Q
Lamborghini Huracan ออกเมื่อเวลาไหน
Lamborghini Huracán เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 รถรุ่นนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดประเทศไทย โดยดึงดูดแฟนรถจำนวนมากด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมและการออกแบบที่โดดเด่น มาพร้อมระบบขับเคลื่อนที่ทรงพลัง ให้การเร่งความเร็วและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
Lamborghini Huracan คือ Lamborghini ที่เร็วที่สุดหรือไม่
Lamborghini Huracán ไม่ใช่รุ่นที่เร็วที่สุดในบรรดารถยนต์ของแบรนด์ Lamborghini โดยความเร็วสูงสุดของ Huracán แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน เช่นรุ่น Huracán Performante ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 331 กม./ชม. ขณะที่บางรุ่นอื่น ๆ อยู่ที่ประมาณ 325 กม./ชม. อย่างไรก็ตาม Lamborghini ยังมีรุ่นที่ทำความเร็วได้สูงกว่านี้ เช่น Lamborghini Sián ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 360 กม./ชม. Aventador SVJ และ Aventador LP700-4 ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 350 กม./ชม. ความเร็วสูงสุดของแต่ละรุ่นขึ้นอยู่กับแนวคิดการออกแบบและระบบขับเคลื่อนที่แตกต่างกัน Huracán แม้จะไม่ใช่รุ่นที่เร็วที่สุด แต่ก็มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ผสมผสานความเร็วและการควบคุมได้อย่างลงตัว มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและแม่นยำ จึงยังคงเป็นหนึ่งในรุ่นที่โดดเด่นในตระกูล Lamborghini
Q
Lamborghini Huracan มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน?
Lamborghini Huracán มีความน่าเชื่อถือในระดับสูง โดยติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบ V10 ขนาด 5.2 ลิตร แบบไร้ระบบอัดอากาศ ให้พละกำลังที่แรงและมีความเสถียร โดยมีการปรับจูนที่หลากหลายตามแต่ละรุ่นย่อยเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน ในด้านระบบเบรก Huracán มาพร้อมจานเบรกเซรามิกคาร์บอนทั้งหน้าและหลัง ให้สมรรถนะการเบรกที่ยอดเยี่ยมและทนทาน รองรับการขับขี่ในหลากหลายสภาพการใช้งาน ส่วนระบบกันสะเทือนเป็นแบบอิสระ ช่วยให้การควบคุมรถมีความแม่นยำ พร้อมมอบเสถียรภาพและความนุ่มนวลขณะขับขี่ ในด้านระบบอิเล็กทรอนิกส์และความปลอดภัย Huracán มาพร้อมระบบมาตรฐาน เช่น ABS ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก, ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และระบบความปลอดภัยอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความมั่นใจในการขับขี่ ด้วยชื่อเสียงของแบรนด์ Lamborghini ในฐานะผู้ผลิตรถซูเปอร์คาร์ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านกระบวนการผลิตและคุณภาพชิ้นส่วน Huracán จึงถือเป็นรถสมรรถนะสูงที่ยังคงมีความน่าเชื่อถือในระดับที่ดี และสามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งเร้าใจและมั่นคงให้แก่เจ้าของรถ
Q
Lamborghini Huracan เหมาะสำหรับใช้ประจำวันไหม?
