Q

VinFast เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทอะไร?

VinFast เป็นแบรนด์รถยนต์ภายใต้กลุ่มวิสาหกิจเอกชนใหญ่ที่สุดของเวียดนามอย่าง Vingroup ก่อตั้งและควบคุมโดยมหาเศรษฐีชาวเวียดนาม Phạm Nhật Vượng ในฐานะแบรนด์รถยนต์ท้องถิ่นแรกของเวียดนาม VinFast เติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2017 โดยไม่เพียงแต่ครอบคลุมรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแต่ยังมุ่งเน้นการวิจัยและผลิตรถไฟฟ้า โดยมีไลน์ผลิตภัณฑ์ทั้งรถเก๋งไฟฟ้า SUV และแม้แต่สกูตเตอร์ไฟฟ้า สำหรับตลาดไทย VinFast เปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมมอเตอร์โชว์กรุงเทพปี 2023 ด้วยแผนนำเสนอรถไฟฟ้าราคาจับต้องได้อย่างรุ่น VF e34 และ VF 8 เพื่อแข่งขันในตลาด รุ่นเหล่านี้มาพร้อมระบบช่วยขับอัจฉริยะและเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาเหมาะกับสภาพอากาศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่น่าสนใจคือ VinFast ใช้กลยุทธ์ระดับโลกโดยนอกจากโรงงานในเวียดนามยังมีการสร้างฐานผลิตที่รัฐนอร์ทแคโรไลนาสหรัฐและวางแผนลงทุนในอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าที่อินโดนีเซีย สำหรับผู้บริโภคไทย การเข้ามาของ VinFast ทำให้มีตัวเลือกรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จเร็วและการบริการหลังการขายที่ท้องถิ่นด้วยนโยบายส่งเสริม EV 3.5 ของรัฐบาลไทย ทำให้แบรนด์รถไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง VinFast มีโอกาสเติบโตในตลาดไทยมากขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
"VinFast VF5 ราคาเท่าไหร่?"
VinFast VF5 เป็นรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมจากแบรนด์เวียดนามที่กำลังมาแรง ราคาในตลาดไทยคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 700,000-900,000 บาท ขึ้นอยู่กับสเปคและอัตราแลกเปลี่ยน รุ่นนี้เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่เน้นความคุ้มค่า เหมาะกับการใช้งานในเมือง ด้วยระยะขับขี่ประมาณ 300 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) และรองรับการชาร์จเร็ว ที่สามารถชาร์จได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที ในตลาดไทย VF5 จะแข่งขันกับรถไฟฟ้ารุ่นเดียวกันอย่าง MG ZS EV นอกจากนี้ นโยบายส่งเสริมรถไฟฟ้าของไทย (เช่น การลดภาษีนำเข้าและมาตรการสนับสนุนต่างๆ) อาจช่วยลดต้นทุนการซื้อได้อีกด้วย ที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยมีแผนที่จะทำให้รถไฟฟ้ามีสัดส่วนถึง 30% ภายในปี 2578 ทำให้แบรนด์ใหม่อย่าง VinFast มีโอกาสขยายส่วนแบ่งการตลาด แนะนำให้ผู้บริโภคไทยตรวจสอบราคาสุดท้ายผ่านช่องทางทางการก่อนตัดสินใจซื้อ และเปรียบเทียบเครือข่ายสถานีชาร์จของแต่ละแบรนด์ เพราะความสะดวกในการชาร์จเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้รถไฟฟ้า
Q
"ระยะทาง VF5 คือเท่าไหร่?”
รถ SUV ไฟฟ้า VF5 ในตลาดไทยเมื่อทดสอบด้วยมาตรฐาน NEDC จะมีระยะทางขับขี่ประมาณ 326 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในเมืองส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด แม้สภาพอากาศร้อนของไทยจะส่งผลต่อระยะทางบ้าง แต่ก็สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ แค่จอดรถในที่ร่มหรือใช้แผงบังแดด เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วจากการสัมผัสความร้อนสูง ส่วนการชาร์จนั้น VF5 รองรับระบบชาร์จเร็ว แค่ 30 นาทีก็ชาร์จจาก 30% ไปถึง 80% ได้ แล้วตอนนี้ไทยก็กำลังขยายสถานีชาร์จเพิ่มเรื่อยๆ หาไม่ยากตามห้างสรรพสินค้าหรือปั๊มน้ำมัน ชีวิตคนใช้รถไฟฟ้าจึงสะดวกขึ้นทุกวัน ข้อดีอีกอย่างคือรถไฟฟ้าในไทยได้สิทธิ์ลดภาษี แถมค่าไฟยังถูกกว่าน้ำมันเยอะ ช่วยประหยัดเงินในระยะยาว สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถไฟฟ้า นอกจากระยะทางแล้ว ควรดูประกันแบตเตอรี่ ความสะดวกในการชาร์จ และบริการหลังการขายด้วย เพราะทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อประสบการณ์การใช้รถในชีวิตจริง
Q
แบตเตอรี่ประเภทใดที่ใช้ใน VinFast VF5?
