Q

deepal s07 วิธีการเปิดประตู

ในฐานะรถยนต์พลังงานใหม่รุ่นใหม่ในตลาดไทย Deepal S07 มีวิธีเปิดประตูแตกต่างจากรถยนต์น้ำมันทั่วไป ติดตั้งมือจับประตูแบบซ่อนที่กำลังได้รับความนิยม ซึ่งช่วยลดปัญหาฝุ่นเกาะในสภาพอากาศร้อนของไทย การใช้งานเพียงแตะบริเวณเซ็นเซอร์ด้านในของมือจับ ประตูจะเด้งออกอัตโนมัติและดึงเปิดได้ หากแบตเตอรี่รีโมทมีปัญหา สามารถใช้กุญแจเชิงกลเปิดฉุกเฉินได้ (ช่องกุญแจมักซ่อนอยู่ใต้มือจับฝั่งคนขับ) เนื่องจากไทยมีฝนตกหนักบ่อยในฤดูฝน แนะนำให้เจ้าของตรวจสอบความแน่นของโมดูลเซ็นเซอร์ประตูเป็นประจำเพื่อป้องกันน้ำฝนซึมเข้าและส่งผลต่อความไวในการทำงาน นอกจากนี้ ระบบเปิดประตูแบบไม่สัมผัสยังสะดวกมากเมื่อถือของสองมือ เหมาะกับลานจอดรถในห้างสรรพสินค้าที่พบได้ทั่วไปในไทย ควรสังเกตว่าผู้ใช้ไทยบางส่วนเมื่อเจอการออกแบบนี้ครั้งแรกอาจไม่คุ้นเคย แต่ส่วนใหญ่สามารถปรับตัวได้ภายในประมาณหนึ่งสัปดาห์ การออกแบบนี้ช่วยปรับปรุงสมรรถนะอากาศพลศาสตร์ของรถและทำให้เส้นสายตัวรถลื่นไหลสวยงาม ปัจจุบันกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถไฟฟ้ายอดนิยมหลายรุ่น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
deepal s07 ผลิตที่ไหน
Deepal S07 เป็นรถ SUV ไฟฟ้าจากแบรนด์ Deepal ซึ่งเป็นแบรนด์รถพลังงานใหม่ของ Changan Automobile จากประเทศจีน รุ่นนี้ผลิตที่ฐานการผลิตของ Changan ในเมืองฉงชิ่ง ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์สำคัญของ Changan ในด้านยานยนต์ไฟฟ้า โดยใช้แพลตฟอร์มรถไฟฟ้าที่ทันสมัย พร้อมระบบแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงและฟังก์ชันช่วยขับขี่อัจฉริยะ ตอนนี้รถรุ่นนี้เน้นขายในตลาดจีนเป็นหลัก และยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่ด้วยนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย รวมถึงการพัฒนาสถานีชาร์จที่มากขึ้น คาดว่าในอนาคตอาจจะมีรถไฟฟ้าจากแบรนด์จีนเข้ามาในตลาดไทยมากขึ้น รวมถึงรุ่นอย่าง Deepal S07 ด้วย คนไทยเริ่มให้ความสนใจรถไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ถ้า Deepal S07 เข้ามาในไทย อาจดึงดูดผู้บริโภคด้วยดีไซน์สวยๆ ระยะขับขี่ที่ยาว และเทคโนโลยีอัจฉริยะ แข่งขันกับรถไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆ ในตลาด และเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคไทยได้อีกเยอะ
Q
deepal s07 ถูกเปิดตัวที่ไหน
ปัจจุบัน Deepal S07 ยังเปิดตัวในตลาดจีนเป็นหลัก และยังไม่ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่เมื่อพิจารณาว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์ที่สำคัญของอาเซียน รวมถึงนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานสะอาดในปีที่ผ่านมา มีความเป็นไปได้ที่ Deepal S07 จะเข้ามาในตลาดไทยในอนาคต รุ่นนี้เป็น SUV ไฟฟ้าล้วนที่มาพร้อมกับระยะขับขี่ที่ยาวไกลและระบบช่วยขับอัจฉริยะที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่ใส่ใจทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี ในประเทศไทย ความนิยมรถไฟฟ้ากำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลยังมีมาตรการสนับสนุนทั้งส่วนลดและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับรถไฟฟ้าเช่น Deepal S07 หากในอนาคตรุ่นนี้เข้ามาในไทย ผู้บริโภคควรสังเกตเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับตลาดท้องถิ่น เช่น ความเข้ากันได้กับเครือข่ายสถานีการบริการหลังการขาย และการปรับแต่งแบตเตอรี่สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยต้องคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อรถไฟฟ้า
Q
Deepal S07 วิ่งได้กี่กิโล
Deepal S07 ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ มีระยะขับขี่สูงสุดประมาณ 520 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน CLTC) แต่ในสภาพอากาศร้อนและการจราจรติดขัดของไทย ระยะขับขี่จริงอาจลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางช่วงวันหยุดได้อย่างดี ผู้ใช้ในไทยควรทราบว่าอุณหภูมิสูงอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพแบตเตอรี่บ้าง แนะนำให้จอดรถในที่ร่มหรือใช้ระบบจองการชาร์จ (เช่น หลีกเลี่ยงการชาร์จในช่วงเที่ยงที่การใช้ไฟฟ้าสูงสุด) สำหรับรถไฟฟ้าแล้ว ระยะขับขี่ยังขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่ด้วย การเร่งเครื่องอย่างนุ่มนวลและการใช้ระบบกักเก็บพลังงานเมื่อเบรกจะช่วยเพิ่มระยะทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันไทยกำลังเร่งพัฒนาสถานีชาร์จรถไฟฟ้า โดยรถรุ่นที่รองรับการชาร์จเร็วแบบ Deepal S07 (ชาร์จ 30 นาทีได้ 80%) สามารถหาชาร์จได้สะดวกตามศูนย์การค้าใหญ่ๆเช่น CentralWorld หรือปั๊มน้ำมัน PTT เมื่อเทียบกับรถน้ำมันทั่วไป รถไฟฟ้าในไทยได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและค่าใช้จ่ายระยะยาวที่ถูกกว่า แต่แนะนำให้ตรวจสอบแผนที่สถานีชาร์จล่าสุดทางเว็บไซต์แบรนด์ก่อนซื้อ และควรเลือกรุ่นที่มีระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่เพื่อเหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของไทย
Q
deepal s07 มีแรงม้าเท่าไหร่
ดีปาล์ เอส07 ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่มาแรง มีให้เลือกสองแบบตามความต้องการของผู้ขับขี่ แบบมอเตอร์เดี่ยวให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า (160 กิโลวัตต์) ส่วนแบบทวิมอเตอร์ขับเคลื่อนสี่ล้อจะให้กำลังรวมสูงถึง 435 แรงม้า (320 กิโลวัตต์) ซึ่งแรงขนาดนี้ทั้งขับในเมืองไทยหรือขึ้นเขาลงห้วยก็ไร้ปัญหา โดยเฉพาะรุ่นทวิมอเตอร์ที่ให้ความแรงเวลาตอนขึ้นทางชันหรือต้องการเร่งแซงจริงจัง อีกเรื่องที่คนไทยต้องสนใจคือระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้งของดีปาล์ เอส07 ที่ทำได้เกิน 500 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC แบบนี้จะขับจากกรุงเทพไปพัทยาแบบไปเช้าเย็นกลับก็ยังไหว แถมตอนนี้รัฐบาลไทยยังมีนโยบายสนับสนุนรถ EV