Lamborghini Huracán ถือว่าเป็นซูเปอร์คาร์ที่มีความเหมาะสมในระดับหนึ่งสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน รถรุ่นนี้มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่แบบ 7 สปีด ที่เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวลและแทบไม่มีอาการกระตุกในสภาพการจราจรที่ต้องหยุด-เคลื่อนบ่อยครั้ง จึงให้ประสบการณ์ขับขี่ที่ต่อเนื่องและสบาย รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังให้พละกำลังจากโรงงานในระดับดี และหากต้องการเพิ่มสมรรถนะ ยังสามารถติดตั้งชุดเทอร์โบคู่เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มแรงม้าได้ตามต้องการ ระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ ทั้งหน้าและหลัง ช่วยให้รถมีการทรงตัวที่ดีและรองรับแรงได้อย่างมั่นคง ไม่ว่าจะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงหรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน ก็ยังควบคุมได้อย่างมั่นใจ รูปลักษณ์ภายนอกมีความล้ำสมัย ดึงดูดสายตาได้ดี ส่วนภายในหรูหราและออกแบบให้ปุ่มควบคุมหลักต่าง ๆ อยู่บนพวงมาลัยเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ขณะที่ระบบกล้องมองหลังและฟังก์ชันช่วยจอดต่าง ๆ ก็ช่วยให้การจอดรถในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม Huracán มีพื้นที่ภายในค่อนข้างจำกัด หากผู้ขับหรือผู้โดยสารมีรูปร่างใหญ่อาจรู้สึกอึดอัด และแม้จะใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน แต่การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงค่อนข้างสูง รวมถึงค่าบำรุงรักษาและดูแลรักษาก็อยู่ในระดับที่สูงเช่นกัน
Q
Huracan ทำที่ไหน
Lamborghini Huracán ในปัจจุบันผลิตขึ้นทั้งหมดที่โรงงานสำนักงานใหญ่ของ Lamborghini ในเมือง Sant'Agata Bolognese ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นฐานการผลิตเพียงแห่งเดียวของรถซูเปอร์คาร์ทุกรุ่นของแบรนด์นี้ทั่วโลก Huracán ทุกคันถูกประกอบตามมาตรฐานงานฝีมือแบบอิตาเลียน ตั้งแต่กระบวนการผลิตตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ไปจนถึงการปรับจูนระบบขับเคลื่อน โดยช่างเทคนิคผู้มีประสบการณ์สูง แม้ว่าในตลาดประเทศไทย Huracán จะต้องนำเข้าแบบครบคัน (CBU) แต่ Lamborghini มีผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในกรุงเทพฯ ซึ่งให้บริการด้านการขายและบริการหลังการขายอย่างครบวงจร รวมถึงการสนับสนุนทางเทคนิคโดยผู้เชี่ยวชาญและการจัดหาอะไหล่แท้จากโรงงาน ที่สำคัญ สภาพอากาศแบบร้อนชื้นของไทยมีผลต่อการดูแลรักษารถซูเปอร์คาร์ Lamborghini จึงมีการออกแบบเฉพาะด้าน เช่น ระบบระบายความร้อนและการเคลือบสีตัวถัง เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศในเขตร้อนโดยเฉพาะ
Q
Huracan หรือ Aventador ไหนเร็วกว่า?
โดยทั่วไปแล้ว Lamborghini Aventador มีความเร็วสูงกว่า Aventador ติดตั้งเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร แบบไร้ระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุดประมาณ 700 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดประมาณ 690 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ตามข้อมูลทางการอยู่ที่ประมาณ 2.9 วินาที ในขณะที่ Huracán ใช้เครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุดประมาณ 610 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดประมาณ 560 นิวตันเมตร โดยเร่งจาก 0–100 กม./ชม. ได้ภายในประมาณ 3.2 วินาที จากข้อมูลด้านสมรรถนะจะเห็นว่า Aventador มีพละกำลังและอัตราเร่งเหนือกว่า Huracán และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 350 กม./ชม. ส่วน Huracán ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ประมาณ 325 กม./ชม. อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการขับขี่จริงยังขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น สภาพถนน สภาพอากาศ และทักษะการขับขี่ของผู้ขับรถด้วย
Q
Lamborghini Huracan น่าจะหายากไหม?
การมองหา Lamborghini Huracán ไม่ใช่เรื่องยาก เนื่องจากมีหลายรุ่นที่ยังคงวางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ เช่น Huracán Sterrato V10 5.2L NA 2023, Huracán Tecnica V10 5.2 NA 2022 และ Lamborghini Huracán STO ปี 2021 ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสถานะพร้อมจำหน่าย ในประเทศไทย Lamborghini มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกระจายอยู่ในเมืองหลัก ผู้สนใจสามารถติดต่อหรือเดินทางไปยังโชว์รูมเหล่านี้เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรุ่น Huracán ทั้งในเรื่องของรถที่มีในสต็อก ออปชันที่เลือกได้ และราคา นอกจากนี้ เว็บไซต์ทางการของ Lamborghini ยังแสดงข้อมูลรุ่น Huracán อย่างครบถ้วน ทั้งรายละเอียดทางเทคนิค อุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงช่องทางติดต่อกับดีลเลอร์ในพื้นที่ ช่วยให้คุณสามารถวางแผนและสอบถามเพิ่มเติมได้สะดวกยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ในกรณีของรุ่นพิเศษหรือรุ่นลิมิเต็ดที่มีจำนวนผลิตจำกัด อาจต้องใช้เวลาในการค้นหา แต่หากมีการติดตามและพูดคุยกับผู้จำหน่ายอย่างสม่ำเสมอ ก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับรถรุ่นที่ต้องการเช่นกัน
Q
รอคอย Lamborghini Huracan นานเท่าไหร่?
ระยะเวลารอรับรถ Lamborghini Huracán ไม่ได้กำหนดตายตัวและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หากโชว์รูมมีรถพร้อมส่งมอบ ผู้ซื้ออาจได้รับรถภายใน ประมาณ 1–2 สัปดาห์ แต่โดยทั่วไปแล้ว Lamborghini ในฐานะซูเปอร์คาร์แบรนด์ มักต้องใช้วิธี สั่งผลิตตามคำสั่งจอง ในกรณีที่ต้องสั่งผลิต ระยะเวลารอโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3–6 เดือน หรืออาจนานกว่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากกระบวนการผลิตของ Lamborghini มีความซับซ้อน และรถทุกคันต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด หากมีการเลือก ออปชันพิเศษหรือการตกแต่งแบบเฉพาะบุคคล เช่น สีตัวถังแบบพิเศษ วัสดุตกแต่งภายในแบบเฉพาะ หรือการติดตั้งอุปกรณ์เฉพาะทาง จะทำให้ระยะเวลาการผลิตยืดออกไปอีก นอกจากนี้ ภาวะอุปสงค์และอุปทานของตลาด ก็มีผล หากช่วงใดมีความต้องการ Huracán สูง ระยะเวลารอรับรถอาจเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
Q
Tesla รวดเร็วกว่า Lamborghini Huracan หรือไม่?
Tesla จะเร็วกว่า Lamborghini Huracán หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ รุ่นที่นำมาเปรียบเทียบ และ เกณฑ์ที่ใช้วัดความเร็ว Tesla มีหลายรุ่น เช่น Model S Plaid ซึ่งมีกำลังสูงสุดถึง 1,020 แรงม้า และสามารถเร่งจาก 0–100 กม./ชม. ได้ภายในประมาณ 2 วินาที ในขณะที่ Lamborghini Huracán ก็มีหลายเวอร์ชันเช่นกัน เช่น Huracán STO ที่ทางการระบุว่าเร่งจาก 0–100 กม./ชม. ได้ใน ประมาณ 3 วินาที หากพิจารณาเฉพาะอัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. จะพบว่า Tesla บางรุ่นสามารถทำความเร็วได้ดีกว่า Huracán บางรุ่น แต่หากดูในด้าน ความเร็วสูงสุด เช่น Huracán Sterrato V10 สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 260 กม./ชม. ในขณะที่รถ Tesla หลายรุ่นมีความเร็วสูงสุดต่ำกว่านั้น สรุปคือ ไม่สามารถตัดสินได้อย่างชัดเจนว่า Tesla เร็วกว่าหรือช้ากว่า Lamborghini Huracán ทั้งนี้ต้องพิจารณาแต่ละรุ่นที่เปรียบเทียบ รวมถึงปัจจัยด้านสมรรถนะ เช่น อัตราเร่ง ความเร็วสูงสุด และลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันของทั้งสองแบรนด์
Q
Lamborghini Huracan ที่ช้าที่สุดคืออะไร?
ในบรรดารถตระกูล Lamborghini Huracán รุ่นที่มีความเร็วต่ำที่สุดเมื่อเทียบกันภายในซีรีส์คือ Lamborghini Huracán Sterrato V10 5.2L NA 2023 โดยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 260 กม./ชม. และอัตราเร่งจาก 0–100 กม./ชม. ตามข้อมูลทางการอยู่ที่ 3.4 วินาที รถรุ่นนี้มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 26,690,000 บาท จัดอยู่ในประเภทสปอร์ตคาร์ ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ติดตั้งเครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร แบบไร้ระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 449 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร แม้ Huracán Sterrato จะไม่ใช่รุ่นที่เร็วที่สุดในซีรีส์ แต่ยังคงถ่ายทอด ดีเอ็นเอด้านสมรรถนะของ Lamborghini ได้อย่างครบถ้วน โดยรถตระกูล Huracán มีรุ่นย่อยหลายแบบ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขับในแง่มุมต่าง ๆ ทั้งด้านความเร็ว ความสนุกในการขับขี่ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละรุ่น
Q
Urus หรือ Huracan ไหนเร็วกว่า?
