Q

โตโยต้ายาริสครอสผลิตที่ไหน

Toyota Yaris Cross ส่วนใหญ่จะผลิตที่โรงงานในประเทศไทยและบางแห่งที่ได้รับการคัดเลือกจาก Toyota ในภูมิภาคต่างๆ โดยที่ Toyota มีโรงงานผลิตทั่วโลกเพื่อรองรับความต้องการในแต่ละตลาด สำหรับตลาดไทย การผลิตในท้องถิ่นช่วยลดต้นทุน ปรับให้เหมาะสมกับลักษณะของตลาดไทย และยังสามารถรับประกันความรวดเร็วและความเสถียรในการจัดหาสินค้าได้อีกด้วย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Toyota Yaris Cross มีอะไรบ้าง?
Toyota Yaris Cross มีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น พื้นที่ภายในรถค่อนข้างแคบ โดยเฉพาะสำหรับคนตัวสูง หากผู้ขับมีความสูงมาก อาจปรับเบาะให้นั่งสบายได้ยาก และหากมีผู้โดยสารที่สูงเกิน 180 ซม. นั่งด้านหน้า คนที่นั่งเบาะหลังจะรู้สึกอึดอัด ในด้านสมรรถนะ รถรุ่นนี้ไม่ได้เน้นความแรง การเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ไม่ได้โดดเด่น และไม่ค่อยให้ความรู้สึก “แรงดึงหลัง” เท่าไหร่ ภายในห้องโดยสารใช้พลาสติกแข็งค่อนข้างมาก ทำให้ความรู้สึกของวัสดุและคุณภาพสัมผัสดูธรรมดา นอกจากนี้ การใช้งานบางฟังก์ชันก็ไม่สะดวก เช่น การปิดบางระบบต้องเข้าไปตั้งค่าลึกในเมนูหน้าจอ บางเมนูใช้งานได้เฉพาะตอนรถจอดเท่านั้น และบางฟังก์ชันต้องทำตามขั้นตอนตามข้อกำหนดของยุโรปทุกครั้งที่ใช้งาน
Q
Toyota Yaris Cross อยู่ใน Segment ไหน?
Toyota Yaris Cross เป็นรถในระดับ C-Segment หรือก็คือรถคอมแพคที่มีขนาดกำลังดี ความยาว 4,310 มม. กว้าง 1,770 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,620 มม. ทำให้ขับขี่ในชีวิตประจำวันได้สะดวกและจอดง่าย มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติ (NA) ให้กำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร และยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเสริมกำลัง ทำให้ระบบรวมให้กำลังสูงถึง 82 กิโลวัตต์ เพียงพอต่อการขับขี่ทั่วไป ราคาอยู่ที่ 789,000 ถึง 899,000 บาท ซึ่งเป็นช่วงราคาที่เหมาะสมสำหรับหลายครอบครัวที่กำลังมองหารรถสักคัน นอกจากนี้ Toyota Yaris Cross ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายครบครัน ทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพ ถุงลมนิรภัย 6 ตัน แอร์หลัง ให้ความสบายทุกที่นั่ง เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง ท่องเที่ยวใกล้ๆ หรือใช้เป็นรถครอบครัวในชีวิตประจำวัน
Q
ราคารถมือสองของ Toyota Yaris Cross ประมาณเท่าไหร่?
ราคารถมือสองของ Toyota Yaris Cross ขึ้นอยู่กับรุ่น ปีที่ผลิต สภาพรถ และระยะทางที่ใช้งาน ปัจจุบันรุ่นปี 2023 เช่น Yaris Cross HEV Smart มีราคาประมาณ 789,000 บาท, รุ่น HEV Premium ราคา 849,000 บาท และรุ่น HEV Premium Luxury ราคา 899,000 บาท ส่วนรุ่นปี 2020 ยังไม่มีข้อมูลการขายชัดเจน ถ้ารถปีใหม่ สภาพดี และวิ่งน้อย ราคาขายต่อก็จะสูงกว่า แต่ถ้ารถเก่า มีรอยหรือวิ่งมาเยอะ ราคาจะลดลงมาก โดยทั่วไปแล้วรถที่ใช้งานไปแล้ว ราคาขายต่อจะลดลงจากราคาป้ายแดงพอสมควร ซึ่งราคาที่แน่นอนควรให้ผู้ประเมินรถมือสองเป็นคนดูโดยตรงเพื่อความแม่นยำ
Q
เครื่องยนต์ของ Toyota Yaris Cross มีความจุกี่ซีซี?
Toyota Yaris Cross ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,496 ซีซี หรือที่เรียกกันว่า 1.5 ลิตร เป็นเครื่องยนต์แบบเบนซินธรรมดา 4 สูบ ระบบดูดอากาศเป็นแบบธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริดที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังเพียงพอต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวัน มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnet Synchronous Motor) ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และมาพร้อมเกียร์ E-CVT ที่ช่วยให้ขับขี่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมันอีกด้วย.
Q
Toyota Yaris Cross ใช้เครื่องยนต์แบบไหน?
Toyota Yaris Cross มีหลายรุ่นให้เลือก โดยบางรุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบธรรมดา (NA) เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (67 กิโลวัตต์) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริด ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรซิงโครนัส ให้กำลังสูงสุด 80 แรงม้า (59 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร เมื่อรวมทั้งระบบแล้ว ให้กำลังรวม 111 แรงม้า และแรงบิดรวม 121 นิวตันเมตร การจับคู่ระหว่างเครื่องยนต์และระบบไฮบริดนี้ ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน ขับขี่นุ่มนวล เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและขับทางไกล ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