ทั้งลดภาษีนำเข้าและสนับสนุนการติดตั้งสถานีชาร์จ ทำให้รถไฟฟ้าแบบดีปาล์ เอส07 น่าสนใจยิ่งขึ้น พิเศษไปกว่านั้น ดีปาล์ เอส07 ยังมาพร้อมระบบจัดการความร้อนแบตเตอรี่แบบใช้น้ำหล่อเย็น ที่ช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้เสถียรและอายุยาวขึ้นแม้ในสภาพอากาศร้อนแบบไทยๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่คนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องให้ความสำคัญเมื่อคิดจะซื้อรถไฟฟ้า
Q
deepal s07 มีสีอะไรบ้าง
รถ Deepal S07 ในตอนนี้มีหลายสีสันให้เลือกตามสไตล์ที่คุณชอบ ไม่ว่าจะเป็นสีดำคล้ายดวงดาว (Nebula Black), สีขาวไข่มุก (Pearl White) หรือสีน้ำเงินลึก (Deep Blue) แต่สีที่เลือกได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละตลาดและรุ่นแบบ ทางที่ดีควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยหรือเว็บไซต์ทางการโดยตรง สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้เลือกโทนสีอ่อนอย่างสีขาวไข่มุกหรือสีเงิน เพราะนอกจากจะช่วยสะท้อนแสงแดด ลดความร้อนภายในรถแล้ว ยังดูแลรักษาง่ายและไม่แสดงคราบสกปรกมากนัก สีรถไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความสวยงาม แต่ยังเกี่ยวข้องกับมูลค่าขายต่อในอนาคตด้วย โดยทั่วไปตลาดไทยมักนิยมสีโทนกลางๆ อย่างสีขาว สีเงิน หรือสีเทา เพราะสีเหล่านี้มักจะขายต่อได้ง่ายกว่า หากคุณต้องการสีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น ลองสอบถามตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับบริการสีพิเศษ โดยบางรุ่นอาจมีตัวเลือกสีพิเศษให้เลือก แต่ต้องเตรียมตัวเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มและเวลารอนานขึ้นเล็กน้อย ไม่ว่าคุณจะเลือกสีไหน ควรล้างรถและเคลือบแว็กซ์เป็นประจำ โดยเฉพาะหากอยู่ใกล้ชายทะเลในไทย เพื่อป้องกันคราบเกลือที่อาจทำลายสีรถได้
Q
deepal s07 มีที่นั่งกี่ที่
Deepal S07 เป็น SUV ขนาดกลางที่ออกแบบมาสำหรับครอบครัวโดยเฉพาะ ในรูปแบบมาตรฐานเป็นแบบ 5 ที่นั่ง ซึ่งตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ในไทยได้เป็นอย่างดี ด้วยพื้นที่เบาะหลังที่กว้างขวางและการออกแบบเบาะปรับระดับได้ ช่วยให้สบายแม้ต้องนั่งนานๆ ในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ ที่พิเศษไปกว่านั้นคือการออกแบบประตูหลังเปิดกว้าง ทำให้สะดวกต่อการขนส่งสิ่งของขนาดใหญ่ที่พบได้บ่อยในตลาดไทย เช่น ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์หรือของใช้ในงานเทศกาลแบบดั้งเดิม สำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบปรับอากาศด้านหลังและระบบระบายอากาศบนเบาะที่นั่งที่มาพร้อมในรุ่นมาตรฐาน ถือเป็นจุดเด่นที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน Deepal S07 ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำสำหรับแบตเตอรี่ ซึ่งช่วยเพิ่มความเสถียรในสภาพแวดล้อมที่ทั้งร้อนและชื้นของไทย แบตเตอรี่ให้ระยะทางสูงสุดถึง 500 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) เพียงพอสำหรับการเดินทางไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ-พัทยา หรือเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆ นอกจากนี้ยังรองรับระบบชาร์จเร็ว ซึ่งเป็นประโยชน์กับโครงข่ายสถานีชาร์จที่กำลังขยายตัวในไทย
Q
deepal s07 ทำในประเทศใด
รถยนต์ไฟฟ้า Deepal S07 เป็นรถที่ผลิตในประเทศจีน โดยแบรนด์ Deepal ซึ่งเป็นแบรนด์รถพลังงานใหม่ภายใต้กลุ่มบริษัท Changan Automobile ของจีน แบรนด์นี้เน้นการวิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ โดย S07 เป็นหนึ่งในรุ่นสำคัญที่ได้รับความสนใจในตลาดจีนด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ระบบอัจฉริยะ และประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหนือชั้น สำหรับผู้บริโภคไทย แม้ว่าปัจจุบัน Deepal ยังไม่ได้เข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่แบรนด์รถไฟฟ้าจากจีนเริ่มขยายตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น เช่น BYD และ Great Wall Motors ที่เข้ามาในไทยทั้งแบบนำเข้าและผลิตในประเทศ ในอนาคต Deepal อาจพิจารณาเข้าสู่ตลาดไทยเพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค รัฐบาลไทยเองก็ส่งเสริมอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าอย่างแข็งขัน ทั้งลดภาษีนำเข้าและให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้รถไฟฟ้าจากจีนได้รับความนิยมมากขึ้น คนไทยสามารถคาดหวังรถไฟฟ้าราคาจับต้องได้และเทคโนโลยีทันสมัยที่จะเข้ามาในตลาดเราในอนาคตอันใกล้นี้
Q
deepal s07 คือประเทศอะไร
Deepal S07 เป็นรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ Deepal สังกัดบริษัท Changan Auto ของจีน ตอนนี้วางขายในตลาดจีนเป็นหลัก และยังไม่ได้เข้ามาอย่างเป็นทางการในไทย รุ่นนี้เป็น SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง ใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม EPA1 ของ Changan ที่ให้ระยะขับขี่สูงสุดถึง 620 กม. (มาตรฐาน CLTC) พร้อมระบบช่วยขับอัจฉริยะระดับ L2+ ในตลาดไทยตอนนี้มีรถไฟฟ้าแนวเดียวกันอย่างAtto 3 และ MG ZS EV ถ้าคนไทยสนใจ Deepal S07 อาจต้องติดตามข่าวการส่งออกในอนาคต เพราะตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังผลักดันอุตสาหกรรม EV อย่างหนัก ทั้งลดภาษีนำเข้าและให้สิทธิประโยชน์ส่วนลดซื้อรถ ถ้าเป็นไปได้ในอนาคตอาจมีแบรนด์ EV จากจีนเข้ามาเพิ่มอีก แนะนำให้เปรียบเทียบเรื่องระยะทาง สถานีชาร์จ และบริการหลังการขายก่อนตัดสินใจซื้อรถสักคันนะครับ

ข้อดี

การออกแบบภายนอกที่น่าสนใจทำให้ดึงดูดความสนใจ
แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงให้ระยะทางการขับรถไกล
ระบบอัจฉริยะขั้นสูงเพื่อการขับรถที่ดีขึ้น

ข้อเสีย

พื้นที่ภายในอาจรู้สึกแคบเล็กน้อย
ผู้ใช้บางคนคิดว่าราคาประกอบด้วยราคาที่สูงเล็กน้อย
เครือข่ายบริการหลังการขายจำเป็นต้องขยายขอบเขต

Q&A ล่าสุด

Q
รถ Forester ปี 2020 มีมูลค่าเท่าไหร่?
