Q

BYD Seal จะเข้ามาประเทศไทยเมื่อไหร่

รถยนต์ไฟฟ้า BYD Seal คาดว่าจะเข้าสู่ตลาดไทยอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 รุ่นนี้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์สำคัญของซีรีส์ BYD Ocean ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากหลายตลาดทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยี CTB (Cell-to-Body) ที่รวมแบตเตอรี่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างรถและแพลตฟอร์ม e-platform 3.0 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยให้กับรถไฟฟ้า สำหรับผู้บริโภคไทย การมาถึงของ BYD Seal จะเพิ่มทางเลือกให้กับตลาด EV ในประเทศ โดยเฉพาะการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการสูง ด้วยระยะขับขี่ถึง 700 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) และระบบชาร์จเร็วที่ตอบโจทย์สภาพอากาศและโครงสร้างพื้นฐานของไทย รัฐบาลไทยเองก็กำลังส่งเสริมอุตสาหกรรม EV อย่างเต็มที่ ทั้งมาตรการสนับสนุนทางการเงินและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งอาจส่งผลต่อกลยุทธ์การกำหนดราคาของ BYD Seal เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ตลาด EV ไทยในปีหลังๆ เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีหลายแบรนด์ระดับโลกเข้ามาลงแข่ง ผู้บริโภคสามารถคาดหวังรถ EV ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ๆ ได้ในอนาคต แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายบริการหลังการขายและสถานีชาร์จของแต่ละแบรนด์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ต้นทุนต่อกิโลเมตรของ BYD Seal คือเท่าไหร่?
BYD Seal เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ค่าใช้สอยต่อกิโลเมตรขึ้นอยู่กับอัตราการใช้ไฟฟ้าและค่าไฟ จากข้อมูลทางการ รถรุ่นนี้ใช้ไฟฟ้าเฉลี่ย 12.5-14.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร เมื่อคำนวณด้วยค่าไฟเฉลี่ยปัจจุบันที่ประมาณ 4-5 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง จะพบว่าค่าไฟต่อกิโลเมตรอยู่ที่ประมาณ 0.5-0.7 บาท ซึ่งถูกกว่ารถน้ำมันแบบเดิมที่ต้องเสียค่าเชื้อเพลิง 3-5 บาทต่อกิโลเมตรอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม อัตราการใช้ไฟฟ้าจริงอาจแตกต่างกันไปตามพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และการใช้เครื่องปรับอากาศ เช่น การเร่งเครื่องบ่อยๆ หรือการติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วนอาจทำให้ใช้ไฟมากขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับรถน้ำมันระดับเดียวกัน รถไฟฟ้ายังมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าเพราะไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือหัวเทียน ทำให้ประหยัดกว่าในระยะยาว ส่วนการชาร์จไฟ นอกจากจะชาร์จที่บ้านได้แล้ว ปัจจุบันสถานีชาร์จเร็วสาธารณะก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยชาร์จได้ 80% ในเวลาเพียง 30 นาที ทำให้สะดวกสบายมากขึ้น สำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย แบตเตอรี่รถไฟฟ้าทำงานได้ปกติแต่แนะนำให้จอดในที่ร่มเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ และเมื่ออุตสาหกรรมรถไฟฟ้าในประเทศพัฒนามากขึ้น ราคารถและค่าใช้จ่ายในการชาร์จก็มีแนวโน้มจะลดลงอีกในอนาคต
Q
"ราคา BYD Seal รุ่น 7 ที่นั่งคือเท่าไหร่?"
ขณะนี้ BYD ยังไม่มีรุ่น Seal แบบ 7 ที่นั่งนะครับ รุ่นนี้ทั้งในตลาดจีนและต่างประเทศเน้นตำแหน่งเป็นรถสปอร์ตซีดาน 5 ที่นั่งเท่านั้น มีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังและแบบสี่ล้อขับเคลื่อน ถ้าต้องการรถพลังงานสะอาดแบบ 7 ที่นั่ง ลองดูรุ่น Tang EV หรือ Denza D9 ที่เป็นรถ MPV แบบไฟฟ้า100%/ไฮบริดได้นะครับ รุ่นเหล่านี้จำหน่ายในไทยผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ราคาอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และความจุแบตเตอรี่ รถพลังงานสะอาดในไทยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ทำให้ราคาสุดท้ายอาจแข่งขันกว่ารถน้ำมัน แนะนำให้ตรวจสอบราคาล่าสุดและทดลองขับผ่านช่องทางทางการนะครับ ปัจจุบันสถานีชาร์จไฟขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในห้างสรรพสินค้าและสถานีบริการทางด่วน ปัญหาเรื่องระยะทางลดลงไปมาก เวลาเลือกซื้อนอกจากจำนวนที่นั่งแล้ว ควรพิจารณาการใช้งานประจำวันด้วย เช่น ความถี่ในการใช้รถครอบครัว ความสะดวกในการชาร์จไฟ โดยรถไฟฟ้า100% เหมาะกับผู้ที่มีจุดชาร์จประจำ ส่วนรถปลั๊กอินไฮบริดจะเหมาะกับการเดินทางไกลมากกว่า
Q
*ราคา BYD SEAL 2023 เท่าไหร่?