Urus และ Huracán มีสมรรถนะที่แตกต่างกันในด้านอัตราเร่งและความเร็วสูงสุด จึงไม่สามารถตัดสินได้อย่างชัดเจนว่ารุ่นใดเร็วกว่า ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้เปรียบเทียบ โดย Lamborghini Urus ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบวางหน้า ให้กำลังสูงสุด 650 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. อยู่ที่ 3.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม. ส่วน Huracán มีหลายรุ่นย่อยที่สมรรถนะต่างกัน เช่น Huracán STO ใช้เครื่องยนต์ V10 ไร้อัดอากาศ 640 แรงม้า อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. อยู่ที่ 3.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. ขณะที่ Huracán Tecnica รุ่นพิเศษฉลอง 60 ปี เร่งจาก 0–100 กม./ชม. ได้ใน 3.2 วินาที โดยรวมแล้ว Huracán บางรุ่นเร่งได้เร็วกว่า Urus แต่ในด้านความเร็วสูงสุด Urus ทำได้ดีกว่า ทั้งสองรุ่นต่างสะท้อนศักยภาพทางเทคนิคและสมรรถนะระดับสูงของ Lamborghini ในแบบที่แตกต่างกัน
Q&A ล่าสุด
Q
MG Maxus 9 มีสีอะไรบ้าง คุณชอบสีไหน
MG Maxus 9 ในตลาดไทยมีให้เลือก 3 สีที่各有เอกลักษณ์ แสดงถึงความหรูหราสมัยใหม่ของรถ MPV รุ่นพรีเมียม สี GRANITE GREY BLACK TOP ใช้โทนสีเทาเข้มคู่กับหลังคาสีดำแบบ Two-Tone พร้อมสีเมทัลลิกที่ให้เอฟเฟกต์สะท้อนแสงเป็นชั้นๆ ดูคลาสสิกแต่ก็มีความทันสมัย เหมาะกับนักธุรกิจที่ชอบความหรูหราแบบเรียบหรู ส่วนสี PEARL WHITE ใช้เทคนิคสีไข่มุกพิเศษ โดยมีการผสมผงมุกที่ให้แสงแวววาวอ่อนๆ ใต้แสงแดด ดูสดชื่นและมีระดับ ช่วยขับความเป็นเจ้าของที่มีรสนิยมดี และเหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยเป็นพิเศษ สำหรับสี BLACK KNIGHT เป็นสีดำลึกเฉพาะตัว พร้อมฟินิชชิ่งที่ให้ความเงางามสูงสุด แสดงถึงความหรูหราอลังการของรถ MPV รุ่นเรือธง แต่ต้องดูแลรักษาบ่อยหน่อยในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมากของไทย ทุกสีถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในเขตร้อน มีความทนทานต่อสภาพอากาศและรังสียูวีเป็นอย่างดี โดยสีขาวไข่มุกถือว่าปฏิบัติการได้ดีที่สุด เพราะดูแลง่ายและไม่ร้อน车内 ส่วนสีเทาแกรนิตกับดำไนท์เหมาะกับคนที่ชอบความโดดเด่นเป็นพิเศษ
Q
MG Maxus 9 ราคาเท่าไหร่
MG Maxus 9 เปิดตัว 2 รุ่นในไทยแล้ว ทั้งรุ่น X และรุ่น V ราคาเริ่ม 2.499 ล้านบาท และ 2.699 ล้านบาทตามลำดับ รถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยการเป็น MPV ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง ขนาดตัวถัง 5,270×2,000×1,840 มม. ระยะฐานล้อ 3,200 มม. ให้พื้นที่ภายในกว้างขวาง แม้จะใช้เป็นออฟฟิศเคลื่อนที่ก็สะดวกสบาย แบตเตอรี่ขนาด 90kWh ให้ระยะทางสูงสุดถึง 540 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมฟีเจอร์หรูหราอีกมากมาย เช่น เก้าอี้ Ottoman พร้อมฟังก์ชันนวดและปรับความร้อน/เย็น ระบบเปิด-ปิดประตูหลังและประตูสไลด์อัตโนมัติ ไปจนถึงซันรูฟขนาดใหญ่ ด้านในติดตั้งหน้าจอมัลติมีเดีย 12.3 นิ้ว คู่กับหน้าปัดดิจิตอล 7 นิ้วหรือ 9 นิ้ว ยอดจองในไทยพุ่งแรง ภายในไม่ถึง 2 สัปดาห์มียอดจองทะลุ 1,100 คัน และถูกมองว่าเป็นคู่แข่งตัวท้าทาย Toyota Alphard ในตลาดอาเซียน
Q
MG Maxus 9 มีสเปคอะไรบ้าง
MG Maxus 9 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ MPV ระดับไฮเอนด์ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งครอบครัวและกลุ่มธุรกิจในตลาดไทย ด้วยความกว้างขวางของพื้นที่ภายในและคุณสมบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถคันนี้มีขนาดตัวถัง 5270x2000x1840 มม. ระยะฐานล้อ 3200 มม. จุผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง พร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองด้าน ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้าให้กำลังสูงสุด 180 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร วิ่งได้ไกลถึง 540 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และรองรับการชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเพื่อชาร์จจาก 30% ถึง 80% ด้านในติดตั้งหน้าจอแสดงผลดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้วและหน้าจอกลางแบบลอยตัว พร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบรักษาเลน เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและท่องเที่ยวระยะไกลในไทย
สำหรับผู้สนใจในไทยควรทราบว่าแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion Ternary ทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อน MG ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมและสถานีชาร์จที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากนโยบายลดภาษี ทำให้มีราคาคุ้มค่า แนะนำให้ทดลองนั่งแถวที่สามและตรวจสอบพื้นที่เก็บของเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของครอบครัวก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
ขนาดตัวถัง Toyota Crown เท่าไหร่?
รถโตโยต้า คราวน์ เป็นรุ่นคลาสสิกที่ขนาดตัวถังจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและรุ่นย่อย ถ้าเอารุ่นล่าสุดเป็นตัวอย่าง ความยาวจะอยู่ที่ประมาณ 4,910-5,030 มม. ความกว้างประมาณ 1,800-1,840 มม. ส่วนความสูงประมาณ 1,450-1,470 มม. ระยะฐานล้อประมาณ 2,920 มม. จัดอยู่ในกลุ่มรถซีดานขนาดกลางใหญ่ ขนาดแบบนี้สำหรับในเมืองไทยถือว่าโอเคเลย ทั้งให้พื้นที่โดยสารที่เพียงพอ แต่ก็ไม่ใหญ่จนขับยากหรือจอดลำบากในลานจอดรถ
สำหรับตลาดไทย คราวน์ถือว่าเหมาะกับครอบครัว โดยเฉพาะช่วงขาหลังที่กว้างขวาง ช่วยให้สบายเวลาเดินทางไกล ส่วนกระโปรงหลังก็จุของได้เยอะพอใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากขนาดตัวรถแล้ว คนไทยที่กำลังมองหารถอาจจะสนใจระบบไฮบริดของคราวน์ที่ช่วยประหยัดน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ อีกทั้งเครือข่ายบริการหลังการขายของโตโยต้าในไทยก็ครอบคลุม ซ่อมบำรุงสะดวก นี่ก็เป็นจุดเด่นที่ควรคิดถึงเวลาเลือกซื้อรถเหมือนกัน
Q
Toyota Crown ผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่?
จำนวนผ่อนรายเดือนของ Toyota Crown ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นที่เลือก ระยะเวลาผ่อน เงินดาวน์ และอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร ยกตัวอย่างรุ่นไฮบริด 2.5L ที่มีราคารถประมาณ 2 ล้านบาท หากวางเงินดาวน์ 30% และผ่อนนาน 5 ปี ภายใต้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของธนาคารชั้นนำที่ประมาณ 2.5%-3.5% จะมีค่างวดประมาณ 25,000-28,000 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ในการซื้อรถยนต์ในไทยนอกจากราคารถและดอกเบี้ยแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าประกันภัยชั้นหนึ่งประมาณ 3% ของราคารถ, ค่าจดทะเบียนราว 1,000-2,000 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% อีกด้วย หากเลือกไฟแนนซ์ บางดีลเลอร์อาจมีโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% สำหรับปีแรก
ในระยะยาว รถยนต์ไฮบริดอย่าง Toyota Crown ยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีบางส่วน และมีความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อรถ ควรเปรียบเทียบเงื่อนไขกับรถระดับเดียวกัน เช่น Lexus ES หรือ Honda Accord Hybrid พร้อมทั้งตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยล่าสุดผ่านเว็บไซต์ของสมาคมธนาคารไทยก่อนตัดสินใจซื้อ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดตัว Leapmotor B01 ซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่ในจีน เคาะราคาเริ่ม 406,000 บาท!
วิรุฬห์Jul 28, 2025

Lamborghini Huracan รุ่นใหม่ “Temerario” เปิดตัวแล้ว ราคา 23.76 ล้านบาท
Kevin WongJun 26, 2025

รถสุดหรูราคาเริ่มต้น 12,577,000 บาท! ยอดขายทั่วโลกของ Lamborghini พุ่งสูงขึ้นในปีนี้
AshleyJul 30, 2024

2024 งานแสดงรถปั้มเป้ง: Lamborghini Urus SE แสดงตัวเปิดตัวครั้งแรก
LienApr 25, 2024

Lamborghiniหุ่นยนต์สูงสุดในงานมอเตอร์โชว์กรุงเทพฯ 2024 : Countach LPI 800-4 ภาพที่ตามาก
AshleyMar 21, 2024
ข้อดี
ข้อเสีย