Voyah Zhiyin Global Edition พร้อมเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ จุดเด่นขับขี่ต่อเนื่องถึง 901 กิโลเมตร
AshleyAug 12, 2024, 10:36 AM
เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข้อมูลจากทางการของ Voyah ว่า SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ Voyah ซึ่งเป็นรุ่น Voyah Zhiyin Global Edition จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต่างประเทศช่วงกลางเดือนกันยายน รถรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Voyah และ Huawei ภายใต้แพลตฟอร์มไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นเอง โดยจะมาพร้อมกับห้องโดยสารอัจฉริยะและระบบ ADS 3.0 ของ Huawei คาดว่ารุ่นนี้จะมีราคาต่ำกว่ารุ่น Voyah FREE 318 ซึ่งมีช่วงราคาขายอยู่ที่ 228,900 - 266,900 หยวน

Voyah Zhiyin ยังคงรักษาดีไซน์ไฟหน้าแบบพาดผ่านของต้นแบบไว้ โดยไฟหน้าทั้งสองข้างมีลักษณะเรียวยาวและดุดัน ด้านล่างของด้านหน้ารถยังคงมีไฟตัดหมอกอยู่ที่ทั้งสองข้าง หนึ่งในจุดที่น่าสนใจคือ รถรุ่นนี้สามารถเลือกติดตั้งกระจังหน้าที่ทำเป็นสีดำด้าน และช่องระบายอากาศที่เพิ่มความสปอร์ตให้กับด้านหน้ารถได้อีกด้วย


ด้านข้างของตัวรถมีลายเส้นที่เน้นความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ ตัวรถยังมาพร้อมกับล้อขนาด 20 นิ้ว โดยมีให้เลือกถึง 2 แบบ ในส่วนของด้านหลังตัวรถยังคงมีเอกลักษณ์ของตระกูล โดยไฟท้ายที่พาดผ่านให้ความโดดเด่น นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับสปอยเลอร์หลัง, ดีไซน์ท้ายรถแบบ ducktail, และดิฟฟิวเซอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มความสปอร์ตได้อย่างดี


ในเรื่องของขนาดตัวถัง Voyah Zhiyin มีความยาว 4725 มม. ความกว้าง 1900 มม. และความสูง 1636 (1653) มม. ส่วนระยะฐานล้ออยู่ที่ 2900 มม. ซึ่งถ้าเทียบกับ Voyah FREE 318 แล้ว รุ่น Zhiyin จะมีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย โดย Voyah FREE 318 มีความยาว 4905 มม. ความกว้าง 1950 มม. และความสูง 1645 มม. พร้อมระยะฐานล้อ 2960 มม.

ภายในห้องโดยสาร Voyah Zhiyin ใช้การออกแบบใหม่ทั้งหมด มีการจัดวางที่เรียบง่ายและทันสมัย โดยแผงควบคุมกลางจะมีเพียงหน้าจอใหญ่หนึ่งจอ และแผงหน้าปัดจะฝังอยู่ใกล้กับช่องลมของเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-Up Display) ภายในห้องโดยสารมีการหุ้มด้วยวัสดุหนังนุ่ม และมีพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ที่บริเวณใต้คอนโซลกลาง ประตูรถยังได้รับการออกแบบให้เป็นแบบไร้ขอบเพิ่มความหรูหรา

ในด้านพละกำลัง Voyah Zhiyin ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้ารุ่นล่าสุดจาก LanHai ซึ่งมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 800V โดยมีตัวเลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังด้วยมอเตอร์เดียว และแบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยมอเตอร์คู่ สำหรับรุ่นที่มีมอเตอร์เดียวกำลังสูงสุดจะอยู่ที่ 215 กิโลวัตต์ และ 230 กิโลวัตต์ ส่วนรุ่นที่มีมอเตอร์คู่จะมีความสามารถรวมที่ 320 กิโลวัตต์ โดยความเร็วสูงสุดของทั้งสองรุ่นอยู่ที่ 204 กม./ชม.
ในด้านระยะทางการขับขี่ รถรุ่นนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมเฟอริกฟอสเฟตจาก CATL โดยมีความจุของแบตเตอรี่สองขนาดคือ 76.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง และ 77.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งให้ระยะการขับขี่ในสภาพการทดสอบ CLTC ที่ 625 กม. และ 570 กม. สำหรับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ นอกจากนี้ ยังมีรุ่นที่ใช้ระบบแบตเตอรี่ใหม่รุ่น Amber 2.0 ที่มีความจุ 112 กิโลวัตต์ชั่วโมง ในขณะการทดสอบ CLTC สามารถให้ระยะทางการขับขี่ถึง 901 กม. ยังมีเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว 5C ที่สามารถเติมพลังได้ 515 กม. ในเวลาเพียง 15 นาที
นอกจากนี้ CEO ของ Voyah, Lu Fang, ได้กล่าวว่า Voyah Zhiyin จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีสามไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดในอุตสาหกรรม, ห้องโดยสารที่ดีที่สุดของ Voyah, และระบบขับขี่อัจฉริยะที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้การขายของ Voyah เพิ่มขึ้น และก้าวเข้าสู่ระดับแรกของตลาดได้
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง
มีรายงานว่า Sensteed Hi-Tech วางแผนที่จะเข้าควบคุมบริษัทแม่ของ NETA คือ HOZON อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 โดยจะเสร็จสิ้นการโอนย้ายสินทรัพย์และทีมผู้บริหารทั้งหมด หลังจากนั้น NETA จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง

รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน
JAECOO 5 EV ล็อตที่สองจำนวน 1,000 คัน ถูกส่งจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทยแล้ว นับเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ครั้งที่สองของแบรนด์นี้ในตลาดไทย หลังจากการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการมาถึงของล็อตที่สอง การส่งมอบ JAECOO 5 EV ในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว

Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?
รถ SUV ขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Suzuki Fronx จึงเข้าร่วมแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน
หลังสร้างกระแสแรงจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุด Omoda & Jaecoo เตรียมเดินหน้าส่งมอบรถล็อต 2 โดยมีกำหนดเดินทางจากจีนมาถึงประเทศไทยในวันที่ 14 กันยายน 2568 ก่อนจะทำการตรวจสอบคุณภาพและทยอยส่งมอบกว่า 1,000 คัน

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด
ในประเทศไทย ซันรูฟของรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อน สภาพการจราจรที่คับคั่ง และการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย — เพราะอุณหภูมิสูง 28-35℃ ตลอดทั้งปี ฝนตกบ่อยในช่วงฤดูฝน และการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อย่างกรุงเทพฯ มีผลต่อการใช้งานของซันรูฟโดยตรง
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน
รุ่นปีรถยนต์
รุ่นรถยนต์