VinFast VF5 เป็น SUV ไฟฟ้าที่ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในเมือง พร้อมด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเทคโนโลยีล่าสุด แบตเตอรี่ประเภทนี้ได้รับความนิยมในรถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่เพราะให้พลังงานสูง อายุการใช้งานยาวนาน และชาร์จไฟเร็ว เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของไทยสำหรับการเดินทางประจำวัน โดยทั่วไปแล้วแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในสภาพแวดล้อมอุณหภูมิสูงจะมาพร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะเพื่อความมั่นคงและปลอดภัย ผู้บริโภคไทยมั่นใจได้ว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่ของ VinFast ผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้น สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพถนนและอากาศที่หลากหลายของประเทศไทย ที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ การซื้อรถไฟฟ้าเช่น VF5 อาจได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหรือเงินสนับสนุน นอกจากนี้ระบบรีไซเคิลแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในไทยก็พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ลดความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาว สำหรับผู้ใช้งานในไทย นอกจากเรื่องประเภทแบตเตอรี่แล้ว ยังควรศึกษานโยบายการติดตั้งสถานีชาร์จที่บ้านและตำแหน่งที่ตั้งสถานีชาร์จเร็วในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถไฟฟ้าให้มากยิ่งขึ้น
Q
ราคาแบตเตอรี่ของ VinFast อยู่ที่เท่าไหร่?
VinFast เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่จากเวียดนาม ที่ราคาแบตเตอรี่จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและความจุของแบตเตอรี่ ในตลาดไทยตอนนี้ แบตเตอรี่ขนาด 42kWh ของ VinFast VF e34 มีค่าเปลี่ยนประมาณ 300,000-400,000 บาท (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย) ส่วนรุ่นที่แบตเตอรี่ใหญ่กว่านี้อย่าง VF 8 หรือ VF 9 ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย สำหรับคนไทยที่สนใจต้องรู้ไว้เลยว่า ต้นทุนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับผลกระทบอย่างมากจากราคาลิเธียมและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก แนะนำให้สอบถามราคาล่าสุดกับตัวแทนก่อนซื้อทุกครั้ง โชคดีที่รัฐบาลไทยมีมาตรการสนับสนุนรถไฟฟ้า ทั้งลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ทำให้ราคารถและค่าบำรุงรักษาถูกลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ VinFast เองก็กำลังเร่งขยายสถานีชาร์จในไทยและมีบริการแบบเช่าแบตเตอรี่เพื่อลดต้นทุนเริ่มต้น สำหรับคนใช้รถในไทยนอกจากเรื่องราคาแล้ว ต้องดูประกันแบตเตอรี่ด้วย (ส่วนใหญ่จะให้ประกัน 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร) รวมถึงผลกระทบจากอากาศร้อนในไทยที่อาจทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น การดูแลรักษาสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงการจอดตากแดดนานๆ จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ดีขึ้น
Q
“VF5 เป็นรถที่ดีไหม?”
