำลังดี ขับลุยในซอยแคบๆ ในกรุงเทพหรือจอดก็ง่าย แถมความทนทานของ Honda ก็ผ่านการทดสอบในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยมานานแล้ว ที่สำคัญอย่าลืมว่าตัวเลขประหยัดน้ำมันที่ทางบริษัทประกาศอาจแตกต่างจากการใช้งานจริง ซึ่งขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ การเปิดแอร์ และสภาพถนนด้วย แนะนำให้คนไทยหมั่นดูแลรถตามกำหนดและขับขี่อย่างนุ่มนวลเพื่อรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน ส่วนเรื่องบริการหลังการขายก็ไม่ต้องห่วง เพราะ Honda มีเครือข่ายบริการครอบคลุมทั่วไทย พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างมืออาชีพ
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Honda City 2021 คือเท่าไหร่?
รถ Honda City รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยทำคะแนนด้านความปลอดภัยได้ดีมาก โดยเวอร์ชันผลิตไทยผ่านการทดสอบชนจากอาเซียน NCAP และได้คะแนนเต็ม 5 ดาว ส่วนหนึ่งมาจากระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาระยะเลนรถ รวมถึงถุงลมนิรภัย 6 ใบ ระบบควบคุมเสถียรภาพรถ ที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชนบทของไทยที่ค่อนข้างซับซ้อน ต้องบอกว่ามาตรฐานการทดสอบของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ NCAP นั้นใกล้เคียงกับสภาพการจราจรจริงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการเพิ่มการประเมินกรณีชนกับรถจักรยานยนต์ซึ่งสำคัญมากสำหรับไทยที่มีรถมอเตอร์ไซค์หนาแน่น เวลาเลือกซื้อรถนอกจากดูเรตติ้งดาวแล้ว ควรพิจารณาว่าฟีเจอร์ปลอดภัยไหนตรงกับความต้องการใช้งาน เช่น ถ้าขับทางไกลบ่อยก็เน้นระบบช่วยเหลือผู้ขับ ขณะที่ขับในเมืองอาจดูผลทดสอบการชนความเร็วต่ำ ส่วนสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกก็ส่งผลต่อความปลอดภัย ควรตรวจสอบยางและระบบเบรกเป็นประจำเพื่อให้ระบบความปลอดภัยทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
Q
เครื่องยนต์ของ Honda City 2021 คืออะไร?
รถยนต์ Honda City รุ่นปี 2021 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC Turbo 3 สูบเทอร์โบชาร์จ และเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC 4 สูบแบบอัตโนมัติ รุ่น 1.0T ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า คู่กับเกียร์ CVT ที่เน้นประหยัดน้ำมันสุดๆ ส่วนรุ่น 1.5L ยังคงใช้เทคโนโลยี i-VTEC แบบคลาสสิกของ Honda เหมาะกับคนที่ชอบความลื่นไหลและดูแลง่าย ในสภาพอากาศร้อนๆ และถนนซับซ้อนของไทย เครื่องยนต์ทั้งสองแบบถูกปรับแต่งมาเฉพาะให้การระบายความร้อนและการทนอุณหภูมิสูงทำได้ดีเยี่ยม พร้อมผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ที่เป็นไปตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมไทย ที่น่าสนใจคือเครื่องยนต์ของ Honda City ใช้เทคโนโลยีลดแรงเสียดทาน ช่วยลดการกินน้ำมันได้ชัดเจน โดยเฉพาะเวลาติดรถติดบนถนนไทยที่เจอกันบ่อยๆ แถมยังมีโหมด ECON ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกขึ้นไป ทำให้รถรุ่นนี้ยังคงความโดดเด่นในตลาดรถเก๋งคอมแพคต์ของไทย เหมาะทั้งขับขี่ในเมืองและใช้เป็นรถครอบครัว
Q
ฮอนด้าซิตี้ 2024 มีความจุซีซีเท่าไหร่
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ คือเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรและเครื่องยนต์แบบธรรมดา 1.5 ลิตร โดยเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรมีความจุกระบอกสูบ 998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบธรรมดามีความจุ 1,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า เครื่องยนต์ทั้งสองแบบถูกออกแบบมาให้สมดุลระหว่างประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกลในไทย ฮอนด้าซิตี้เป็นที่นิยมในตลาดไทยเสมอมาด้วยความน่าเชื่อถือ ค่าซ่อมบำรุงไม่แพง และประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่นปี 2024 ยังเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING เข้ามา ทำให้ยิ่งโดดเด่นขึ้น สำหรับลูกค้าชาวไทยที่กำลังตัดสินใจเลือกเครื่องยนต์ แนะนำว่าเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรเหมาะกับคนที่เน้นประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เครื่อง 1.5 ลิตรแบบธรรมดาจะให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลมากกว่า ทั้งสองแบบตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีอยู่แล้ว แค่เลือกให้เหมาะกับสไตล์การขับและงบประมาณของคุณก็พอ
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Honda City 2024 คืออะไร
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยแสดงผลงานด้านความปลอดภัยได้ดีเยี่ยม ด้วยระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างครบครัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษาเลน และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยแบบพาสซีฟที่ครบถ้วน เช่น ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบเบรก ABS ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นในกลุ่มรถระดับเดียวกัน จากการทดสอบตามมาตรฐาน NCAP ของไทย คาดว่ารถรุ่นนี้จะได้คะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาว เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชนบทของไทยที่หลากหลาย สำหรับผู้บริโภคชาวไทย นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าประกันรถด้วย เพราะเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยมีความพร้อมสูง มีอะไหล่ครบครัน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานระยะยาวค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยมักคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อรถเช่นกัน
Q
วิธีเปิดส่วนหน้าของรถ Honda Civic 2024
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารุ่นฮอนด้าซิวิค 2024 สิ่งแรกที่ต้องทำคือนั่งในที่นั่งคนขับ แล้วมองหาคันปลดล็อกฝากระโปรงหน้า ซึ่งจะมีสัญลักษณ์รูปเครื่องยนต์อยู่ด้านล่างซ้ายของพวงมาลัย ดึงคันนี้เบาๆจนได้ยินเสียงฝากระโปรงหน้ายกขึ้น จากนั้นเดินไปที่หน้าตัวรถ ใช้มือสอดเข้าไปในช่องกลางฝากระโปรง แล้วหาล็อกนิรภัยตัวที่สองให้เจอ ให้ดันล็อกนี้ไปทางซ้ายหรือขวาพร้อมกับยกฝากระโปรงขึ้น สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเบรกในห้องเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้รถทำงานได้ปกติ และควรทำความสะอาดห้องเครื่องด้วย ระวังอย่าให้ใบไม้หรือเศษอุดตันท่อระบายน้ำ ถ้าต้องขับในพื้นที่ติดขัดอย่างกรุงเทพฯ บ่อยๆ ควรเช็กด้วยว่าฟิลเตอร์อากาศอุดตันฝุ่นหรือไม่ เพราะจะช่วยรักษาสมรรถนะเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันได้ ส่วนเวลาปลดล็อกฝากระโปรงถ้าได้ยินเสียงเฮียกที่บานพับ ให้ทาจาระบีเล็กน้อย และเนื่องจากอากาศไทยร้อนจัดทำให้ยางซีลเสื่อมสภาพเร็ว ควรตรวจสอบความแน่นของซีลทุกๆครึ่งปี
Q
ความจุของกระโปรงท้ายรถฮอนด้าซิตี้ 2024 คือเท่าไร
รถฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทยมีปริมาตรกระโปรงหลังขนาด 536 ลิตร ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวหรือการท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางหลายใบหรือของช้อปปิ้งได้อย่างสบายๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือช้อปปิ้งบ่อยๆ การออกแบบกระโปรงหลังทำได้อย่างสมเหตุสมผล มีช่องเปิดที่กว้าง ทำให้สะดวกในการลำเลียงสิ่งของ นอกจากนี้เบาะหลังยังสามารถพับลงได้ตามสัดส่วน ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก กระโปรงหลังของซิตี้ยังมีการป้องกันการรั่วซึมที่ดี ช่วยปกป้องสิ่งของจากความชื้นหรือความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ปริมาตรกระโปรงหลังขนาดนี้จัดอยู่ในระดับกลางถึงดี และเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างโตโยต้า ยาริส แอททีฟแล้วยังได้เปรียบอยู่บ้าง สำหรับผู้ใช้งานไทยที่มักต้องพกพาสิ่งของจำนวนมาก พื้นที่กระโปรงหลังของซิตี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่值得พิจารณา แนะนำให้ไปทดลองบรรจุของที่ตัวแทนจำหน่ายด้วยตัวเองเพื่อความสะดวก และควรเปรียบเทียบกับการออกแบบกระโปรงหลังของรถรุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกัน เพื่อเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด

ข้อดี

พื้นที่ภายในรถกว้างขวางและสบาย
ระบบดีเซลที่มีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยเทคโนโลยี รุ่น RS ยอดนิยมมีชุดสไตล์กีฬารอบคัน RS ซึ่งประกอบด้วยกริดหน้าของรถสีดำและกระจกข้าง กันชนหน้าสไตล์กีฬา ไฟหน้า LED ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมกับไฟวิ่งกลางวันและไฟหมอก LED
ภายในรถเรือนสวยงามและมีอุปกรณ์ครบครัน มีบรรยากาศกีฬาในรถ มีหน้าจอวิทยุชั้นสูงที่สามารถสัมผัสได้ 8 นิ้ว สนับสนุน Apple CarPlay และมีระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
เครื่องยนต์ที่แข็งแรง DOHC VTEC TURBO ขนาด 1.0 ลิตรแบบ 3 ลูกสูบ 12 วาล์ว ที่ 5500 รอบ/นาทีมีกำลังสูงสุดถึง 122 ม้า ซึ่งเป็นค่าที่สุดในหมวดเดียวกัน

ข้อเสีย

ความสบายและความสะดวกสบายมีข้อจำกัด
ประสิทธิภาพที่ความเร็วต่ำน้อย
ราคาสูงถึง 739000 บาท ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน และคู่แข่งมีระบบที่ไม่เยี่ยมเท่า City
ระบบความปลอดภัยไม่พอ ในด้านความปลอดภัย City แย่กว่าคู่แข่ง รุ่นใหม่ของ City ไม่มีชุด Honda Sensing เท่าที่มีเพียงระบบความปลอดภัยพื้นฐาน

Q&A ล่าสุด

Q
2023 BMW X1 ผลิตที่ไหน?
รุ่น BMW X1 ปี 2023 นี้ส่วนใหญ่ผลิตที่โรงงานในเมืองเรเกนส์บูร์ก ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นโรงงานที่มีชื่อเรื่องระบบการผลิตอัตโนมัติระดับสูงและการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ขณะที่บางรุ่นในตลาดอาจมาจากโรงงานร่วมทุน Brilliance BMW ในเมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน ประเทศจีน รุ่นนี้ใช้แพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้า FAAR ที่ช่วยให้ระยะฐานล้อยาวขึ้นและพื้นที่ภายในกว้างขวางกว่าเดิม พิเศษเหมาะกับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานในครอบครัว ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริด xDrive25e ยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้นอีกด้วย สำหรับตลาดไทย ระบบช่วยขับและจอแสดงผล 10.25 นิ้วที่มาพร้อม CarPlay ถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงการตั้งค่าสปริงที่ออกแบบมาเพื่อความนุ่มสบายเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจคือ SUV ระดับคอมแพคต์จากแบรนด์หรูมักกระจายการผลิตตามศักยภาพของโรงงานทั่วโลก แต่ทุกแห่งยึดมาตรฐานการผลิตเดียวกัน ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องความแตกต่างของคุณภาพ หากกำลังคิดจะซื้อ แนะนำให้ลองนั่งทดสอบพื้นที่ขาเบาะหลังและระบบจอดรถอัตโนมัติ ซึ่งเป็นจุดอัพเกรดที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
Q
ระยะเวลาการใช้งานของ BMW X1 รุ่นปี 2023 อยู่ที่เท่าไหร่?
รุ่น BMW X1 ปี 2023 ภายใต้การบำรุงรักษาและการใช้งานปกติ คาดว่าจะสามารถวิ่งได้มากกว่า 200,000-300,000 กิโลเมตร อายุการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับความถี่ในการดูแลรักษา นิสัยการขับขี่ และปัจจัยสภาพแวดล้อมในพื้นที่ เช่น การจราจรติดขัดในเมืองหรือสภาพอากาศร้อนชื้นที่อาจส่งผลให้ชิ้นส่วนรถสึกหรอเร็วขึ้น แนะนำให้ปฏิบัติตามรอบการบำรุงรักษาของทางบริษัทอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและการดูแลระบบระบายความร้อนสำหรับเครื่องยนต์เทอร์โบ เครื่องยนต์ตระกูล B ของรุ่นนี้มีชื่อเรื่องความทนทาน แต่ควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ระบบ mild hybrid 48V เป็นประจำ ส่วนแพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้า FAAR ของ X1 ให้ความมั่นใจบนถนนลื่นๆ เหมาะกับการใช้งานในเขตฝนชุก หากใช้งานระยะยาว ควรระวังเรื่องความชื้นกับยางรองช่วงล่างและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ศูนย์บริการในกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียงมักมีอะไหล่แท้พร้อมให้บริการ ในกลุ่มรถ SUV ระดับหรูที่ได้รับการดูแลดีๆ ส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้เกิน 15 ปี สิ่งสำคัญคือต้องใช้อะไหล่แท้และแก้ไขปัญหาย่อยๆ ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามเป็นปัญหาใหญ่
Q
2023 BMW X1 มีมูลค่าเท่าไหร่?
ราคาตลาดรถมือสองของ BMW X1 รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยมักจะอยู่ที่ 1.5 - 2.2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น รุ่นย่อย ระยะทางที่ใช้งาน สภาพรถ และการรับประกันที่ยังเหลืออยู่ รุ่นท็อปอย่าง xDrive25Li M Sport Package ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0T และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจะทรงตัวด้านราคาได้ดีกว่า รุ่นนี้เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้ามีระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 22 มิลลิเมตร ทำให้มีพื้นที่เบาะหลังกว้างขวางขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานในครอบครัว แถมยังมาพร้อมกับหน้าจอควบคุมกลางขนาด 10.25 นิ้ว และระบบ iDrive เจเนอเรชั่นที่ 7 เป็นมาตรฐาน ที่รองรับ CarPlay แบบไรสายให้ความรู้สึกด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นอย่างชัดเจน สิ่งที่ควรทราบก็คือ รถยนต์หรูในตลาดมือสองมักจะมีอัตราค่าเสื่อมราคาสูงในช่วง 3 ปีแรก แต่ด้วยความนิยมในแบรนด์ BMW และเครือข่ายบริการหลังการขายที่แข็งแรง ทำให้ราคารถมือสองยังทรงตัวได้ค่อนข้างดี แนะนำให้เลือกซื้อรถมือสองที่ผ่านการรับรองจากศูนย์ (BMW Approved Used Car) เพราะจะมีการตรวจสภาพรถ 160 จุด พร้อมรับประกันที่ขยายออกไป มีประวัติการซ่อมบำรุงจากศูนย์อย่างครบถ้วน และบริการช่วยเหลือบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง Mercedes-Benz GLA และ Audi Q3 แล้ว BMW X1 ยังคงได้เปรียบในเรื่องปริมาตรพื้นที่กระโปรงหลังที่ใหญ่กว่า และอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่า (ประมาณ 6.5 ลิตร/100 กม. ในสภาพการขับขี่แบบผสม) ทำให้เหมาะสำหรับการเดินทางไกล หากกำลังมองหารถใหม่ ลองสอบถามโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายดู อาจมีบริการผ่อนเงินด่วนดอกเบี้ยต่ำหรือแพ็กเกจบริการบำรุงรักษาฟรีให้เลือก
Q
BMW X1 มีการเรียกคืนในปี 2023 หรือไม่?
สำหรับรถ BMW X1 นั้น จริงๆ แล้วมีประกาศเรียกคืนในบางตลาดจนถึงปี 2023 อย่างในอเมริกาเหนือเคยเรียกคืนบางรุ่นเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับโมดูลปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง แต่สำหรับประเทศไทยจะเกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องตรวจสอบกับประกาศอย่างเป็นทางการจาก BMW กลุ่มประเทศไทยหรือกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น แนะนำให้เจ้าของรถเช็คข้อมูลการเรียกคืนที่เจาะจงด้วยการป้อนรหัสตัวรถ (VIN) ผ่านทางตัวแทนจำหน่าย BMW หรือเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก การเรียกคืนรถเป็นขั้นตอนปกติที่ผู้ผลิตรถยนต์ดำเนินการเพื่อความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค มักจะเกี่ยวข้องกับการอัปเดตซอฟต์แวร์หรือเปลี่ยนชิ้นส่วน ซึ่งกระบวนการนี้ทำได้รวดเร็วและไม่มีค่าใช้จ่าย ในประเทศไทยแบรนด์รถหรูมักให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย ถ้าหากรุ่น X1 ของคุณอยู่ในข่ายเรียกคืน ตัวแทนจำหน่ายมักจะติดต่อมาเพื่อนัดหมายซ่อมบำรุงให้เองอยู่แล้ว เวลาไปบริการตามปกติก็สามารถสอบถามช่างเกี่ยวกับ Technical Service Bulletin ได้ เพราะถึงแม้จะไม่ใช่การเรียกคืนบังคับ แต่ก็ช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ส่วนเจ้าของรุ่น Hybrid ควรให้ความสนใจกับการตรวจสอบระบบแบตเตอรี่แรงดันสูงเป็นประจำ เพราะสภาพอากาศร้อนแบบไทยอาจเร่งให้สายไฟเสื่อมสภาพเร็ว การบำรุงรักษาที่ทันท่วงทีจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้
Q
ปัญหาทั่วไปของ BMW X1 รุ่นปี 2023 มีอะไรบ้าง?
รถยนต์ BMW X1 รุ่นปี 2023 ในฐานะ SUV ระดับคอมแพคหรูนั้นโดยรวมแล้วถือว่าดีสมราคา แต่ก็มีจุดที่ควรระวังบ้าง เช่น บางคันอาจเจอปัญหาระบบหน้าจอบางครั้งค้างหรือดับไปเฉยๆ ซึ่งปกติแล้วอู่ศูนย์บริการสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์แก้ไขได้ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบบ้านเราควรตรวจเช็คระบบเป็นประจำเพื่อป้องกันความร้อนกระทบการทำงาน ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จอาจมีปัญหาคาร์บอนสะสมบ้างถ้าขับในเมืองแบบความเร็วตํ่าติดๆ หยุดๆ นานๆ แนะนำให้ใช้น้ำยาบำรุงเชื้อเพลิงของทางศูนย์ทุก 15,000 กิโลเมตร ระบบช่วงล่างที่ตั้งมาแนวสปอร์ตอาจรู้สึกแข็งไปหน่อยเวลาขับบนถนนสภาพไม่ดีแถวๆ นี้ ลองลดลมยางลงใกล้เคียงค่าต่ำสุดที่ผู้ผลิตแนะนำจะช่วยนุ่มขึ้นได้ สำหรับพื้นที่ด้านหลังแม้ว่าจะยืดระยะฐานล้อออกมาแต่พนักพิงหลังตั้งชันไปนิด อาจต้องใช้หมอนรองหลังเวลานั่งระยะทางไกล้ ส่วนเกียร์อิเล็กทรอนิกส์อาจต้องใช้เวลาชินมือหน่อย โดยเฉพาะมือใหม่ควรระวังเผลอไปโดนปุ่มอื่น แม้จะมีระบบความปลอดภัยครบครัน แต่ฟังก์ชันจอดอัตโนมัติอาจยังไม่แม่นร้อยเปอร์เซ็นต์ในที่จอดแคบๆ แนะนำให้ฝึกจอดมือเปล่าก่อนจะดีกว่า ช่วงระยะรับประกันควรเข้าศูนย์ตามนัดทุกครั้ง โดยเฉพาะระบบแอร์ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทย อาจต้องล้างคอยล์เย็นบ่อยขึ้นกว่าปกติสักหน่อย
ดูเพิ่มเติม