Q
เกียร์ของ Toyota Yaris Cross เป็นแบบไหน?
Toyota Yaris Cross ใช้เกียร์แบบ E-CVT ซึ่งเป็นเกียร์ที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การส่งกำลังนุ่มนวล ประหยัดน้ำมัน และขับขี่สบาย เกียร์ E-CVT ยังสามารถปรับอัตราทดได้ตามสภาพถนนและความต้องการของผู้ขับขี่ ช่วยให้รถตอบสนองได้ดีในทุกสถานการณ์ รุ่นต่างๆ ของ Yaris Cross เช่น Smart, Premium และ Premium Luxury ก็ใช้เกียร์แบบนี้ทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจในสมรรถนะที่มั่นคงของตัวรถ
Q
ขนาด PCD ของ Toyota Yaris Cross คือเท่าไหร่?
Toyota Yaris Cross ที่วางขายในไทยใช้ล้อที่มีขนาด PCD 5×100 (หมายถึงมีรูน็อต 5 รู วัดระยะวงกลมได้ 100 มม.) ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานเดียวกับรถ SUV ขนาดเล็กหลายรุ่น เช่น Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross ก็ใช้ขนาดนี้เช่นกัน ถ้าคิดจะเปลี่ยนล้อแม็ก แนะนำให้ตรวจสอบขนาดรูดุมกลาง (CB) และค่า Offset (ET) ให้เหมาะสมด้วย ร้านแต่งรถในไทยส่วนใหญ่จะแนะนำล้อที่ผ่านมาตรฐาน JWL/VIA เพื่อความปลอดภัย และมักแนะนำแบรนด์ดัง เช่น Enkei หรือ Rays ที่เป็นล้อแบบน้ำหนักเบา ช่วยประหยัดน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนล้อที่มีขนาดแตกต่างมากจากเดิม อาจกระทบระบบช่วงล่างหรือเงื่อนไขการรับประกันของศูนย์ แนะนำให้ปรึกษาศูนย์บริการ Toyota ในไทยก่อนตัดสินใจเปลี่ยนครับ
Q
Toyota Yaris Cross มีฟังก์ชัน Apple CarPlay ไหม?
Toyota Yaris Cross รองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay ขึ้นอยู่กับรุ่นและปีของรถ โดยทั่วไปแล้ว รุ่นปี 2022 ขึ้นไปจะมาพร้อม CarPlay แบบไร้สายที่สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่านหน้าจอกลางเพื่อใช้งานแผนที่ ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ได้ทันที แต่สำหรับรุ่นก่อนหน้าหรือรุ่นย่อยบางรุ่นอาจต้องเชื่อมต่อผ่านสาย USB แนะนำให้ตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่าย Toyota ในประเทศไทยก่อนตัดสินใจซื้อ หากพบปัญหาในการเชื่อมต่อ สามารถนำรถเข้ารับบริการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ศูนย์บริการ Toyota ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดได้ฟรีภายในระยะเวลารับประกัน เพื่อให้ระบบรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้เต็มรูปแบบ.
Q
ยางติดรถ Toyota Yaris Cross ใช้ยี่ห้ออะไร?
ยางติดรถเดิมของ Toyota Yaris Cross จะขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและออปชั่นที่เลือก โดยส่วนใหญ่ใช้ยี่ห้อระดับโลก เช่น Bridgestone หรือ Dunlop รุ่นยอดนิยมก็เช่น Bridgestone Ecopia หรือ Dunlop Enasave ที่เน้นความประหยัดน้ำมันและเงียบขณะขับขี่ ขนาดยางที่พบได้บ่อยคือ 215/60 R17 หรือ 215/55 R18 แล้วแต่รุ่น เวลาจะเปลี่ยนยาง แนะนำให้เลือกยี่ห้อและขนาดเดียวกับของเดิม โดยเฉพาะถ้าขับบ่อยช่วงหน้าฝน อาจเลือกยางที่รีดน้ำดีอย่าง Michelin Primacy 4 ก็ได้ แต่หลังเปลี่ยนควรตั้งค่าระบบตรวจเช็คลมยาง (TPMS) ใหม่ และควรหมุนสลับยางตามระยะที่ศูนย์บริการ Toyota เพื่อลดการสึกหรอ เพราะสภาพอากาศร้อนในไทยทำให้ยางเสื่อมเร็ว.
Q
Toyota Yaris Cross เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกันเลย
Toyota Yaris Cross ถือว่าเป็นรถที่ดีรุ่นหนึ่ง มีข้อดีหลายด้าน โดยตัวรถถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม DNGA เป็น SUV ขนาดกะทัดรัด ดีไซน์ทันสมัย โดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหญ่และไฟหน้า LED ที่ดูเฉียบคม กันชนหน้าเสริมมิติให้รถดูสปอร์ตมากขึ้น ด้านความปลอดภัยก็จัดเต็ม มาพร้อม ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ให้ความมั่นใจในการขับขี่ ส่วนระบบขับเคลื่อนเป็นแบบไฮบริด ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 3.8 ลิตรต่อ 100 กม. เหมาะกับการใช้งานในเมือง ภายในออกแบบลงตัว พื้นที่ใช้สอยพอเหมาะ ระยะฐานล้อ 2,620 มม. และความสูง 1,615 มม. เพียงพอต่อการใช้งานประจำวัน อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดที่ควรพิจารณา เช่น สมรรถนะเครื่องยนต์อาจยังไม่ตอบโจทย์การเร่งแซงบนทางด่วน และวัสดุบางจุดในห้องโดยสารอาจไม่หรูหรามากนัก อาจไม่ถูกใจสายเน้นพรีเมียม.

