Q
Mazda 6 ใหม่จะเปิดตัวเมื่อไหร่
ตอนนี้ทางการของ Mazda ประเทศไทยยังไม่ได้ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ Mazda 6 รุ่นใหม่ แต่ถ้าดูจากเทรนด์การเปิดตัวในตลาดโลกและรอบการอัปเดตรุ่นของแบรนด์ คาดว่าน่าจะปล่อยออกมาปี 2024-2025 รุ่นใหม่นี้คาดว่าจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ Skyactiv-X แบบคอมเพรสชันอิกไนต์และระบบไฮบริดปลั๊กอิน ที่ทั้งประหยัดน้ำมันและให้ความสนุกในการขับขี่ แถมยังอาจได้อัปเกรดการออกแบบภายในให้เป็นสไตล์มินิมอลญี่ปุ่น พร้อมระบบ Mazda Connect รุ่นล่าสุด สำหรับคนไทยแล้ว Mazda 6 รุ่นนี้ยังคงคอนเซปต์ "จิ้นบะ-อิทไต" หรือการขับเคลื่อนที่กลมกลืนระหว่างคนกับรถ ซึ่งเหมาะกับสภาพถนนโค้งๆ ในไทย แถมขนาดตัวรถที่กะทัดรัดยังช่วยให้ขับสะดวกในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจคือตลาดไทยยังนิยมรถเครื่องยนต์ดีเซล ถ้า Mazda 6 รุ่นใหม่มีเวอร์ชั่นดีเซลด้วยก็น่าจะเป็นจุดขายสำคัญ แนะนำให้ติดตามข้อมูลจากเว็บ Mazda ไทยหรือตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่น เพราะปกติตลาดไทยจะได้รถใหม่หลังตลาดโลกประมาณ 6-12 เดือน นอกจากนี้นโยบายลดภาษีสำหรับรถ Eco ของรัฐบาลไทยก็อาจส่งผลต่อรุ่นและราคาที่จะนำเข้ามาขายด้วย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
Mazda 6 มีความกว้างขวางหรือไม่
Mazda6 มีการออกแบบพื้นที่ภายในที่สามารถมอบประสบการณ์การนั่งที่สะดวกสบาย โดยเฉพาะที่นั่งด้านหน้าที่มีพื้นที่ขาและศีรษะกว้างขวาง เหมาะกับรูปร่างของผู้ใช้ส่วนใหญ่ในประเทศไทย รถซีดานขนาดกลางนี้มีระยะฐานล้อ 2,830 มม. ซึ่งช่วยให้ผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่เข่าสมเหตุสมผล แต่หากผู้โดยสารสูงกว่า 180 ซม. อาจรู้สึกคับแคบเล็กน้อยในเบาะหลัง ความจุห้องเก็บสัมภาระประมาณ 474 ลิตร สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3-4 ใบได้อย่างสบาย เหมาะสำหรับการเดินทางไปทริปสุดสัปดาห์ของครอบครัวขนาดเล็กในประเทศไทย เมื่อเทียบกับ Toyota Camry หรือ Honda Accord ในระดับเดียวกัน ห้องโดยสารของ Mazda6 ให้ความสำคัญกับการออกแบบที่เน้น "ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง" ซึ่งอาจจะทำให้พื้นที่เบาะหลังแคบลงบ้าง แต่จะช่วยให้ตำแหน่งการขับขี่มีการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่ดีกว่า โดยเฉพาะที่นั่งของ Mazda6 ใช้ฟองน้ำความหนาแน่นสูง ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการขับขี่ระยะยาว (เช่น เส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปหัวหิน) ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ระบบแอร์อัตโนมัติสองโซนและช่องแอร์ด้านหลังที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จะช่วยให้ห้องโดยสารเย็นเร็วขึ้น หากคุณต้องเดินทางไกลพร้อมผู้โดยสาร 4 คน แนะนำให้ทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายก่อน แต่สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของ 1-2 คน Mazda6 ถือว่ามีพื้นที่เพียงพอและสะดวกสบายมาก
Q
Mazda 6 เป็นรถหรูหราหรือไม่
Mazda 6 ไม่ใช่รถหรู แต่เป็นรถซีดานขนาดกลางระดับ D ที่มีสมรรถนะการขับขี่และพลังขับเคลื่อนยอดเยี่ยม ดีไซน์ภายนอกสวยงาม และตกแต่งภายในค่อนข้างหรูหรา แต่รถหรูมักมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ประวัติแบรนด์ที่ยาวนาน ราคาสูง วัสดุภายในระดับพรีเมียม เทคโนโลยีล้ำสมัย และบริการพิเศษ Mazda 6 มีราคา 1,999,000 บาท ซึ่งไม่ถือว่าแพงในกลุ่มรถหรู ภายในแม้จะดูดี แต่ยังไม่เทียบเท่ารถหรูแท้ทั้งในแง่ของวัสดุและงานฝีมือ เทคโนโลยีที่มีครบครันยังไม่ถึงขั้นล้ำหน้าเหมือนแบรนด์หรู อย่างไรก็ตาม Mazda 6 ถือว่ามีความคุ้มค่าสูง เหมาะสำหรับการขับขี่ประจำวันและการเดินทางครอบครัว จึงเป็นรถที่ได้รับความนิยมในกลุ่มรถบ้าน
