Geely จะเพิ่มโชว์รูมอีก 30 แห่งในประเทศของเรา โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มยอดขาย EX5 ต่อปีให้ถึง 9,000 คัน
ธนวัฒน์Jun 04, 2025, 03:59 PM

【PCauto】ตามแผนกลยุทธ์ล่าสุดที่เปิดเผยโดย Auto Scandinavia Bangkok (บริษัท ออโต้ สแกนดิเนเวีย กรุงเทพฯ) ตัวแทนจำหน่ายของ Geely ในประเทศไทย Geely กำลังดำเนินกลยุทธ์การขยายธุรกิจเชิงรุกในประเทศ
Geely เตรียมตั้งโชว์รูม 30 แห่งในพื้นที่ศูนย์กลาง
ปีนี้นับเป็นปีสำคัญของ Geely ในการพัฒนาในประเทศไทย โดยหลังจากเปิดโชว์รูมชุดแรก 6 แห่งในเดือนพฤษภาคม บริษัทมีแผนขยายเพิ่มอีก 9–11 แห่งในระยะสั้น ตั้งเป้าให้ได้ครบ 30 โชว์รูมและศูนย์บริการภายในสิ้นปีนี้ แตกต่างจากรูปแบบโชว์รูมนอกเมืองแบบ 4S เดิม สาขาเหล่านี้ถูกวางตำแหน่งอย่างมีกลยุทธ์ในทำเลที่มีผู้คนสัญจรหนาแน่น เช่น ย่านเซ็นทรัลเวิลด์ในกรุงเทพฯ บริเวณรอบคูเมืองเชียงใหม่ และแหล่งท่องเที่ยวในภูเก็ต
“กลุ่มผู้บริโภครถยนต์ไฟฟ้าหลักคือชนชั้นกลางในเมือง เราจึงเลือกใช้รูปแบบ Pop-up Store ในศูนย์การค้า ร่วมกับศูนย์ทดลองขับในจุดเชื่อมต่อการเดินทาง เพื่อให้ใกล้ชิดกับไลฟ์สไตล์ของพวกเขา

ผู้บริหารของตัวแทนจำหน่ายได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า กลยุทธ์การกระจายโชว์รูมนี้สอดคล้องอย่างใกล้ชิดกับพฤติกรรมการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย — ข้อมูลระบุว่า 90% ของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทยมีระยะการเดินทางต่อวันไม่เกิน 50 กิโลเมตร และโครงข่ายสถานีชาร์จในเขตเมืองมีอัตราการครอบคลุมเกิน 75% แล้ว
ทุกอย่างมุ่งสู่เป้าหมายยอดขาย EX5 ที่ 8,000–9,000 คันต่อปี
ปัจจุบัน Geely EX5 ซึ่งเป็นรถ SUV ขนาดกะทัดรัดพลังงานไฟฟ้า มาพร้อมระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ตั้งราคาขายระหว่าง 859,000 ถึง 949,000 บาท ซึ่งเข้ามาเติมช่องว่างระหว่างคู่แข่งหลักในตลาด ได้แก่ BYD Atto 3 (999,000 บาท) และ MG ZS EV รุ่น Long Range (1,290,000 บาท)
ตัวแทนจำหน่ายตั้งเป้ายอดขาย EX5 ไว้ที่ 8,000–9,000 คันต่อปี หวังครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยประมาณ 9%
สร้างความเชื่อมั่นผ่านราคาที่โปร่งใสและเป็นธรรม
ท่ามกลางการทำตลาดเชิงรุกของ BYD ที่เพิ่งประกาศส่วนลดพิเศษ 80,000 บาทสำหรับรุ่น Atto 3 ทาง Geely เลือกใช้กลยุทธ์ “สร้างแนวป้องกันด้วยราคาที่มั่นคง” โดยเน้นความโปร่งใสเป็นหลัก “เรากำหนดราคาขายปลีกแนะนำแบบเดียวกันทั่วประเทศ และบริการเสริมทั้งหมดมีการระบุราคาอย่างชัดเจน” ผู้บริหารตัวแทนจำหน่ายกล่าวย้ำ กลยุทธ์นี้แม้ดูเข้มงวด แต่สะท้อนถึงการเข้าใจปัญหาเชิงพฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดไทยอย่างตรงจุด ซึ่งมักเผชิญกับปัญหาการต่อรองราคาที่ยุ่งยาก และค่าใช้จ่ายหลังการขายที่ไม่โปร่งใส
รายงานในอุตสาหกรรมระบุว่า ผู้ซื้อรถยนต์ในประเทศไทยมากถึง 68% เคยประสบปัญหาถูกบังคับให้ซื้ออุปกรณ์เสริมราคาแพงหลังจากรับรถ นโยบาย “ราคาชัดเจนไม่ต้องต่อ” ของ Geely ร่วมกับการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มครอบครัวชนชั้นกลางที่มีรายได้ต่อปีระหว่าง 500,000 – 1,000,000 บาท ซึ่งให้ความสำคัญกับความแน่นอนและความโปร่งใสในการซื้อรถ
แม้ว่าปัจจุบันรถยนต์ Geely ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะเป็นรถนำเข้า แต่การผลิตในประเทศก็ได้ถูกวางแผนไว้ในระยะยาว “เมื่อยอดขายต่อปีของแบรนด์เดียวทะลุ 20,000 คัน เราจะพิจารณาแผนการผลิตในประเทศอีกครั้ง” ผู้บริหารของตัวแทนจำหน่ายกล่าว
แนวคิดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีที่มา — หลังจาก GWM เริ่มเดินสายการผลิตในประเทศไทย ต้นทุนของ Ora Good Cat ลดลง 18% ในปีถัดมา และการผลิตในโรงงานระยองของ BYD ก็ทำให้ราคา Atto 3 ลดลง 11%
Geely พร้อมสำหรับการพัฒนาในระยะยาว
จากกระจกบานใหญ่ของโชว์รูมแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ สามารถมองเห็นการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไทยได้อย่างชัดเจน: ฝั่งตรงข้ามเป็นโฆษณารถไฮบริดของ Toyota ส่วนทางขวามือมีสถานีชาร์จของ MG ที่มีรถยนต์ต่อคิวรอใช้งาน
กลยุทธ์ของ Geely ในประเทศไทย เช่นเดียวกับรถรุ่น EX5 ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่จุดแข็งด้านใดด้านหนึ่ง แต่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเสถียรของระบบโดยรวม ตามคำมั่นสัญญาของแบรนด์จาก Auto Scandinavia Bangkok:
“เราอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ราคาถูกที่สุด แต่เรารับประกันว่าคุณจะสามารถขับรถคันนี้ไปทำงานได้อย่างมั่นใจ แม้เวลาจะผ่านไปอีกสิบปี”
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง
มีรายงานว่า Sensteed Hi-Tech วางแผนที่จะเข้าควบคุมบริษัทแม่ของ NETA คือ HOZON อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 โดยจะเสร็จสิ้นการโอนย้ายสินทรัพย์และทีมผู้บริหารทั้งหมด หลังจากนั้น NETA จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง

Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?
รถ SUV ขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Suzuki Fronx จึงเข้าร่วมแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด
ในประเทศไทย ซันรูฟของรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อน สภาพการจราจรที่คับคั่ง และการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย — เพราะอุณหภูมิสูง 28-35℃ ตลอดทั้งปี ฝนตกบ่อยในช่วงฤดูฝน และการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อย่างกรุงเทพฯ มีผลต่อการใช้งานของซันรูฟโดยตรง

Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน
หลังสร้างกระแสแรงจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุด Omoda & Jaecoo เตรียมเดินหน้าส่งมอบรถล็อต 2 โดยมีกำหนดเดินทางจากจีนมาถึงประเทศไทยในวันที่ 14 กันยายน 2568 ก่อนจะทำการตรวจสอบคุณภาพและทยอยส่งมอบกว่า 1,000 คัน

รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน
JAECOO 5 EV ล็อตที่สองจำนวน 1,000 คัน ถูกส่งจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทยแล้ว นับเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ครั้งที่สองของแบรนด์นี้ในตลาดไทย หลังจากการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการมาถึงของล็อตที่สอง การส่งมอบ JAECOO 5 EV ในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน
รุ่นปีรถยนต์
รุ่นรถยนต์

