เมื่อรถบรรทุกไร้คนขับ...วิ่งบนเส้นทางถนนและรางรถไฟ!

เทคโนโลยีใหม่จากอเมริกาเผยโฉม ‘Glider’ ยานยนต์สองโหมดไร้ห้องโดยสารสำหรับคนขับ ขนส่งสินค้าบนถนนและรางแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

Dual-mode vehicle: จากถนนสู่ราง โดยไม่ต้องมีคนขับ

ในปี 2025 เรากำลังจะได้เห็นสิ่งที่เคยเป็นแค่ไอเดียกลายเป็นความจริง เมื่อ Glid Technologies (กลิด เทคโนโลยีส์) สตาร์ทอัพจากเมืองซอลต์เลกซิตี สหรัฐอเมริกา จับมือกับ Mendocino Railway เพื่อนำ Glider M (ไกลเดอร์เอ็ม) ยานยนต์ไฮบริดแบบมีคนขับ สามารถวิ่งได้ทั้งบนถนนและบนราง รวมถึง Glider (ไกลเดอร์) เวอร์ชันไร้คนขับ นำทั้งสองแบบนี้มาทดลองใช้งาน บนเส้นทางรถไฟ Skunk Train เส้นทางขนส่งสินค้าระยะทาง 40 ไมล์ หรือ 64.37 กิโลเมตร  ที่วิ่งระหว่างเมืองวิลลิตส์และฟอร์ตแบรกก์ ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟเก่าแก่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย

Glider คืออะไร?

Glider (ไกลเดอร์) ล้ำยุคของบริษัทสตาร์ทอัพแห่งนี้ คือแพลตฟอร์มขนส่งที่มีแต่ล้อ แบบไม่มีห้องโดยสารสำหรับคนขับ สามารถขนพ่วงสินค้าหนักถึง 36 ตันบนพื้นยางมะตอย วิ่งได้ทั้งบนถนนและรางรถไฟ โดยเปลี่ยนโหมดการเดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ ความเร็วบนรางสูงสุดถึง 129 กม./ชม.

ขับเอง เชื่อมต่อเอง ควบคุมจากระยะไกล

เพราะเทคโนโลยีอัตโนมัติที่ฝังใน Glider (ไกลเดอร์) รุ่นไร้คนขับ ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับรถพ่วงได้อัตโนมัติ เคลื่อนย้ายจากลานจอดขึ้นรางรถไฟได้เองโดยไม่ต้องมีคนขับ และหากจำเป็นก็สามารถควบคุมจากศูนย์กลางได้แบบเรียลไทม์

ไม่ใช่แค่ไฟฟ้า แต่ยังมีรุ่นไฮบริด

นอกจาก Glider (ไกลเดอร์) เวอร์ชันไฟฟ้าล้วนแล้ว Glid Technologies (กลิด เทคโนโลยีส์) ยังเตรียมปล่อย GliderM Alpha (ไกลเดอร์เอ็ม อัลฟา) – รุ่นไฮบริดเชื้อเพลิงไบโอดีเซล ที่พร้อมให้บริการจริงบนเส้นทาง Skunk Train เช่นกัน

ชมวิดีโอสาธิตรถยนต์รุ่นนี้ในรูปแบบ 3 มิติด้านล่าง:
Check out a 3D-rendered demonstration of the vehicle in the video below:

https://www.youtube.com/watch?v=RfuWlArOH4k

อนาคตของโลจิสติกส์ในพื้นที่ห่างไกล

ภารกิจของโครงการนี้ไม่ใช่แค่การโชว์เทคโนโลยี แต่รวมถึงการ “ปลุกชีพ” โครงสร้างพื้นฐานที่ถูกทิ้งร้าง และลดการปล่อยคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่มักถูกละเลยในระบบขนส่งสมัยใหม่

ก้าวแรกของนวัตกรรม หรือแค่โชว์รูม?

แม้ไกลเดอร์ (Glider) จะมีสิทธิบัตร มีทีมบริหารที่เคยผ่าน SpaceX และ Canoo และอ้างว่ามีคำสั่งซื้อแล้ว แต่ในโลกจริง เรายังไม่เห็นต้นแบบตัวเป็น ๆ สักเท่าไร หวังว่าเบื้องหลังจะมีอะไรมากกว่าที่เห็น และเราจะได้เห็นการทดสอบจริงในเร็ววันนี้

ที่มา: glidrail, newatlas