Q
Mazda 6 มีขนาดเท่ากับ Camry หรือไม่
แม้ Mazda 6 และ Toyota Camry จะอยู่ในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลางเหมือนกันแต่มีความแตกต่างด้านมิติและการจัดสรรพื้นที่ภายใน Mazda 6 มีความยาวตัวถัง 4870 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2830 มิลลิเมตร ขณะที่ Camry ยาว 4885 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2825 มิลลิเมตร ขนาดใกล้เคียงกันแต่การใช้พื้นที่ภายในต่างกัน Camry มีพื้นที่ช่วงขาด้านหลังและระยะเฮดรูมที่ดีกว่าเหมาะกับผู้โดยสารรูปร่างสูง Mazda 6 เน้นประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจมากกว่า เบาะรองรับกระชับ พร้อมการออกแบบภายในแบบสปอร์ต ในตลาดไทยทั้งสองรุ่นได้รับความนิยมจากกลุ่มครอบครัว Camry เด่นด้านความสบายและการใช้งาน ขณะที่ Mazda 6 เด่นด้านดีไซน์และสมรรถนะการควบคุม ด้านความจุสัมภาระ Camry จุได้ประมาณ 524 ลิตร มากกว่า Mazda 6 ที่จุได้ประมาณ 474 ลิตร เหมาะกับผู้ใช้ในไทยที่ขนของบ่อย หากเดินทางไกลบ่อยพร้อมผู้โดยสารหลายคน Camry อาจตอบโจทย์มากกว่า แต่ถ้าให้ความสำคัญกับฟีลลิ่งการขับขี่และความประณีตของห้องโดยสาร Mazda 6 ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
Q
ทำไม Mazda 6 ถึงดีเหรอ
Mazda 6 มีจุดเด่นหลายด้าน ด้านเทคโนโลยีขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ Skyactiv เจเนอเรชันที่สอง อัตราส่วนกำลังอัดสูงถึง 181 ประสิทธิภาพความร้อนสูงสุด 50 เปอร์เซ็นต์ รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 25 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบมาพร้อมเทคโนโลยีปิดกระบอกสูบอัตโนมัติ เมื่อขับที่ความเร็วต่ำจะปิดการทำงานสองสูบเพื่อลดการสิ้นเปลืองโดยยังคงกำลังขับที่ราบรื่น ด้านการออกแบบตัวรถมีเส้นสายที่ลื่นไหล ช่วงล่างแน่น หน้ารถเตี้ย ลดแรงต้านลมช่วยประหยัดน้ำมันและเพิ่มความมั่นใจในการควบคุม ตัวรถมาพร้อมอุปกรณ์ครบถ้วน ทั้งระบบเบรก ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพถุงลมนิรภัยรอบคัน เพิ่มความปลอดภัย ส่วนความสะดวกสบายติดตั้งเครื่องเสียง BOSE และแอร์หลังให้ความสบายแก่ผู้โดยสาร ราคาจำหน่าย 1999000 บาท เมื่อเทียบกับสมรรถนะและอุปกรณ์ถือว่าคุ้มค่า จึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคจำนวนไม่น้อย
Q
Mazda 6 ใช้โซ่หรือสายพาน
Mazda 6 ใช้ระบบขับเคลื่อนวาล์วด้วยโซ่เหล็กแทนสายพานยางแบบเดิม มีความทนทานสูงและแทบไม่ต้องบำรุงรักษา เครื่องยนต์ตระกูล Skyactiv G และ Skyactiv D ของ Mazda ทั้งหมดใช้โซ่เหล็กในระบบควบคุมเวลาเปิดปิดวาล์ว ซึ่งใช้งานได้ยาวนานถึงประมาณ 150000 ถึง 200000 กิโลเมตรหรือมากกว่า ขณะที่สายพานทั่วไปมักต้องเปลี่ยนทุก 60000 ถึง 100000 กิโลเมตร จุดเด่นนี้เหมาะกับสภาพอากาศร้อน ฝุ่นมาก และการจราจรติดขัดในไทย ลดภาระค่าดูแลและความเสี่ยงจากการขาดกลางทาง อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบตัวปรับความตึงและรางนำทางของโซ่อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ระบบทำงานราบรื่น เมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน เช่น Honda Accord บางรุ่นยังใช้สายพาน ขณะที่ Toyota Camry เริ่มเปลี่ยนมาใช้โซ่มากขึ้น Mazda จึงเหนือกว่าทั้งด้านความน่าเชื่อถือและสอดคล้องกับแนวคิด Zoom Zoom ที่เน้นความสนุกในการขับขี่ ให้เจ้าของรถเพลิดเพลินกับเส้นทางภูเขาในไทยได้อย่างมั่นใจ หากเลือกซื้อ Mazda 6 มือสอง แนะนำให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบสภาพโซ่ แต่โดยรวมถือเป็นทางเลือกที่วางใจได้มากกว่าสายพาน
Q
ความดีของ Mazda 3 หรือ Mazda 6 คืออะไร?
Mazda 3 และ Mazda 6 เป็นรถยนต์คุณภาพดีที่มีจุดเด่นต่างกัน Mazda 3 มีขนาดตัวถัง 4515 x 1745 x 1465 มิลลิเมตร ขนาดกะทัดรัดเหมาะกับการขับขี่ในเมือง จอดง่าย มีให้เลือกทั้งแบบแฮทช์แบค 5 ประตูและซีดาน 4 ประตู รองรับความต้องการผู้บริโภคหลากหลาย ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 16 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ น้ำหนักเบา ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการใช้งานประจำวัน ระบบกันสะเทือนทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง หน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน หลังเป็นแบบมัลติลิงก์ ให้สมรรถนะและความสบายที่ดี พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเช่น กระจกคนขับขึ้นลงอัตโนมัติพร้อมระบบป้องกันการหนีบ กระจกมองข้างเคลือบสารกันน้ำ Mazda 6 เป็นรถขนาดกลาง ตัวถัง 4670 x 1780 x 1435 มิลลิเมตร ห้องโดยสารกว้าง เบาะนั่งสบาย มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 20 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ กำลังสูง เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะ ระบบกันสะเทือนหน้าแบบดับเบิลวิชโบนวางสูง หลังแบบมัลติลิงก์รูปตัว E ให้ความมั่นคงและดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีเยี่ยม
Q
Mazda 6 ใช้ได้นานหรือไม่
อายุการใช้งานของ Mazda 6 ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยปกติจะอยู่ที่มากกว่า 200,000 กิโลเมตร หรือ 6 ถึง 8 ปี หากได้รับการบำรุงรักษาที่ดี อายุการใช้งานสามารถยืดออกไปได้ เช่น รถแท็กซี่บางคันที่ดูแลดีสามารถวิ่งได้เกิน 700,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ หากเจ้าของรถขับขี่อย่างระมัดระวังและบำรุงรักษาเป็นประจำ อายุการใช้งานอาจเกิน 300,000 กิโลเมตรหรือมากกว่านั้น แต่หากขับขี่ไม่ดีและไม่บำรุงรักษา อาจทำให้อายุการใช้งานลดลงอย่างมาก โดยรวม Mazda 6 เป็นรถที่ทนทาน หากได้รับการดูแลอย่างดี สามารถใช้งานได้ยาวนาน
Q
Mazda 6 เป็นรถขนาดใหญ่หรือไม่
Mazda 6 มักจะถูกมองว่าเป็นรถเก๋งขนาดกลาง ไม่ใช่รถขนาดใหญ่ มันจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ระดับ D โดยมีความยาว 4865 มม. ความกว้าง 1840 มม. ความสูง 1450 มม. และระยะฐานล้อ 2380 มม. ขนาดเหล่านี้เป็นลักษณะเฉพาะของรถเก๋งขนาดกลาง รถเก๋งขนาดกลางสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 5 คน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่พบได้บ่อยในรถยนต์ในกลุ่มนี้ ส่วนรถขนาดใหญ่จะมีพื้นที่ภายในกว้างขวางกว่า ขนาดโดยรวมใหญ่กว่า และมักจะมีที่นั่งเพิ่มเติม Mazda 6 มีการผสมผสานระหว่างสมรรถนะ ความสะดวกสบาย และการควบคุมที่เหมาะสมกับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและความต้องการการขับขี่ต่าง ๆ มันไม่มีขนาดและพื้นที่ที่ใหญ่มากเหมือนกับรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ตลาดกำหนด
Q
น้ำมันเบนซินใดที่ดีที่สุดสำหรับ Mazda 6
