Q

รถ Mazda CX-30 ปี 2022 มีเบาะนั่งที่สามารถปรับอุณหภูมิได้หรือไม่?

รุ่นปี 2022 ของ Mazda CX-30 ในบางรุ่นระดับสูงมีการติดตั้งระบบทำความร้อนเบาะหน้า ซึ่งฟังก์ชันนี้ใช้งานได้ดีมากในช่วงอากาศหนาวหรือฤดูฝน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการนั่งขับขี่ได้อย่างชัดเจน แต่ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่ามีในรุ่นไหนบ้าง เพราะโดยปกติแล้วรุ่นท็อปสเปกจะมาพร้อมกับฟีเจอร์เสริมความสะดวกแบบนี้ ระบบทำความร้อนเบาะกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในตลาดบ้านเรา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างเช้าและเย็น แค่ใช้เวลาไม่กี่นาทีหลังเปิดใช้งานก็รู้สึกถึงความอุ่นแล้ว นอกจากนี้ในรุ่นระดับเดียวกันอาจมีฟีเจอร์สำหรับหน้าหนาวอย่างระบบทำความร้อนพวงมาลัยหรือรีโมตสตาร์ทรถอีกด้วย ถ้าสนใจฟังก์ชันนี้เป็นพิเศษ แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดสเปกของรถแต่ละรุ่นก่อนซื้อ หรือสอบถามจากตัวแทนจำหน่ายโดยตรง ส่วนมาสด้ายังคงอัพเกรดฟีเจอร์เพื่อความสะดวกสบายอย่างต่อเนื่อง โดย CX-30 มาพร้อมกับระบบแอร์อัตโนมัติและช่องปรับอากาศแถวหลังในทุกรุ่น ทำให้ความรู้สึกโดยรวมภายในห้องโดยสารโดดเด่นกว่าเพื่อนร่วมระดับ แถมยังตอบโจทย์แนวคิดการออกแบบที่เน้นผู้ขับขี่ซึ่งเป็นสไตล์ประจำแบรนด์
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ Mazda CX-30 ปี 2022 มีระบบตรวจสอบจุดบอดหรือไม่?
รุ่นปี 2022 ของ Mazda CX-30 นั้นมาพร้อมกับระบบ Blind Spot Monitoring หรือระบบตรวจสอบจุดบอด ซึ่งในตลาดไทยมักจะเป็นฟีเจอร์มาตรฐานในรุ่นกลางขึ้นไป ระบบนี้ใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกันชนหลังทั้งสองข้างเพื่อตรวจจับรถที่อยู่ในจุดบอดด้านข้าง เมื่อมีรถเข้าไปในจุดบอด ไฟเตือนที่กระจกข้างจะสว่างขึ้นเพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ และหากเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวในช่วงนั้น ระบบจะส่งเสียงเตือนเพิ่มเติม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลนได้ดีเลย โดยเฉพาะในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้าง chaotic บางครั้งมีมอเตอร์ไซค์แทรกแบบไม่ทันตั้งตัว ระบบนี้จะช่วยได้มาก ระบบ Blind Spot Monitoring ของ Mazda เป็นส่วนหนึ่งของชุดความปลอดภัย i-Activsense ซึ่งในรุ่นต่างๆ อาจมีฟีเจอร์เสริมเพิ่มเติมเช่น adaptive cruise control หรือระบบรักษาเลน ขึ้นอยู่กับระดับความแพงของรุ่นนั้นๆ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่เหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง แต่ผู้ขับควรหมั่นสังเกตการณ์รอบข้างเสมอ เพราะเซ็นเซอร์อาจมีจุดบอดที่ตรวจไม่ถึง หรือประสิทธิภาพอาจได้รับผลกระทบเมื่อสภาพอากาศรุนแรงหรือเซ็นเซอร์มีรอยเปื้อน การทำความสะอาดเซ็นเซอร์เป็นประจำควบคู่ไปกับการสังเกตบิดหัวเป็นนิสัยความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากขึ้น
Q
Mazda CX-30 ปี 2020 เป็นรถที่ปลอดภัยหรือไม่?
