Q
ที่จะวางบัตรกุญแจ Tesla รุ่น 3 ที่ไหน
บัตรกุญแจของ Tesla Model 3 ได้รับการออกแบบให้มีขนาดบางและกะทัดรัด โดยแนะนำให้วางไว้ที่บริเวณเซ็นเซอร์กำหนดตำแหน่งด้านหน้าช่องเก็บของใต้คอนโซลกลาง (อยู่บริเวณด้านหน้าที่วางแก้วหรือใกล้แท่นชาร์จไร้สาย) เพื่อให้สามารถปลดล็อกหรือสตาร์ทรถได้อย่างรวดเร็ว เมื่อต้องการใช้งาน ให้นำบัตรกุญแจแตะที่บริเวณเซ็นเซอร์ซ่อนใต้เสา B ด้านคนขับ (ใกล้กระจกมองข้าง) เพื่อปลดล็อก จากนั้นวางบัตรกุญแจลงบนเซ็นเซอร์บริเวณคอนโซลกลางแล้วเหยียบเบรกเพื่อสตาร์ทรถ บัตรกุญแจของ Tesla ใช้เทคโนโลยี RFID มีคุณสมบัติกันน้ำและทนต่อการสึกหรอ เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย นอกจากนี้ เจ้าของรถสามารถเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนผ่านบลูทูธเพื่อใช้เป็นกุญแจดิจิทัล ทำให้สามารถใช้งานรถโดยไม่ต้องใช้บัตรกุญแจ ฟังก์ชันนี้คล้ายกับเทคโนโลยีไร้กุญแจของรถยนต์อัจฉริยะรุ่นใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงนวัตกรรมด้านความสะดวกของรถยนต์ไฟฟ้า แนะนำให้เก็บรักษาบัตรกุญแจอย่างดี หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับวัตถุโลหะหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานานเพื่อลดการรบกวนของสัญญาณ และสามารถใช้ร่วมกับ Tesla App เพื่อควบคุมรถจากระยะไกล เพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
เทสลาโมเดล 3 มีกิโลวัตต์เท่าไหร่
พลังงานของ Tesla Model 3 สามารถแตกต่างกันไปตามการกำหนดค่า โดยปกติอยู่ที่ประมาณ 180 กิโลวัตต์
Q
วิธีเปิดที่นั่งที่ทำความร้อนด้านหลัง tesla model 3
การเปิดใช้งานฟังก์ชันเบาะหลังแบบปรับอุณหภูมิใน Tesla Model 3 โดยทั่วไปสามารถทำได้ผ่านหน้าจอกลางของรถ โดยเข้าไปที่เมนูและเลือกไอคอนควบคุมการทำความร้อนของเบาะ แล้วเลือกเบาะหลังเพื่อเปิดหรือปรับระดับความร้อน ทั้งนี้รายละเอียดการใช้งานอาจแตกต่างกันตามรุ่นย่อยและเวอร์ชันของซอฟต์แวร์
Q
วิธีการปรับเลี่ยนคันขับใน Tesla Model 3
การปรับโหมดการขับขี่ใน Tesla Model 3 สามารถทำได้ผ่านหน้าจอกลางของรถ โดยเข้าไปที่เมนูการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องแล้วเลือกโหมดการขับขี่ที่ต้องการ เช่น โหมดสบาย โหมดสปอร์ต ทั้งนี้ในแต่ละรุ่นของ Tesla Model 3 อาจมีรายละเอียดของการใช้งานที่แตกต่างกันเล็กน้อย
Q
วิธีการลบควันในรถ Tesla Model 3
กรณีเกิดควันภายในรถ Tesla Model 3 ถือว่าเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก หากมีควันเกิดขึ้นควรตรวจสอบแหล่งที่มาของควันก่อนว่าเกิดจากสิ่งของภายในรถที่ลุกไหม้หรือจากระบบปรับอากาศ หากเป็นสิ่งของที่ลุกไหม้ควรรีบดับไฟทันที หากเกิดจากปัญหาระบบปรับอากาศ อาจต้องนำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์บริการซึ่งอาจต้องเปลี่ยนอะไหล่หรือทำความสะอาดและปรับแต่งระบบใหม่
Q
สีที่ดีที่สุดสำหรับ Tesla Model 3 คืออะไร
สำหรับ Tesla Model 3 ในประเทศไทย การเลือกสีที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สีขาวให้ความรู้สึกเรียบหรูและทันสมัย สีดำสื่อถึงความลึกลับและความมั่นคง สีแดงแสดงถึงพลังและความเร้าใจ ส่วนสีเทาให้ความรู้สึกหรูหราแบบเรียบง่าย อย่างไรก็ตามในแง่ของความนิยม สีขาวและสีดำมักได้รับความนิยมมากกว่าในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย
Q
เทสลาโมเดล 3 ออกมาเมื่อไหร่
เวลาการเปิดตัว Tesla Model 3 ในประเทศไทยมักจะแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่พวกเขาจะเข้าสู่ตลาดไทยค่อนข้างช้า ประมาณปี 2020 แต่เวลาการเปิดตัวที่แน่นอนอาจแตกต่างออกไปขึ้นอยู่กับนโยบายในท้องถิ่น ความต้องการของตลาด และการวางแผนกลยุทธ์ของ Tesla จะมีการเปลี่ยนแปลง
Q
วิธีการเปิดใช้งานฟังก์ชัน Summon บนโมเดล Tesla 3 ปี 2023
วิธีเปิดใช้งานฟังก์ชัน Summon ใน Tesla Model 3 รุ่นปี 2023 เริ่มจากตรวจสอบให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์ของรถเป็นเวอร์ชันล่าสุด จากนั้นเข้าไปที่หน้าจอกลางของรถเพื่อเลือกเมนูการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องแล้วทำตามคำแนะนำของระบบ ควรใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย
Q
วิธีการดูแรงดันลมในยาง Tesla Model 3
ในประเทศไทย วิธีตรวจสอบแรงดันลมยางของ Tesla Model 3 โดยทั่วไปสามารถทำได้ผ่านหน้าจอกลางของรถซึ่งมีเมนูแสดงแรงดันลมยางของแต่ละล้อแบบเรียลไทม์ หรืออาจดูจากมาตรวัดหรือไฟสัญญาณที่ติดมากับตัวรถ หากรถติดตั้งเซนเซอร์วัดแรงดันลมยาง ระบบจะส่งข้อมูลมายังตัวรถโดยอัตโนมัติ ควรรักษาแรงดันลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่
Q
วิธีการใช้ควบคุมความเร็วอัตโนมัติในรถยนต์ Tesla Model 3
การใช้งานระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติของ Tesla Model 3 ทำได้อย่างตรงไปตรงมา โดยสามารถตั้งค่าผ่านหน้าจอกลางของรถ เข้าไปที่เมนูฟังก์ชันช่วยขับขี่ เลือกการควบคุมความเร็วอัตโนมัติและตั้งค่าความเร็วที่ต้องการ ระยะห่างจากรถคันหน้า และพารามิเตอร์อื่น ๆ ทั้งนี้ผู้ขับขี่ยังคงต้องให้ความสนใจกับสภาพถนนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
Q
วิธีปิดไฟเตือนภัยบนรถยนต์ Tesla Model 3
วิธีปิดไฟฉุกเฉินของ Tesla Model 3 โดยทั่วไปสามารถทำได้ผ่านหน้าจอกลางของรถ โดยเข้าไปที่เมนูการตั้งค่าและเลือกตัวเลือกที่เกี่ยวข้อง เช่น ไฟส่องสว่างหรือไฟฉุกเฉิน ขั้นตอนอาจแตกต่างกันไปตามเวอร์ชันของซอฟต์แวร์รถ
Q&A ล่าสุด
Q
ข้อเสียของ Honda City Hatchback คืออะไร
Honda City Hatchback ซึ่งเป็นรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีข้อสังเกตบางประการในตลาดไทยที่ผู้บริโภคควรพิจารณา อันดับแรกคือพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังค่อนข้างเล็ก มีความจุเพียง 289 ลิตร ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับครอบครัวไทยที่มักต้องบรรทุกของขนาดใหญ่ ประการต่อมาคือระบบกันสะเทือนหลังแบบคานบิด ที่อาจลดความนุ่มนวลเมื่อต้องวิ่งบนถนนที่มีสภาพไม่ดีในบางพื้นที่ของไทย นอกจากนี้ แม้จะใช้เครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1.0 ลิตร แต่ในสภาพอากาศร้อนและการจราจรติดขัดของเมืองไทย ประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศอาจลดลง และการควบคุมเสียงรบกวนเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูงก็ยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดเหล่านี้ต้องพิจารณาควบคู่กับตำแหน่งทางการตลาดของรถรุ่นนี้ ในฐานะรถยนต์ระดับเริ่มต้นที่เน้นความประหยัดและใช้งานในเมืองเป็นหลัก จุดเด่นด้านความประหยัดน้ำมันและความคล่องตัวในเมืองยังถือว่าน่าพอใจ ผู้บริโภคชาวไทยจึงควรพิจารณาตามลักษณะการใช้งานของตน เช่น หากเดินทางไกลบ่อยหรือมีความต้องการใช้พื้นที่มาก อาจต้องพิจารณารุ่นอื่น แต่ถ้าใช้ขับขี่ในเมืองเป็นหลัก รถรุ่นนี้ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า
Q
มูลค่าการขายต่อของ Honda City Hatchback คืออะไร
รถฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กในตลาดมือสองของไทยถือว่าคงมูลค่าได้ค่อนข้างดี สาเหตุหลักมาจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ฮอนด้าที่แข็งแกร่งในไทย คุณภาพที่เชื่อถือได้ รวมถึงจำนวนรถที่จำหน่ายออกไปในตลาดค่อนข้างสูง โดยทั่วไปรถอายุ 3 ปีจะยังคงมูลค่าได้ประมาณ 60% แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทาง เวอร์ชั่นอุปกรณ์ และประวัติการเซอร์วิสด้วย ในตลาดไทยผู้บริโภคมีความต้องการรถแฮทช์แบ็กขนาดเล็กค่อนข้างมาก แถมซิตี้ แฮทช์แบ็กยังประหยัดน้ำมันและค่าซ่อมบำรุงไม่แพง สิ่งเหล่านี้ช่วยพยุงมูลค่ารถมือสองได้ดี ถ้าคิดจะซื้อหรือขายรถรุ่นนี้ แนะนำให้เข้าศูนย์บริการตามกำหนดและเก็บหลักฐานการบำรุงรักษาให้ครบถ้วน จะช่วยเพิ่มมูลค่ารถมือสองได้อย่างเห็นได้ชัด ส่วนในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ควรตรวจสอบสภาพการป้องกันสนิมและระบบแอร์เป็นพิเศษ เพราะส่งผลต่อมูลค่ารถเช่นกัน โดยรวมแล้วซิตี้ แฮทช์แบ็กเป็นรถที่ขายง่ายในตลาดมือสองของไทย ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายต่างตกลงราคาได้ไม่ยาก
Q
ฮอนด้าซิตี้แฮทช์แบคมีกี่ซีซี