Mazda 6 แนะนำให้ใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 92 หรือสูงกว่านั้น โดยควรตรวจสอบจากคู่มือการใช้งานของรถยนต์เพื่อความชัดเจน น้ำมันเบนซินออกเทน 92 มีดัชนีการต่อต้านการระเบิดที่ 92 ซึ่งเหมาะสำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่ รวมถึง Mazda 6 ส่วนการใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 95 หรือ 98 ซึ่งมีค่าออกเทนสูงกว่า จะเหมาะกับรถที่ต้องการน้ำมันที่มีคุณภาพสูงขึ้นเพื่อเพิ่มสมรรถนะและประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน แต่หากรถไม่ต้องการน้ำมันเบนซินออกเทนสูง การใช้น้ำมันชนิดนี้จะไม่ให้ประโยชน์เพิ่มเติม การเลือกใช้น้ำมันที่เหมาะสมยังช่วยปกป้องเครื่องยนต์ ลดการสึกหรอ และยืดอายุการใช้งาน พร้อมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน
Q
Mazda 6 เป็นรถขับเคลื่อนทางหน้าหรือขับเคลื่อนสี่ล้อ
Mazda 6 20th Anniversary Edition 2.5 6AT รุ่นปี 2023 เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนที่พบได้บ่อยในรถยนต์ โดยระบบนี้จะส่งพลังงานไปยังล้อหน้าโดยตรง ทำให้ล้อหน้ามีหน้าที่ในการดันรถไปข้างหน้า รถที่ขับเคลื่อนล้อหน้ามีความเสถียรในการควบคุมเมื่อขับขี่บนถนนทั่วไป การจัดวางภายในห้องโดยสารยังสะดวกสบายมากขึ้น และสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้ในระดับหนึ่ง สำหรับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานทั่วไป Mazda 6 แบบขับเคลื่อนล้อหน้าสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ราบรื่นและสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่
Q&A ล่าสุด
Q
วิธีดูกล้องสดบนรถยนต์ Tesla Model 3
เมื่อคุณใช้ฟังก์ชันดูภาพสดจากกล้องของ Tesla Model 3 ในประเทศไทย คุณสามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Tesla บนมือถือได้ง่ายๆ โดยก่อนอื่นต้องมั่นใจว่ารถอยู่ในโหมดพร้อมใช้งานและเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่เสถียร หลังจากเปิดแอปให้เลือกเมนู "ความปลอดภัย" เพื่อเข้าถึงภาพสดจากกล้องในรถ ฟังก์ชันนี้มีประโยชน์มากในสภาพอากาศร้อนและฝนตกบ่อยของไทย ช่วยให้คุณตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบรถได้ตลอดเวลา เช่น ตรวจดูว่ามีสัตว์เล็กๆ หลบร้อนใต้รถหรือไม่ หรือยืนยันตำแหน่งจอดรถว่าปลอดภัย ระบบกล้องของ Model 3 ใช้เลนส์มุมกว้างและเซ็นเซอร์ความไวสูง แม้ในเวลากลางคืนหรือในที่จอดรถใต้ดินที่แสงน้อยก็ยังให้ภาพที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามในบางพื้นที่ของไทยอาจเกิดปัญหาสัญญาณเน็ตเวิร์กไม่คงที่ซึ่งส่งผลต่อความลื่นไหลของการส่งภาพ แนะนำให้ทดสอบการเชื่อมต่อล่วงหน้าในสถานการณ์สำคัญ นอกจากนี้โหมด Sentry ของ Tesla ที่ทำงานร่วมกับกล้องยังช่วยบันทึกเหตุการณ์ผิดปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายไทยที่รับรองหลักฐานดิจิทัล ทำให้การรักษาความปลอดภัยของรถเป็นสองชั้น สำหรับการใช้งานประจำวัน การทำความสะอาดเลนส์กล้องอย่างสม่ำเสมอในการใช้งานประจำวันเพื่อหลีกเลี่ยงฝนหรือฝุ่นที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของภาพเป็นมาตรการบำรุงรักษาที่จำเป็น
Q
วิธีปิดการขับขี่ด้วยเพียงเท้าเดียวบนรถ Tesla Model 3
