Q
deepal s07 ทำในประเทศใด
รถยนต์ไฟฟ้า Deepal S07 เป็นรถที่ผลิตในประเทศจีน โดยแบรนด์ Deepal ซึ่งเป็นแบรนด์รถพลังงานใหม่ภายใต้กลุ่มบริษัท Changan Automobile ของจีน แบรนด์นี้เน้นการวิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ โดย S07 เป็นหนึ่งในรุ่นสำคัญที่ได้รับความสนใจในตลาดจีนด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ระบบอัจฉริยะ และประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหนือชั้น สำหรับผู้บริโภคไทย แม้ว่าปัจจุบัน Deepal ยังไม่ได้เข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่แบรนด์รถไฟฟ้าจากจีนเริ่มขยายตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น เช่น BYD และ Great Wall Motors ที่เข้ามาในไทยทั้งแบบนำเข้าและผลิตในประเทศ ในอนาคต Deepal อาจพิจารณาเข้าสู่ตลาดไทยเพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค รัฐบาลไทยเองก็ส่งเสริมอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าอย่างแข็งขัน ทั้งลดภาษีนำเข้าและให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้รถไฟฟ้าจากจีนได้รับความนิยมมากขึ้น คนไทยสามารถคาดหวังรถไฟฟ้าราคาจับต้องได้และเทคโนโลยีทันสมัยที่จะเข้ามาในตลาดเราในอนาคตอันใกล้นี้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
deepal s07 ผลิตที่ไหน
Deepal S07 เป็นรถ SUV ไฟฟ้าจากแบรนด์ Deepal ซึ่งเป็นแบรนด์รถพลังงานใหม่ของ Changan Automobile จากประเทศจีน รุ่นนี้ผลิตที่ฐานการผลิตของ Changan ในเมืองฉงชิ่ง ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์สำคัญของ Changan ในด้านยานยนต์ไฟฟ้า โดยใช้แพลตฟอร์มรถไฟฟ้าที่ทันสมัย พร้อมระบบแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงและฟังก์ชันช่วยขับขี่อัจฉริยะ ตอนนี้รถรุ่นนี้เน้นขายในตลาดจีนเป็นหลัก และยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่ด้วยนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย รวมถึงการพัฒนาสถานีชาร์จที่มากขึ้น คาดว่าในอนาคตอาจจะมีรถไฟฟ้าจากแบรนด์จีนเข้ามาในตลาดไทยมากขึ้น รวมถึงรุ่นอย่าง Deepal S07 ด้วย คนไทยเริ่มให้ความสนใจรถไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ถ้า Deepal S07 เข้ามาในไทย อาจดึงดูดผู้บริโภคด้วยดีไซน์สวยๆ ระยะขับขี่ที่ยาว และเทคโนโลยีอัจฉริยะ แข่งขันกับรถไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆ ในตลาด และเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคไทยได้อีกเยอะ
Q
deepal s07 ถูกเปิดตัวที่ไหน
ปัจจุบัน Deepal S07 ยังเปิดตัวในตลาดจีนเป็นหลัก และยังไม่ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่เมื่อพิจารณาว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์ที่สำคัญของอาเซียน รวมถึงนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานสะอาดในปีที่ผ่านมา มีความเป็นไปได้ที่ Deepal S07 จะเข้ามาในตลาดไทยในอนาคต รุ่นนี้เป็น SUV ไฟฟ้าล้วนที่มาพร้อมกับระยะขับขี่ที่ยาวไกลและระบบช่วยขับอัจฉริยะที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่ใส่ใจทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี ในประเทศไทย