รถยนต์ไฟฟ้า BYD SEAL รุ่นปี 2023 ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,299,000 บาท ราคาอาจแตกต่างกันไปตามระดับความประณีตของตัวรถและอุปกรณ์เสริมที่เลือก โดยรถคูเป้ไฟฟ้ารุ่นนี้มาพร้อมสมรรถนะเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที และระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 700 กม. ตามมาตรฐาน CLTC ทำให้เป็นที่นิยมในตลาดรถ EV รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery ที่พัฒนาโดย BYD ซึ่งผ่านการทดสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด รวมถึงรองรับระบบชาร์จเร็ว DC สูงสุด 150kW ที่สามารถชาร์จจาก 30% เป็น 80% ได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที เหมาะสมกับเครือข่ายสถานีชาร์จเร็วที่แพร่หลายในประเทศไทย เมื่อเทียบกับรุ่นแข่งขันในระดับเดียวกัน อย่าง Tesla Model 3 แล้ว SEAL ให้สมรรถนะใกล้เคียงแต่ราคาจับต้องได้มากกว่า พร้อมฟีเจอร์เสริมความหรูหราอย่างหลังคากระจกพาโนรามาและระบบเสียงดิยาน่า 12 ลำโพง อย่างไรก็ดี ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อสอบถามโปรโมชั่นล่าสุด เพราะบางสาขาอาจมีบริการติดตั้งสถานีชาร์จฟรีหรือโปรไฟแนนซ์ดอกเบี้ยต่ำ โดยเฉพาะรุ่นพวงมาลัยขวาที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดไทย ผ่านมาตรฐานการจราจรและตำแหน่งคนขับที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง
Q
ข้อเสียของ BYD Seal
BYD Seal แม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อด้อยบางจุด ในด้านภายในห้องโดยสารงานฝีมือในรายละเอียดยังต้องปรับปรุง รอยเย็บและข้อต่อไม่ละเอียดพอ การออกแบบมีความซับซ้อนเกินไปไม่เน้นความเรียบง่าย และแผงคอนโซลกลางที่ใช้ภาษาการออกแบบแบบมหาสมุทรศาสตร์เมื่อมองเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าทางสายตาและดูวุ่นวาย ระบบเสียงแม้ว่าบางรุ่นจะติดตั้งลำโพง Dynaudio แต่ฟังนานๆ แล้วยังขาดความน่าฟัง ผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงสูงอาจไม่พอใจ ด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะ ระบบ Infotainment DiLink ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 690 ที่ประสิทธิภาพทั่วไปทำให้ระบบทำงานไม่เสถียรและไม่ลื่นไหล การสั่งงานด้วยเสียงยังขาดความยืดหยุ่น ประสบการณ์ระบบช่วยขับไม่ดี และเซ็นเซอร์ถอยหลังบางครั้งไม่ไวพอ การออกแบบกระจกหน้าต่างมีข้อจำกัดโดยเฉพาะกระจกหลังที่มีขนาดเล็กและไม่สามารถเลื่อนลงได้เต็มที่ส่งผลต่อความสะดวกในการใช้งาน หลังคาพาโนรามิคไม่สามารถเปิดได้ทุกรุ่นในฤดูร้อนที่มีแสงแดดจ้าอาจทำให้ภายในรถร้อน นอกจากนี้ยังมีปัญหาเสียงแอร์ดัง เบาะนั่งยุบ ระบบเครือข่ายรถยนต์ไม่ดี ระยะทางวิ่งไฟฟ้าสั้น เบาะนั่งเป็นสนิม มือจับประตูเสีย หลอดไฟแผงบังแดดเสียง่าย และช่วงล่างต่ำทำให้รถเสี่ยงถูกขูดขีดบ่อยครั้ง
Q
BYD Seal จัดอยู่ในกลุ่มเซกเมนต์ใด