มาสด้า CX-30 รุ่นปี 2020 มีความโดดเด่นในด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะการใช้งานบนเส้นทางทั้งในเมืองและต่างจังหวัดของไทยที่ค่อนข้างซับซ้อน รุ่นนี้ได้รับคะแนนความปลอดภัย 5 ดาวจาก Euro NCAP และมาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูงแบบมาตรฐาน เช่น ระบบช่วยเบรกในเมือง (SCBS) และระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (LAS) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ดีทั้งในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ หรือเส้นทางคดเคี้ยวในภาคเหนือ ตัวถังผลิตจากเหล็กความแข็งแรงสูง พร้อมถุงลมนิรภัย 7 จุด ที่ช่วยปกป้องผู้โดยสารอย่างรอบด้าน ที่พิเศษไปกว่านั้น CX-30 ที่จำหน่ายในไทยยังได้รับการปรับปรุงระบบระบายความร้อนและความทนทานของยางให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้น แถมยังประหยัดน้ำมันด้วยเทคโนโลยี Skyactiv-Vehicle Dynamics ที่ตอบโจทย์ในยุคน้ำมันราคาสูง ส่วนระบบช่วงล่างแบบ Torsion Beam ก็เหมาะกับถนนบางสายในไทยที่ขรุขระเล็กน้อย อย่างไรก็ตามแนะนำให้ผู้ใช้ในไทยตรวจสอบสภาพช่วงล่างเป็นประจำหลังฤดูฝน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานระยะยาว
Q
CX-30 ปี 2020 มีเบาะนั่งอุ่นหรือไม่?
รุ่น Mazda CX-30 ปี 2020 ในบางรุ่นย่อยระดับสูงมีการติดตั้งระบบเบาะร้อนบริเวณที่นั่งหน้าซึ่งในสภาพอากาศร้อนของไทยอาจดูเหมือนไม่ค่อยได้ใช้งาน แต่จริงๆแล้วเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากโดยเฉพาะในเขตภาคเหนือหรือช่วงฤดูฝนที่อากาศเย็นสบาย อย่างเช่นในจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ที่มีอุณหภูมิแตกต่างระหว่างกลางวันและกลางคืนค่อนข้างมาก โดยปกติแล้วเบาะร้อนของ CX-30 จะมาพร้อมกับรุ่น GT SP หรือรุ่นท็อปเท่านั้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลการติดตั้งอุปกรณ์ในรุ่นที่ต้องการผ่านเครื่องมือกำหนดแต่งรถบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Mazda ประเทศไทยหรือสอบถามกับตัวแทนจำหน่ายโดยตรง สำหรับผู้บริโภคไทยควรทราบว่าการจัดแต่งอุปกรณ์รถยนต์ในเขตร้อนชื้นจะแตกต่างจากประเทศเขตหนาว รุ่นระดับโลกอย่าง CX-30 ก็มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การติดตั้งอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับตลาดท้องถิ่น เช่นอาจเน้นไปที่เบาะระบายอากาศมากกว่าเบาะร้อน หากรุ่นที่คุณเลือกไม่ได้ติดตั้งเบาะร้อนมาตรฐาน ในไทยก็มีร้านแต่งรถมืออาชีพที่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมให้ได้ในระดับมาตรฐานโรงงาน แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการรักษาสิทธิประกันระบบไฟฟ้าของรถด้วย ส่วนในรุ่นคู่แข่งอย่าง Toyota C-HR หรือ Honda HR-V ที่วางขายในตลาดไทยก็มักจะมีตัวเลือกเบาะร้อนในรุ่นระดับสูงเช่นกัน จนตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เพิ่มความสะดวกสบายที่พบเห็นได้ทั่วไปในรถ SUV ระดับกลางถึงสูงของไทยแล้ว
Q
Mazda CX-30 ปี 2020 เป็นรถเก๋งหรือ SUV?
มาสด้า CX-30 รุ่นปี 2020 เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ผสมผสานระหว่างความคล่องตัวของรถเก๋งกับประโยชน์ใช้สอยของ SUV ตัวรถสูงกว่ารถเก๋งทั่วไปและมีระยะลอยตัวมากขึ้น เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบในไทย ทั้งในเมืองและทางต่างจังหวัดเป็นครั้งคราว CX-30 มาพร้อมดีไซน์ KODO ที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า ภายนอกดูคล่องแคล่วเร้าใจ ส่วนภายในออกแบบเน้นความหรูหราและการใช้งานที่ลงตัว ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Skyactiv-G ที่ให้ทั้งพลังและประหยัดน้ำมัน จึงเหมาะมากสำหรับคนไทยทั้งการเดินทางประจำวันและการใช้ครอบครัว ในตลาดไทย CX-30 มีคู่แข่งอย่างฮอนด้า HR-V และโตโยต้า C-HR แต่ด้วยดีไซน์เฉพาะตัวและความสนุกในการขับที่มาสด้าขึ้นชื่อ ก็ทำให้รถรุ่นนี้ได้รับความนิยมไม่น้อย ถ้าคุณกำลังมองหา SUV ที่มีพื้นที่กว้างแต่ยังคงความรู้สึกการขับเหมือนรถเก๋ง CX-30 ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตัวเองนะ
Q
Mazda CX-30 ปี 2022 ผลิตที่ไหน?