ความนิยมรถไฟฟ้ากำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลยังมีมาตรการสนับสนุนทั้งส่วนลดและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับรถไฟฟ้าเช่น Deepal S07 หากในอนาคตรุ่นนี้เข้ามาในไทย ผู้บริโภคควรสังเกตเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับตลาดท้องถิ่น เช่น ความเข้ากันได้กับเครือข่ายสถานีการบริการหลังการขาย และการปรับแต่งแบตเตอรี่สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยต้องคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อรถไฟฟ้า
Q
Deepal S07 วิ่งได้กี่กิโล
Deepal S07 ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ มีระยะขับขี่สูงสุดประมาณ 520 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน CLTC) แต่ในสภาพอากาศร้อนและการจราจรติดขัดของไทย ระยะขับขี่จริงอาจลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางช่วงวันหยุดได้อย่างดี ผู้ใช้ในไทยควรทราบว่าอุณหภูมิสูงอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพแบตเตอรี่บ้าง แนะนำให้จอดรถในที่ร่มหรือใช้ระบบจองการชาร์จ (เช่น หลีกเลี่ยงการชาร์จในช่วงเที่ยงที่การใช้ไฟฟ้าสูงสุด) สำหรับรถไฟฟ้าแล้ว ระยะขับขี่ยังขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่ด้วย การเร่งเครื่องอย่างนุ่มนวลและการใช้ระบบกักเก็บพลังงานเมื่อเบรกจะช่วยเพิ่มระยะทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันไทยกำลังเร่งพัฒนาสถานีชาร์จรถไฟฟ้า โดยรถรุ่นที่รองรับการชาร์จเร็วแบบ Deepal S07 (ชาร์จ 30 นาทีได้ 80%) สามารถหาชาร์จได้สะดวกตามศูนย์การค้าใหญ่ๆเช่น CentralWorld หรือปั๊มน้ำมัน PTT เมื่อเทียบกับรถน้ำมันทั่วไป รถไฟฟ้าในไทยได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและค่าใช้จ่ายระยะยาวที่ถูกกว่า แต่แนะนำให้ตรวจสอบแผนที่สถานีชาร์จล่าสุดทางเว็บไซต์แบรนด์ก่อนซื้อ และควรเลือกรุ่นที่มีระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่เพื่อเหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของไทย
Q
deepal s07 มีแรงม้าเท่าไหร่
ดีปาล์ เอส07 ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่มาแรง มีให้เลือกสองแบบตามความต้องการของผู้ขับขี่ แบบมอเตอร์เดี่ยวให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า (160 กิโลวัตต์) ส่วนแบบทวิมอเตอร์ขับเคลื่อนสี่ล้อจะให้กำลังรวมสูงถึง 435 แรงม้า (320 กิโลวัตต์) ซึ่งแรงขนาดนี้ทั้งขับในเมืองไทยหรือขึ้นเขาลงห้วยก็ไร้ปัญหา โดยเฉพาะรุ่นทวิมอเตอร์ที่ให้ความแรงเวลาตอนขึ้นทางชันหรือต้องการเร่งแซงจริงจัง อีกเรื่องที่คนไทยต้องสนใจคือระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้งของดีปาล์ เอส07 ที่ทำได้เกิน 500 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC แบบนี้จะขับจากกรุงเทพไปพัทยาแบบไปเช้าเย็นกลับก็ยังไหว แถมตอนนี้รัฐบาลไทยยังมีนโยบายสนับสนุนรถ EV ทั้งลดภาษีนำเข้าและสนับสนุนการติดตั้งสถานีชาร์จ ทำให้รถไฟฟ้าแบบดีปาล์ เอส07 น่าสนใจยิ่งขึ้น พิเศษไปกว่านั้น ดีปาล์ เอส07 ยังมาพร้อมระบบจัดการความร้อนแบตเตอรี่แบบใช้น้ำหล่อเย็น ที่ช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้เสถียรและอายุยาวขึ้นแม้ในสภาพอากาศร้อนแบบไทยๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่คนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องให้ความสำคัญเมื่อคิดจะซื้อรถไฟฟ้า
Q
deepal s07 มีสีอะไรบ้าง
รถ Deepal S07 ในตอนนี้มีหลายสีสันให้เลือกตามสไตล์ที่คุณชอบ ไม่ว่าจะเป็นสีดำคล้ายดวงดาว (Nebula Black), สีขาวไข่มุก (Pearl White) หรือสีน้ำเงินลึก (Deep Blue) แต่สีที่เลือกได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละตลาดและรุ่นแบบ ทางที่ดีควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยหรือเว็บไซต์ทางการโดยตรง สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้เลือกโทนสีอ่อนอย่างสีขาวไข่มุกหรือสีเงิน เพราะนอกจากจะช่วยสะท้อนแสงแดด ลดความร้อนภายในรถแล้ว ยังดูแลรักษาง่ายและไม่แสดงคราบสกปรกมากนัก สีรถไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความสวยงาม แต่ยังเกี่ยวข้องกับมูลค่าขายต่อในอนาคตด้วย โดยทั่วไปตลาดไทยมักนิยมสีโทนกลางๆ อย่างสีขาว สีเงิน หรือสีเทา เพราะสีเหล่านี้มักจะขายต่อได้ง่ายกว่า หากคุณต้องการสีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น ลองสอบถามตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับบริการสีพิเศษ โดยบางรุ่นอาจมีตัวเลือกสีพิเศษให้เลือก แต่ต้องเตรียมตัวเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มและเวลารอนานขึ้นเล็กน้อย ไม่ว่าคุณจะเลือกสีไหน ควรล้างรถและเคลือบแว็กซ์เป็นประจำ โดยเฉพาะหากอยู่ใกล้ชายทะเลในไทย เพื่อป้องกันคราบเกลือที่อาจทำลายสีรถได้
Q
deepal s07 มีที่นั่งกี่ที่
Deepal S07 เป็น SUV ขนาดกลางที่ออกแบบมาสำหรับครอบครัวโดยเฉพาะ ในรูปแบบมาตรฐานเป็นแบบ 5 ที่นั่ง ซึ่งตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ในไทยได้เป็นอย่างดี ด้วยพื้นที่เบาะหลังที่กว้างขวางและการออกแบบเบาะปรับระดับได้ ช่วยให้สบายแม้ต้องนั่งนานๆ ในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ ที่พิเศษไปกว่านั้นคือการออกแบบประตูหลังเปิดกว้าง ทำให้สะดวกต่อการขนส่งสิ่งของขนาดใหญ่ที่พบได้บ่อยในตลาดไทย เช่น ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์หรือของใช้ในงานเทศกาลแบบดั้งเดิม สำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบปรับอากาศด้านหลังและระบบระบายอากาศบนเบาะที่นั่งที่มาพร้อมในรุ่นมาตรฐาน ถือเป็นจุดเด่นที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน Deepal S07 ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำสำหรับแบตเตอรี่ ซึ่งช่วยเพิ่มความเสถียรในสภาพแวดล้อมที่ทั้งร้อนและชื้นของไทย แบตเตอรี่ให้ระยะทางสูงสุดถึง 500 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) เพียงพอสำหรับการเดินทางไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ-พัทยา หรือเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆ นอกจากนี้ยังรองรับระบบชาร์จเร็ว ซึ่งเป็นประโยชน์กับโครงข่ายสถานีชาร์จที่กำลังขยายตัวในไทย
Q
deepal s07 วิธีการเปิดประตู