BYD Seal จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ระดับ D ซึ่งหมายความว่าเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางถึงใหญ่ รุ่นในระดับนี้มักมีขนาด ตัวเลือกอุปกรณ์ และสมรรถนะที่สูงกว่ารุ่นทั่วไป เพื่อมอบพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง อุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ที่หลากหลาย และประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม จากสเปกรถ BYD Seal มีความยาว 4800 มิลลิเมตร ความกว้าง 1875 มิลลิเมตร และฐานล้อ 2920 มิลลิเมตร สร้างความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร ด้านสมรรถนะรุ่นต่างๆ มีการตอบสนองที่ดี เช่น รุ่น AWD Performance ที่เร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 3.8 วินาที นอกจากนี้รถยังติดตั้งระบบความปลอดภัยล้ำสมัยและอุปกรณ์ภายในที่เน้นความสะดวกสบายครบครัน ตอบโจทย์มาตรฐานสูงของรถระดับ D และความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการรถขนาดกลางถึงใหญ่ในทุกด้าน
Q
มูลค่าการขายต่อของ BYD Seal คืออะไร
BYD Seal ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นล่าสุดของ BYD มีมูลค่าตลาดรถมือสองในประเทศไทยอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจเนื่องจากความน่าเชื่อถือทางเทคโนโลยีในด้านพลังงานสะอาดการยอมรับในตลาดสูงและการรับประกันแบตเตอรี่จากทางบริษัทเป็นระยะเวลา 8 ปีหรือ 160000 กิโลเมตรช่วยรับประกันคุณภาพการใช้งานในรถมือสองได้ดี เมื่อเทียบกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นเดียวกัน รถ EV ในตลาดมือสองไทยกำลังเติบโต โดยเฉพาะรุ่น Seal ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบใบมีดและระบบช่วยขับ DiPilot ที่ครบครันได้รับความสนใจสูง ข้อมูลจากแพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองในไทยแสดงให้เห็นว่ารถใช้ประมาณ 1 ปีจะมีอัตราการลดราคาประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์ซึ่งสูงกว่ารถเครื่องยนต์สันดาป 2-3 เปอร์เซ็นต์ สำหรับรุ่นสูงหรือรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อจะมีอัตราการรักษามูลค่าที่ดีกว่า อย่างไรก็ตามราคามือสองจริงขึ้นอยู่กับสภาพรถระยะทางใช้งานสุขภาพแบตเตอรี่และช่องทางจำหน่ายที่ได้รับการรับรองแนะนำให้ใช้บริการประเมินราคาจากศูนย์ BYD ที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย นอกจากนี้มาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า เช่น การลดภาษีซื้อ ยังช่วยเพิ่มมูลค่ารถมือสองอีกด้วยซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกสำหรับผู้ที่ต้องการขายต่อในไทย
Q
ประเภทเกียร์ของ BYD Seal คืออะไร
เกียร์ของ BYD Seal เป็นแบบ EV มีจำนวนเกียร์ 1 จัดเป็นเกียร์อัตราทดคงที่ ซึ่งมีโครงสร้างเรียบง่ายและประสิทธิภาพการส่งกำลังสูง ช่วยถ่ายทอดแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าไปยังล้อได้โดยตรง ลดการสูญเสียพลังงานในกระบวนการส่งกำลัง ส่งผลให้รถเร่งความเร็วได้ดีและเพิ่มระยะทางวิ่งได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนเกียร์ซับซ้อนเหมือนเกียร์ธรรมดา ทำให้การส่งกำลังระหว่างขับขี่ราบรื่นและนุ่มนวล มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ง่ายและสบาย เกียร์ประเภทนี้จึงนิยมใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าเพราะสามารถทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยดึงศักยภาพของรถไฟฟ้าออกมาได้อย่างเต็มที่
Q
ขนาด PCD ของ BYD Seal คืออะไร?