หากคุณต้องการปิดโหมดขับขี่ด้วยคันเร่งเดียว (Single Pedal Driving) ในรถ Tesla Model 3 สามารถทำได้ง่ายๆ โดยเข้าไปที่หน้าจอกลางรถ เลือกเมนู "ควบคุม" จากนั้นเลือก "คันเร่งและพวงมาลัย" แล้วไปที่การตั้งค่า "โหมดหยุด" แล้วเปลี่ยนเป็น "โหมดครีป" หรือ "โหมดปล่อยไหล" แค่นี้รถก็จะทำงานเหมือนรถน้ำมันทั่วไปที่เมื่อคุณปล่อยคันเร่ง รถจะค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้าเอง โหมดขับขี่ด้วยคันเร่งเดียวของ Tesla นี้ทำงานผ่านระบบกักเก็บพลังงานที่ทรงประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ แต่ยังลดการสึกหรอของผ้าเบรกอีกด้วย เหมาะมากกับการขับขี่ในเมืองไทยที่รถติดบ่อย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประเทศไทยมีฝนตกชุก ถนนอาจลื่นได้ เราแนะนำให้ผู้ขับขี่มือใหม่ควรเริ่มจากการใช้โหมดขับขี่ปกติก่อนก่อน หากคุณต้องขับรถในเมืองที่มีรถติดมากๆ อย่างกรุงเทพฯ ลองค่อยๆปรับตัวใช้โหมดคันเร่งเดียวดู จะช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ได้มากนะ ไม่ว่าคุณจะเลือกโหมดไหน ขอให้ระมัดระวังรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ถนนลื่นมากๆ
Q
ต้องใช้กี่กิโลวัตต์ชั่วโมงในการชาร์จ Tesla Model 3 ปี 2022
สำหรับ Tesla Model 3 รุ่นปี 2022 ในประเทศไทย ความต้องการไฟฟ้าสำหรับการชาร์จจะแตกต่างกันไปตามรุ่น โดยความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณ 50-75 กิโลวัตต์-ชั่วโมง รุ่น Standard Range เมื่อชาร์จเต็มจะใช้ไฟประมาณ 50 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ส่วนรุ่น Long Range ต้องการประมาณ 75 กิโลวัตต์-ชั่วโมง แต่การใช้งานจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อยเนื่องจากปัจจัยเช่นประสิทธิภาพการชาร์จและอุณหภูมิแวดล้อม ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้ชาร์จในที่ร่มเพื่อลดการสูญเสียพลังงานจากความร้อนของแบตเตอรี่ และการใช้สถานี Supercharger ของ Tesla (เช่นในกรุงเทพหรือพัทยา) จะช่วยลดเวลาชาร์จลงได้มาก โดยทั่วไปใช้เวลาเพียง 30 นาทีเพื่อชาร์จไฟได้ถึง 80%
ควรทราบว่าค่าไฟสำหรับการชาร์จที่บ้านจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) อยู่ที่ประมาณ 4-6 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง การชาร์จเต็มสำหรับรุ่น Standard Range จึงมีค่าใช้จ่ายประมาณ 200-300 บาท ซึ่งช่วยประหยัดได้มากกว่า 60% เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน หากวางแผนจะติดตั้งที่ชาร์จที่บ้าน ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายไฟรองรับกำลังไฟมากกว่า 7 กิโลวัตต์ และควรสมัครมิเตอร์ไฟฟ้าเฉพาะจาก PEA เพื่อใช้ประโยชน์จากอัตราค่าไฟช่วงเวลากลางคืนที่ถูกลง
ปัจจุบันในไทยมีสถานีชาร์จสาธารณะกว่า 500 แห่งครอบคลุมเมืองหลักๆ และสามารถตรวจสอบจุดชาร์จที่ว่างได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบนำทางของ Tesla สำหรับการเดินทางไกล แนะนำให้เลือกใช้สถานีชาร์จที่ร่วมมือกับ Central Group หรือการไฟฟ้านครหลวง (MEA) เพื่อความมั่นใจในความเข้ากันได้ของระบบ
Q
Tesla Model 3 เปิดตัวเมื่อไหร่
Tesla Model 3 ปรากฏตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2019 ตอนนั้น Tesla เพิ่งเริ่มเปิดตัวในตลาดไทยและเริ่มรับจองอย่างเป็นทางการ ส่วนการส่งมอบรถจริงๆเริ่มทยอยกันมาตั้งแต่ปี 2020 รุ่นนี้ดึงดูดผู้บริโภคไทยจำนวนมากด้วยระยะขับขี่ที่เยี่ยมยอด ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติอันล้ำสมัย และการออกแบบภายในที่เรียบหรู โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพฯ เพราะรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าทั้งลดภาษีและให้เงินสนับสนุน ทำให้ Model 3 กลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่ขายดีในไทย สำหรับตลาดไทย Tesla เสนอ Model 3 แบบสองขับเคลื่อนพร้อมแบตเตอรี่ระยะมาตรฐานกับแบบสี่ขับเคลื่อนพร้อมแบตเตอรี่ระยะยาว ที่ให้ระยะขับขี่ได้ประมาณ 400 กม. และมากกว่า 500 กม. ตามลำดับ เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนเมืองและการเดินทางใกล้ๆ ในไทย แถม Tesla ยังขยายเครือข่ายซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ทั่วประเทศ ช่วยให้เจ้าของรถชาร์จไฟได้สะดวกขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรัฐบาลไทยยังเดินหน้านโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าต่อไป เทสลาคาดว่าจะนำรุ่นอื่นๆ เข้ามาในตลาดไทยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย พร้อมๆ กับช่วยพัฒนาระบบสาธารณูปโภคสำหรับรถไฟฟ้าในประเทศให้ดีขึ้น
Q
Tesla Model 3 มีความจุแบตเตอรี่เท่าไหร่
สำหรับ Tesla Model 3 ที่วางขายในตลาดไทย ความจุแบตเตอรี่จะแตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (Standard Range Plus) จะใช้แบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate (LFP) ความจุประมาณ 60 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ส่วนรุ่น Long Range และ Performance จะใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion แบบ NCA หรือ NCM ความจุประมาณ 82 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งความจุจริงอาจมีการปรับเปลี่ยนบ้างตามปีที่ผลิตและสเปคของรถ ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ทำงานมีประสิทธิภาพดี แต่แนะนำให้เจ้าของรถหลีกเลี่ยงการชาร์จเร็วบ่อยๆ เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ นอกจากนี้เครือข่ายสถานีชาร์จในไทยกำลังขยายตัวเร็วมาก โดยมีทั้ง Supercharger ของ Tesla และสถานีชาร์จของบริษัทอื่นครอบคลุมทั้งในเมืองใหญ่และเขตท่องเที่ยว สะดวกสำหรับการเดินทางไกล อย่างไรก็ตาม ระยะทางจริงที่รถวิ่งได้จะขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ การใช้แอร์ และสภาพถนน เช่น การติดขัดในกรุงเทพอาจทำให้กินไฟมากขึ้น ส่วนแบตเตอรี่แบบ LFP นั้นเหมาะกับการใช้งานในไทยที่ต้องชาร์จบ่อย เพราะทนความร้อนได้ดีและอายุการใช้งานยาวนานกว่า รัฐบาลไทยยังมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถ EV ทำให้ Model 3 ได้รับการลดหย่อนภาษีนำเข้า จึงมีราคาจับต้องง่ายขึ้นในตลาดไทย อีกทั้ง Tesla ยังอัปเดตระบบจัดการแบตเตอรี่ผ่าน OTA เป็นประจำ ผู้ใช้ไม่ต้องไปศูนย์บริการก็ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นได้เลย
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

MAZDA6e โผล่ตัวที่งานแสดงรถยนต์ยุโรปในเบรูสเซลส์ แบตเตอรี่ 80kWh สามารถรองรับการเดินทางแบบไฟฟ้าเ pureิด 552 กม.
สุรเดชJan 14, 2025

ข่าวลือ: Toyota และ Mazda ร่วมมือกันพัฒนารถรุ่นถัดไป MX-5 และ GR86
ณัฐวุฒิOct 6, 2025

Mazdaออสเตรเลียกล่าวว่าในปัจจุบันจะไม่มีการเปิดตัว BT-50 รุ่นไฟฟ้า
ธนวัฒน์Aug 28, 2025

Mazda 3 ปี 2026 เปิดตัวในอเมริกาเหนือ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.5L NA ทั้งไลน์อัพ
ธนวัฒน์Aug 22, 2025

รุ่นที่สามของ Mazda CX-5 เปิดตัวในยุโรป มาพร้อมหน้าจอกลางที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Mazda
วิรุฬห์Jul 11, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย