Toyota Fortuner 2.4 Leader V 4WD AT 2022

รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์แต่ละรุ่นจะมีขนาดยางที่แตกต่างกันออกไป บางรุ่นปี 2023-2024 เช่น รุ่น 2.4 Leader S 6AT 2024 หรือบางรุ่นปี 2023 อย่าง 2.4 Leader G 6AT 4x2 และ 2.4 Leader V 6AT 4x2 จะใช้ยางขนาด 265/65 R17 ทั้งยางหน้า ยางหลัง และยางอะไหล่ ส่วนรุ่นอื่นๆ เช่น 2.8 GR Sport 6AT 4×4 2024 หรือบางรุ่นปี 2023 อย่าง 2.4 Legender 6AT 4x2 และ 2.4 Legender 6AT 4x4 จะใช้ยางขนาด 265/50 R20 ทั้งยางหน้าและยางหลัง แต่ในเอกสารไม่ได้ระบุขนาดยางอะไหล่ของรุ่นเหล่านี้ไว้ครับ ขนาดยางที่ว่านี้จะประกอบด้วยความกว้างของยาง อัตราส่วนความสูงของแก้มยาง และเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีผลต่อการควบคุมรถ ความสะดวกสบายในการขับขี่ และสมรรถนะในการขับเคลื่อนบนเส้นทางต่างๆ ดังนั้นเวลาจะเปลี่ยนยาง ต้องเลือกขนาดที่ตรงกับรุ่นรถนะครับ จะได้มั่นใจว่ารถจะใช้งานได้ปกติและปลอดภัยทุกการเดินทาง

รถโฟร์จูนเนอร์ของโตโยต้าเป็น SUV ยอดนิยมในตลาดไทย แต่ก็มีจุดที่ควรรู้ไว้บ้าง อย่างเรื่องระบบช่วงล่างที่ค่อนข้างแข็ง ทำให้การเดินทางไกลอาจรู้สึกไม่สะดวกสบายนัก โดยเฉพาะบนเส้นทางที่เป็นภูเขาในไทย ที่นั่งแถวสามก็ค่อนข้างคับสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งอาจเป็นจุดที่สังเกตได้ชัดเวลาออกทริปกับครอบครัว ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตรนั้นแรงดี แต่ในอากาศร้อนๆ ของไทย ถ้าบำรุงรักษาไม่ทันเวลาอาจมีอาการเทอร์โบช้า แนะนำให้เจ้าของรถในไทยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อยขึ้นและเลือกใช้น้ำยาหล่อเย็นคุณภาพสูง จุดเด่นของโฟร์จูนเนอร์คือความสูงของตัวรถที่ช่วยให้ขับบนถนนลูกรังตามต่างจังหวัดได้ดี แต่ก็ต้องระวังเรื่องศูนย์ถ่วงที่สูงเวล้าเข้าโค้งควรลดความเร็วลง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพาร์ทไทม์ทำงานได้มั่นใจในฤดูฝน แต่ควรตรวจสอบสภาพดิฟฟ์ล็อกเป็นประจำ ส่วนปัญหาอย่างเสียงเอี๊ยดอ๊าดของพลาสติกในห้องรถเมื่อจอดตากแดดนานๆ แก้ไขเบื้องต้นด้วยการติดฟิล์มกรองแสงหรือใช้ผ้าคลุมแดด สรุปแล้วปัญหาเหล่านี้จัดการได้ไม่ยากถ้าบำรุงรักษาให้ถูกวิธีและปรับสไตล์การขับให้เหมาะ โฟร์จูนเนอร์ยังคงเป็นตัวท็อปในเรื่องความทนทานและมูลค่าการขายคืนในตลาด SUV ระดับกลางของไทย

รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์เป็น SUV 7 ที่นั่งที่ขายดีในตลาดไทย ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระที่ประมาณ 200 ลิตรในโหมดปกติ เพียงพอสำหรับของใช้ในชีวิตประจำวันหรือกระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก แต่ถ้าปรับพนักที่นั่งแถวที่ 3 ลงทั้งหมด พื้นที่ก็จะขยายไปถึง 1,080 ลิตร เหมาะสำหรับใส่ของชิ้นใหญ่หรือไปเที่ยวกับครอบครัว แถวที่นั่งที่ 2 ก็สามารถปรับพนักได้บางส่วนเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นอีกด้วย สำหรับคนไทยแล้ว การออกแบบพื้นที่แบบนี้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองหรือเดินทางไกล โดยเฉพาะเวลาออกทริปสุดสัปดาห์หรือกลับบ้านช่วงเทศกาลที่ต้องขนของเยอะ สิ่งที่ควรสังเกตคือ ฟอร์จูนเนอร์ออกแบบความกว้างของช่องเก็บสัมภาระและความสูงจากพื้นให้เหมาะสม ทำให้ยกของหนักขึ้นลงง่าย พื้นยังใช้วัสดุกันลื่นเพื่อความ praktisch ยิ่งขึ้น ถ้าต้องการพื้นที่เก็บของมากขึ้น ก็สามารถติดตั้งกระบะบนหลังคาหรือตะขอลากจูงได้ แต่ต้องระวังเรื่องน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกันอย่างฮอนด้า CR-V หรือ ISUZU MU-X ฟอร์จูนเนอร์มีการใช้พื้นที่ที่แตกต่างกัน แนะนำให้ลองเปรียบเทียบตามการใช้งานจริงก่อนตัดสินใจ

Toyota Fortuner เป็น SUV ยอดนิยมที่มีความยาวตัวถัง 4,795 มม. กว้าง 1,855 มม. และสูง 1,835 มม. โดยมีระยะฐานล้อ 2,745 มม. หรือ 2,750 มม. (แล้วแต่รุ่น) ขนาดตัวถังที่ใหญ่แบบนี้ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง พร้อมการจัดวางห้องโดยสารแบบ 5 ประตู 7 ที่นั่ง ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานสำหรับครอบครัวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่ยังทำให้ดูโดดเด่นและดูหรูหราเวลาออกวิ่งบนถนน อีกทั้งข้อมูลบางส่วนยังใกล้เคียงกับ Toyota Prado ที่แตกต่างแค่ไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น จึงทำให้เห็นว่าเจ้า Fortuner นี้มีความสามารถในการขับเคลื่อนออฟโรดได้ในระดับหนึ่ง พร้อมให้ความมั่นใจเวลาเจอสภาพถนนที่หลากหลาย

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์เป็น SUV ยอดนิยมที่มีความยาวตัวถัง 4,795 มม. กว้าง 1,855 มม. และสูง 1,835 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,745 มม. หรือ 2,750 มม. แล้วแต่รุ่น ซึ่งขนาดตัวที่ใหญ่แบบนี้ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง พร้อมการจัดวางห้องโดยสารแบบ 5 ประตู 7 ที่นั่ง เหมาะสมกับการใช้งานแบบครอบครัวเป็นอย่างดี นอกจากนี้ขนาดตัวที่ใหญ่ยังให้ความรู้สึกสง่างามและดูโดดเด่นบนถนนอีกด้วย ถ้าดูจากขนาดตัวแล้วจะพบว่าข้อมูลบางอย่างใกล้เคียงกับ丰田普拉多แค่ต่างกันไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น แสดงให้เห็นว่ามันมีความสามารถในการขับเคลื่อนออฟโรดอยู่ไม่น้อย ช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาเจอสภาพถนนที่หลากหลาย

น้ำหนักของ Toyota Fortuner จะแตกต่างกันไปตามรุ่น ยกตัวอย่างเช่น รุ่นปี 2024 อย่าง Toyota Fortuner 2.8 GR Sport 6AT 4×4 มีน้ำหนักอยู่ที่ 2,180 กิโลกรัม ส่วนบางรุ่นปี 2023 เช่น Toyota Fortuner 2.4 Legender 6AT 4x2 และ Toyota Fortuner 2.4 Legender 6AT 4x4 ก็มีน้ำหนักเท่ากันที่ 2,180 กิโลกรัมเช่นกัน น้ำหนักรถจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น น้ำหนักของเครื่องยนต์และเกียร์ที่เป็นหัวใจหลัก วัสดุของโครงสร้างตัวถังและช่วงล่าง รวมถึงอุปกรณ์เสริมภายในรถ ยิ่งรถมีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่หรืออุปกรณ์เยอะ น้ำหนักก็จะมากขึ้นตามไปด้วย การรู้น้ำหนักรถช่วยให้ผู้ซื้อประเมินประสิทธิภาพ การขับขี่ และความประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น

รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์มีหลายรุ่นย่อย ครอบคลุมปี 2020-2024 ในปี 2020 มีรุ่น 2.4G, 2.4V, 2.4V 4WD, 2.4 Legender, 2.4 Legender 4WD, 2.8 Legender, 2.8 Legender 4WD เป็นต้น ส่วนปี 2021 มีรุ่น 2.8 GR Sport 4WD สำหรับปี 2022 จะมีรุ่น 2.4 Leader G AT, 2.4 Leader V AT, 2.4 Leader V 4WD AT, 2.4 Legender AT, 2.4 Legender 4WD AT, 2.8 Legender AT, 2.8 Legender 4WD AT และ 2.8 GR Sport 4WD มาถึงปี 2023 มีรุ่น 2.4 Leader G 6AT 4x2, 2.4 Leader V 6AT 4x2, 2.4 Leader V 6AT 4x4, 2.4 Legender 6AT 4x2, 2.4 Legender 6AT 4x4, 2.8 Legender 6AT 4x2, 2.8 Legender 6AT 4x4, 2.8 GR Sport 6AT 4x4 และ 2.8 GR Sport Black Top 6AT 4x4 สุดท้ายปี 2024 มีรุ่น 2.4 Leader S 6AT 2024 และ 2.8 GR Sport 6AT 4×4 2024 แต่ละรุ่นมีความแตกต่างทั้งราคา สเปค และสมรรถนะ ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณที่มี

รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ แต่ละรุ่นจะมีขนาดยางที่แตกต่างกันออกไป บางรุ่นใช้ยางหน้า-หลังขนาด 265/65 R17 และยางอะไหล่ก็ขนาด 265/65 R17 เช่นกัน ส่วนรุ่นอื่นอาจใช้ยางหน้า-หลังขนาด 265/50 R20 การเลือกขนาดยางมีผลต่อสมรรถนะและความรู้สึกในการขับขี่ ยางที่มีขนาดใหญ่กว่าอาจช่วยเพิ่มความมั่นคงและความสามารถในการขับเคลื่อนบนถนนหลากหลายสภาพ ในขณะที่อัตราส่วนความสูงของยางและความกว้างของหน้ายางที่ต่างกัน ก็ส่งผลต่อการควบคุมและความสบายในการขับขี่ด้วยเช่นกัน

รถโฟร์จูนเนอร์ของโตโยต้าเป็น SUV ยอดนิยมในตลาดไทย ค่าบำรุงรักษาจะแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและประเภทเครื่องยนต์ สำหรับบริการทั่วไป เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง ที่ศูนย์บริการโตโยต้าจะอยู่ที่ประมาณ 2,500-3,500 บาท ต่อครั้ง ทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน ส่วนบริการใหญ่ที่รวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก จะอยู่ที่ประมาณ 8,000-12,000 บาท ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจของศูนย์บริการ ด้วยสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองแอร์บ่อยขึ้นเป็นทุก 1 ปี และในช่วงฤดูฝนควรตรวจสอบระบบเบรกบ่อยๆ อะไหล่แท้ของโตโยต้าในไทยมีพร้อมจำหน่ายและราคาชัดเจน ร้านซ่อมทั่วไปอาจถูกกว่าประมาณ 20%-30% แต่ต้องตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันว่าอนุญาตหรือไม่ สำหรับรุ่นไฮบริดนั้นช่วยประหยัดน้ำมันในระยะยาว แต่ต้องคำนึงถึงค่าบำรุงรักษาแบตเตอรี่ด้วย ผู้ใช้ในไทยยังสามารถรับส่วนลดค่าบำรุงรักษาผ่านโปรแกรมสมาชิก Toyota TH โดยรวมแล้วค่าบำรุงรักษาของโฟร์จูนเนอร์อยู่ในระดับกลางเมื่อเทียบกับ SUV รุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน การบำรุงรักษาสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้ดี

ค่าใช้จ่ายในการบริการรักษารถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ที่ประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรายการบริการและนโยบายของตัวแทนจำหน่าย โดยทั่วไปบริการพื้นฐานเช่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่องจะมีราคาประมาณ 2,500-3,500 บาท ส่วนการบริการใหญ่ที่รวมถึงการเปลี่ยนกรองอากาศ น้ำมันเบรก อาจมีราคาสูงถึง 6,000-8,000 บาท ควรตรวจสอบราคาล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของโตโยต้าหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย สำหรับเจ้าของรถในไทยสามารถติดตามโปรโมชั่นจากโตโยต้าได้ เช่น บางตัวแทนอาจมีแพ็กเกจบริการลดราคาหรือบริการตรวจเช็คฟรี ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานรถได้ ข้อสำคัญคือการบริการรักษารถอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ แต่ยังรักษามูลค่าการขายต่อของรถได้ จึงควรปฏิบัติตามระยะการบริการที่กำหนดในคู่มือซึ่งอยู่ที่ 5,000-10,000 กิโลเมตร เนื่องจากสภาพอากาศในไทยที่ร้อนชื้นส่งผลต่อการสึกหรอของระบบระบายความร้อนและชิ้นส่วนเบรกเป็นพิเศษ จึงควรตรวจสอบจุดเหล่านี้เพิ่มเติมด้วย หากเลือกใช้บริการนอกศูนย์บริการ ต้องมั่นใจว่าอู่修理ใช้ชิ้นส่วนแท้ที่ได้มาตรฐานของโตโยต้าเพื่อไม่ให้ส่งผลต่อสิทธิ์การรับประกัน