ข้อดี

ขับได้สบายในพื้นที่
ระบบขับเคลื่อนประหยัดน้ำมันรถวิ่งแบบไหลลื่นบนถนนในเมืองที่สภาพถนนไม่ดี,สามารถผ่านทางน้ำที่สะสมอยู่เล็กน้อย
สามารถนำของหายนะหลายตัวไปได้โดยที่ไม่ต้องขูดสระ
ไม่มีคู่แข่งที่เทียบเท่าในชั้นเดียวกันมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์
มาตรฐานด้วยกล้องถ่ายภาพหน้าและหลังบนรถ

ข้อเสีย

พื้นที่สำหรับสัมภาระอาจมากขึ้น
ราคาสูงเมื่อเทียบกับพลังงานและข้อมูลจำเพาะ
พลาสติกของภายในมากเกินไป
ระบบความปลอดภัยน้อยลง ไม่มีระบบความปลอดภัยริเริ่ม
เครื่องเสียงไม่รองรับ Apple CarPlay หรือ Android Auto ไม่มีแผนที่ภายใน

Q&A ล่าสุด

Q
Ram 2500 เป็นรถ 1 ตันหรือไม่?
ในด้านยานพาหนะ "one-ton vehicle" (ยานพาหนะระดับหนึ่งตัน) โดยทั่วไปหมายถึงความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุกของยานพาหนะใกล้เคียงหรือถึง 1 ตัน (1,000 กิโลกรัม) Ram 2500 มีหลายรุ่นและความสามารถในการรับน้ำหนักแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น แต่โดยรวมแล้วหลายเวอร์ชันมีความสามารถในการรับน้ำหนักใกล้เคียงหรือเกิน 1 ตัน ยานพาหนะนี้มีโครงสร้างช่วงล่างและระบบช่วงล่างที่แข็งแรง ทำให้สามารถรับน้ำหนักมากได้ และมีเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 6.4L V8 หรือ 6.7L I-6 เป็นต้น เครื่องยนต์แต่ละขนาดสามารถให้กำลังสนับสนุนในการรับน้ำหนักของยานพาหนะได้ แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลโดยตรงที่ระบุว่าความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุกของมันจะเท่ากับ 1 ตันพอดี แต่จากการกำหนดตำแหน่งของรุ่นยานพาหนะ การออกแบบ และประสิทธิภาพโดยรวม Ram 2500 ถือเป็นรุ่นยานพาหนะที่สามารถรับน้ำหนักประมาณ 1 ตันขึ้นไป และสามารถจัดอยู่ในหมวดหมู่ "one-ton vehicle" ได้ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการในการทำงานและการขนส่งที่ต้องการความสามารถในการรับน้ำหนักสูงได้เป็นอย่างดี
Q
Ram 2500 เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อหรือเปล่า?
Ram 2500 บางรุ่นเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4x4) และบางรุ่นเป็นขับเคลื่อนล้อหลัง (4x2) เช่น รุ่น Ram 2500 Laramie, Rebel, Power Wagon, Limited Longhorn และ Limited ปี 2023 จะเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อทั้งหมด เหมาะสำหรับการขับบนทางลุย ทางลื่น หรือพื้นผิวที่ไม่เรียบ เพราะสามารถส่งกำลังไปที่ล้อทั้ง 4 ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะและความมั่นคงในการขับขี่ ส่วนรุ่น Tradesman และ Big Horn ปี 2023 จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งเน้นการส่งกำลังและสมดุลในการควบคุม เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนเรียบหรือทางแห้งทั่วไป
Q
Ram 2500 ในอเมริการาคาอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ราคา Ram 2500 ในสหรัฐอเมริกาจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและออปชันที่เลือก โดยราคากลางในตลาดอยู่ที่ประมาณ 2.9 ถึง 3.9 แสนดอลลาร์สหรัฐ แต่ละรุ่นอย่าง Tradesman, Big Horn, Laramie, Rebel, Power Wagon, Limited Longhorn และ Limited จะมีความแตกต่างกันทั้งในด้านอุปกรณ์และสมรรถนะ Ram 2500 มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน เช่น เครื่อง 6.4 ลิตร V8 และเครื่องยนต์ดีเซล เช่น 6.7 ลิตร I-6 ซึ่งเครื่องยนต์แต่ละแบบก็จะมีผลต่อราคาด้วยเช่นกัน ยิ่งเลือกรุ่นที่มีอุปกรณ์ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีมาก ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้น ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามงบประมาณและการใช้งานของตัวเอง
Q
Ram 2500 ใช้น้ำมันเบนซินหรือดีเซลกันแน่?
Ram 2500 มีทั้งรุ่นที่ใช้เชื้อเพลิงเบนซินและรุ่นที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซล โดยรุ่นบางรุ่นใช้เชื้อเพลิงประเภทเบนซิน เช่น Ram 2500 Tradesman 6.4L V8 2023, Ram 2500 Big Horn 6.4L V8 2023 เป็นต้น รุ่นที่ใช้เชื้อเพลิงเบนซินเหล่านี้ติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6,392 มิลลิลิตร (6.4 ลิตร) ในขณะเดียวกันก็มีบางรุ่นที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซล เช่น Ram 2500 Limited Longhorn 6.7L I-6 2023, Ram 2500 Limited 6.7L I-6 2023 เป็นต้น ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ผู้บริโภคสามารถเลือกรุ่น Ram 2500 ที่ใช้เชื้อเพลิงเบนซินหรือดีเซลตามความต้องการของตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านกำลังเครื่องยนต์หรือการประหยัดเชื้อเพลิง
Q
Ram 2500 เครื่องยนต์ตัวไหนดีที่สุด?
เครื่องยนต์ในแต่ละรุ่นของ RAM 2500 มีจุดแข็งแตกต่างกันไป และไม่สามารถระบุได้ง่ายๆ ว่าแบบใดดีที่สุด เพราะมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลให้เลือก สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน เช่น เครื่องยนต์ 6.4 ลิตร Hemi V-8 ให้กำลังสูงสุด 405 แรงม้า และสามารถส่งกำลังได้อย่างแข็งแกร่ง ทำให้มีประสิทธิภาพในการเร่งและการลากที่ดี ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการการใช้ชีวิตประจำวันและการบรรทุกหนักได้ สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล เครื่องยนต์ดีเซล 6.7 ลิตร Cummins Turbocharged Inline 6 Cylinder ให้กำลังสูงสุด 430 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดที่ความเร็ว 1700 รอบต่อนาที ทำให้สามารถผลิตแรงบิดที่สูงแม้ที่ความเร็วรอบต่ำ และมีความสามารถในการลากที่โดดเด่น รวมถึงอาจมีประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีกว่า จึงเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการการลากและการเดินทางระยะไกล หากคุณต้องทำการลากของหนักและเดินทางระยะไกลบ่อยๆ และต้องการแรงบิดสูงพร้อมประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ดี ควรเลือกรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 6.7 ลิตร Cummins Turbocharged Inline 6 Cylinder เช่น Ram 2500 Limited Longhorn 6.7L I-6 และ Ram 2500 Limited 6.7L I-6 เป็นต้น แต่ถ้าต้องการการตอบสนองของเครื่องยนต์เบนซินและประสบการณ์การขับขี่ รุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 6.4 ลิตร Hemi V-8 ก็สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีได้เช่นกัน
ดูเพิ่มเติม