ราคารถมือสอง Subaru Forester รุ่นปี 2020 ในท้องตลาดบ้านเราจะอยู่ที่ประมาณ 700,000 - 1,000,000 บาท ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพรถ ระยะไมล์ใช้งาน รุ่นย่อย และประวัติการดูแลรักษา โดยรุ่น 2.0i-S EyeSight ที่เป็นเวอร์ชันสูงจะมีอัตราการรักษามูลค่ามากกว่ารุ่นพื้นฐาน ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเครื่องยนต์แบบราบระดับแนวตั้งที่เป็นจุดเด่นของ Subaru นี่แหละที่เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยแบบร้อนชื้นสุดๆ Forester ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย มาพร้อมถุงลมนิรภัย 7 จุดและระบบช่วยขับขี่ EyeSight เหมาะกับครอบครัว เวลาซื้อควรเช็คสภาพช่วงล่างและประวัติการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้ดี เพราะอากาศร้อนชื้นแบบไทย ทำให้ยางชิ้นส่วนต่างๆ เสื่อมสภาพเร็ว ในบรรดารถ SUV ญี่ปุ่นด้วยกัน Forester ถือว่าเก็บราคาได้ดีกว่าคู่แข่งประมาณ 5-8% เมื่อครบ 5 ปี ถ้ามีประวัติซ่อมบำรุงจากศูนย์บริการ 4S ครบถ้วนก็จะขายต่อได้ราคาดีขึ้นไปอีก ตอนนี้ในตลาดมือสองเริ่มสนใจรุ่นไฮบริดมากขึ้น แต่รุ่นปี 2020 ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินทั่วไปยังขายดีอยู่เพราะหาอะไหล่ง่ายและระบบขับเคลื่อนที่ผ่านการทดสอบมาแล้วอย่างดี
Q
Subaru Forester ปี 2020 เปรียบเทียบกับคู่แข่งได้อย่างไร?
รถยนต์ Subaru Forester รุ่นปี 2020 เป็นรถที่สมดุลในระดับเดียวกัน แข็งแกร่งทั้งระบบ เครื่องยนต์แบบ BOXER และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยให้การขับขี่บนถนนลื่นหรือเส้นทางลุยเล็กๆ ทำได้ดีกว่า รถมีความสูงจากพื้น 220 มม. เหมาะกับถนนนอกเมืองบางประเภท เมื่อเทียบกับ Honda CR-V ระบบช่วยขับขี่ EyeSight ของ Forester ตอบสนองดีกว่าในเรื่องเบรกอัตโนมัติและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แต่รุ่น Hybrid ของ CR-V ประหยัดน้ำมันกว่า ส่วน Toyota RAV4 ได้เปรียบเรื่องความมั่นคงในการขับขี่จากโครงสร้าง TNGA แต่ Forester มีพื้นที่เหนือศีรษะผู้โดยสารหลังกว้างกว่า เหมาะสำหรับครอบครัว เครื่องยนต์แบบ BOXER ถึงจะช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงเวลาเข้าโค้งแต่ก็ซ่อมบำรุงยากกว่าเครื่องยนต์แบบแถวเรียงหนึ่ง แนะนำให้ใช้บริการศูนย์บริการมาตรฐานของซับารุ ถ้าต้องขับบ่อยๆ ในสภาพถนนมีน้ำท่วมขัง ระบบ X-MODE ของ Forester จะช่วยควบคุมการลื่นไถลได้ดีกว่า Nissan X-Trail ในราคาใกล้เคียงกัน Forester มีอุปกรณ์มาตรฐานให้มากกว่าแต่หน้าจอกลางตอบสนองช้ากว่า Mazda CX-5 ที่ใช้ระบบ MZD Connect
Q
รถ Subaru Forester รุ่นปี 2020 มีเกียร์แบบ CVT ไหม?
รุ่น Subaru Forester ปี 2020 นี่ติดเกียร์ CVT จริงๆนะ ซึ่งเป็นเกียร์ Lineartronic ของ Subaru เวอร์ชันอัพเกรดแล้ว แบบเน้นเปลี่ยนเกียร์ลื่นๆและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับขับในเมืองที่รถติดหรือจะขับทางไกลก็ได้ เกียร์ตัวนี้ทำงานคู่กับเครื่องยนต์แบบราบ 2.0 ลิตร ให้กำลังส่งออกมาเนียนๆ แถมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD ของซูบารุยังช่วยให้ขับในพื้นที่ฝนตกบ่อยหรือทางเขาขรุขระได้ดีขึ้น ตอนนี้เกียร์ CVT เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเมื่อเทียบกับเกียร์ออโต้ทั่วไปเพราะประหยัดน้ำมันกว่า แต่คนขับอาจต้องปรับตัวหน่อยเวลาออกตัวเพราะรอบเครื่องจะแปลกๆไปบ้าง สำหรับตลาดบ้านเรา เกียร์ CVT ของ Forester นี่ผ่านการทดสอบในสภาพอากาศร้อนชื้นมาแล้ว เชื่อถือได้แน่นอน แค่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เฉพาะตามกำหนดก็พอ ถ้าจะซื้อมือสองแนะนำให้เช็คดูว่าเกียร์มีเสียงผิดปกติหรือกระตุกไหม แล้วก็ตรวจสอบประวัติการเซอร์วิสให้ครบด้วย
Q
ใครเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ Subaru ในปี 2020?
เครื่องยนต์ของรถ Subaru ปี 2020 ส่วนใหญ่ผลิตโดยบริษัทแม่อย่างซูบารุคอร์ปอเรชั่นที่ญี่ปุ่น ฐานการผลิตหลักอยู่ที่โรงงานยาจิมะในจังหวัดกุนมะ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบบ็อกเซอร์ (Boxer Engine) การออกแบบจุดศูนย์ถ่วงต่ำแบบนี้ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถ โดยเฉพาะเหมาะกับการขับขี่ในพื้นที่ภูเขาและสภาพอากาศชื้น รุ่นยอดนิยมในไทยอย่างฟอเรสเตอร์และ XV ต่างใช้เครื่องยนต์ประเภทนี้ คู่กับเกียร์ Lineartronic แบบ CVT จนกลายเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสมมาตร Symmetrical AWD ที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม Subaru มีความร่วมมือทางเทคนิคกับโตโยต้า บางรุ่น Hybrid อย่าง Crosstrek Hybrid จะใช้ชุดไฮบริดจากโตโยต้า แต่ส่วนเครื่องยนต์สันดาปยังพัฒนาโดย Subaru เอง แม้เครื่องยนต์แบบบ็อกเซอร์จะซ่อมบำรุงค่อนข้างยาก แต่ด้วยความนุ่มนวลและความทนทาน ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ในไทย แนะนำให้เจ้าของรถเข้าศูนย์บริการตามกำหนดเพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุด
Q
รถ Subaru Forester ปี 2020 ควรใช้งานได้นานแค่ไหน?
รถยนต์ Subaru Forester รุ่นปี 2020 ในสภาพการใช้งานและดูแลรักษาตามปกติสามารถวิ่งได้ประมาณ 250,000 - 300,000 กิโลเมตร หรือเทียบเท่ากับอายุการใช้งานเกิน 15 ปี ขึ้นอยู่กับนิสัยการขับขี่ สภาพถนน และความถี่ในการบำรุงรักษา รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ Boxer 2.5 ลิตร และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD ที่มีชื่อเรื่องความทนทาน แต่ต้องให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นประจำ (แนะนำทุก 5,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน) และตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์ CVT โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนที่ต้องดูแลระบบระบายความร้อนและชิ้นส่วนยางเป็นพิเศษ ตัวถัง Forester มีการป้องกันสนิมที่ดี แต่หากอยู่ใกล้ชายทะเลแนะนำให้เพิ่มการป้องกันใต้ท้องรถ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน Forester มีอัตราการรักษามูลค่าอยู่ในระดับดีถึงดีมาก โดยหลังจาก 5 ปีจะเหลือมูลค่าประมาณ 55%-60% หากต้องการยืดอายุการใช้งาน แนะนำให้ปฏิบัติตามคู่มือการบำรุงรักษาอย่างเคร่งครัด ใช้เฉพาะอะไหล่แท้จากศูนย์ และให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับช่วงเวลาการเปลี่ยนหัวเทียนและสายพานไทม์มิ่งของเครื่องยนต์แบบ Boxer ในตลาดรถมือสอง Forester รุ่นปี 2020 ที่วิ่งน้อยกว่า 100,000 กิโลเมตรยังเป็นที่ต้องการอยู่ โดยเวลาซื้อควรตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นพิเศษ สำหรับการใช้งานประจำวัน ควรหลีกเลี่ยงการขับด้วยความเร็วสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของเครื่องยนต์แบบ Boxer โดยตรง
ดูเพิ่มเติม