Q
ทดลองขับ Ora good cat ได้ที่ไหนบ้าง?
ในประเทศไทย คุณสามารถไปที่ตัวแทนจำหน่าย GWM ในพื้นที่เพื่อทดลองขับ Ora Good Cat ศูนย์ขายรถยนต์ขนาดใหญ่ในเมืองหลัก เช่น กรุงเทพมหานคร และเชียงใหม่ อาจมีบริการทดลองขับรุ่นนี้ให้บริการ นอกจากนี้คุณยังสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่และขั้นตอนการทดลองขับในพื้นที่ของคุณได้ผ่านเว็บไซต์ทางการของแบรนด์หรือหมายเลขโทรศัพท์บริการลูกค้า
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Ora Good Cat มีอะไรบ้าง?
แม้ Ora Good Cat จะมีจุดเด่นหลายด้าน แต่ก็มีข้อด้อยบางประการที่ควรพิจารณาเช่นกัน เริ่มจากพื้นที่เก็บของด้านหลังที่ค่อนข้างเล็ก ถ้าขับรถออกทริปกับครอบครัวแล้วต้องขนของเยอะ อาจรู้สึกว่าไม่เพียงพอ รถรุ่นนี้จะเหมาะกับการเดินทางคนเดียวมากกว่า
เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบายนัก โดยเฉพาะเวลาเจอถนนขรุขระ เพราะขนาดตัวรถและระบบช่วงล่างมีผลต่อความนุ่มนวลของการโดยสาร นอกจากนี้ ระบบเบรกบางครั้งจะมีเสียงดังขณะใช้งาน ซึ่งอาจสร้างความรำคาญ
ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถก็ยังไม่ค่อยลื่นไหล การใช้งานยุ่งยาก ผู้ช่วยเสียงบางทีก็ค้างหรือเด้งขึ้นมาเองโดยไม่มีเหตุผล อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในเรื่องความสะดวก เช่น ประตูฝั่งคนขับเท่านั้นที่สามารถปลดล็อกแยกได้ เวลาพาเด็กขึ้นรถอาจไม่สะดวก เบาะปรับไฟฟ้าก็มีแค่ฝั่งคนขับ บางจุดของรถยังให้วัสดุที่ดูเป็นพลาสติกเกินไป เช่น ที่ปัดน้ำฝน และในวันที่ฝนตกหนัก ความเร็วสูงสุดของที่ปัดน้ำฝนอาจไม่เพียงพอ
ด้านหลังไม่มีช่องแอร์หรือไฟในห้องโดยสาร การซับแรงกระแทกของช่วงล่างยังทำได้แค่ระดับทั่วไป และเพลงในระบบก็มีให้เลือกไม่มากนัก โดยรวมคือยังมีหลายจุดที่ควรปรับปรุงสำหรับการใช้งานที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นค่ะ
Q
ORA Good Cat อยู่ในกลุ่มรถ Segment ไหน?
ORA Good Cat จัดอยู่ในกลุ่มรถ B-Segment หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า “รถขนาดเล็ก” ซึ่งรถประเภทนี้จะมีขนาดตัวถังที่เล็ก กะทัดรัด คล่องตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นถนนแคบๆ หรือที่จอดรถจำกัดก็เอาอยู่
สำหรับ ORA Good Cat ตัวรถมีความยาว 4,254 มม. กว้าง 1,848 มม. สูง 1,596 มม. และระยะฐานล้อ 2,650 มม. ซึ่งถือว่าขนาดกำลังดี ใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีระยะทางขับขี่สูงสุด 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และอัตราการใช้พลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 11.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เหมาะมากกับคนที่ใช้รถในเมืองเป็นประจำ ทั้งประหยัดทั้งใช้งานได้จริงค่ะ
Q
มูลค่าการขายต่อของ Ora Good Cat ประมาณเท่าไหร่?
ราคาขายต่อของรถยนต์มือสองอย่าง Ora Good Cat นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปีรุ่น ระยะทางที่ใช้งาน สภาพรถโดยรวม และความต้องการในตลาด โดยทั่วไปแล้ว รถไฟฟ้าแบบ Ora Good Cat มักจะได้รับผลกระทบจากสภาพแบตเตอรี่และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ล่าสุด ราคาเริ่มต้นของรถมือสองรุ่น Ora Good Cat GT อยู่ที่ 65,520 บาท ส่วนรุ่นมาตรฐาน Ora Good Cat เริ่มต้นที่ 50,000 บาท แต่นี่เป็นแค่ราคาเบื้องต้นเท่านั้น ราคาจริงอาจแตกต่างกันไป
เวลาขายรถ Ora Good Cat มือสอง ถ้ารถได้รับการดูแลดี ใช้งานน้อย และมีเอกสารครบถ้วน ก็มีโอกาสได้ราคาดี นอกจากนี้ ถ้ารุ่นนั้นมีฟีเจอร์พิเศษหรือเป็นที่นิยมในตลาด ก็อาจช่วยเพิ่มมูลค่ารถได้ ในทางกลับกัน ถ้ามีการอัปเกรดสำคัญในรุ่นใหม่ๆ หรือตลาดรถไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลง ก็อาจทำให้ราคาขายต่อลดลงได้
Q
Ora Good Cat มีกี่ซีซี
คำถามและคำตอบนี้ยกเลิกแล้ว ไม่ต้องแปลหรือนำขึ้นแสดง
Q
PCD ของล้อ ORA Good Cat คือขนาดเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะรูดุมล้อ) ของรถ ORA Good Cat คือ 5×114.3 มม. หมายความว่ามีรูน็อต 5 รู วางเรียงบนวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มม. ซึ่งเป็นขนาดที่ใช้กันทั่วไปในรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda City, Toyota Yaris และ Nissan Almera ที่ผลิตขายในไทย ทำให้การหาล้อแม็กรุ่นอื่นๆ มาเปลี่ยนหรือแต่งล้อในไทยทำได้ง่าย มีตัวเลือกเยอะ
อย่างไรก็ตาม เวลาจะเปลี่ยนล้อ ควรดูนอกจาก PCD แล้ว ยังต้องเช็กขนาดรูดุมกลาง (CB) และค่า Offset (ET) ให้ตรงด้วย โดย ORA Good Cat มีขนาดรูดุมกลางประมาณ 63.4 มม. (แนะนำให้เช็กกับรถจริงอีกครั้งเพื่อความชัวร์) ควรเลือกร้านล้อที่ได้มาตรฐาน ให้ช่างช่วยลองใส่จริงก่อนซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าใส่ได้พอดี ไม่สั่น
ในช่วงหน้าฝนของไทยที่ถนนลื่น ควรเลือกยางที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนดีเพื่อความปลอดภัย และถ้าคิดจะเปลี่ยนล้อใหม่ แนะนำให้ใช้ล้อที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก. หรือ TISI) และขนาดต้องตรงกับที่จดทะเบียนไว้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเวลาไปตรวจสภาพรถหรือเคลมประกันค่ะ
Q
รถ ORA Good Cat รองรับระบบ Apple CarPlay ไหม?
รถ ORA Good Cat รองรับระบบ Apple CarPlay ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ iPhone ได้อย่างลงตัว แค่เชื่อมต่อมือถือกับพอร์ต USB ในรถด้วยสายเคเบิลก็ใช้ได้ทันที โดยฟีเจอร์นี้เหมาะมากกับอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ เพราะเวลาขับรถคุณไม่ต้องก้มไปกดโทรศัพท์ให้เสี่ยงอันตราย แค่ใช้ผ่าน CarPlay ก็จัดการแผนที่ ฟังเพลง หรือรับสายได้สะดวกเลย แต่ต้องระวังหน่อยนะครับ บางรุ่นอาจต้องอัปเดตระบบผ่าน OTA ก่อนถึงจะใช้ CarPlay ได้ แนะนำให้ถามพนักงานขายตอนซื้อรถว่าซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือเปล่า
อีกเรื่องที่ควรจำไว้คือต้องอัปเดต iOS บน iPhone ให้ใหม่เสมอจะได้ใช้งานได้ลื่นๆ และควรใช้สายเคเบิลแท้จาก Apple ครับ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่ถนนวุ่นวาย CarPlay จะช่วยนำทางคุณได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ขับรถสะดวกขึ้นมาก แถมรถรุ่นนี้ยังรองรับ Android Auto สำหรับคนใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ด้วย ช่วยลดความเสี่ยงเวลาต้องจับโทรศัพท์ขณะขับรถในช่วงหน้าฝนได้ดีเลยทีเดียว
Q
ยี่ห้อยางรถของ Ora Good Cat มีอะไรบ้าง?