รถยนต์มาสด้า CX-30 รุ่นปี 2022 ส่วนใหญ่ผลิตที่โรงงานในเมืองซัลติโย ประเทศเม็กซิโก ซึ่งเป็นฐานการผลิตสำคัญของระบบการผลิตทั่วโลกของมาสด้า โดย負責ส่งออกไปยังหลายตลาดรวมถึงประเทศไทย สำหรับผู้บริโภคไทย รุ่นนี้จะนำเข้าในรูปแบบรถนำเข้า แม้ว่าจะมีค่าภาษีนำเข้าเพิ่มเติมบ้าง แต่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของมาสด้าในไทยสามารถให้บริการหลังการขายที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นอะไหล่แท้จากโรงงานและบริการซ่อมบำรุงจากช่างผู้เชี่ยวชาญ พูดถึงประสิทธิภาพแล้ว CX-30 ติดตั้งเครื่องยนต์ Skyactiv-G ที่ประหยัดน้ำมันและระบบความปลอดภัย i-Activsense ที่ทำงานได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย โดยเทคโนโลยี Skyactiv ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ ช่วยให้ระบบช่วงล่างสามารถรับมือกับถนนบางเส้นที่ขรุขระในไทยได้ดี เจ้าของรถในไทยยังได้สิทธิ์รับประกันจากมาสด้า ประเทศไทยนาน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งช่วยลดความกังวลเรื่องค่าบำรุงรักษาสำหรับรถนำเข้า จากเสียงตอบรับในตลาด CX-30 ได้รับความนิยมในเมืองใหญ่ที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ เนื่องจากมีขนาดกระทัดรัดเหมาะกับการขับขี่ในเมือง และยังมีห้องโดยสารที่ออกแบบอย่างประณีต แถมยังประหยัดน้ำมันซึ่งเป็นจุดสำคัญในเมื่อราคาน้ำมันในไทยค่อนข้างสูง
Q
รถ Mazda CX-30 ปี 2020 มีระบบ Remote Start หรือไม่
สำหรับรุ่นปี 2020 ของ Mazda CX-30 ในตลาดไทยไม่ได้มาพร้อมกับระบบ Remote Start จากโรงงาน แต่คุณสามารถเลือกติดตั้งระบบรีโมตสตาร์ทจากผู้ผลิตอื่นผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ ระบบเหล่านี้มักควบคุมผ่านแอปสมาร์ทโฟนหรือรีโมทคีย์แบบพกพา ซึ่งเหมาะสำหรับการเปิดแอร์ล่วงหน้าในสภาพอากาศร้อนของไทย อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าสเปครถในตลาดไทยอาจแตกต่างจากรุ่นยุโรปหรืออเมริกา แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายก่อนซื้อ เมื่อใช้ระบบรีโมตสตาร์ทในไทย ควรระวังเรื่องจุดจอดรถต้องปลอดภัย และไม่ควรปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบานานเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดคาร์บอนสะสมหรือระบบป้องกันเครื่องร้อนเกินทำงาน สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริม ควรเลือกผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้เพื่อไม่ให้กระทบกับการรับประกันระบบไฟฟ้าของรถ และบางบริษัทประกันในไทยมีเงื่อนไขพิเศษสำหรับรถที่ติดตั้งอุปกรณ์เสริม แนะนำให้สอบถามล่วงหน้า หากคุณสนใจฟีเจอร์เทคโนโลยี อาจลองเปรียบเทียบระบบควบคุมระยะไกลของรถรุ่นอื่นในระดับเดียวกันอย่าง Toyota C-HR หรือ Honda HR-V แต่ต้องไม่ลืมว่า Mazda CX-30 ยังคงโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะการขับขี่และความหรูหราของห้องโดยสาร
Q
Mazda CX-30 ปี 2022 กับ 2023 ต่างกันอย่างไร?
สำหรับรุ่นปี 2022 และ 2023 ของ Mazda CX-30 ในตลาดไทย ความแตกต่างหลักจะอยู่ที่การอัปเกรดฟีเจอร์และปรับแต่งรายละเอียดเล็กน้อย โดยรุ่นปี 2023 ยังคงใช้ระบบขับเคลื่อนเดิมเช่นเครื่องยนต์ 2.0L Skyactiv-G แต่ในรุ่นท็อปบางรุ่นอาจเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ เช่น การชาร์จไร้สาย หรือระบบมัลติมีเดีย Mazda Connect ที่อัปเกรดแล้ว รวมถึงอาจมีการปรับโทนสีตัวถังหรือดีไซน์ล้อใหม่เล็กน้อย สำหรับฟีเจอร์ที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทย เช่น เก้าอี้มีระบบระบายอากาศหรือกระจกกันความร้อน ก็อาจได้รับการเสริมให้ดีขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม การจัดสเปคในตลาดไทยอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นย่อย เช่น รุ่นลักซ์ชัวรี่หรือสปอร์ต แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลที่แน่นอนกับโชว์รูมท้องถิ่นอีกครั้ง พูดถึงภาพรวม CX-30 เป็นโมเดลกลยุทธ์ระดับโลกของมาสด้าที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Skyactiv ซึ่งเหมาะกับการขับขี่ในเมืองไทยที่ต้องหยุด-สตาร์ทบ่อย ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี ขนาดคอมแพคก็ขับง่ายในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ แต่ถ้าชอบขับทางไกลอาจต้องเช็คการตั้งค่าซัสเพนชันว่าปรับให้เหมาะกับถนนไทยแล้วหรือไม่
Q
ราคารถ Mazda CX-30 ปี 2022 อยู่ที่เท่าไหร่?
ราคาของ Mazda CX-30 รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องยนต์และอุปกรณ์เสริม โดยรุ่นพื้นฐานเริ่มต้นที่ 999,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุดอาจสูงถึง 1.3 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาจริงขึ้นอยู่กับการเลือกอุปกรณ์และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย CX-30 เป็นที่นิยมในไทยเพราะดีไซน์สวยหรู คุมถนนได้ดี แถมยังประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แบบธรรมชาติคู่กับเกียร์ออโต้ 6 สปีด ให้ความรู้สึกขับขี่ลื่นไหล พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยล่าสุดอย่างระบบเบรกอัตโนมัติและช่วยรักษาช่องทางขับ ช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาออกถนน คู่แข่งหลักของ CX-30 ในไทยคือ Honda HR-V กับ Toyota Corolla Cross แต่ Mazda ยังคงได้ใจคนไทยด้วยดีไซน์獨特และสมรรถนะขับขี่สนุก ถ้าสนใจอยากได้รถคันนี้ แนะนำให้ไปทดลองขับที่โชว์รูม แล้วเปรียบเทียบความคุ้มค่าของแต่ละรุ่น รวมทั้งอย่าลืมเช็กโปรโมชั่นรถยนต์ประหยัดพลังงานจากรัฐบาลไทย ที่อาจช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกเพียบ
Q
Mazda CX 30 มีระยะห่างจากพื้นเท่าไหร่
Mazda CX-30 ในตลาดไทยมีระยะความสูงจากพื้นรถ 175 มิลลิเมร์ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ SUV คอมแพคต์คันอื่นๆ ทำให้เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบในไทย ทั้งถนนในเมืองและทางลูกรังบางพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่ถนนมักลื่นหรือมีน้ำขัง ระยะความสูงจากพื้นแบบนี้ช่วยให้ขับผ่านได้สะดวกขึ้น แถมระบบ G-Vectoring Control Plus ยังช่วยควบคุมรถให้ทรงตัวดีขึ้นบนถนนลื่นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การขับผ่านจริงยังขึ้นอยู่กับมุมเข้า-ออกของรถ คุณภาพยาง และปัจจัยอื่นๆ ควรขับด้วยความระมัดระวังในเส้นทางยากๆ ส่วนการตั้งค่าตัวถังของ CX-30 จะเน้นการขับขี่สปอร์ต ช่วยให้เข้าโค้งมั่นคงในพื้นที่ภูเขาซึ่งมีเยอะในไทย แต่ถ้าต้องขับบ่อยในเส้นทางสภาพแย่ แนะนำให้ติดตั้งแผ่นป้องกันท้องรถแบบออริจินัลเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยของตัวรถ
Q
วิธีเปิดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อบน Mazda CX-30
Mazda CX-30 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทย ติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ i-ACTIV AWD ที่สามารถปรับการกระจายกำลังระหว่างล้อหน้าและล้อหลังได้อัตโนมัติตามสภาพถนน โดยไม่ต้องเปิดใช้งานเอง ระบบนี้จะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะในถนนลื่นหรือเวลาขึ้นเขาที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนของไทย ซึ่งเหมาะมากกับสภาพถนนที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ถ้าอยากรู้ว่าระบบทำงานอยู่หรือไม่ ให้สังเกตไฟสัญลักษณ์ AWD ที่หน้าปัดรถซึ่งจะสว่างขึ้นเมื่อระบบทำงาน ส่วนเวลาขับบนถนนแห้งปกติ ระบบจะเน้นขับเคลื่อนล้อหน้าเพื่อประหยัดน้ำมัน แนะนำให้เจ้าของรถในไทยตรวจสอบสภาพยางและลมยางเป็นประจำ เพราะสภาพยางส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบ AWD โดยตรง สำหรับใครที่ชอบเดินทางขึ้นเขาหรือไปต่างจังหวัดบ่อยๆ สามารถเลือกติดตั้งระบบช่วยการขับขี่ออฟโรดเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความสามารถในการขับเคลื่อนได้ แต่ต้องระวังว่าแม้มีระบบ AWD ก็ไม่สามารถป้องกันการลื่นไถลได้ 100% ในสภาพถนนสุดขั้วยังต้องขับด้วยความระมัดระวังเหมือนเดิม
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

ออกแบบภายนอกน่าสนใจ สายตาและเส้นโค้งได้รับการออกแบบโดยอิงตามวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับอากาศ
การตกแต่งภายในหรูหราและสบาย โดยมีการออกแบบที่คล้ายกับ Mazda 3 มีความเรียบง่ายแต่หรูหรา
สะดวกสบายสำหรับการเก็บของ เก้าอี้ด้านหลังสามารถปรับได้ 60:40 และพับลงได้แบบอิสระ ด้วยระบบสวิตช์ไฟฟ้า
ระบบความปลอดภัยทั้งหมด รุ่นพื้นฐานยังมีระบบความปลอดภัยหลายระบบ
เครื่องยนต์และประสิทธิภาพดีใช้เครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 ลิตร 165 แรงม้า 213 นิวตัน-เมตร ที่ใช้ร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ข้อเสีย

พื้นที่ในส่วนหลังของรถจำกัดเล็กน้อยและเบาะที่นั่งในส่วนหลังค่อนข้างแคบ สำหรับคนที่สูงหรือใหญ่ เข่าอาจจะสัมผัสกับเบาะที่นั่งด้านหน้า
การถ่ายทอดกำลังดีเลย์บ้าง
ปุ่มบนวงเลียงมากเกินไป ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการควบคุมขณะขับขี่
หน้าจอคอนโทรลทัชสกรีนขนาด 8.8 นิ้ว ทำลายไปในสไตล์สมัยใหม่อ่านง่าย
ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์มีตัวเลือกเพียงหนึ่งแบบ ให้ความสามารถในการเลือกความม้าแรงและแรงบิดสำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานสูงได้รับข้อจำกัด
เบรกค่อนข้างนิ่ม ที่ใช้เริ่มแรกมีแรงมาณที่น้อย

Q&A ล่าสุด

Q
รถ Mazda CX-30 ปี 2022 มีระบบตรวจสอบจุดบอดหรือไม่?
รุ่นปี 2022 ของ Mazda CX-30 นั้นมาพร้อมกับระบบ Blind Spot Monitoring หรือระบบตรวจสอบจุดบอด ซึ่งในตลาดไทยมักจะเป็นฟีเจอร์มาตรฐานในรุ่นกลางขึ้นไป ระบบนี้ใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกันชนหลังทั้งสองข้างเพื่อตรวจจับรถที่อยู่ในจุดบอดด้านข้าง เมื่อมีรถเข้าไปในจุดบอด ไฟเตือนที่กระจกข้างจะสว่างขึ้นเพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ และหากเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวในช่วงนั้น ระบบจะส่งเสียงเตือนเพิ่มเติม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลนได้ดีเลย โดยเฉพาะในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้าง chaotic บางครั้งมีมอเตอร์ไซค์แทรกแบบไม่ทันตั้งตัว ระบบนี้จะช่วยได้มาก ระบบ Blind Spot Monitoring ของ Mazda เป็นส่วนหนึ่งของชุดความปลอดภัย i-Activsense ซึ่งในรุ่นต่างๆ อาจมีฟีเจอร์เสริมเพิ่มเติมเช่น adaptive cruise control หรือระบบรักษาเลน ขึ้นอยู่กับระดับความแพงของรุ่นนั้นๆ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่เหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง แต่ผู้ขับควรหมั่นสังเกตการณ์รอบข้างเสมอ เพราะเซ็นเซอร์อาจมีจุดบอดที่ตรวจไม่ถึง หรือประสิทธิภาพอาจได้รับผลกระทบเมื่อสภาพอากาศรุนแรงหรือเซ็นเซอร์มีรอยเปื้อน การทำความสะอาดเซ็นเซอร์เป็นประจำควบคู่ไปกับการสังเกตบิดหัวเป็นนิสัยความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากขึ้น
Q
ระยะทางของ Macan EV 2025 คือเท่าไหร่?
จากข้อมูลที่เปิดเผยในปัจจุบัน คาดว่า Porsche Macan EV รุ่นปี 2025 จะมีระยะขับขี่ประมาณ 500-600 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP โดยตัวเลขอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าของแบตเตอรี่และสภาพการขับขี่ รุ่น SUV ไฟฟ้าล้วนนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม PPE และรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแรงดันสูง 800 โวลต์ ด้วยกำลังชาร์จสูงสุดถึง 270 กิโลวัตต์ ทำให้สามารถเติมพลังงานได้มากในเวลาอันสั้น เหมาะสมสำหรับการเดินทางไกลหรือการใช้งานประจำวัน ในบริบทการใช้งานในประเทศไทย เมื่อพิจารณาปัจจัยเช่นการจราจรติดขัดและสภาพอากาศร้อนที่อาจส่งผลต่อแบตเตอรี่ ระยะขับขี่จริงอาจลดลงเล็กน้อย แต่ระบบจัดการแบตเตอรี่ของ Porsche สามารถรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาประสิทธิภาพที่มั่นคง Macan EV ยังติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานอีกด้วย สำหรับผู้บริโภคที่สนใจรถไฟฟ้า นอกจากระยะขับขี่แล้ว ความเร็วการชาร์จและความทนทานของแบตเตอรี่ยังเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่ง Macan EV ได้แสดงศักยภาพทางเทคโนโลยีที่น่าประทับใจในด้านเหล่านี้ นำเสนอทางเลือกใหม่ในตลาด SUV ไฟฟ้า
Q
จะมี Porsche Macan ปี 2025 ไหม?
ตามข้อมูลล่าสุด Porsche มีแผนจะเปิดตัว Macan รุ่นใหม่ในปี 2025 โดยเน้นไปที่รุ่นไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ส่วนรุ่นน้ำมันอาจจะทยอยหยุดผลิต ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์รถไฟฟ้าทั่วโลก รุ่น Macan EV ใหม่นี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม PPE คาดว่าจะวิ่งได้เกิน 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแรงดันสูง 800V ที่ทำให้ชาร์จเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในตลาดบ้านเรา โครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถไฟฟ้าก็กำลังเติบโตเร็วมาก ตอนนี้เห็นชาร์จเจอร์ตามห้างสรรพสินค้าและปั๊มริมทางด่วนกันถ้วนหน้า ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับคนที่กำลังมองหา Macan EV แต่ถ้ายังลังเลเรื่องการเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า ก็สามารถดูรุ่นน้ำมันของ Macan ที่ยังมีสต็อกเหลืออยู่ตามโชว์รูม และมีการเสนอโปรโมชั่นดีๆ ด้วย Porsche มักจะรักษาภาษาการออกแบบหลักๆ ไว้แม้จะอัพเกรดรุ่นใหม่ ดังนั้น Macan EV ก็ยังคงดีไซน์สปอร์ตแบบตระกูลโพร์เช่ ส่วนภายในจะอัพเกรดเทคโนโลยีดิจิทัลค็อกพิทแบบใหม่ ทั้งหน้าจอโค้งและระบบมัลติมีเดียอัจฉริยะ ที่สำคัญ Porsche มีชื่อเสียงด้านการปรับแต่งสมรรถนะอยู่แล้ว แม้เปลี่ยนมาเป็นรถไฟฟ้า Macan ก็ยังคงให้ประสบการณ์การขับที่เยี่ยมยอดเหมือนเดิม ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลย
Q
2025 Macan เปรียบเทียบกับ 2024 อย่างไร?
รุ่นปี 2025 ของ Porsche Macan ที่อัปเกรดจากรุ่นปี 2024 นั้นเน้นไปที่ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยีอัจฉริยะเป็นหลัก รุ่นไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ไกลถึง 630 กม. (มาตรฐาน WLTP) เหมาะสำหรับการเดินทางไกลมากขึ้น ส่วนรุ่นเครื่องยนต์สันดาปก็ได้รับการปรับปรุงระบบประหยัดน้ำมันในเครื่องยนต์ 2.0T ลดการสิ้นเปลืองในเมืองลงประมาณ 8% ทุกรุ่นมาพร้อมกับระบบแสดงผลแบบ Head-up Display ที่ดีขึ้นและระบบ PCM 6.0 ล่าสุด ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยและการปรับปรุงระบบนำทางให้เหมาะกับสภาพถนนที่ซับซ้อนในกรุงเทพฯ เป็นพิเศษ ในส่วนของเครือข่ายสถานีชาร์จ Porsche ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในท้องถิ่นเพื่อเพิ่มจุดชาร์จเร็วครอบคลุมมากขึ้น ทั้งในย่านธุรกิจและสถานีบริการบนทางด่วน สามารถชาร์จไฟได้ 80% ในเวลาเพียง 30 นาที สิ่งที่น่าสนใจคือช่วงล่างรุ่น 2025 ถูกปรับใหม่ให้ยังคงความสปอร์ตแต่ลดแรงกระแทกเมื่อขับผ่านถนนขรุขระ ซึ่งเหมาะกับสภาพถนนคอนกรีตที่มีรอยต่อที่พบได้บ่อยในไทย หากพูดถึงมูลค่าการถือครองระยะยาว รุ่น 2024 อาจมีส่วนลดดีๆ แต่รุ่น 2025 มาพร้อมนโยบายรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว
Q
รถ Porsche Macan ไฟฟ้าปี 2025 ดีไหม?
โฉบใหม่ Macan รุ่นไฟฟ้า ปี 2025 ถือเป็น SUV ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของ Porsche ที่แสดงถึงความตั้งใจในการเปลี่ยนผ่านของแบรนด์ทั้งในด้านสมรรถนะและเทคโนโลยี พัฒนาบนแพลตฟอร์ม PPE โดยมีรุ่น Turbo ให้กำลังสูงสุดถึง 639 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.3 วินาที ระยะทางขับขี่คาดว่าจะเกิน 500 กม. (มาตรฐาน WLTP) และชาร์จเร็วได้ถึง 80% ใน 15 นาที ระบบควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทยก็ช่วยให้การใช้งานเสถียร ในห้องโดยสารติดตั้งระบบ PCM รุ่นล่าสุด พร้อมฟังก์ชัน HUD แสดงผลเสมือนจริงและควบคุมด้วยเสียง มอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ทันสมัย แม้ว่าสถานีชาร์จสำหรับรถไฟฟ้ายังต้องพัฒนาอีกบ้าง แต่ Porsche ได้ร่วมมือกับเครือข่ายชาร์จในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเพิ่มความครอบคลุม ส่วนการตั้งค่าตัวถังยังคงรักษา DNA สปอร์ตจากรุ่นเครื่องยนต์สันดาป แต่เพิ่มความสบายในการใช้งานประจำวัน สำหรับผู้ที่สนใจนโยบายป้ายทะเบียนรักษ์สิ่งแวดล้อม รุ่นไฟฟ้ายังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และบริการชาร์จเฉพาะของ Porsche Center ก็ช่วยแก้ไขปัญหาสำหรับเจ้าของรถระดับพรีเมียม เมื่อเทียบกับ SUV ไฟฟ้ารุ่นอื่นในระดับเดียวกัน Macan ยังคงมีความโดดเด่นในด้านแบรนด์และความรู้สึกในการขับขี่ แต่แนะนำให้ผู้สนใจพิจารณาจากความต้องการระยะทางจริงและสภาพการชาร์จก่อนตัดสินใจ
ดูเพิ่มเติม