Zeekr 7X จะเปิดตัวในงาน Motor Show 2025 เพื่อขยายอิทธิพลของแบรนด์ Zeekr

Kevin WongMar 21, 2025, 04:52 PM

【PCauto】มีข่าวลือว่า Zeekr 7X จะเปิดตัวในงาน Motor Show 2025 หากเป็นจริง Zeekr 7X จะกลายเป็นรถรุ่นที่สามของ Zeekr ที่จะขายในประเทศไทย โดย Zeekr X มุ่งเน้นกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก ส่วน Zeekr 009 จะเน้นครอบครัว แต่ Zeekr 7X จะอยู่ในจุดกลางระหว่างสองรุ่นนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

Zeekr 7X ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้า SUV ขนาดกลางที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในครอบครัว โดยมีความแข็งแกร่งในด้านการออกแบบ สมรรถนะ และเทคโนโลยีต่าง ๆ

ในด้านการออกแบบภายนอก Zeekr 7X ใช้ภาษาออกแบบ Hidden Energy โดยฝาครอบเครื่องยนต์แบบเปลือกหอย พร้อมมือจับประตูแบบซ่อนและไฟท้ายแบบเชื่อมต่อ เพิ่มด้วยสปอยเลอร์บนหลังคาสูงและชิ้นส่วนตกแต่งสีเงินที่กันชนหลัง ทำให้รูปลักษณ์โดยรวมดูทันสมัยและมีพลัง สร้างความโดดเด่นอย่างชัดเจน ขนาดตัวถังยาว 4825 มม. กว้าง 1930 มม. สูง 1656 (1666) มม. ฐานล้อ 2925 มม. ซึ่งมีขนาดและฐานล้อใหญ่กว่า Toyota Fortuner ด้วยซ้ำ

ในด้านการตกแต่งภายใน Zeekr 7X ไม่เพียงแต่ติดตั้งจอใหญ่ที่คอนโซลกลาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ปุ่มควบคุมแบบคีย์บอร์ด และแผงชาร์จไร้สายสำหรับมือถือสองเครื่องเท่านั้น แต่ยังเลือกใช้วัสดุหนังสองสีที่มีสีเข้มด้านบนและสีอ่อนด้านล่างหุ้มที่นั่ง ในห้องโดยสารยังมีไฟบรรยากาศยาวถึง 4673 มม. และลำโพงลายดอกทานตะวันที่อยู่ด้านบนของคอนโซลกลาง ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศหรูหราในรถได้อย่างดี

เบาะหลังมาพร้อมกับโต๊ะเล็กและหน้าจอมัลติมีเดีย รองรับแอปพลิเคชันบันเทิงหลายรูปแบบ ส่วนจอที่ที่พักแขนกลางสามารถปรับฟังก์ชันเบาะที่นั่งได้ รวมถึงปุ่มควบคุมบริเวณพนักพิงเบาะหน้า ซึ่งเป็นการออกแบบที่ใส่ใจเพิ่มประสบการณ์การนั่งให้กับผู้โดยสารเบาะหลังได้อย่างดีเยี่ยม

ในฐานะที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าและเป็นรุ่นจากแบรนด์ Zeekr, Zeekr 7X มีสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ใช้มอเตอร์ SiC คาร์ไบด์ซิลิกอนที่มีพลังสูงและประหยัดพลังงาน รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมีพลังสูงสุด 310kW ขุมพลังจากแบตเตอรี่มีให้เลือกสองแบบ คือ แบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟต 75kWh และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 100.01 kWh รุ่นที่มีระยะทางวิ่งมาตรฐานสามารถวิ่งได้ระยะทาง WLTC ถึง 605 กิโลเมตรและ 600 กิโลเมตร ส่วนรุ่นที่มีระยะทางวิ่งยาวสามารถวิ่งได้ถึง 780 กิโลเมตรและ 770 กิโลเมตร

Zeekr 7X รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อแบบมอเตอร์คู่ มีกำลังสูงสุดของมอเตอร์หน้า 165 kW และมอเตอร์หลัง 310 kW โดยสามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียงประมาณ 3 วินาที นอกจากนี้ Zeekr 7X ยังมาพร้อมกับแพลตฟอร์มแรงดันไฟฟ้าสูง 800V ซึ่งรองรับการชาร์จเร็วในทุกรุ่น

ในด้านการตั้งค่าอัจฉริยะ Zeekr 7X ติดตั้งแพลตฟอร์มคำนวณห้องโดยสารอัจฉริยะ 8295 พร้อมหน้าจอสัมผัส HD ขนาด 16 นิ้วที่เบาะหน้า และ AR-HUD ขนาด 36.2 นิ้ว ทำให้การใช้งานลื่นไหลและแสดงผลได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งชิป Orin-X สำหรับขับขี่อัจฉริยะสองตัว และระบบเลเซอร์เรดาร์ รวมไปถึงฟังก์ชันช่วยขับขี่อัจฉริยะที่ครบครันมากมาย

ก่อนที่ Zeekr 7X จะเปิดตัวในประเทศไทย Zeekr ได้สร้างผลงานที่ดีและได้รับเสียงชื่นชมจากตลาดไทยแล้วด้วยการเปิดตัว Zeekr X และ Zeekr 009

Zeekr X เริ่มเปิดให้จองล่วงหน้าในงาน Motor Show 2024 ที่กรุงเทพฯ และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม การออกแบบที่โดดเด่นทำลายกรอบเดิม ๆ พร้อมด้วยสมรรถนะที่น่าทึ่ง เช่น การเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาที การป้องกันความปลอดภัยรอบคัน 720° และเบาะนั่งไร้น้ำหนักสุดหรู รุ่นย่อยของ Zeekr X มีสองรุ่น โดยราคาตั้งไว้ที่ 1,199,000 บาท และ 1,349,000 บาท

Zeekr 009 เปิดตัวในประเทศไทยในเดือนกันยายน 2024 โดยมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อแฟลกชิปเพียงรุ่นเดียว ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,099,000 บาท ซึ่งถือว่ามีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่ารุ่น Toyota Alphard และ Vellfire ถึงแม้ว่าจะเป็นรถหรู ก็ตาม จนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2025 จำนวนการส่งมอบของ Zeekr 009 เกิน 1,000 คันแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมที่ได้รับในตลาดไทยได้อย่างชัดเจน

ตามราคาของ Zeekr X และ Zeekr 009 คาดว่า Zeekr 7X อาจมีราคาอยู่ในช่วง 1.2 ล้านถึง 1.6 ล้านบาท เมื่อพิจารณาความสามารถของ Zeekr 7X ราคานี้จะมีความสามารถในการแข่งขันได้หรือไม่?

# ข้อมูลรถใหม่

คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์

ติดตามเรา

You Tube Facebook Google News

ข้อมูลยอดนิยม

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง

มีรายงานว่า Sensteed Hi-Tech วางแผนที่จะเข้าควบคุมบริษัทแม่ของ NETA คือ HOZON อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 โดยจะเสร็จสิ้นการโอนย้ายสินทรัพย์และทีมผู้บริหารทั้งหมด หลังจากนั้น NETA จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง

วิรุฬห์Sep 18, 2025
Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน

Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน

หลังสร้างกระแสแรงจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุด Omoda & Jaecoo เตรียมเดินหน้าส่งมอบรถล็อต 2 โดยมีกำหนดเดินทางจากจีนมาถึงประเทศไทยในวันที่ 14 กันยายน 2568 ก่อนจะทำการตรวจสอบคุณภาพและทยอยส่งมอบกว่า 1,000 คัน

ธนวัฒน์Sep 12, 2025
รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน

รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน

JAECOO 5 EV ล็อตที่สองจำนวน 1,000 คัน ถูกส่งจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทยแล้ว นับเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ครั้งที่สองของแบรนด์นี้ในตลาดไทย หลังจากการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการมาถึงของล็อตที่สอง การส่งมอบ JAECOO 5 EV ในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว

LienSep 18, 2025
Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?

Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?

รถ SUV ขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Suzuki Fronx จึงเข้าร่วมแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

LienOct 5, 2025
ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด

ในประเทศไทย ซันรูฟของรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อน สภาพการจราจรที่คับคั่ง และการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย — เพราะอุณหภูมิสูง 28-35℃ ตลอดทั้งปี ฝนตกบ่อยในช่วงฤดูฝน และการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อย่างกรุงเทพฯ มีผลต่อการใช้งานของซันรูฟโดยตรง

Kevin WongSep 12, 2025
ดูเพิ่มเติม
  • รถยอดนิยม

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

  • ภาพภายใน

  • รุ่นปีรถยนต์

  • รุ่นรถยนต์