VF5 เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับความสามารถในการแข่งขันในตลาดไทย ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของมันตอบสนองเร็วและเงียบมาก เหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องหยุดและบ่อยครั้ง ระยะทางขับขี่ตามที่ผู้ผลิตอ้างอิงก็เพียงพอสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน ส่วนระบบชาร์จเร็วก็เข้ากันได้ดีกับเครือข่ายสถานีชาร์จในไทยที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น ตัวรถมีขนาดกะทัดรัด ทำให้ขับเคลื่อนในซอยแคบๆ ได้สะดวก แต่ยังคงมีการออกแบบภายในที่ให้พื้นที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงพอสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบแอร์ที่เย็นฉ่ำก็เป็นจุดเด่นที่ควรลองทดสอบด้วยตัวเอง ด้วยนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย VF5 ยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งช่วยให้ค่าใช้จ่ายในระยะยาวอาจต่ำกว่ารถยนต์น้ำมัน เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ลองเปรียบเทียบสเปคและราคากับ BYD Dolphin หรือ MG4 พร้อมพิจารณาการกระจายตัวของศูนย์บริการหลังการขายในต่างจังหวัดด้วย เพราะความสะดวกในการซ่อมบำรุงอาจแตกต่างกันไป นอกจากนี้ ความทนทานของแบตเตอรี่ในสภาพอากาศร้อนก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรสอบถามจากเจ้าของรถที่ใช้งานมานานแล้วในพื้นที่จริง
Q
VF5 ราคาเท่าไร?
VF5 เป็นรถ SUV ไฟฟ้าจากแบรนด์ VinFast ของเวียดนาม ราคาเริ่มต้นในตลาดไทยประมาณ 9.99 แสนบาท โดยราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามสเปคที่เลือก แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ VinFast ในไทยเพื่อสอบถามราคาล่าสุดและโปรโมชั่น VF5 เป็นรถไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับครอบครัววัยรุ่น ด้วยระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) และรองรับการชาร์จเร็ว ที่สามารถชาร์จจาก 30% เป็น 70% ในเวลาเพียง 30 นาที เหมาะมากสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองอย่างกรุงเทพฯ การซื้อรถไฟฟ้าในไทยยังได้รับสิทธิประโยชน์จากรัฐบาล เช่น ลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือเพียง 2% ทำให้ราคาจริงของ VF5 ถูกลง VinFast ในฐานะแบรนด์รถไฟฟ้ารุ่นใหม่กำลังขยายตลาดในไทยอย่างแข็งขัน มีแผนสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จและศูนย์บริการ และอาจมีรุ่นใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์คนไทยในอนาคต ก่อนตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้า นอกจากราคาแล้ว ควรพิจารณาความสะดวกในการชาร์จ นโยบายรับประกันแบตเตอรี่ (VF5 ให้รับประกัน 10 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร) และระบบบริการหลังการขายด้วย
Q
VinFast VF 5 ผลิตที่ไหน?
VF5 คือรถ SUV ไฟฟ้าจากแบรนด์ VinFast ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของเวียดนามภายใต้กลุ่ม Vingroup บริษัทเอกชนใหญ่ที่สุดในประเทศ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับผู้บริโภคไทย รุ่นนี้เป็น SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่มาพร้อมระยะทางวิ่ง 367 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และดีไซน์โมเดิร์น เหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ แต่อย่าลืมว่าโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จในไทยอาจแตกต่างจากเวียดนาม ซึ่งอาจส่งผลต่อประสบการณ์การใช้รถ ส่วน VinFast เองก็กำลังขยายตลาดในอาเซียนอย่างแข็งขัน สำหรับไทยที่เป็นตลาดรถพวงมาลัยขวา ก็อาจได้เห็นรุ่นปรับปรุงสำหรับตลาดนี้ในอนาคต นโยบายส่งเสริม EV ของไทย เช่น การลดภาษีและมาตรการสนับสนุนต่างๆ อาจทำให้รถนำเข้าอย่าง VF5 มีราคาแข่งขันได้ แต่ต้องดูปัจจัยอย่างภาษีศุลกากรและบริการหลังการขายด้วย เทียบกับ EV ที่มีอยู่ในตลาดไทยตอนนี้ VF5 นำเสนอทางเลือกใหม่จากห่วงโซ่อุตสาหกรรมในภูมิภาค พร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่และฟีเจอร์อัจฉริยะที่ตอบเทรนด์ แต่แนะนำให้ทดลองขับเพื่อประเมินสมรรถนะจริงก่อนตัดสินใจ

ข้อดี

ขนาดคอมแพค ทำให้ขับรถในเมืองง่าย
มีคุณสมบัติเทคโนโลยีสมัยใหม่ภายใน
การเร่งความเร็วเพียงพอสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน
ลักษณะภายนอกดูน่าดึงดูดและทันสมัย
ราคาถูกสำหรับผู้ซื้อที่มีงบประมาณต่ำ

ข้อเสีย

พื้นที่เก็บของ จำกัด ไม่เหมาะกับของขนาดใหญ่
ระยะทางการขับอาจไม่เหมาะสำหรับการเดินทางไกล
คุณภาพการสร้างรถมีข้อบกพร่อง
ความสบายภายในรถสามารถปรับปรุงได้
การให้บริการหลังการขายต้องปรับปรุง

Q&A ล่าสุด

Q
รถ Land Rover Discovery รุ่นปี 2020 จะใช้งานได้นานแค่ไหน?
รถ Land Rover Discovery รุ่นปี 2020 หากได้รับการบำรุงรักษาอย่างถูกต้องตามกำหนด สามารถใช้งานได้นานกว่า 15 ปี หรือวิ่งได้เกิน 250,000 กิโลเมตร โดยอายุการใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการขับขี่ ในประเทศไทยที่อากาศร้อนชื้น อาจส่งผลต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยางของรถ แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อน แอร์ และซีลอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือนตามที่ผู้ผลิตแนะนำ นอกจากนี้สภาพถนนบางพื้นที่ในไทยอาจขรุขระ จึงควรตรวจสอบระบบช่วงล่างและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นประจำเพื่อความมั่นใจเวลาขับบนเส้นทางยากลำบาก การเลือกใช้อะไหล่แท้หรืออะไหล่ทดแทนคุณภาพสูงจะช่วยยืดอายุรถได้ และควรหลีกเลี่ยงการใช้งานหนักหรือขับในสภาวะ extremes ต้องยอมรับว่ารถ SUV ระดับหรูอย่าง Discovery ค่าบำรุงจะสูงกว่าปกติ แต่การดูแลที่ดีจะช่วยเพิ่มความทนทานให้รถได้มาก สำหรับคนที่ใช้รถในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ ควรให้ความสนใจระบบเบรกและเกียร์เป็นพิเศษ เพราะการจอดเดินบ่อยๆ ทำให้ชิ้นส่วนเหล่านี้สึกหรอเร็ว
Q
รถ Land Rover Discovery Sport ปี 2020 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
รุ่นปี 2020 ของรถยนต์ Land Rover นั้นให้ความน่าเชื่อถือในระดับปานกลาง จุดเด่นอยู่ที่ความหรูหราของห้องโดยสาร ประสิทธิภาพการขับขี่ออฟโรดที่แข็งแกร่ง และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ทันสมัย โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายในช่วงฤดูฝนของไทย แต่ระบบอิเล็กทรอนิกส์อาจมีปัญหาเล็กน้อยบ่อยกว่ารถคู่แข่งจากญี่ปุ่น แนะนำให้ผู้บริโภคไทยตรวจสอบสภาพการทำงานของระบบกันสะเทือนแบบปรับระดับลม (ถ้ามี) ในสภาพอากาศร้อนชื้นเป็นพิเศษ และควรเปลี่ยนน้ำมันดิฟเฟอเรนเชียลเป็นประจำเพื่อรับมือกับการขับลุยน้ำบ่อยๆ ที่น่าสนใจคือตลาดไทยมีบริการรับประกันจากศูนย์ถึง 5 ปี ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้มาก แต่ถ้าซื้อรถมือสองต้องระวังเป็นพิเศษเรื่องความเร็วในการตอบสนองของหน้าจอกลางและสภาพการเสื่อมของยางรองรับช่วงล่าง เมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน Land Rover มีศูนย์บริการครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯ ค่อนข้างดี แต่ในต่างจังหวัดอาจต้องรออะไหล่นานกว่า สำหรับคนไทยที่เน้นการขับออฟโรด ระบบ Terrain Response ในรุ่น Discovery Sport ปี 2020 สามารถปรับตัวอัจฉริยะให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศทุกแบบในไทย ตั้งแต่ภูเขาจนถึงชายหาด แนะนำให้ตรวจสอบสถานะของเหลวกรณีโอนทุก 20,000 กิโลเมตรในการใช้งานจริงเพื่อความน่าเชื่อถือ
Q
เครื่องยนต์ใน Discovery Sport คืออะไร?
Discovery Sport ในปัจจุบันมีตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่แตกต่างกัน ในประเทศไทยมักพบเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Ingenium เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ และเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 3 สูบ รุ่นดีเซลให้กำลัง 150 แรงม้าและแรงบิด 380 นิวตันเมตร เหมาะกับการขับทางไกลและเส้นทางภูเขาในไทย ส่วนรุ่นเบนซิน 1.5 ลิตรเน้นประหยัดน้ำมันในเมือง ทุกรุ่นมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ พิเศษสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย Discovery Sport มาพร้อมระบบจัดการอุณหภูมิอัจฉริยะที่ช่วยรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดีที่สุด นอกจากนี้ลูกค้าไทยยังสามารถเลือกรุ่นที่ติดตั้งระบบ Mild Hybrid 48V ซึ่งช่วยเก็บพลังงานขณะเบรกและจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าในรถ ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มักจะเผชิญกับการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ในส่วนของการดูแลรักษา แนะนำให้ผู้ใช้ในไทยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน และควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมาก เครื่องยนต์เหล่านี้ได้รับการปรับแต่งเฉพาะสำหรับสภาพอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ทำงานได้อย่างมั่นคงในสภาพอากาศร้อนชื้น
Q
เครื่องยนต์ที่ใช้ใน Discovery Sport 2020 มีอะไรบ้าง?
รถยนต์ Land Rover Discovery Sport รุ่นปี 2020 ในตลาดประเทศไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จจากซีรีส์ Ingenium และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ โดยรุ่นเบนซินให้กำลังสูงสุด 249 แรงม้า ส่วนรุ่นดีเซลอยู่ที่ 204 แรงม้า ทั้งคู่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวร ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและการลุยเส้นทางออฟโรดแบบเบาๆ ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย เครื่องยนต์ทั้งสองแบบนี้มีประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีและให้แรงบิดสูงที่รอบต่ำ (โดยเฉพาะเครื่องดีเซลที่เหมาะกับสภาพการจราจรที่ต้องหยุด-บ่อยครั้ง) พร้อมผ่านมาตรฐานการปล่อยไอเสีย Euro 5 ของไทย ที่น่าสนใจคือคนไทยนิยมใช้รุ่นดีเซลมากกว่า เพราะประหยัดน้ำมันเมาะมากสำหรับการเดินทางไกลและเส้นทางภูเขา แถมระบบ Hybrid แบบ 48V ยังช่วยให้การทำงานของระบบ Start-Stop นุ่มนวลขึ้นและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ถ้าพูดถึงรถนำเข้าแบบขนานในตลาดไทย อาจจะเจอรุ่น P300e แบบปลั๊กอินไฮบริดที่วิ่งได้ประมาณ 55 กิโลเมตรด้วยไฟฟ้าล้วน เหมาะกับเมืองติดจารจรอย่างกรุงเทพฯ แต่ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของสถานีชาร์จให้ดี ส่วนเรื่องการบำรุงรักษา ไม่ว่าจะเลือกใช้เครื่องยนต์แบบไหน การเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นสม่ำเสมอและเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นก็สำคัญมากต่ออายุการใช้งานของเครื่องยนต์
Q
รถ Range Rover Sport ปี 2020 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
รถรุ่น Land Rover Range Rover Sport ปี 2020 ในด้านความน่าเชื่อถือถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ระบบขับเคลื่อนและสมรรถนะออฟโรดได้รับการยกย่องเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตรและระบบ Terrain Response ที่เหมาะกับสภาพทางภูเขาและถนนช่วงฤดูฝนของไทย แต่ระบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบช่วงล่างแบบลมอาจมีปัญหาเล็กน้อยบ้าง แนะนำให้ทำการบำรุงรักษาเป็นประจำ สำหรับการใช้ในไทยต้องระวังผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนชื้นต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่อาจเพิ่มภาระให้เกียร์ ดังนั้นการเลือกศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิตจึงสำคัญมาก เมื่อเทียบกับรถ SUV ระดับเดียวกัน รถคันนี้ทำออฟโรดได้ดีกว่าหลายรุ่น แต่ค่าซ่อมบำรุงแพงกว่ารถหรูจากญี่ปุ่น ในตลาดไทยมักพบเป็นรุ่นดีเซลที่ประหยัดน้ำมัน แต่ต้องระวังคุณภาพน้ำมันดีเซลท้องถิ่น ส่วนในตลาดรถมือสอง รุ่นที่มีประวัติการบำรุงรักษาครบถ้วนจะได้รับความนิยมมากกว่า แนะนำให้ตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนซื้อ
ดูเพิ่มเติม