สำหรับชาวไทยที่กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับการอัพเกรดหรือเปลี่ยนล้อให้กับ BYD Seal นะครับ ขอแจ้งสเปกล้อมาตรฐานของรุ่นนี้ให้ทราบกันก่อน PCD (ระยะห่างรูสลัก) ของ Seal จะอยู่ที่ 5x114.3 ซึ่งเป็นขนาดที่เราคุ้นเคยกันดีในตลาดเมืองไทย เพราะไปตรงกับรถญี่ปุ่นหลายรุ่นอย่าง Honda Accord หรือ Toyota Camry เลยทำให้หาล้อเปลี่ยนได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นล้อแบบ OEM หรือล้อแต่งจากแบรนด์หลังตลาดก็มีให้เลือกเพียบ อีกเรื่องที่ต้องเช็คให้ชัวร์คือขนาด Center Bore (รูกลางล้อ) ของ BYD Seal จะอยู่ที่ 64.1 มม. ส่วนขนาดสลักที่แนะนำคือ M12x1.5 細節พวกนี้สำคัญมากนะครับ ถ้าไม่ตรงเป๊ะอาจมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยได้ สำหรับเพื่อนๆ คนไทยที่อยู่เมืองร้อนแบบเรา ขอแนะนำให้เลือกล้ออัลลอยแบบน้ำหนักเบานะครับ เพราะช่วยเรื่องการระบายความร้อนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเวลาขับเร็วหรือติดรถในกรุงเทพฯ จะรู้สึกถึงความแตกต่างชัดเจน แถมยังช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย!
Q
BYD Seal มี Apple CarPlay ไหม
BYD Seal รุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทยปัจจุบันรองรับการใช้งาน Apple CarPlay โดยสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบไร้สายและผ่านสาย USB ช่วยให้ผู้ขับเข้าถึงแอปนำทางเพลงและการสื่อสารบน iPhone ได้สะดวกขณะขับขี่โดยเฉพาะการใช้ Google Maps หรือ Apple Maps ที่เหมาะกับสภาพจราจรที่ซับซ้อนในกรุงเทพฯ อย่างมาก ทั้งนี้รถบางล็อตในช่วงแรกอาจต้องอัปเกรดระบบผ่าน OTA เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันอย่างสมบูรณ์จึงแนะนำให้ตรวจสอบเวอร์ชันซอฟต์แวร์กับศูนย์บริการขณะซื้อรถเพิ่มเติม ระบบอัจฉริยะ DiLink ของ BYD ยังผสานการทำงานกับแอปท้องถิ่นและระบบสั่งงานด้วยเสียงอย่างลึกซึ้งนอกจากจะรองรับ CarPlay แล้ว ยังมอบประสบการณ์ความบันเทิงภายในรถที่ครบครัน สำหรับผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้งานสมาร์ตโฟนเป็นหลัก การรองรับ CarPlay ทำให้ BYD Seal มีความได้เปรียบในการแข่งขันด้านความทันสมัยและความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน
Q
ยี่ห้อยางรถยนต์ของ BYD Seal คืออะไร
BYD Seal ที่จำหน่ายในประเทศไทยติดตั้งยางสมรรถนะสูงจากโรงงานโดยหลักเป็นยี่ห้อ Continental หรือ Michelin แล้วแต่รุ่นย่อยและล็อตการผลิต โดยรุ่นที่พบได้บ่อยคือ Continental EcoContact 6 และ Michelin Pilot Sport 4 ซึ่งเน้นความต้านทานการหมุนต่ำและความเงียบขณะขับขี่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกชุกในไทยรวมถึงการใช้งานบนถนนในเมืองเป็นหลัก เจ้าของรถในไทยควรให้ความสำคัญกับสมรรถนะในการรีดน้ำของยางในช่วงฤดูฝนโดยยางทั้งสองยี่ห้อให้แรงยึดเกาะที่ดีบนถนนเปียกลดความเสี่ยงการลื่นไถลจากฝนตกบ่อยโดยเฉพาะในกรุงเทพ หากต้องการเปลี่ยนยางสามารถเลือกยางระดับใกล้เคียงที่หาซื้อได้ง่ายในไทยเช่น Bridgestone Turanza หรือ Goodyear EfficientGrip แต่ควรรักษาขนาดตามที่โรงงานระบุไว้คือ 235 45 R19 หรือ 245 40 R20 เพื่อให้ระยะทางขับขี่และการควบคุมรถคงประสิทธิภาพที่ดี การตรวจเช็กลมยางเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะกับรถไฟฟ้าแนะนำให้ตรวจอย่างน้อยเดือนละครั้งในช่วงอากาศร้อนของไทยลมยางมักเพิ่มขึ้นเองตามอุณหภูมิ ควรรักษาระดับที่ 24 ถึง 25 บาร์ขณะยางเย็นเพื่อสมดุลทั้งความสบายและประสิทธิภาพพลังงาน
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

รูปลักษณ์ทันสมัยและมีพลัง
ประสิทธิภาพของพลังงานยอดเยี่ยม
การตั้งค่าที่หลากหลายและมีความรู้สึกทางเทคโนโลยี

ข้อเสีย

พื้นที่เก็บของภายในรถจำกัด
พื้นที่หัวส่วนหลังค่อนข้างแคบนิดหน่อย
ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เรียบหรูยังคงต้องการการสร้าง

Q&A ล่าสุด

Q
ราคา BMW X1 ปี 2021 ประมาณเท่าไหร่?
ราคาของ BMW X1 รุ่นปี 2021 ในตลาดมือสองจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพรถ ระยะไมล์ อุปกรณ์ และประวัติการบำรุงรักษา โดยทั่วไปราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 ถึง 1.6 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของรถแต่ละคัน เช่น รุ่น sDrive18i และ xDrive25i ที่มีราคาต่างกันค่อนข้างมาก ส่วนรุ่นที่ติดตั้งอุปกรณ์สูงหรือมีแพ็คเกจเสริมความหรูหราก็จะมีราคาสูงกว่า เมื่อคิดจะซื้อ X1 มือสอง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติการซ่อมบำรุงและสภาพเครื่องยนต์โดยเฉพาะระบบเทอร์โบและเกียร์ให้ดี เพื่อให้มั่นใจว่ารถอยู่ในสภาพดี BMW X1 เป็น SUV ระดับคอมแพคต์ที่โดดเด่นด้านการขับขี่และความประหยัดพื้นที่ ภายในกว้างขวางกว่าเพื่อนๆ ในระดับเดียวกัน เหมาะกับการใช้งานในเมืองและครอบครัว ถ้าคิดว่ามีงบจำกัด อาจจะมองรถยี่ห้ออื่นในระดับเดียวกัน แต่จุดเด่นของ X1 อยู่ที่แบรนด์และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า นอกจากนี้ ภาษีนำเข้ารถยนต์ในไทยค่อนข้างสูง ทำให้ราคารถหรูมือสองค่อนข้างนิ่ง แนะนำให้ซื้อผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อความมั่นใจในแหล่งที่มา
Q
เครื่องยนต์ที่อยู่ใน BMW X1 ปี 2021 คืออะไร?
สำหรับรุ่น BMW X1 ปี 2021 ในตลาดท้องถิ่นนั้น มีตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซินหลักๆ 2 แบบด้วยกัน แบบแรกคือเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จจากซีรีส์ B48 (รุ่น sDrive20i/xDrive20i) ที่ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้าและแรงบิด 280 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์ 7 สปีด DCT หรือ 8 สปีดออโตเมติก ส่วนอีกแบบคือเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ (รุ่น sDrive18i) ให้กำลัง 140 แรงม้าและแรงบิด 220 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยี TwinPower Turbo ของ BMW ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องประหยัดน้ำมันและความคล่องตัว โดยเฉพาะในสภาพการขับขี่ในเมืองที่รถติดหรือการขับทางไกล ต้องบอกว่า BMW ออกแบบเครื่องยนต์แบบโมดูลาร์ซึ่งช่วยให้ค่าบำรุงรักษาไม่สูงจนเกินไป และตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นยังมีแพ็กเกจบริการที่ยืดหยุ่นอีกด้วย ถ้าเทียบกับรถ SUV คอมแพคต์ในระดับเดียวกัน ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จขนาดเล็กแบบนี้แหละ เพราะช่วยลดภาษีและเหมาะกับการใช้งานประจำวัน แต่ถ้าอยากได้พลังมากขึ้น ก็สามารถอัพเกรดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการ แต่อย่าลืมว่าอาจมีผลกับเงื่อนไขการรับประกันนะ
Q
แบตเตอรี่สำหรับ BMW X1 ปี 2021 มีราคาเท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในรถ BMW X1 ปี 2021 ขึ้นอยู่กับประเภทของแบตเตอรี่และสถานที่ซื้อ โดยทั่วไปแบตเตอรี่จากโรงงานผู้ผลิตจะมีราคาอยู่ระหว่าง 15,000 ถึง 25,000 บาท ในขณะที่แบตเตอรี่จากแบรนด์อื่นอาจมีราคาต่ำสุดที่ 10,000 บาท ราคาที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปตามความจุของแบตเตอรี่ ยี่ห้อ และว่ารวมค่าติดตั้งหรือไม่ ขอแนะนำให้ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการเพื่อให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่เข้ากันได้กับรถและได้รับบริการตามการรับประกัน ร้าน 4S หลายแห่งยังมีบริการตรวจสอบและติดตั้งฟรีอีกด้วย โดยทั่วไป BMW X1 ใช้แบตเตอรี่ AGM (Absorbent Glass Fiber) ซึ่งทนทานกว่าแบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบดั้งเดิมและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับรุ่นที่มีระบบสตาร์ท-หยุดอัตโนมัติ แต่ก็มีราคาแพงกว่าเช่นกัน การตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอสามารถยืดอายุการใช้งานได้ โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงซึ่งแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ขอแนะนำให้ตรวจสอบโดยช่างผู้เชี่ยวชาญทุกๆ 2-3 ปี หากคุณประสบปัญหาในการสตาร์ทรถ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพแล้ว และควรเปลี่ยนใหม่โดยเร็วเพื่อป้องกันรถเสีย
Q
รถ BMW X1 ปี 2021 เป็นรถที่ดีไหม?