ในฐานะรถยนต์พลังงานใหม่รุ่นใหม่ในตลาดไทย Deepal S07 มีวิธีเปิดประตูแตกต่างจากรถยนต์น้ำมันทั่วไป ติดตั้งมือจับประตูแบบซ่อนที่กำลังได้รับความนิยม ซึ่งช่วยลดปัญหาฝุ่นเกาะในสภาพอากาศร้อนของไทย การใช้งานเพียงแตะบริเวณเซ็นเซอร์ด้านในของมือจับ ประตูจะเด้งออกอัตโนมัติและดึงเปิดได้ หากแบตเตอรี่รีโมทมีปัญหา สามารถใช้กุญแจเชิงกลเปิดฉุกเฉินได้ (ช่องกุญแจมักซ่อนอยู่ใต้มือจับฝั่งคนขับ) เนื่องจากไทยมีฝนตกหนักบ่อยในฤดูฝน แนะนำให้เจ้าของตรวจสอบความแน่นของโมดูลเซ็นเซอร์ประตูเป็นประจำเพื่อป้องกันน้ำฝนซึมเข้าและส่งผลต่อความไวในการทำงาน นอกจากนี้ ระบบเปิดประตูแบบไม่สัมผัสยังสะดวกมากเมื่อถือของสองมือ เหมาะกับลานจอดรถในห้างสรรพสินค้าที่พบได้ทั่วไปในไทย ควรสังเกตว่าผู้ใช้ไทยบางส่วนเมื่อเจอการออกแบบนี้ครั้งแรกอาจไม่คุ้นเคย แต่ส่วนใหญ่สามารถปรับตัวได้ภายในประมาณหนึ่งสัปดาห์ การออกแบบนี้ช่วยปรับปรุงสมรรถนะอากาศพลศาสตร์ของรถและทำให้เส้นสายตัวรถลื่นไหลสวยงาม ปัจจุบันกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถไฟฟ้ายอดนิยมหลายรุ่น
Q
deepal s07 คือประเทศอะไร
Deepal S07 เป็นรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ Deepal สังกัดบริษัท Changan Auto ของจีน ตอนนี้วางขายในตลาดจีนเป็นหลัก และยังไม่ได้เข้ามาอย่างเป็นทางการในไทย รุ่นนี้เป็น SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง ใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม EPA1 ของ Changan ที่ให้ระยะขับขี่สูงสุดถึง 620 กม. (มาตรฐาน CLTC) พร้อมระบบช่วยขับอัจฉริยะระดับ L2+ ในตลาดไทยตอนนี้มีรถไฟฟ้าแนวเดียวกันอย่างAtto 3 และ MG ZS EV ถ้าคนไทยสนใจ Deepal S07 อาจต้องติดตามข่าวการส่งออกในอนาคต เพราะตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังผลักดันอุตสาหกรรม EV อย่างหนัก ทั้งลดภาษีนำเข้าและให้สิทธิประโยชน์ส่วนลดซื้อรถ ถ้าเป็นไปได้ในอนาคตอาจมีแบรนด์ EV จากจีนเข้ามาเพิ่มอีก แนะนำให้เปรียบเทียบเรื่องระยะทาง สถานีชาร์จ และบริการหลังการขายก่อนตัดสินใจซื้อรถสักคันนะครับ
Q&A ล่าสุด
Q
Cadillac จะผลิตรถเปิดประทุนในปี 2025 หรือไม่?
ปัจจุบัน Cadillac ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเปิดตัวรถเปิดประทุนรุ่นใหม่ในปี 2025 หรือไม่ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแบรนด์ได้มุ่งมั่นที่จะขยายสายผลิตภัณฑ์รวมถึงรุ่นไฟฟ้าและประสิทธิภาพสูง ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะเปิดตัวรถเปิดประทุนในอนาคต หาก Cadillac ตัดสินใจเปิดตัวรุ่นเปิดประทุนจริง ๆ ก็มีแนวโน้มว่าจะพัฒนาบนแพลตฟอร์มที่มีอยู่ เช่น โครงสร้างของ CT4 หรือ CT5 พร้อมกับดีไซน์ล่าสุดและเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างระบบ Super Cruise ที่ช่วยในการขับขี่อัตโนมัติ รถเปิดประทุนเป็นที่นิยมมากในภูมิอากาศเขตร้อน โดยเฉพาะแบบฮาร์ดท็อปที่ให้ทั้งความเงียบและความปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงปรับตัวได้ดีกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถเปิดประทุนระดับลักซ์ชัวรี นอกจาก Cadillac แล้ว ยังสามารถมองหาตัวเลือกจากแบรนด์เยอรมันอย่าง BMW 4 ซีรี่ส์เปิดประทุนหรือ Mercedes-Benz E-Class เปิดประทุน ที่มาพร้อมกับประสบการณ์การขับขี่และฟีเจอร์สุดพรีเมียมเช่นกัน ก่อนตัดสินใจซื้อรถเปิดประทุน ควรให้ความสำคัญกับระบบกันเสียง ความทนทานของหลังคา และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา เพราะปัจจัยเหล่านี้สำคัญมากในการใช้งานระยะยาว
Q
"Rolls-Royce Dawn รุ่นเปิดประทุนปี 2025 ราคาเท่าไหร่?"
