มีการเปิดเผยข้อมูลการขายรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ในปี 2566 โดยรถยนต์ไฟฟ้าของจีนมีสัดส่วนเกือบ 80%

 

ก่อนหน้านี้ Autolife ได้เผยแพร่ข้อมูลยอดขายรถยนต์ทั้งปีในประเทศไทยซึ่งข้อมูลการขายรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจจากข้อมูล ยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ในประเทศไทยในปี 2566 ทะลุ 76,300 คัน ในขณะที่ในปี 2565 จำนวนนี้อยู่ที่ประมาณ 10,000 คันเท่านั้น ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 684% ในเพียงหนึ่งปี รถยนต์ไฟฟ้าบริสุทิ์ความประหยัดพลังงานเป็นส่วนใหญ่ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดถึง 12% อัตราการเติบโตแบบนี้เรียกได้ว่า"ซุปเปอร์คาร์สปีด" เลยก็ว่าได้!

 

ในรายชื่อยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า10อันดับแรก นอกจาก Model Y และ Model 3 ของ Tesla แล้ว รถยนต์ยี่ห้อจีนอื่น ๆ ยังครองส่วนตลาดถึง 80%!

เรามาดูสถิติยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นสุดยอดสิบอันดับแรก (หน่วยเป็นจำนวนรถ) :

 

BYD Atto3 ：19214

NETA V ：12777

BYD Dolphin ：9410

ORA Good Cat ：6712

Tesla Model Y ：5881

MG 4 Electric ：4833

MG EP ：4475

Tesla Model 3 ：2324

BYD Seal ：1810

MG ZS EV ：1753

 

นี่อาจเป็นเพียงเริ่มต้นของการเข้ามาของแบรนด์จีนในตลาด ในปี 2566 BYD, Chery, AION และ Changan ที่เป็นแบรนด์รถยนต์จีนที่มีความสามารถจะประกาศเผยแพร่แผนการสร้างโรงงานในประเทศไทย ซึ่งหมายความว่ารถยนต์แบรนด์จีนที่เราจะซื้อในอนาคตจะไม่ได้เป็นการนำเข้ารถยนต์เต็มรูปแล้ว แต่จะเป็นการผลิตในโรงงานในประเทศ น่าจะทำให้ราคาและค่าใช้จ่ายในการใช้รถในระยะยาวลดลงอีกนะ!

 

แน่นอนว่านี้เกี่ยวข้องกับนโยบายของเราด้วย รัฐบาลไทยได้ประกาศแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายในปี 2573 ว่าจะมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นส่วนแบ่งของผลิตภัณฑ์รถยนต์ทั้งหมดถึง 30% และการสร้างโรงงานของแบรนด์จีนจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้

 

นอกจากนี้ในปี 2567 - 2568 ภาษีอากรสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าสินค้านำเข้าจะลดลงไม่เกิน 40% และอัตราภาษีการบริโภคสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาทจะลดลงจาก 8% เป็น 2% บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีฐานการผลิตในประเทศไทยสามารถยื่นขอรับเงินสงเคราะห์ได้ การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสมบูรณ์และการลงทุนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท (ประมาณ 10,380 ล้านบาท) รวมถึงการให้สิทธิ์ในการครอบครองทุกข้อเสนอที่เป็นส่วนแบ่ง 100% ของการลงทุนต่างประเทศ การได้รับสิทธิ์ในการครอบครองหนังสือสัญญาสิทธิ์ที่ถาวร และการยกเว้นภาษีเงินได้ของกิจการสูงสุด 8 ปี

 

นโยบายเหล่านี้เป็นการส่งเสริมการพัฒนาตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศ โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสมบูรณ์ และจากการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าสมบูรณ์ในปี 2566 นี้ เราก็มีตลาดผู้บริโภคที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

อย่างไรก็ตามปัญหาคือว่าในขณะที่เรากำลังส่งเสริมให้แบรนด์รถยนต์จีนลงทุนก่อสร้างโรงงานในประเทศ จะมีวิธีใดที่จะดึงดูดแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพดีจากต่างประเทศเข้าสู่ตลาดของเรา เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการเลือกซื้อรถยนต์ของเราได้บ้าง? หลังจากที่มีแค่รถยนต์จีนและ Tesla ก็อาจจะเบื่อไปบ้างนะครับ!

 

นอกจากนี้ จากข้อมูลที่เผยแพร่ ยอดขายรถยนต์โดยสารและรถบรรทุกในประเทศไทยปี 2566 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 775,780 คัน ลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จีนมีส่วนแบ่งตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 6% โดยในเดือนพฤศจิกายน 2565 BYD ที่เข้าสู่ตลาดไทยปี 2566 ขายรถยนต์ประมาณ 30,000 คัน มีส่วนแบ่งตลาดเกือบ 4% ทำให้เขาเลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับที่ 6 เลื่อนเนื่องจาก Nissan และ Mazda อันดับที่ 6 อยู่แล้ว แต่ยังคง Toyota จากญี่ปุ่นเป็นอันดับแรก แม้ว่ายอดขายรถใหม่ในตลาดไทยปี 2566 ของ Toyota จะลดลง 8% และส่วนแบ่งตลาดปัจจุบันอยู่ที่ 34% อยู่เหมือนเดิม