รถ BMW X1 รุ่นปี 2021 เป็น SUV คอมแพคต์หรูที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและการใช้งานในครอบครัว เครื่องยนต์ 2.0 เทอร์โบชาร์จให้กำลังดีเยี่ยม คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ขับเคลื่อนลื่นไหลและตอบสนองเร็ว แถมยังประหยัดน้ำมันพอสมควร เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องเจอรถติดบ่อยๆ ด้านภายในตกแต่งสไตล์ BMW มาตรฐาน งานประกอบละเอียดเรียบร้อย ระบบ iDrive ใช้งานง่าย รุ่นท็อปมีทั้งหลังคากระจกพาโนรามาและประตูท้ายอัตโนมัติ สเปซด้านหลังนี่ถือเป็นจุดเด่น ขนาดเกือบเท่า SUV รุ่นใหญ่กว่า ส่วนท้ายรถก็จุของได้เยอะพอใช้ ในไทยมีศูนย์บริการครอบคลุม ซ่อมบำรุงสะดวก แต่ต้องระวังเรื่องค่าบำรุงที่สูงกว่าปกติ แนะนำให้ศึกษาดูก่อนซื้อ ถ้าเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes GLA และ Audi Q3 แต่ละรุ่นก็มีจุดขายต่างกัน GLA ให้ความรู้สึกหรูหรากว่า ส่วน Q3 เน้นเทคโนโลยีล้ำๆ แนะนำให้ลองขับดูก่อนตัดสินใจ จะได้รู้ว่าแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด
Q
ค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงของ BMW X1 2021 คือเท่าไหร่?
ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ BMW X1 รุ่นปี 2021 จะแตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์ อัตราการประหยัดน้ำมันของ BMW X1 ปี 2021 แตกต่างกันไปตามการกำหนดค่าเครื่องยนต์ รุ่น sDrive18i ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 3 สูบ 1.5 ลิตร มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยประมาณ 6.2-6.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ในขณะที่รุ่น xDrive25i ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ 2.0 ลิตร มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยประมาณ 7.1-7.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงจริงจะได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และการบำรุงรักษา ในสถานการณ์การใช้งานในเมือง เช่น การขับขี่แบบหยุดๆ ไปๆ มาๆ ในกรุงเทพฯ อาจทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 10%-15% ในขณะที่การขับขี่บนทางหลวงจะใกล้เคียงกับตัวเลขอย่างเป็นทางการ รถคันนี้ใช้เทคโนโลยี EfficientDynamics ของ BMW ซึ่งรวมถึงระบบสตาร์ท-หยุดอัตโนมัติและการสร้างพลังงานจากการเบรกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง แนะนำให้รักษาแรงดันลมยางให้เหมาะสม (ประมาณ 2.3-2.5 เยน) หลีกเลี่ยงการเร่งความเร็วอย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับรถ SUV ขนาดกะทัดรัดระดับหรูอื่นๆ ในระดับเดียวกัน X1 xDrive25e รุ่นปลั๊กอินไฮบริดมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางระยะสั้นเป็นประจำ แนะนำให้ทดลองขับรถก่อนซื้อเพื่อทำความเข้าใจประสบการณ์การขับขี่จริง และตรวจสอบข้อมูลการกำหนดค่าและราคาที่เฉพาะเจาะจงจากตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่
ดูเพิ่มเติม