รถรุ่นเปิดประทุน Rolls-Royce Dawn รุ่นปี 2025 คาดว่าราคาจะอยู่ที่ 20-25 ล้านบาท โดยราคาสุดท้ายอาจมีการปรับขึ้นลงตามอุปกรณ์เสริมและอัตราแลกเปลี่ยน รุ่นนี้ถือเป็นรถเปิดประทุนสุดหรูระดับตำนาน ที่มาพร้อมกับการออกแบบด้วยมือและวัสดุคุณภาพสูงแบบฉบับ Rolls-Royce ด้านสมรรถนะคาดว่าจะใช้เครื่องยนต์ 6.6 ลิตร V12 เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงถึง 563 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เพื่อการขับขี่ที่ลื่นไหลเป็นที่สุด สำหรับตลาดไทย รถระดับนี้ต้องจองล่วงหน้าและมีบริการปรับแต่งแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นสีตัวถัง หนังหุ้มเบาะ หรือไม้ประดับภายใน ก็สามารถเลือกได้ตามสไตล์ส่วนตัว เนื่องจากเป็นรถนำเข้า ราคาจึงรวมภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ทำให้ราคาสุดท้ายสูงกว่าราคาป้าย แนะนำให้ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อรับบริการหลังการขายและประกันที่ครบวงจร แม้รถรุ่นนี้จะค่อนข้างทรงตัวในเรื่องมูลค่า แต่ก็ต้องยอมรับว่าค่าบำรุงรักษาค่อนข้างสูง ต้องเข้าศูนย์บริการตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ
Q
Audi จะผลิตรถยนต์เปิดประทุนในปี 2025 หรือไม่?
ปัจจุบัน Audi ยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะเปิดตัวรุ่นใหม่ของรถเปิดประทุนในปี 2025 หรือไม่ แต่จากแนวโน้มการอัปเดตสายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ในปีที่ผ่านมา Audi อาจจะเดินหน้าต่อด้วยแผนการอัปเกรดรุ่น A5 Cabriolet หรือ TT Roadster พร้อมเทคโนโลยีไฟฟ้าล่าสุด เช่น รุ่นไฟฟ้าบริสุทธิ์ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม PPE ในตลาดท้องถิ่น แม้ว่ารถเปิดประทุนจะยังเป็นที่นิยมในกลุ่มเล็กๆ แต่ก็ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่ชื่นชอบประสบการณ์การขับขี่สไตล์แฟชั่น โดยเฉพาะในเมืองชายทะเลหรือเขตท่องเที่ยว ที่ดีไซน์เปิดประทุนเหมาะกับการเดินทางแบบสโลว์ไลฟ์ในสภาพอากาศร้อน ถ้ามีการเปิดตัวรุ่นใหม่ คาดว่าจะติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro สุดคลาสสิกของออดี้ พร้อมห้องโดยสารแบบดิจิทัล และอาจมีการปรับปรุงเนื้อผ้าของหลังคาแบบผ้าใบและประสิทธิภาพระบบปรับอากาศให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อน แนะนำให้ติดตามงานมอเตอร์โชว์ระดับโลกช่วงสิ้นปี ซึ่งปกติ Audi มักเลือกงานนี้ในการเปิดตัวรุ่นสำคัญ ส่วนเรื่องการดูแลรักษา รถเปิดประทุนต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันความชื้นในช่วงฤดูฝนและการบำรุงหลังคาเป็นประจำ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผู้ซื้อควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจ
Q
Volvo ยังผลิตรถเปิดประทุนอยู่ไหม?
ปัจจุบัน Volvo ได้หยุดผลิตรถเปิดประทุนทั้งหมดแล้ว รุ่นสุดท้ายคือ C70 ซึ่งหยุดผลิตแล้วอย่างเป็นทางการในปี 2013 หลังจากนั้น Volvo ก็มุ่งเน้นไปที่รถ SUV รถเก๋งและรถเอสเตทที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดมากกว่า แม้ว่าตอนนี้ Volvo จะไม่มีรถเปิดประทุนขายแล้ว แต่ถ้าคุณสนใจรถแบบนี้ ลองมองยี่ห้ออื่นอย่าง BMW 4 Series รุ่นเปิดประทุนหรือ Mercedes-Benz E-Class Cabriolet ก็ได้ ในตลาดท้องถิ่นมีรถสองรุ่นนี้อยู่พอสมควรและมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ดี ส่วน Volvo ช่วงนี้เด่นมากในเรื่องรถไฟฟ้า เช่น XC40 Recharge และ C40 Recharge ที่เทคโนโลยีพร้อมและความปลอดภัยสูง ถ้าสนใจรถพลังงานใหม่ก็ลองศึกษาดู สำหรับรถเปิดประทุนในที่อากาศร้อน ต้องระวังเรื่องแสงแดดและการดูแลรักษาชุดตกแต่งภายใน แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีระบบเป่าคอร้อนและมีผ้าใบกันน้ำคุณภาพดี จะได้สนุกกับการขับแบบเปิดประทุนโดยยังคงความสะดวกสบาย
Q
มีรถปี 2025 รุ่น Fleetwood Cadillac ไหม?
ปัจจุบัน Cadillac ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับรุ่น Fleetwood ปี 2025 เนื่องจากแบรนด์ได้มุ่งเน้นการพัฒนารถ SUV และรถไฟฟ้าในระยะหลังนี้ เช่น รถไฟฟ้า Lyriq ที่ใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม Ultium ล่าสุด ในตลาดท้องถิ่น Cadillac ส่วนใหญ่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้วยรถ SUV อย่าง XT4 และ XT6 ซึ่งได้รับความสนใจไม่น้อยจากอุปกรณ์หรูหราและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ถ้าสนใจรถหรูคลาสสิกสไตล์อเมริกัน แนะนำให้ติดตามรุ่นเก่าอย่าง Fleetwood Brougham ในตลาดมือสอง ซึ่งเป็นที่รู้จักจากดีไซน์ตัวถังเรือและระบบช่วงล่างที่นุ่มนวล จริงๆ แล้วตอนนี้หลายแบรนด์หรูกำลังหันมาเน้นรถไฟฟ้า เช่น Mercedes EQS และ BMW i7 ที่แสดงทิศทางของรถหรูในอนาคต แนวโน้มนี้อาจส่งผลต่อแผนผลิตภัณฑ์ของ Cadillac ในอนาคต แนะนำให้ติดตามเว็บไซต์ทางการของ Cadillac ประเทศไทยหรือตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่ออัปเดตข่าวสารรถรุ่นใหม่ก่อนใคร
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

DEEPAL S07 คุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่? เมื่อคุณยังรีบลังเล, มีคนจับซื้อก่อนแล้ว
Kevin WongNov 20, 2024

DEEPAL S07 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เป็นรุ่นปรับปรุงจาก S7 วางตําแหน่ง SUV ขนาดกลาง!
AshleyJul 26, 2024

DEEPAL S07 เหนือกว่า BYD เเล้ว S07ได้ขึ้นเเท่นเป็นรถevที่มียอดขายสูงสุดในไทยเมื่อเดือนเมษายน
Kevin WongMay 8, 2024

2024 งานแสดงรถปั้งจีน: Deepal S7 รุ่น Black Gold Knight โผล่หน้า
AshleyApr 25, 2024

DEEPAL S07: แตะถึงอนาคตของรถ SUV ไฟฟ้า
AshleyMar 19, 2024
ดูเพิ่มเติม


รุ่นรถ
ข้อดี
ข้อเสีย