ORA Good Cat ที่วางจำหน่ายในไทย ส่วนใหญ่จะมาพร้อมยางติดรถจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น Giti หรือ Maxxis โดยยี่ห้อของยางอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยและล็อตการผลิต ขนาดยางที่พบได้บ่อยคือ 215/50 R17 หรือ 215/55 R18 ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ให้ทั้งความนุ่มนวลในการขับขี่และการยึดเกาะถนนได้ดี เหมาะกับสภาพถนนในเมืองที่หลากหลายของไทย รวมถึงถนนลื่นในช่วงหน้าฝน
แนะนำให้เจ้าของรถในไทยหมั่นตรวจเช็คลมยางและการสึกหรอของยางอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนที่ลมยางมีแนวโน้มจะขยายตัว ควรรักษาค่าลมยางให้อยู่ในระดับที่ผู้ผลิตแนะนำ ซึ่งมักจะระบุไว้ที่ขอบประตูฝั่งคนขับหรือฝาถังน้ำมัน เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยาง
หากต้องเปลี่ยนยางในไทย สามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการรถยนต์อย่าง B-Quik ซึ่งมีบริการตรวจเช็คและเปลี่ยนยางอย่างมืออาชีพ หรือจะเลือกใช้ยางแบรนด์เดิมหรือระดับพรีเมียมอย่าง Michelin หรือ Bridgestone ก็ได้ เพื่อความเงียบในการขับขี่และประสิทธิภาพบนถนนเปียกที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนที่เส้นทางลื่นง่ายค่ะ
Q
ORA Good Cat เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกัน
ORA Good Cat ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนรถรุ่นอื่นๆ ค่ะ
ในส่วนของข้อดี รถรุ่นนี้มาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 เช่น กล้องมองรอบคัน 360 องศา และระบบจอดรถอัตโนมัติด้วย AI ซึ่งช่วยให้ขับง่ายขึ้น โดยเฉพาะมือใหม่หรือผู้หญิงที่ต้องการความมั่นใจเวลาใช้งาน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สตาร์ทรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ และสามารถสั่งงานผ่าน Bluetooth ได้อีกด้วย การชาร์จไฟก็รวดเร็วพอสมควร ชาร์จจาก 15% ไปถึง 80% ด้วยระบบชาร์จเร็วแบบ DC ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรด้านหน้าให้แรงบิดที่ต่อเนื่อง ทำให้การเร่งความเร็วลื่นไหลดี
แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน เช่น พื้นที่เก็บของด้านหลังค่อนข้างเล็ก ถ้าต้องเดินทางไกลหรือขนของเยอะอาจไม่สะดวก และเนื่องจากขนาดตัวรถกับช่วงล่าง ทำให้เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบาย โดยเฉพาะเวลาวิ่งผ่านถนนขรุขระ บางคนที่ใช้งานจริงยังบ่นเรื่องเบรกมีเสียงแปลกๆ ระบบความบันเทิงบางทีรวน เช่น ผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียงใช้งานไม่ได้เป็นบางครั้ง ระบบปลดล็อกประตูทีละบานไม่สะดวก ปรับเบาะอัตโนมัติได้น้อย ที่ปัดน้ำฝนไม่ค่อยดี ไม่มีช่องแอร์หรือไฟอ่านหนังสือด้านหลัง ระบบกันเสียงไม่ค่อยดี และเพลงที่ติดมากับรถก็ค่อนข้างธรรมดา
สุดท้าย รถรุ่นนี้จะเหมาะกับเราหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนค่ะ ถ้าชอบดีไซน์น่ารัก ขับในเมืองเป็นหลัก และเน้นความประหยัด ก็ถือว่าน่าใช้ไม่น้อยเลยค่ะ
Q
ความกว้างของ Ora Good Cat คือเท่าไร
ความกว้างของรถ ORA Good Cat ในแต่ละรุ่นนั้นมีความแตกต่างกัน โดยรุ่นปี 2022 และ 2021 จะมีความกว้างอยู่ที่ 1,825 มม. ส่วนรุ่นปี 2024 นั้นกว้างขึ้นมาอีกหน่อยอยู่ที่ 1,848 มม. ความกว้างของรถถือเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อการจัดวางพื้นที่ภายใน การควบคุมรถ รวมไปถึงการขับขี่บนถนนด้วยนะครับ ถ้ารถกว้างมากขึ้นก็จะทำให้มีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้น ผู้โดยสารและคนขับก็จะนั่งสบายขึ้น แต่ข้อควรระวังคือเวลาเจอถนนแคบๆ หรือต้องจอดในที่จำกัด อาจต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นนิดหน่อยครับ
Q
ภาษีรถยนต์ของ ORA Good Cat อยู่ที่เท่าไหร่ ?คำนวณยังไง?
รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) มักจะได้รับอัตราภาษีที่พิเศษกว่าปกติ อย่างเช่น ORA Good Cat ที่เป็นรถไฟฟ้า 100% ก็เสียภาษีรถยนต์ปีละแค่ประมาณ 800-1,500 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปมาก นี่เป็นนโยบายส่งเสริมจากรัฐบาลไทยที่อยากให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้าให้มากขึ้น
แนะนำให้เจ้าของรถในไทยจ่ายภาษีรถยนต์ระหว่างวันที่ 1 มกราคมถึง 30 เมษายนของทุกปี จะไปจ่ายที่กรมการขนส่งทางบก (Department of Land Transport) หรือที่สาขาธนาคารบางแห่งก็ได้ แต่ถ้าช้ากว่านี้อาจโดนค่าปรับเพิ่มนะ
นอกจากภาษีรถยนต์ที่ถูกแล้ว การซื้อ ORA Good Cat ยังได้สิทธิประโยชน์อื่นๆ จากรัฐบาลอีก เช่น ส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท และยังได้สิทธิ์ไม่ต้องเสียค่าผ่านทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย สำหรับใครที่ต้องขับรถในเมืองบ่อยๆ สิทธิ์พวกนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยล่ะ!
Q&A ล่าสุด
Q
ราคาของ Swift 2024 คือเท่าไหร่?
รถยนต์ Suzuki Swift รุ่นปี 2024 ที่ขายในประเทศไทยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 567,000 ถึง 637,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย รถคันนี้เป็นที่นิยมในหมู่คนไทยเพราะความประหยัดและประสิทธิภาพในการใช้งาน เหมาะสมกับการขับขี่ในเมืองเป็นอย่างดี ตัวรถใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบสูบธรรมดาคู่กับเกียร์ CVT ที่ทำงานได้ดีแม้ในสภาพการจราจรติดขัดของไทย ขนาดตัวรถที่กะทัดรัดยังช่วยให้จอดง่าย ส่วนเรื่องความปลอดภัยก็มีระบบ ABS และถุงลมนิรภัย 2 ใบ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดไทย เมื่อเทียบกับคู่แข่งในราคาใกล้เคียงอย่าง Honda Brio และ Toyota Yaris แล้ว Swift ยังได้เปรียบในเรื่องค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่าและความน่าเชื่อถือของ Suzuki ในตลาดรถขนาดเล็ก แนะนำให้ไปทดลองขับและสอบถามโปรโมชั่นล่าสุดที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ส่วนเรื่องภาษี รัฐบาลไทยยังมีนโยบายสนับสนุนรถประหยัดพลังงาน ทำให้รถเศรษฐกิจอย่าง Swift น่าสนใจมากขึ้น
Q
Swift 2024 จะมีรุ่นอะไรบ้าง?
รุ่นปี 2024 ของ Suzuki Swift ในตลาดไทยมีให้เลือกหลายรุ่น ทั้งรุ่นเริ่มต้นอย่าง GL รุ่นกลางอย่าง GL Plus และรุ่นสูงสุดอย่าง GLX ทุกรุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบธรรมชาติและเกียร์ CVT ที่เน้นความประหยัดและเหมาะกับการใช้ชีวิตในเมือง คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความประหยัดน้ำมันเป็นพิเศษ ซึ่ง Swift ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาและระบบขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ แถมยังจอดง่ายเพราะขนาดตัวกะทัดรัด พูดถึงความปลอดภัย รุ่นปี 2024 นี้มีการอัปเกรดระบบเซฟตี้ โดยมีถุงลมนิรภัยคู่ ระบบ ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ มาตรฐานทุกรุ่น ส่วนรุ่นสูงยังเพิ่มกล้องถอยหลังให้อีกด้วย สำหรับคนไทยแล้ว Swift ถือเป็นตัวเลือกคุ้มค่า แม่ซื้อคันแรกสำหรับวัยรุ่นหรือจะเป็นคันสองของครอบครัวก็เหมาะเลย สภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก Swift ก็ผ่านการปรับแต่งระบบแอร์และการป้องกันสนิมให้เหมาะกับบ้านเรา ทนทานใช้ได้ยาวๆ ถ้าอยากได้รถญี่ปุ่นคุณภาพดีราคาไม่แรง Swift นี่แหละที่น่าลอง แต่แนะนำให้ไปทดลองขับดูก่อนจะดีที่สุด จะได้รู้สึกถึงการควบคุมที่คล่องตัวและระบบช่วงล่างที่ปรับมาเหมาะกับถนนไทยโดยเฉพาะ
Q
ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงของ Swift 2024 เป็นอย่างไร?
รถยนต์ Suzuki Swift รุ่นปี 2024 ในประเทศไทย มีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมมาก รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดา เมื่อทดสอบการขับขี่แบบผสมผสานแล้วพบว่ากินน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 4.5-5.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการรถขนาดเล็กประหยัดน้ำมันของตลาดไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ
ตัวรถออกแบบมาให้โครงสร้างเบา พร้อมเกียร์ CVT ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเพิ่มความประหยัดน้ำมันให้ดีขึ้นอีกขั้น แถมยังผ่านมาตรฐานการปล่อยไอเสียตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมของไทยอีกด้วย
ถ้าเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกันอย่าง Honda Brio หรือ Toyota Yaris Ativ แล้วจะพบว่า Swift ประหยัดน้ำมันพอๆ กัน แต่ตัวรถมีความคล่องตัวกว่า ขับขี่ในซอยแคบๆ ได้สะดวกมากกว่า เวลาเลือกซื้อแนะนำว่าควรบริการรักษารถตามกำหนดและใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดตามที่ผู้ผลิตแนะนำ จะช่วยรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันในระยะยาวได้
สำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย การใช้แอร์อย่างเหมาะสมก็ช่วยป้องกันไม่ให้รถกินน้ำมันเกินปกติ แนะนำตั้งอุณหภูมิแอร์ที่ 24-26 องศาจะช่วยให้ได้ทั้งความสบายและประหยัดน้ำมันไปพร้อมกัน
Q
อะไรคือพลังขับเคลื่อนของ Swift 2024?
Swift รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร แบบสูบธรรมชาติ 4 สูบ รหัสเครื่อง K12C ที่ใช้เทคโนโลยี DualJet หรือระบบฉีดน้ำมันดับเบิ้ลพอยท์ ให้กำลังสูงสุด 82 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์ CVT ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันแบบสุดๆ เหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองไทยที่ต้องเร่ง-หยุดบ่อยๆ เครื่องยนต์ตัวนี้ยังคงความเหนือชั้นของซูซูกิในด้านเครื่องยนต์ขนาดเล็ก โครงสร้างกะทัดรัดและค่าบำรุงรักษาไม่แพง แถมยังผ่านมาตรฐานไอเสียใหม่ของไทยอีกด้วย ที่สำคัญตลาดไทยนิยมรถขนาดเล็กพอดี สวิฟท์ที่น้ำหนักเบาร่วมกับเครื่องยนต์นี้ให้ความรู้สึกขับขี่คล่องตัว ส่วนเทคโนโลยี DualJet ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการฉีดน้ำมันและจัดการกับความร้อนของเครื่องยนต์ในสภาพอากาศร้อนของไทยได้เป็นอย่างดี ถ้าเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างเครื่อง 1.2L i-VTEC ของ Honda หรือ 1.2L Dual VVT-i ของ Toyota แล้ว เครื่องสวิฟท์จะให้แรงบิดต่ำที่ตอบโจทย์การขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่ติดขัดบ่อยๆ แถมยังมีการตั้งค่าตัวถังแบบปรับให้เหมาะกับถนนไทยโดยเฉพาะอีกต่างหาก
Q
“Swift 2024 คะแนนเป็นเท่าไร?”
รุ่น Suzuki Swift 2024 ในตลาดไทยทำคะแนนได้ดีมาก โดยเฉพาะเรื่องความประหยัดน้ำมัน การขับขี่คล่องตัว และราคาที่เข้าถึงง่าย จนถูกใจคนไทยแบบสุดๆ รุ่นที่ขายในไทยมักมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2L แบบปกติหรือ 1.0T แบบไฮบริดเบาๆ คู่กับเกียร์ CVT ที่เหมาะกับสภาพรถติดในกรุงเทพฯ โดยสิ้นเชิง ข้อมูลจากผู้ผลิตระบุว่าระยะทาง 100 กิโลเมตรใช้น้ำมันแค่ 4.2 ลิตรเท่านั้น ส่วนเรื่องความปลอดภัย รุ่นไทยมาตรฐานจะมีถุงลมนิรภัย 2 ใบ ระบบ ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ ในรุ่นสูงอาจมีฟังก์ชั่นเสริมเช่นกล้องถอยหลังให้ด้วย
ในตลาดรถเล็กของไทย Swift ต้องแข่งกับ Honda Brio และ Toyota Yaris โดยจุดเด่นของ Swift คือค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่าและเทคโนโลยีลดน้ำหนักรถที่ Suzuki ทำมานานจนชำนาญ ข้อแนะนำสำหรับคนไทยที่สนใจซื้อคือควรสอบถามนโยบายการรับประกันจากศูนย์ฯ บางแห่งอาจมีโปรโมชั่นบริการฟรีให้ด้วย นอกจากนี้ สิทธิประโยชน์ทางภาษีของรัฐบาลไทยสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอาจส่งผลต่อราคาซื้อขายขั้นสุดท้าย ขอแนะนำให้เปรียบเทียบราคาจากตัวแทนจำหน่ายในจังหวัดต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

BYD Dolphin vs ORA Good Cat ปลาโลมากับแมว ถ้ามีงบ 900,000 บาท คุณจะเลือกรุ่นไหนดี?
AshleyJun 26, 2024

ข้อมูลยอดขายของ ORA ในพฤษภาคม ยอดขายในตลาดไทยได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ!
AshleyJun 12, 2024

ORA GOOD CAT รถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ที่น่ารักเหมือนแมวบ้าน มีจุดเด่นสำคัญอะไรบ้าง?
Kevin WongMay 9, 2024

Ora Good Cat รถยนต์ CKD ของไทย มีราคาตั้งแต่ 799,000 บาท ระยะการใช้งาน 480 กิโลเมตร
LienMay 5, 2024

เปิดตัว Ora good cat รุ่น 2024ที่งานแสดงรถปักกิ่งปี 2024 เพิ่มสีสันเเละความน่ารักขึ้นไปอีกเท่าตัว!
AshleyApr 26, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย