Q
ความจุถังน้ำมันของ Fortuner 2020 คือเท่าไร
รถโฟร์จูนเนอร์รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับถังน้ำมันความจุ 80 ลิตร ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การเดินทางไกลและสภาพถนนหลากหลายรูปแบบของประเทศไทย โดยให้ระยะวิ่งที่ยาวนานเป็นพิเศษ เหมาะสมกับการเดินทางข้ามจังหวัดหรือการท่องเที่ยวแบบผจญภัยในธรรมชาติที่คนไทยนิยมทำกัน เป็นที่ทราบกันดีว่าโฟร์จูนเนอร์เป็นหนึ่งในรถ SUV ระดับกลางขายดีที่สุดของไทย และยังประหยัดน้ำมันอย่างน่าประทับใจ โดยรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร สามารถวิ่งได้ประมาณ 13-15 กิโลเมตรต่อลิตรในสภาพการขับขี่แบบผสมผสาน ทำให้เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังสามารถวิ่งได้เกิน 1,000 กิโลเมตรอย่างสบายๆ สำหรับคนไทยที่มักต้องเดินทางไกลบ่อยๆ นอกจากเรื่องความจุถังน้ำมันแล้ว ควรให้ความสำคัญกับพฤติกรรมการขับขี่ที่ส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลือง เช่น การรักษาความเร็วคงที่ หลีกเลี่ยงการเร่งหรือเบรกกระทันหัน ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้อีก นอกจากนี้คุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงในแต่ละพื้นที่ของไทยอาจแตกต่างกันบ้าง แนะนำให้เลือกเติมน้ำมันดีเซลคุณภาพสูงจากปั๊มใหญ่ๆ เช่น ปตท. หรือเชลล์ เพื่อรักษาสมรรถนะของเครื่องยนต์และความทนทานของรถในระยะยาว
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ปี 2020 มีซันรูฟหรือไม่?
Toyota Fortuner 2020 ในตลาดไทยมีออปชั่นต่างกันตามรุ่น รุ่นสูงเช่น 28 ลิตร VRZ และ Legender ติดตั้งหลังคาซันรูฟไฟฟ้า ส่วนรุ่นเริ่มต้นเช่น 24 ลิตร และ 28 ลิตรมาตรฐานไม่มีฟังก์ชันนี้ ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบรายการอุปกรณ์กับดีลเลอร์ได้ หลังคาซันรูฟช่วยเพิ่มแสงสว่างและการระบายอากาศภายในรถในสภาพอากาศร้อนของไทย แต่ควรระวังการโดนแดดจัดอาจเพิ่มภาระแอร์ แนะนำใช้ร่วมกับผ้าม่านกันแดด Fortuner เป็น SUV 7 ที่นั่งขายดีในไทย ออกแบบให้เหมาะกับความต้องการท้องถิ่น เช่น ช่วงล่างสูงรองรับถนนหลายประเภท เครื่องดีเซลให้ทั้งกำลังและความประหยัดน้ำมัน ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับครอบครัวและการเดินทางระยะไกล
Q
รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ปี 2020 มีระบบควบคุมความเร็ว巡航หรือไม่
Toyota Fortuner 2020 ในตลาดไทยมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control รุ่นสูงเช่น 28 ลิตรเทอร์โบดีเซล Legender และรุ่น 4WD จะติดตั้งเป็นมาตรฐาน ช่วยให้ผู้ขับรักษาความเร็วคงที่บนทางหลวงหรือเดินทางไกล ลดความเมื่อยล้าขณะขับ การใช้งานเหมาะกับภูมิประเทศภูเขาและถนนระหว่างเมืองที่พลุกพล่าน เช่น การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ รุ่นเริ่มต้นเช่น 24 ลิตรดีเซลอาจไม่มีฟังก์ชันนี้ แนะนำตรวจสอบตารางอุปกรณ์ในเว็บไซต์ Toyota Thailand หรือติดต่อดีลเลอร์ ระบบ Cruise Control ของ Toyota ใช้งานง่าย ตั้งค่าความเร็วได้จากปุ่มด้านขวาพวงมาลัยและปรับความเร็วอัตโนมัติเมื่อขึ้นลงทางลาด หากรถมีฟังก์ชันแต่ไม่ทราบวิธีใช้ สามารถดูคู่มือหรือสอบถามศูนย์บริการ Toyota ในไทยซึ่งมีบริการเป็นภาษาไทยเพื่อแนะนำการใช้งาน
Q
2020 โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เปรียบเทียบกับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ อย่างไร
รถโฟร์จูนเนอร์ปี 2020 ของโตโยต้าและฟอร์ดเอเวอเรสต์เป็น SUV ขนาดกลางที่ขายดีในตลาดไทย แต่ละคันมีจุดเด่นต่างกัน โฟร์จูนเนอร์ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและการบำรุงรักษาที่ไม่แพง เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายในไทย โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตรที่สมดุลทั้งพลังและประหยัดน้ำมัน แถมเครือข่ายบริการหลังการขายของโตโยต้าในไทยก็ครอบคลุม ทำให้ซ่อมบำรุงสะดวก ส่วนเอเวอเรสต์จะเน้นความสบายและเทคโนโลยีมากกว่า ด้วยเครื่องดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตรที่แรงกว่า ภายในห้องโดยสารออกแบบโมเดิร์น พร้อมระบบความบันเทิง SYNC 3 เหมาะกับคนชอบเทคโนโลยี ทั้งสองรุ่นมีพื้นที่กว้างขวาง แต่เก้าอี้แถวสามของโฟร์จูนเนอร์เหมาะกับการนั่งระยะสั้นกว่า ในขณะที่ระบบช่วงล่างของเอเวอเรสต์ปรับให้เน้นความสบาย เหมาะสำหรับเดินทางไกล ในไทย โฟร์จูนเนอร์มักจะรักษามูลค่าได้ดีกว่าเพราะความนิยมของโตโยต้า ส่วนเอเวอเรสต์จะดึงจุดแข็งในเรื่องอุปกรณ์และประสบการณ์การขับ ถ้าคุณเน้นความมั่นใจและราคาขายต่อ โฟร์จูนเนอร์คือตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าชอบเทคโนโลยีและการขับขี่สนุก เอเวอเรสต์ก็น่าสนใจ นอกจากนี้สภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้นยังต้องการระบบแอร์และป้องกันสนิมที่ดี ซึ่งทั้งสองรุ่นทำได้ดี แต่ควรบำรุงรักษาเป็นประจำเพื่อยืดอายุการใช้งาน
Q
การรับประกันของ Toyota Fortuner ปี 2020 คืออะไร?
นโยบายการรับประกันของ Toyota Fortuner 2020 ในตลาดไทยโดยทั่วไปให้การรับประกันพื้นฐาน 3 ปี หรือ 100000 กม แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน สำหรับระบบขับเคลื่อนอาจมีการรับประกันนานกว่า รายละเอียดขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นหรือแผนพิเศษของดีลเลอร์ แนะนำให้ตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่าย Toyota ในพื้นที่ก่อนซื้อ เครือข่ายบริการหลังการขายของ Toyota ครอบคลุมในไทย รวมถึงเมืองใหญ่เช่น กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ มีศูนย์บริการมืออาชีพพร้อมอะไหล่แท้และทีมช่างเฉพาะทาง ควรสังเกตว่าสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยทำให้การบำรุงรักษารถมีความสำคัญสูง แนะนำให้ผู้ใช้ปฏิบัติตามคู่มือบำรุงรักษาอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะระบบระบายความร้อน ระบบปรับอากาศ และการเคลือบกันสนิมใต้ท้องรถ แม้จะไม่รวมในการรับประกัน แต่ส่งผลโดยตรงต่อความทนทานระยะยาว หากซื้อรถมือสองรับรองคุณภาพ บางดีลเลอร์อาจมีบริการขยายการรับประกันแบบเสียค่าใช้จ่าย เพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน ผู้ใช้ควรติดตามกิจกรรมตรวจเช็คฟรีตามฤดูกาลที่ประกาศในเว็บไซต์ Toyota Thailand ซึ่งครอบคลุมการตรวจแบตเตอรี่ ยาง และชิ้นส่วนสึกหรอง่าย ช่วยให้พบปัญหาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก
Q
มีการเรียกคืนรถ Toyota Fortuner รุ่นปี 2020 หรือไม่?
จากข้อมูลสาธารณะในตลาดไทย รุ่น Toyota Fortuner ปี 2020 ไม่เคยมีการประกาศเรียกคืนครั้งใหญ่ในประเทศไทย อย่างไรก็ตามแนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบหมายเลข VIN ผ่านเว็บไซต์ทางการของโตโยต้าไทยหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืนยันว่ามีการอัปเกรดเทคนิคหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนเฉพาะรายรถหรือไม่ ในฐานะหนึ่งใน SUV ยอดนิยมของไทย Fortuner มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.8L และสมรรถนะออฟโรดที่โดดเด่น เหมาะกับสภาพพื้นที่หลากหลายของไทย เจ้าของรถควรปฏิบัติตามคู่มือการบำรุงรักษาที่กำหนดไว้ทุก 20,000 กิโลเมตร โดยเฉพาะการทำความสะอาด Diesel Particulate Filter (DPF) ซึ่งสำคัญมากในสภาพอากาศร้อนและมีฝุ่นของประเทศไทย หากพบว่าไฟเตือนบนแผงหน้าปัดแสดงขึ้นหรือมีอาการผิดปกติใดๆ ควรติดต่อศูนย์บริการโตโยต้าทั้ง 89 แห่งทั่วไทยเพื่อตรวจสอบอย่างมืออาชีพ โตโยต้าไทยยังมีบริการตรวจสุขภาพรถฟรี โดยสามารถจองผ่านแอป Toyota Connect ที่สำคัญ กรมการขนส่งทางบกไทยกำหนดให้ข้อมูลการเรียกคืนทั้งหมดต้องประกาศบนเว็บไซต์ทางการ ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลล่าสุดได้ตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
Q
ระบบเบรกของ Toyota Fortuner รุ่นปี 2020 คืออะไร
Toyota Fortuner 2020 ในตลาดไทยมาพร้อมระบบเบรกที่ทันสมัยและเชื่อถือได้ ใช้เบรกหน้าแบบดิสก์มีระบายความร้อนและเบรกหลังแบบดิสก์ตัน การออกแบบนี้ช่วยลดความร้อนสะสมขณะเบรกบนถนนร้อนและภูเขาในไทย เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ มาตรฐานมาพร้อมระบบ ABS EBD และ BA ช่วยให้แรงเบรกคงที่แม้ในสภาพบรรทุกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันและควบคุมความเร็วลงทางลาดชัน เหมาะกับพื้นที่ภูเขาภาคเหนือและถนนลื่นในฤดูฝน แนะนำให้ผู้ใช้ตรวจสอบความหนาผ้าเบรกและสภาพน้ำมันเบรกอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการขับในเมืองจราจรติดขัดหรือเดินทางไกล เนื่องจากสภาพอากาศชื้นอาจเร่งการสึกหรอ ควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกทุก 2 ปีหรือทุก 40000 กม สำหรับผู้ขับบนพื้นที่ภูเขาเช่น เชียงใหม่ หรือโคราช อาจพิจารณาอัพเกรดผ้าเบรกสมรรถนะสูงเพื่อรองรับการลงเขาติดต่อกัน แต่ควรใช้ชิ้นส่วนแท้หรือผ่านการรับรองเพื่อให้เข้ากันได้กับระบบเดิม
Q
รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ปี 2020 มีตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลหรือไม่?
ใช่ Toyota Fortuner 2020 ในตลาดไทยมีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ใช้เครื่องยนต์ 28 ลิตร 1GD FTV เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 224 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์นี้มีความประหยัดน้ำมันและแรงบิดสูงที่รอบต่ำ เหมาะกับภูมิประเทศภูเขาและการขับระยะไกลในไทย นอกจากนี้รุ่นดีเซลยังติดตั้งเทคโนโลยี Toyota Clean Diesel ปฏิบัติตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของไทย รถดีเซลได้รับความนิยมเพราะน้ำมันราคาถูกและกำลังเครื่องยนต์สูง เหมาะกับผู้ที่ขนสัมภาระหรือขับบนถนนซับซ้อน Fortuner เป็น SUV ขนาดกลางที่โดดเด่นด้วยสมรรถนะเชื่อถือได้ พื้นที่โดยสารกว้าง และความทนทานต่อสภาพอากาศไทย เป็นตัวเลือกยอดนิยมของครอบครัวและผู้ใช้ธุรกิจ แนะนำให้ทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อสัมผัสสมรรถนะและความสะดวกสบายจริง
Q
2020 Toyota Fortuner เปรียบเทียบกับ Toyota Hilux อย่างไร
รถโฟร์จูนเนอร์ 2020 และฮีลักซ์ของโตโยต้าถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม IMV เดียวกัน แบ่งปันเครื่องยนต์ดีเซล 2.4L และ 2.8L พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แต่จุดเด่นและการใช้งานต่างกันชัดเจน โฟร์จูนเนอร์เป็น SUV 7 ที่นั่งที่เน้นความสบายสำหรับครอบครัว ติดตั้งแอร์โซนคู่ เก้าอี้หนัง และระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาอย่างดี เหมาะกับการเดินทางไกลในไทย ส่วนฮีลักซ์เป็นรถปิคอัพใช้งานจริง โครงหลังใช้สปริงใบเหล็ก ขนส่งน้ำหนักได้ถึง 1 ตัน เหมาะกับเกษตรกรหรือผู้รับเหมาก่อสร้าง ในสภาพอากาศเมืองไทยที่ฝนชุก ทั้งคู่มาพร้อมระบบ ESC และระบบช่วยบนทางลาดชัน แต่โฟร์จูนเนอร์มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเต็มเวลาที่ให้ความมั่นคงกว่าในพื้นที่ภูเขา ต้องบอกว่าในตลาดไทยมีฮีลักซ์ Prerunner รุ่นพิเศษที่ขับเคลื่อนล้อหลัง ประหยัดน้ำมันกว่าโฟร์จูนเนอร์ประมาณ 10% ส่วนโฟร์จูนเนอร์สามารถพับเบาะแถวสามให้เรียบเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ เหมาะกับทริปวันหยุดยาวของครอบครัวคนไทย ทั้งสองรุ่นผ่านมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของไทย แต่โฟร์จูนเนอร์มีการกันเสียงที่ดีกว่า เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ
Q
ระบบช่วงล่างของ Toyota Fortuner ปี 2020 คืออะไร
รถโฟร์จูนเนอร์รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับระบบช่วงล่างหน้าแบบ Double Wishbone อิสระและหลังแบบ Solid Axle คู่กับระบบสปริงใบ 4 ลิงก์ ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความนุ่มสบายบนถนนลาดยางกับความทนทานบนเส้นทางออฟโรด เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศแบบไทยๆ ที่มีความหลากหลาย ทั้งการใช้งานในเมืองหรือแม้แต่เส้นทางลูกรังแถบภาคเหนือก็ขับเคลื่อนได้อย่างมั่นใจ รุ่นท็อปบางรุ่นยังมีระบบช่วงล่างอัจฉริยะ KDSS ที่สามารถปรับแรงดึงหน่วงแบบเรียลไทม์ผ่านเซ็นเซอร์ ช่วยเพิ่มความมั่นคงเมื่อเข้าโค้งความเร็วสูงและเพิ่มการยึดเกาะของยางบนถนนขรุขระ สิ่งที่ควรระวังสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยคือความเสื่อมสภาพของยางบูชและโช้ค