RIDDARA RD6 2WD เพิ่มรุ่นแบตเตอรี่ขนาด 86kWh โดยสามารถวิ่งได้ไกลสุดถึง 503 กิโลเมตร

Kevin WongMar 25, 2025, 05:52 PM

【PCauto】ในงาน Motor Show 2025 ประเทศไทย แบรนด์รถกระบะไฟฟ้าภายใต้เครือ Geely อย่าง RIDDARA ได้เปิดตัว RD6 รุ่นปี 2025 โดยการเปลี่ยนแปลงหลักคือรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ (2WD) มีการเพิ่มตัวเลือกแบตเตอรี่ขนาด 86 kWh ซึ่งสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 503 กิโลเมตร


  • RIDDARA RD6 2WD 63 kWh ราคา 899,000 บาท
  • RIDDARA RD6 2WD 73.9 kWh ราคา 999,000 บาท
  • RIDDARA RD6 4WD 73.9 kWh ราคา 1,149,000 บาท
  • RIDDARA RD6 4WD 86 kWh ราคา 1,299,000 บาท
  • RIDDARA RD6 2WD 86 kWh รุ่นปี 2025 ราคา 1,159,000 บาท
  • RIDDARA RD6 4WD 86 kWh พร้อมหลังคาซันรูฟ รุ่นปี 2025 ราคา 1,335,000 บาท

ตั้งแต่เปิดตัวในตลาดประเทศไทย RIDDARA RD6 ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่ง แม้ในช่วงที่ตลาดรถกระบะของไทยในปี 2024 จะซบเซา แต่หลังจากเปิดตัวเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2024 RIDDARA RD6 สามารถสร้างยอดจองได้มากกว่า 1,000 คัน

ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการผลิตและจำหน่ายรถยนต์เป็นจำนวนมาก รถกระบะได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้บริโภคชาวไทย โดย RIDDARA RD6 สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างดี ด้วยการผสมผสานความสะดวกสบายและการควบคุมแบบรถ SUV เข้ากับความสามารถในการบรรทุกและการขับขี่แบบออฟโรดของรถกระบะ ช่วยแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้รถกระบะแบบดั้งเดิมในไทยเคยเผชิญ เช่น การเร่งที่ล่าช้า อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันสูง และความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอ จึงได้รับเสียงตอบรับในเชิงบวกจากตลาดอย่างกว้างขวาง

RIDDARA RD6 รุ่นปี 2025 ได้รับการปรับปรุงในหลายด้านเพื่อเพิ่มศักยภาพของผลิตภัณฑ์ โดยยังคงรักษาจุดเด่นของรุ่นก่อนหน้า พร้อมทั้งเพิ่มรุ่นแบตเตอรี่ขนาด 86 kWh ในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ (2WD) ซึ่งช่วยเพิ่มระยะทางการวิ่งได้มากขึ้น ในด้านสมรรถนะ รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อยังคงให้กำลังสูงถึง 422 แรงม้า พร้อมแรงบิด 595 นิวตันเมตร และสามารถเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.5 วินาที ขณะที่รุ่นขับเคลื่อนสองล้อมีพละกำลัง 270 แรงม้า และแรงบิด 385 นิวตันเมตร

ในด้านเทคโนโลยีและความสะดวกสบาย RD6 รุ่นปี 2025 มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 10.2 นิ้ว และจอแสดงผลส่วนกลางขนาด 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันอัจฉริยะและคำสั่งเสียงที่ทันสมัย เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน รถยังเพิ่มแผ่นชาร์จไร้สายขนาด 50 วัตต์ และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกสองโซนที่มาพร้อมกับฟังก์ชันกรองอากาศ CN95 PM2.5 เบาะที่นั่งด้านหน้ามีฟังก์ชันระบายอากาศและปรับได้ 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้ายังปรับเอนราบได้ถึง 180 องศา เพื่อสร้างบรรยากาศภายในที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น

RIDDARA RD6 ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมาโดยตลอด โดยรุ่นปี 2025 มาพร้อมถุงลมนิรภัย 6 จุด และระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) มากถึง 14 รายการ หนึ่งในนั้นคือกล้องมองภาพรอบคัน 540 องศา พร้อมฟังก์ชันมองทะลุใต้ท้องรถ ช่วยให้ผู้ขับขี่มีมุมมองรอบคันแบบไร้จุดอับสายตา ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่ได้อย่างชัดเจน

ในด้านดีไซน์ภายนอก รุ่นปี 2025 ของ RIDDARA RD6 ยังคงสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยด้านหน้าที่ล้ำสมัยและเส้นสายตัวถังที่โฉบเฉี่ยว โดดเด่นแตกต่างจากความแข็งแกร่งในแบบดั้งเดิมของรถกระบะ ส่วนกระบะท้ายยังคงติดตั้งปลั๊กไฟขนาด 6 กิโลวัตต์ ความจุ 1200 ลิตร พร้อมทั้งมีพื้นที่เก็บสัมภาระเพิ่มเติมที่ด้านหน้าและช่องเก็บของอื่น ๆ ที่รองรับความต้องการการบรรทุกที่หลากหลายของผู้ใช้

RIDDARA ในประเทศไทย ในฐานะแบรนด์ที่กำลังเกิดใหม่ จำเป็นต้องแสดงความโดดเด่นและความกระตือรือร้นที่เหนือกว่าแบรนด์อื่น ๆ การเปิดตัวรุ่นที่มีระยะทางไกลอย่างรวดเร็วเป็นเพราะ RIDDARA สามารถรับฟังความคิดเห็นของผู้บริโภคเกี่ยวกับระยะทางการใช้งานได้อย่างจริงจัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า RIDDARA ให้ความสำคัญต่อตลาดในประเทศไทย

# ข้อมูลรถใหม่

คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์

ติดตามเรา

You Tube Facebook Google News

ข้อมูลยอดนิยม

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง

มีรายงานว่า Sensteed Hi-Tech วางแผนที่จะเข้าควบคุมบริษัทแม่ของ NETA คือ HOZON อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 โดยจะเสร็จสิ้นการโอนย้ายสินทรัพย์และทีมผู้บริหารทั้งหมด หลังจากนั้น NETA จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง

วิรุฬห์Sep 18, 2025
Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน

Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน

หลังสร้างกระแสแรงจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุด Omoda & Jaecoo เตรียมเดินหน้าส่งมอบรถล็อต 2 โดยมีกำหนดเดินทางจากจีนมาถึงประเทศไทยในวันที่ 14 กันยายน 2568 ก่อนจะทำการตรวจสอบคุณภาพและทยอยส่งมอบกว่า 1,000 คัน

ธนวัฒน์Sep 12, 2025
ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด

ในประเทศไทย ซันรูฟของรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อน สภาพการจราจรที่คับคั่ง และการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย — เพราะอุณหภูมิสูง 28-35℃ ตลอดทั้งปี ฝนตกบ่อยในช่วงฤดูฝน และการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อย่างกรุงเทพฯ มีผลต่อการใช้งานของซันรูฟโดยตรง

Kevin WongSep 12, 2025
Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?

Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?

รถ SUV ขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Suzuki Fronx จึงเข้าร่วมแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

LienOct 5, 2025
รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน

รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน

JAECOO 5 EV ล็อตที่สองจำนวน 1,000 คัน ถูกส่งจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทยแล้ว นับเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ครั้งที่สองของแบรนด์นี้ในตลาดไทย หลังจากการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการมาถึงของล็อตที่สอง การส่งมอบ JAECOO 5 EV ในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว

LienSep 18, 2025
ดูเพิ่มเติม
  • รถยอดนิยม

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

  • ภาพภายใน

  • รุ่นปีรถยนต์

  • รุ่นรถยนต์