รถฮอนด้า ซีตี้ แฮทช์แบ็ก รุ่นปรับโฉมใหม่ มาพร้อมกับ 2 ตัวเลือกเครื่องยนต์ คือรุ่น 1.0 ลิตร และ 1.5 ลิตร โดยเครื่อง 1.0 ลิตร เทอร์โบ VTEC เป็นรุ่นเบนซิน คู่กับเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิด 173 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.3 กม./ลิตร มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยคือ S+, SV และ RS ส่วนรุ่น 1.5 ลิตร e:HEV เป็นระบบไฮบริด โดยเครื่องยนต์ผลิตกำลัง 98 แรงม้าและแรงบิด 126 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถเพิ่มกำลังได้ถึง 109 แรงม้าและแรงบิด 250 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 27.8 กม./ลิตร มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยคือ SV และ RS ด้วยความหลากหลายของเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนนี้ ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์ได้ทั้งในแง่ประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ตามความต้องการของแต่ละคน
Q
เครื่องยนต์ใน Honda City Hatchback คืออะไร
รถฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กมีตัวเลือกเครื่องยนต์ให้เลือกหลายแบบ แบบแรกคือเครื่องยนต์ 1.5L DOHC i-VTEC แบบสูบธรรมชาติ คู่กับเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุด 119 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันตามมาตรฐาน 5.6L/100km เครื่องยนต์แบบนี้ให้กำลังส่งที่เนียนๆ เหมาะกับการขับขี่ในเมืองทั่วไป ตอบโจทย์การใช้งานประจำวันได้ดี อีกแบบคือระบบไฮบริด 1.5L i-MMD ในรุ่น e:HEV RS ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า แต่แรงบิดสูงถึง 253 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันได้ดีมากแค่ 3.6L/100km ระบบไฮบริดนี้ผสมผสานจุดเด่นของทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า นอกจากให้กำลังขับเคลื่อนที่มั่นคงแล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย ไม่ว่าคุณจะมองหารถที่ประหยัดน้ำมันหรือต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่แรงกว่า ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กก็มีตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ทั้งนั้น
Q
เกียร์แบบใดคือเกียร์ของ Honda City Hatchback
รถฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบที่มาพร้อมระบบเกียร์ต่างกัน สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิเตอร์ เทอร์โบ VTEC ใช้ระบบเกียร์ CVT ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์เนียนๆ ไม่สะดุด พร้อมแรงม้าสูงสุด 122 แรงม้าและแรงบิด 173 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.3 กม./ลิตร มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยคือ S+, SV และ RS ส่วนรุ่นไฮบริด 1.5 ลิเตอร์ e:HEV ไม่ได้ระบุประเภทเกียร์ชัดเจน แต่เครื่องยนต์หลักให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้าและแรงบิด 126 นิวตันเมตร ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเพิ่มพลังเป็น 109 แรงม้าและแรงบิด 250 นิวตันเมตร ทำให้ประหยัดน้ำมันขึ้นไปถึง 27.8 กม./ลิตร มีตัวเลือกรุ่น SV และ RS ระบบเกียร์ CVT ช่วยให้การขับขี่ลื่นไหล ไม่สะดุด เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล สร้างความรู้สึกสบายขณะขับขี่ และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีอีกด้วย
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Tesla เตรียมเปิดตัว Model 3+ รุ่นใหม่ในประเทศจีน
ธนวัฒน์Jul 28, 2025

นอกจาก Model Y L แล้ว Tesla ยังจะเปิดตัว Model 3+ ในประเทศจีน
Kevin WongJul 18, 2025

Tesla Model 3ได้รับคะแนนสูงสุดจากEuro NCAPในปี 2025 กลายเป็นรถใหม่ที่ปลอดภัยที่สุดในยุโรป
Kevin WongJul 8, 2025

Tesla Model 3 รุ่นปี 2025 คว้ามาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP
พงศธรMay 23, 2025

ผู้ประท้วงขับรถถังเหยียบ Tesla Model 3 แต่ส่วนล่างของตัวรถยังคงสภาพสมบูรณ์
วิรุฬห์May 12, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย