ภาพรวมของรถ

Toyota Alphard คือรถ MPV หรูหรา มี 2 รุ่นที่เลือกได้ ได้แก่ 3.5 VIP และ 2.5 HV.

ระบบกำลัง

รุ่น Alphard 3.5 VIP ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 24 วาล์ว DOHC Chain Drive พร้อม VVT-iW และ D-4S ความจุ 3,456 ซีซี กำลังสูงสุด 296 แรงม้า (221 กิโลวัตต์) ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตันเมตร ที่ 4,600 - 4,700 รอบ/นาที.

รุ่น Alphard 2.5 HV ใช้เครื่องยนต์ 16 วาล์ว DOHC VVT-i ความจุ 2,494 ซีซี กำลัง 150 แรงม้า (112 กิโลวัตต์) ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4,400 - 4,800 รอบต่อนาที มีแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์แบบไฮบริด และเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะมีกำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์

การใช้น้ำมัน

รุ่น 3.5 VIP มีการใช้น้ำมัน 9 กิโลเมตร/ลิตร รุ่น 2.5 HV มีการใช้น้ำมัน 15 กิโลเมตร/ลิตร.

ขนาดตัวรถ

ทั้งสองรุ่นมีความยาวตัวถังที่ 4,915 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,850 มิลลิเมตร ความสูง 1,895 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร

รุ่น 3.5 VIP มีระยะห่างล้อหน้า 1,575 มิลลิเมตร และล้อหลัง 1,600 มิลลิเมตร ส่วนรุ่น 2.5 HV มีระยะห่างล้อหน้า 1,600 มิลลิเมตร และล้อหลัง 1,625 มิลลิเมตร

รุ่น 3.5 VIP มีแฮนด์ลิ้งหน้าและหลังตามลำดับคือ 910 มิลลิเมตรและ 1,035 มิลลิเมตร รุ่น 2.5 HV ก็มีแฮนด์ลิ้งหน้าและหลังเท่ากันคือ 910 มิลลิเมตรและ 1,035 มิลลิเมตร

รุ่น 3.5 VIP มีระยะห่างจากพื้นขั้นต่ำคือ 160 มิลลิเมตร รุ่น 2.5 HV มีระยะห่างจากพื้นขั้นต่ำคือ 165 มิลลิเมตร.

รุ่น 3.5 VIP มีความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร รุ่น 2.5 HV มีความจุถังน้ำมัน 65 ลิตร.

รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดของรุ่น 3.5 VIP คือ 5.8 เมตร ส่วนรุ่น 2.5 HV คือ 5.6 เมตร.

อุปกรณ์ภายใน

ภายในห้องโดยสารออกแบบอย่างหรูหรา เบาะนั่งเป็นเบาะหนังแท้ปรับไฟฟ้า ใช้วัสดุหนังเจาะรูในการหุ้มเบาะ แผงหน้าปัดและประตูตกแต่งด้วยลายไม้ มีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ (MID) ขนาด 4.2 นิ้วแบบ TFT พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง เบาะคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง ส่วนเบาะผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง แถวที่สองมี 3 ที่นั่ง ซึ่งสามารถพับแขวนได้ ภายในรถมีไฟส่องสว่างแบบ 16 สี และมีไฟส่วนตัวในแถวที่สองและแถวที่สาม

ระบบความปลอดภัย

มาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน เช่น ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองหลัง ระบบกันขโมยและกุญแจ Immobilizer ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถอัจฉริยะ (VSC) ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC) ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) และกล้องมองรอบคัน นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีนำทางและระบบ T-Connect Telematics ซึ่งรวมถึง GEO-FENCING (แจ้งเตือนเมื่อรถออกจากพื้นที่ที่กำหนด) และ Find my car (ตรวจสอบตำแหน่งรถผ่านแอปพลิเคชัน)