ซึ่งโฟร์จูนเนอร์ออกแบบมาเพื่อรับมือโดยเฉพาะ ด้วยการป้องกันสนิมและเพิ่มความทนทานต่อสภาพแวดล้อมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับคนที่ต้องขับทั้งในกรุงเทพฯ ที่รถติดหนักและเส้นทางชนบท ระบบช่วงล่างของโฟร์จูนเนอร์ให้ความสมดุลระหว่างการลดแรงสั่นสะเทือนและความสามารถในการรับน้ำหนักได้ดี แถมยังมีความสูงช่วงท้องรถ 220 มม. ที่เหนือกว่ารถ SUV ในระดับเดียวกัน พร้อมด้วยล้อขนาด 17 นิ้วและยางหนาแบบมาตรฐานที่ติดตั้งมาให้เฉพาะรุ่นไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนทุกสภาพถนนได้อย่างเต็มที่
Q
ความจุถังน้ำมันของ Toyota Fortuner ปี 2020 คือเท่าไร
Toyota Fortuner 2020 ในตลาดไทยมีความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร ออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่ระยะไกลและสภาพถนนหลากหลาย เช่น การเดินทางข้ามจังหวัดจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ หรือการขับบนถนนภูเขาภาคอีสาน ถังน้ำมันขนาดใหญ่ช่วยลดความถี่ในการเติมน้ำมัน รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 28 ลิตร ทำงานร่วมกับถังน้ำมัน 80 ลิตร ทำให้ระยะทางวิ่งต่อถังได้ประมาณ 800 1000 กิโลเมตร เหมาะกับการขับเที่ยวแบบครอบครัวหรือเดินทางธุรกิจในไทย ควรสังเกตว่าปั๊มน้ำมันในไทยส่วนใหญ่มีน้ำมันไบโอดีเซล B7 และ B20 ซึ่ง Fortuner รองรับได้เต็มรูปแบบ ผู้ใช้สามารถเลือกตามความต้องการและราคาน้ำมัน ในการใช้งานประจำวันควรเติมน้ำมันให้มากกว่า ¼ ของถังเพื่อป้องกันปั๊มร้อนในสภาพอากาศร้อน และวางแผนการเติมน้ำมันล่วงหน้าในพื้นที่ห่างไกล SUV ในกลุ่มเดียวกันเช่น Isuzu MU X มีถังน้ำมัน 65 ลิตร ทำให้ Fortuner ได้เปรียบด้านระยะทางวิ่งต่อถัง แต่การใช้งานจริงยังขึ้นกับการใช้แอร์และสภาพจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ แนะนำให้ผู้ขับขี่ตรวจสอบอัตราสิ้นเปลืองจากคอมพิวเตอร์ในรถแบบเรียลไทม์
Q&A ล่าสุด
Q
Nissan GT-R มีกี่ที่นั่ง
Nissan GT-R เป็นซูเปอร์คาร์คลาสสิกที่มาพร้อมกับที่นั่งมาตรฐาน 4 ที่นั่ง ในรูปแบบการจัดวาง 2+2 โดยเบาะหน้าเป็นเบาะแข่งแบบ bucket seat ที่ให้การสนับสนุนร่างกายได้ดีเยี่ยม ส่วนเบาะหลังมีพื้นที่ค่อนข้างกะทัดรัดสำหรับการขับขี่ในระยะทางสั้นๆ หรือวางสิ่งของติดตัว ในตลาดไทย GT-R ได้รับความนิยมจากกลุ่มคนรักรถสมรรถนะสูง เนื่องจากสมรรถนะที่แข็งแกร่ง (เช่น เครื่องยนต์ 3.8 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ATTESA E-TS) รวมถึงการออกแบบ 4 ที่นั่งที่ใช้งานได้จริง อย่างไรก็ตาม แม้ GT-R จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถสปอร์ตสมรรถนะสูง แต่การมี 4 ที่นั่งแบบนี้ค่อนข้างพบได้ยากในรุ่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น Porsche 911 Carrera ก็มีตัวเลือกเบาะหลัง แต่พื้นที่จะจำกัดกว่า นอกจากนี้ สภาพอากาศร้อนของไทยมีความต้องการสูงในเรื่องระบบระบายความร้อนของรถสมรรถนะสูง แนะนำให้เจ้าของ GT-R ตรวจสอบระบบทำความเย็นเป็นประจำ โดยเฉพาะเมื่อขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องเจอกับการจราจรหนาแน่นและต้องหยุด-เริ่มบ่อย ส่วนการซ่อมบำรุง GT-R จำเป็นต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ ซึ่งผู้จัดจำหน่ายนิสสันในประเทศไทยให้การสนับสนุนทางเทคนิคจากโรงงานดั้งเดิมเพื่อให้มั่นใจว่ารถอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
Q
Nissan GT-R ใช้น้ำมันเท่าไรต่อแกลลอน
การบริโภคน้ำมันของ Nissan GT-R นั้นขึ้นอยู่กับรุ่นและการขับขี่ โดยหากพูดถึงรุ่น R35 ที่พบเห็นบ่อยๆ ในสภาพถนนทั่วไปจะกินน้ำมันประมาณ 6-7 กิโลเมตร/ลิตร (หรือประมาณ 14-16 ลิตร/100 กิโลเมตร) ซึ่งเทียบได้กับระยะทางประมาณ 15-18 ไมล์ต่อแกลลอนเมื่อใช้น้ำมันเบนซิน 95 แบบที่นิยมในไทย รถสปอร์ตรุ่นนี้ติดเครื่องยนต์ V6 Twin Turbo ขนาด 3.8 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อขับอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทยและการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ที่แนะนำคือให้ผู้ขับขี่เร่งเครื่องอย่างนุ่มนวลและใช้โหมดเกียร์ธรรมดาอย่างเหมาะสมเพื่อประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ต้องบอกว่า GT-R เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่การกินน้ำมันอยู่ในระดับสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับรถรุ่นเดียวกัน และรุ่นที่วางขายในไทยยังได้รับการปรับแต่ง ECU ให้เหมาะสมกับน้ำมันและสภาพถนนท้องถิ่นแล้ว หากอยากให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนหัวเทียนและกรองอากาศคุณภาพสูงเป็นประจำ พร้อมทั้งใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มสูตรตามที่ผู้ผลิตกำหนด ซึ่งเวิธีเหล่านี้สำคัญมากสำหรับการรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดีที่สุด
Q
เครื่องยนต์ใน Nissan GT-R คืออะไร
เครื่องยนต์ของ Nissan GT-R ที่โด่งดังคือรุ่น VR38DETT ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตรแบบเทอร์โบชาร์จคู่ ที่โดดเด่นในเรื่องพลังและประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบไทยแลนด์ ระบบระบายความร้อนและเทคโนโลยีเทอร์โบได้รับการออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้อุณหภูมิจะสูง ก็ยังคงให้กำลังส่งออกอย่างสม่ำเสมอ เครื่องยนต์รุ่นนี้ทำกำลังสูงสุดได้ถึง 565 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 633 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ที่ให้ความเร่งอันน่าตื่นเต้น อีกจุดเด่นคือ VR38DETT ยังใช้เทคโนโลยีพลาสมาสเปรย์เคลือบกระบอกสูบ ช่วยลดแรงเสียดทานและเพิ่มความทนทาน เหมาะกับทั้งเส้นทางภูเขาและสภาพการจราจรติดขัดในเมืองของไทย สำหรับคนชอบแต่งรถ เครื่องยนต์รุ่นนี้มีศักยภาพในการอัพเกรดสูง มีอู่แต่งหลายแห่งในไทยที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ยังคงความน่าเชื่อถือได้ นี่คือเหตุผลที่ Nissan GT-R เป็นที่นิยมในหมู่คอรถสปอร์ตสมรรถนะสูงของไทย
Q
ราคา BMW M5 เท่าไหร่
ปัจจุบันราคาขายอย่างเป็นทางการของ BMW M5 (F90) ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยอยู่ที่ประมาณ 12-14 ล้านบาท โดยราคาอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย ออปชั่นเสริม และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย รุ่นมาตรฐาน M5 มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 600 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์ 8 สปีด M Steptronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที ส่วนรุ่น M5 Competition ที่สมรรถนะสูงขึ้นไปอีก จะให้กำลังเพิ่มอีก 17 แรงม้า พร้อมการปรับแต่งช่วงล่างที่ดุดันขึ้น และราคาก็สูงขึ้นตามไปด้วย เนื่องจาก BMW M5 มีราคาสูงกว่าตลาดต่างประเทศเล็กน้อยเนื่องจากประเทศไทยมีอัตราภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตที่สูงขึ้นสำหรับรถหรู แต่ด้วยสมรรถนะและความหรูหราที่ยังคงดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบรถสมรรถนะสูงมากมาย แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่าย BMW อย่างเป็นทางการในไทยเพื่อสอบถามราคาล่าสุดและทดลองขับ หรืออาจพิจารณาตลาดรถนำเข้าแบบขนาน (grey import) ที่บางครั้งก็มีราคาจับต้องได้กว่า
Q
น้ำหนักของ BMW M5 รุ่นใหม่คือเท่าไหร่
จากข้อมูลทางการล่าสุด รุ่นใหม่ล่าสุดของ BMW M5 มีน้ำหนักประมาณ 2,345 กิโลกรัม ตัวเลขนี้คำนึงถึงระบบไฮบริดและชิ้นส่วนเสริมสมรรถนะที่ติดตั้งมา ซึ่งทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่มีการกระจายน้ำหนักที่สมดุลขึ้นกว่าเดิม สำหรับตลาดไทยแล้ว สภาพอากาศร้อนและถนนที่หลากหลายต้องการระบบระบายความร้อนและช่วงล่างที่เสถียรเป็นพิเศษ ซึ่ง M5 ตอบโจทย์ด้วยโครงสร้างอลูมิเนียมน้ำหนักเบาและระบบช่วงล่างแอคทีฟที่ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ระบบปลั๊กอินไฮบริดยังช่วยให้สามารถขับเคลื่อนด้วยโหมดไฟฟ้า 100% ในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ เพื่อประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย ที่น่าสนใจคือ M5 ที่นำเข้าเข้ามาในไทยจะติดตั้งระบบแอร์ประสิทธิภาพสูงและสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อนเป็นมาตรฐาน แม้ว่าออปชั่นเหล่านี้จะเพิ่มน้ำหนักรถเล็กน้อย แต่ก็ช่วยให้เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมท้องถิ่นมากขึ้น สำหรับคนไทยที่ชื่นชอบความแรง M5 ยังคงรักษาสมดุลน้ำหนัก 50:50 ระหว่างเพลาหน้าและหลัง พร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ที่ช่วยให้การควบคุมยังคงแม่นยำแม้ในวันที่ถนนลื่นช่วงฤดูฝน ส่วนน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ได้ส่งผลต่อความแรง เพราะ M5 สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที ด้วยพลังรวมสูงสุด 725 แรงม้า จากเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบชาร์จ 4.4 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Toyota Fortuner Leader G Plus เปิดตัว ราคา 1,439,000 THB
ธนวัฒน์Oct 9, 2025

Toyota กำลังพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาระบบโดรนขนาดเล็ก ที่สามารถช่วยรถออฟโรดในการขับเคลื่อนในพื้นที่กลางแจ้ง
LienOct 11, 2025

Toyota RAV4 Hybrid พบปัญหาความร้อนสูงเกินในแบตเตอรี่ระหว่างการฝึกฝนของตำรวจออสเตรเลีย
ธนวัฒน์Oct 10, 2025

Toyota เรียกร้องให้กำหนดคำนิยามของรถยนต์ไฮบริดใหม่ โดยกล่าวหาว่าระบบ Mild-hybrid 48-volt ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด
ณัฐวุฒิOct 9, 2025

ข่าวลือ: Toyota และ Mazda ร่วมมือกันพัฒนารถรุ่นถัดไป MX-5 และ GR86
ณัฐวุฒิOct 6, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย