Q
ora good cat ผลิตในประเทศใด
Ora Good Cat ผลิตโดยแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนชื่อ Ora ในตลาดประเทศไทย รถรุ่นนี้ได้รับความสนใจจากดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า มันมาพร้อมกับระยะทางการขับขี่ที่ยาวนานและฟังก์ชันอัจฉริยะที่ตอบโจทย์การเดินทางในเมือง การออกแบบภายนอกที่ทันสมัยและภายในที่ประณีต ช่วยมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภค
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Ora Good Cat มีอะไรบ้าง?
แม้ Ora Good Cat จะมีจุดเด่นหลายด้าน แต่ก็มีข้อด้อยบางประการที่ควรพิจารณาเช่นกัน เริ่มจากพื้นที่เก็บของด้านหลังที่ค่อนข้างเล็ก ถ้าขับรถออกทริปกับครอบครัวแล้วต้องขนของเยอะ อาจรู้สึกว่าไม่เพียงพอ รถรุ่นนี้จะเหมาะกับการเดินทางคนเดียวมากกว่า
เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบายนัก โดยเฉพาะเวลาเจอถนนขรุขระ เพราะขนาดตัวรถและระบบช่วงล่างมีผลต่อความนุ่มนวลของการโดยสาร นอกจากนี้ ระบบเบรกบางครั้งจะมีเสียงดังขณะใช้งาน ซึ่งอาจสร้างความรำคาญ
ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถก็ยังไม่ค่อยลื่นไหล การใช้งานยุ่งยาก ผู้ช่วยเสียงบางทีก็ค้างหรือเด้งขึ้นมาเองโดยไม่มีเหตุผล อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในเรื่องความสะดวก เช่น ประตูฝั่งคนขับเท่านั้นที่สามารถปลดล็อกแยกได้ เวลาพาเด็กขึ้นรถอาจไม่สะดวก เบาะปรับไฟฟ้าก็มีแค่ฝั่งคนขับ บางจุดของรถยังให้วัสดุที่ดูเป็นพลาสติกเกินไป เช่น ที่ปัดน้ำฝน และในวันที่ฝนตกหนัก ความเร็วสูงสุดของที่ปัดน้ำฝนอาจไม่เพียงพอ
ด้านหลังไม่มีช่องแอร์หรือไฟในห้องโดยสาร การซับแรงกระแทกของช่วงล่างยังทำได้แค่ระดับทั่วไป และเพลงในระบบก็มีให้เลือกไม่มากนัก โดยรวมคือยังมีหลายจุดที่ควรปรับปรุงสำหรับการใช้งานที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นค่ะ
Q
ORA Good Cat อยู่ในกลุ่มรถ Segment ไหน?
ORA Good Cat จัดอยู่ในกลุ่มรถ B-Segment หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า “รถขนาดเล็ก” ซึ่งรถประเภทนี้จะมีขนาดตัวถังที่เล็ก กะทัดรัด คล่องตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นถนนแคบๆ หรือที่จอดรถจำกัดก็เอาอยู่
สำหรับ ORA Good Cat ตัวรถมีความยาว 4,254 มม. กว้าง 1,848 มม. สูง 1,596 มม. และระยะฐานล้อ 2,650 มม. ซึ่งถือว่าขนาดกำลังดี ใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีระยะทางขับขี่สูงสุด 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และอัตราการใช้พลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 11.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เหมาะมากกับคนที่ใช้รถในเมืองเป็นประจำ ทั้งประหยัดทั้งใช้งานได้จริงค่ะ
Q
มูลค่าการขายต่อของ Ora Good Cat ประมาณเท่าไหร่?
ราคาขายต่อของรถยนต์มือสองอย่าง Ora Good Cat นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปีรุ่น ระยะทางที่ใช้งาน สภาพรถโดยรวม และความต้องการในตลาด โดยทั่วไปแล้ว รถไฟฟ้าแบบ Ora Good Cat มักจะได้รับผลกระทบจากสภาพแบตเตอรี่และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ล่าสุด ราคาเริ่มต้นของรถมือสองรุ่น Ora Good Cat GT อยู่ที่ 65,520 บาท ส่วนรุ่นมาตรฐาน Ora Good Cat เริ่มต้นที่ 50,000 บาท แต่นี่เป็นแค่ราคาเบื้องต้นเท่านั้น ราคาจริงอาจแตกต่างกันไป
เวลาขายรถ Ora Good Cat มือสอง ถ้ารถได้รับการดูแลดี ใช้งานน้อย และมีเอกสารครบถ้วน ก็มีโอกาสได้ราคาดี นอกจากนี้ ถ้ารุ่นนั้นมีฟีเจอร์พิเศษหรือเป็นที่นิยมในตลาด ก็อาจช่วยเพิ่มมูลค่ารถได้ ในทางกลับกัน ถ้ามีการอัปเกรดสำคัญในรุ่นใหม่ๆ หรือตลาดรถไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลง ก็อาจทำให้ราคาขายต่อลดลงได้
Q
Ora Good Cat มีกี่ซีซี
คำถามและคำตอบนี้ยกเลิกแล้ว ไม่ต้องแปลหรือนำขึ้นแสดง
Q
PCD ของล้อ ORA Good Cat คือขนาดเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะรูดุมล้อ) ของรถ ORA Good Cat คือ 5×114.3 มม. หมายความว่ามีรูน็อต 5 รู วางเรียงบนวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มม. ซึ่งเป็นขนาดที่ใช้กันทั่วไปในรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda City, Toyota Yaris และ Nissan Almera ที่ผลิตขายในไทย ทำให้การหาล้อแม็กรุ่นอื่นๆ มาเปลี่ยนหรือแต่งล้อในไทยทำได้ง่าย มีตัวเลือกเยอะ
อย่างไรก็ตาม เวลาจะเปลี่ยนล้อ ควรดูนอกจาก PCD แล้ว ยังต้องเช็กขนาดรูดุมกลาง (CB) และค่า Offset (ET) ให้ตรงด้วย โดย ORA Good Cat มีขนาดรูดุมกลางประมาณ 63.4 มม. (แนะนำให้เช็กกับรถจริงอีกครั้งเพื่อความชัวร์) ควรเลือกร้านล้อที่ได้มาตรฐาน ให้ช่างช่วยลองใส่จริงก่อนซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าใส่ได้พอดี ไม่สั่น
ในช่วงหน้าฝนของไทยที่ถนนลื่น ควรเลือกยางที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนดีเพื่อความปลอดภัย และถ้าคิดจะเปลี่ยนล้อใหม่ แนะนำให้ใช้ล้อที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก. หรือ TISI) และขนาดต้องตรงกับที่จดทะเบียนไว้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเวลาไปตรวจสภาพรถหรือเคลมประกันค่ะ
Q
รถ ORA Good Cat รองรับระบบ Apple CarPlay ไหม?
รถ ORA Good Cat รองรับระบบ Apple CarPlay ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ iPhone ได้อย่างลงตัว แค่เชื่อมต่อมือถือกับพอร์ต USB ในรถด้วยสายเคเบิลก็ใช้ได้ทันที โดยฟีเจอร์นี้เหมาะมากกับอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ เพราะเวลาขับรถคุณไม่ต้องก้มไปกดโทรศัพท์ให้เสี่ยงอันตราย แค่ใช้ผ่าน CarPlay ก็จัดการแผนที่ ฟังเพลง หรือรับสายได้สะดวกเลย แต่ต้องระวังหน่อยนะครับ บางรุ่นอาจต้องอัปเดตระบบผ่าน OTA ก่อนถึงจะใช้ CarPlay ได้ แนะนำให้ถามพนักงานขายตอนซื้อรถว่าซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือเปล่า
อีกเรื่องที่ควรจำไว้คือต้องอัปเดต iOS บน iPhone ให้ใหม่เสมอจะได้ใช้งานได้ลื่นๆ และควรใช้สายเคเบิลแท้จาก Apple ครับ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่ถนนวุ่นวาย CarPlay จะช่วยนำทางคุณได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ขับรถสะดวกขึ้นมาก แถมรถรุ่นนี้ยังรองรับ Android Auto สำหรับคนใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ด้วย ช่วยลดความเสี่ยงเวลาต้องจับโทรศัพท์ขณะขับรถในช่วงหน้าฝนได้ดีเลยทีเดียว
Q
ยี่ห้อยางรถของ Ora Good Cat มีอะไรบ้าง?
ORA Good Cat ที่วางจำหน่ายในไทย ส่วนใหญ่จะมาพร้อมยางติดรถจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น Giti หรือ Maxxis โดยยี่ห้อของยางอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยและล็อตการผลิต ขนาดยางที่พบได้บ่อยคือ 215/50 R17 หรือ 215/55 R18 ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ให้ทั้งความนุ่มนวลในการขับขี่และการยึดเกาะถนนได้ดี เหมาะกับสภาพถนนในเมืองที่หลากหลายของไทย รวมถึงถนนลื่นในช่วงหน้าฝน
แนะนำให้เจ้าของรถในไทยหมั่นตรวจเช็คลมยางและการสึกหรอของยางอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนที่ลมยางมีแนวโน้มจะขยายตัว ควรรักษาค่าลมยางให้อยู่ในระดับที่ผู้ผลิตแนะนำ ซึ่งมักจะระบุไว้ที่ขอบประตูฝั่งคนขับหรือฝาถังน้ำมัน เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยาง
หากต้องเปลี่ยนยางในไทย สามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการรถยนต์อย่าง B-Quik ซึ่งมีบริการตรวจเช็คและเปลี่ยนยางอย่างมืออาชีพ หรือจะเลือกใช้ยางแบรนด์เดิมหรือระดับพรีเมียมอย่าง Michelin หรือ Bridgestone ก็ได้ เพื่อความเงียบในการขับขี่และประสิทธิภาพบนถนนเปียกที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนที่เส้นทางลื่นง่ายค่ะ
Q
ORA Good Cat เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกัน
ORA Good Cat ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนรถรุ่นอื่นๆ ค่ะ
ในส่วนของข้อดี รถรุ่นนี้มาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 เช่น กล้องมองรอบคัน 360 องศา และระบบจอดรถอัตโนมัติด้วย AI ซึ่งช่วยให้ขับง่ายขึ้น โดยเฉพาะมือใหม่หรือผู้หญิงที่ต้องการความมั่นใจเวลาใช้งาน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สตาร์ทรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ และสามารถสั่งงานผ่าน Bluetooth ได้อีกด้วย การชาร์จไฟก็รวดเร็วพอสมควร ชาร์จจาก 15% ไปถึง 80% ด้วยระบบชาร์จเร็วแบบ DC ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรด้านหน้าให้แรงบิดที่ต่อเนื่อง ทำให้การเร่งความเร็วลื่นไหลดี
แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน เช่น พื้นที่เก็บของด้านหลังค่อนข้างเล็ก ถ้าต้องเดินทางไกลหรือขนของเยอะอาจไม่สะดวก และเนื่องจากขนาดตัวรถกับช่วงล่าง ทำให้เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบาย โดยเฉพาะเวลาวิ่งผ่านถนนขรุขระ บางคนที่ใช้งานจริงยังบ่นเรื่องเบรกมีเสียงแปลกๆ ระบบความบันเทิงบางทีรวน เช่น ผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียงใช้งานไม่ได้เป็นบางครั้ง ระบบปลดล็อกประตูทีละบานไม่สะดวก ปรับเบาะอัตโนมัติได้น้อย ที่ปัดน้ำฝนไม่ค่อยดี ไม่มีช่องแอร์หรือไฟอ่านหนังสือด้านหลัง ระบบกันเสียงไม่ค่อยดี และเพลงที่ติดมากับรถก็ค่อนข้างธรรมดา
สุดท้าย รถรุ่นนี้จะเหมาะกับเราหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนค่ะ ถ้าชอบดีไซน์น่ารัก ขับในเมืองเป็นหลัก และเน้นความประหยัด ก็ถือว่าน่าใช้ไม่น้อยเลยค่ะ
Q
ความกว้างของ Ora Good Cat คือเท่าไร
ความกว้างของรถ ORA Good Cat ในแต่ละรุ่นนั้นมีความแตกต่างกัน โดยรุ่นปี 2022 และ 2021 จะมีความกว้างอยู่ที่ 1,825 มม. ส่วนรุ่นปี 2024 นั้นกว้างขึ้นมาอีกหน่อยอยู่ที่ 1,848 มม. ความกว้างของรถถือเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อการจัดวางพื้นที่ภายใน การควบคุมรถ รวมไปถึงการขับขี่บนถนนด้วยนะครับ ถ้ารถกว้างมากขึ้นก็จะทำให้มีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้น ผู้โดยสารและคนขับก็จะนั่งสบายขึ้น แต่ข้อควรระวังคือเวลาเจอถนนแคบๆ หรือต้องจอดในที่จำกัด อาจต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นนิดหน่อยครับ
Q
ภาษีรถยนต์ของ ORA Good Cat อยู่ที่เท่าไหร่ ?คำนวณยังไง?
รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) มักจะได้รับอัตราภาษีที่พิเศษกว่าปกติ อย่างเช่น ORA Good Cat ที่เป็นรถไฟฟ้า 100% ก็เสียภาษีรถยนต์ปีละแค่ประมาณ 800-1,500 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปมาก นี่เป็นนโยบายส่งเสริมจากรัฐบาลไทยที่อยากให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้าให้มากขึ้น
แนะนำให้เจ้าของรถในไทยจ่ายภาษีรถยนต์ระหว่างวันที่ 1 มกราคมถึง 30 เมษายนของทุกปี จะไปจ่ายที่กรมการขนส่งทางบก (Department of Land Transport) หรือที่สาขาธนาคารบางแห่งก็ได้ แต่ถ้าช้ากว่านี้อาจโดนค่าปรับเพิ่มนะ
นอกจากภาษีรถยนต์ที่ถูกแล้ว การซื้อ ORA Good Cat ยังได้สิทธิประโยชน์อื่นๆ จากรัฐบาลอีก เช่น ส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท และยังได้สิทธิ์ไม่ต้องเสียค่าผ่านทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย สำหรับใครที่ต้องขับรถในเมืองบ่อยๆ สิทธิ์พวกนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยล่ะ!
Q&A ล่าสุด
Q
Neta V เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
Neta V เป็นรถ SUV ไฟฟ้าที่น่าสนใจในตลาดไทย ด้วยจุดเด่นเรื่องราคาที่จับต้องได้ ระยะขับขี่ที่เหมาะกับการใช้ชีวิตในเมือง (ประมาณ 384 กม. ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมฟีเจอร์ใช้งานง่ายเช่น กล้องถอยหลัง จอแสดงผลขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้รถรักษ์โลกแต่มีงบจำกัด โดยเฉพาะในเมืองแบบกรุงเทพที่รถติดบ่อย แต่ก็มีข้อควรคิดบ้าง เช่น เวลาเติมไฟเร็วค่อนข้างนาน (30%-80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) และตัวรถขนาดกะทัดรัดทำให้พื้นที่ด้านหลังและกระบะเก็บของอาจสู้รถน้ำมันรุ่นเดียวกันบางรุ่นไม่ได้ ในสภาพอากาศร้อนของไทย ควรสังเกตเรื่องระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่และผลกระทบต่อระยะทางเมื่อต้องเปิดแอร์เต็มที่
ถ้าพูดถึงภาพใหญ่ ไทยมีนโยบายสนับสนุนรถ EV เช่น ลดภาษี และมีสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าจะขับออกนอกเมืองยังต้องวางแผนเรื่องจุดชาร์จล่วงหน้า หากต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ควรชั่งน้ำหนักระหว่างระยะทางและเวลาเติมไฟ สรุปแล้ว Neta V เหมาะกับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก แนะนำให้ลองทดลองขับเพื่อเช็คความคล่องตัวและความสบายก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
ยี่ห้อยางรถยนต์ของ Neta V คืออะไร?
รถไฟฟ้ารุ่น Neta V ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดจีน เมื่อเปิดตัวในประเทศไทยอาจมีการติดตั้งยางรถยนต์แบรนด์ต่างกันไปตามความต้องการของตลาดและสภาพการจัดหาสินค้าในท้องถิ่น แต่โดยทั่วไปรถไฟฟ้าราคาประหยัดแบบนี้มักจะใช้ยางแบรนด์อินเตอร์ที่มีราคาคุ้มค่าอย่างเช่น Linglong, Giti หรือ Maxxis ซึ่งเป็นแบรนด์ที่พบเห็นได้บ่อยในตลาดไทย ทั้งตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปและช่วยควบคุมต้นทุนได้ดี ในสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก การเลือกยางควรเน้นที่ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนเมื่อ路面เปียกและความทนทานต่ออุณหภูมิสูง ลวดลายยางที่ออกแบบมาสำหรับภูมิอากาศเขตร้อนโดยเฉพาะจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ช่วงฤดูฝนได้ นอกจากนี้ผู้บริโภคไทยยังสามารถพิจารณายางแบรนด์ท้องถิ่นยอดนิยมอย่าง Deestone หรือ Mazzini ซึ่งมักเหมาะกับสภาพถนนไทยและราคาก็เป็นมิตรกับกระเป๋า ไม่ว่าจะเลือกยางแบรนด์ไหน การตรวจสอบความดันลมยางและความลึกของดอกยางเป็นประจำคือสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนตลอดปีของไทยที่ทำให้ยางสึกหรอได้เร็วกว่าปกติ แนะนำให้ตรวจเช็กสภาพยางอย่างมืออาชีพทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน
Q
Neta V รองรับ Apple CarPlay หรือไม่?
สำหรับคำถามว่า Neta V รุ่นนี้รองรับ Apple CarPlay หรือไม่ จากข้อมูลทางการในตลาดไทยพบว่าโดยมาตรฐานแล้วรถรุ่นนี้ยังไม่มีฟังก์ชันนี้ติดตั้งมาให้ แต่เจ้าของรถสามารถอัปเกรดระบบหัวเครื่องหรือติดตั้งโมดูลเสริมที่รองรับได้ในภายหลัง แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในพื้นที่เพื่อรับคำแนะนำด้านเทคนิคที่ถูกต้อง ในตลาดไทย Apple CarPlay เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้รุ่นใหม่เพราะความสะดวกในการเชื่อมต่อกับ iPhone ทั้งในส่วนของแผนที่ เพลงและการโทรออก รถหลายยี่ห้ออย่าง Toyota หรือ Honda บางรุ่นก็ติดตั้งระบบนี้มาให้ตั้งแต่แรก ถ้าคุณต้องการฟังก์ชันนี้เป็นพิเศษอาจพิจารณารถที่รองรับ CarPlay แบบเต็มรูปแบบก่อนซื้อ อย่างไรก็ตามรถ Neta V แต่ละรุ่นปีและระดับความอาจมีความแตกต่างกัน แนะนำให้ตรวจสอบรายการอุปกรณ์อย่างเป็นทางการก่อนตัดสินใจซื้อ และด้วยสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้นอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถ การเลือกบริการติดตั้งจากช่องทางที่ได้มาตรฐานจะช่วยให้ระบบทำงานได้ดีและทนทานมากขึ้น
Q
ขนาด PCD ของ Neta V คือเท่าไหร่?
PCD ของ Neta V คือ 4×100 หมายความว่าล้อของรถรุ่นนี้มีรูน็อต 4 รู และรูน็อตจะถูกจัดเรียงบนวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 มม. ซึ่งเป็นขนาดที่พบได้บ่อยในรถ SUV ขนาดเล็กหรือรถยนต์ขนาดคอมแพคในตลาดไทย เหมาะกับล้อแม็กขนาด 16 หรือ 17 นิ้ว
สำหรับผู้ใช้ในไทย เวลาจะเปลี่ยนล้อหรือยาง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า PCD ตรงกับของเดิม เพราะถ้าขนาดไม่ตรง อาจทำให้ล้อใส่ไม่พอดี หรือเกิดอาการสั่นไหวขณะขับขี่ ซึ่งเป็นอันตรายได้
อีกเรื่องที่ควรคำนึงคือสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนและฝนตกบ่อย จึงแนะนำให้เลือกล้อและยางที่ระบายความร้อนได้ดี และมีดอกยางที่ช่วยรีดน้ำได้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนถนนเปียก
Neta V ถือว่าเป็นรถ EV ที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง ล้อเดิมที่ให้มาเน้นความเบาและแข็งแรง ซึ่งเหมาะกับถนนในไทยอยู่แล้ว แต่ถ้าคิดจะอัปเกรดล้อแม็ก แนะนำให้ปรึกษาร้านแต่งรถที่เชี่ยวชาญ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่าต่างๆ เช่น PCD, รูตรงกลาง (Center Bore) และค่า Offset ต้องตรงกับของเดิม เพื่อความปลอดภัยและไม่กระทบกับสมรรถนะของรถ
Q
Neta V ใช้เกียร์แบบไหน?
Neta V เป็นรถ SUV ไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ โดยใช้เกียร์แบบ Single-Speed หรือเกียร์อัตราทดเดียว ซึ่งเป็นระบบส่งกำลังที่พบได้ทั่วไปในรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้ามีช่วงรอบที่กว้างและให้แรงบิดได้ทันที ไม่จำเป็นต้องมีเกียร์หลายจังหวะเหมือนรถน้ำมัน ก็สามารถขับขี่ได้ลื่นไหล
ในสภาพการจราจรที่แออัดอย่างกรุงเทพฯ ระบบเกียร์แบบนี้ช่วยให้ขับขี่นุ่มนวล ไม่สะดุด แถมยังดูแลง่าย เสียยาก เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยอีกด้วย
ต้องเข้าใจก่อนว่าเกียร์ของรถไฟฟ้าแบบนี้ไม่เหมือนกับเกียร์ CVT หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่ใช้กันในรถญี่ปุ่นทั่วไป เพราะมันจะถ่ายทอดกำลังผ่านเฟืองลดรอบโดยตรง ทำให้ตัวระบบเล็กกว่า และมีการสูญเสียพลังงานน้อยกว่า
ถ้าใครสนใจเปลี่ยนมาใช้รถ EV ก็อย่าลืมดูเรื่องระยะทางต่อการชาร์จ และจุดชาร์จใกล้บ้านด้วยนะ เพราะตอนนี้รัฐบาลไทยก็มีนโยบายลดภาษีให้รถ EV อยู่ ใช้แล้วประหยัดกว่ารถน้ำมันในระยะยาวแน่นอน
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

BYD Dolphin vs ORA Good Cat ปลาโลมากับแมว ถ้ามีงบ 900,000 บาท คุณจะเลือกรุ่นไหนดี?
AshleyJun 26, 2024

ข้อมูลยอดขายของ ORA ในพฤษภาคม ยอดขายในตลาดไทยได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ!
AshleyJun 12, 2024

ORA GOOD CAT รถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ที่น่ารักเหมือนแมวบ้าน มีจุดเด่นสำคัญอะไรบ้าง?
Kevin WongMay 9, 2024

Ora Good Cat รถยนต์ CKD ของไทย มีราคาตั้งแต่ 799,000 บาท ระยะการใช้งาน 480 กิโลเมตร
LienMay 5, 2024

เปิดตัว Ora good cat รุ่น 2024ที่งานแสดงรถปักกิ่งปี 2024 เพิ่มสีสันเเละความน่ารักขึ้นไปอีกเท่าตัว!
AshleyApr 26, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย