Q

Lexus NX 200t ถูกยุติการผลิตหรือไม่?

ปัจจุบันในตลาดประเทศไทย รุ่น Lexus NX 200t ที่ใช้ระบบเทอร์โบชาร์จแบบเก่าได้หยุดผลิตไปแล้ว โดยทางแบรนด์ได้อัปเกรดไลน์อัพเป็นรุ่นใหม่ๆ เช่น NX 250 และ NX 350h ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่แทน ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์การอัปเดตผลิตภัณฑ์ของ Lexus ระดับโลกที่มุ่งเน้นเรื่องประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สังเกตได้ว่าตลาดรถยนต์เมืองไทยในช่วง 2-3 ปีมานี้ มีสัดส่วนรถ Hybrid เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายส่งเสริมรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล เช่น การลดภาษีนำเข้ารถระบบไฮบริด สำหรับลูกค้าที่สนใจรถตระกูล NX แนะนำให้ติดต่อศูนย์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Lexus ในประเทศไทยเพื่อสอบถามสต็อกรถหรือจัดโอเดอร์ใหม่ล่าสุด โดยทุกศูนย์บริการของ Lexus ในไทยยังให้การรับประกันหลังการขายครบวงจร แม้แต่รุ่น NX 200t ที่เลิกผลิตแล้วก็ยังได้รับบริการรับประกันเครื่องยนต์ 10 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) เพื่อคุ้มครองสิทธิ์เจ้าของรถทุกคน ต้องบอกว่าตลาด SUV ระดับพรีเมียมในไทยแข่งขันสูงมาก นอกจากการเลือกระบบขับเคลื่อนแล้ว ลูกค้ายังควรสนใจฟีเจอร์เทคโนโลยีอย่างระบบ LEXUS CONNECT ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนในไทย เช่น ฟังก์ชั่นเปิดแอร์ล่วงหน้าจากสมาร์ทโฟน ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Lexus NX รุ่นไหนเทียบเท่ากัน?
ในตลาดรถยนต์ไทย รุ่นที่เทียบเท่ากับ Lexus NX ซึ่งเป็นแบรนด์หรูภายใต้โตโยต้าคือ Toyota Harrier ทั้งสองคันนี้ใช้แพลตฟอร์ม TNGA-K เดียวกัน มีเทคโนโลยีช่วงล่างและระบบส่งกำลังที่คล้ายคลึงกัน แต่ Lexus NX จะโดดเด่นกว่าในเรื่องความหรูหรา วัสดุภายใน และภาพลักษณ์แบรนด์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียม ส่วน Harrier นั้นราคาจับต้องง่ายกว่าและเน้นความประหยัดคุ้มค่า สำหรับคนไทยแล้ว Harrier เป็นที่นิยมในตลาด หาซ่อมบำรุงก็สะดวก ส่วน Lexus NX เหมาะกับผู้มีงบประมาณพอสมควรและให้ความสำคัญกับมูลค่าของแบรนด์ ที่น่าสนใจคือตลาดไทยมีความต้องการรถ SUV เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง Harrier และ NX มีรุ่น Hybrid ให้เลือก ซึ่งเป็นตัวช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในภาวะที่ราคานํ้ามันค่อนข้างสูง แถมยังได้สิทธิ์ลดภาษีจากรัฐบาลไทยสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นเวลาจะเลือกซื้อก็ลองเปรียบเทียบความต้องการและงบประมาณของตัวเองดู
Q
Lexus NX รุ่นใหม่จะวางจำหน่ายเมื่อไหร่
จากข้อมูลล่าสุด รุ่นใหม่ของ Lexus NX คาดว่าจะวางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยภายในปี 2024 โดยวันเวลาอาจมีการปรับเปลี่ยนตามกลยุทธ์การตลาดและสถานการณ์ห่วงโซ่อุปทานของท้องถิ่น แนะนำให้ติดตามข้อมูลอัปเดตผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Lexus ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต รุ่นใหม่นี้คาดว่าจะยังคงดีไซน์ภาษาการออกแบบของตระกูล Lexus พร้อมอัปเกรดเทคโนโลยีอัจฉริยะและระบบไฮบริด เช่น อาจติดตั้งระบบความปลอดภัย LSS+ ที่ทันสมัยยิ่งขึ้นและตัวเลือกระบบไฮบริดที่ได้รับการปรับปรุง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวไทยทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี ตลาดไทยมีความต้องการ SUV สูง โดยเฉพาะรุ่นกลางจากแบรนด์หรู Lexus NX ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมในเซ็กเมนต์นี้ ด้วยความน่าเชื่อถือของแบรนด์และประสบการณ์การขับขี่ที่เน้นความสบาย ในประเทศไทย Lexus ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าหลายคนนำมาพิจารณา หากสนใจรถรุ่นนี้ สามารถจองทดลองขับล่วงหน้าเพื่อสัมผัสสมรรถนะและความสะดวกสบายด้วยตัวเอง พร้อมทั้งเปรียบเทียบกับรุ่นระดับเดียวกันอย่าง BMW X3 หรือ Mercedes-Benz GLC เพื่อประกอบการตัดสินใจที่รอบด้าน
Q
Lexus NX ใช้ประเภทนํ้ามันประเภทใด
สำหรับรถ Lexus NX ในตลาดไทย แนะนำให้ใช้เบนซิน 95 หรือสูงกว่านั้นเป็นหลัก เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันมากที่สุด แม้ว่ารุ่นบางรุ่นจะรองรับแก๊สโซฮอล์ E20 ได้ แต่การใช้ในระยะยาวอาจส่งผลต่อกำลังเครื่องและประสิทธิภาพการใช้น้ำมัน ดังนั้นควรเลือกเบนซิน 95 เป็นตัวเลือกแรก สภาพอากาศร้อนของไทยต้องการการระบายความร้อนของเครื่องยนต์และความเสถียรของน้ำมันเชื้อเพลิงในระดับสูง การใช้เบนซินเลขสูงจะช่วยลดความเสี่ยงการน็อคของเครื่องยนต์ นอกจากนี้เทคโนโลยี D-4S ของ Lexus ยังออกแบบมาให้เข้ากับคุณภาพน้ำมันที่พบทั่วไปในไทย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแก๊สโซฮอล์ E85 จะหาซื้อได้ทั่วไปในไทย แต่ Lexus NX ไม่รองรับการใช้น้ำมันประเภทนี้ การใช้ E85 อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ และที่สำคัญ ในไทยมีบริการเติมสารเติมแต่งน้ำมันเชื้อเพลิงที่บางปั๊ม แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงที่ผู้ผลิตแนะนำเป็นประจำ เพื่อช่วยจัดการกับปัญหาสิ่งเจือปนในน้ำมันเชื้อเพลิงท้องถิ่น
Q
วิธีเปิดตรวจสอบจุดบอดใน Lexus NX 300
เวลาขับรถ Lexus NX 300 ในไทย การตรวจสอบจุดบอดทำได้โดยการปรับกระจกข้างและใช้ระบบ Blind Spot Monitor (BSM) ของรถ ก่อนอื่นปรับกระจกซ้ายให้เห็นตัวรถประมาณ 1/4 ส่วนกระจกขวาควรปรับให้เห็นพื้นที่ด้านขวาได้กว้างขึ้น แถม Lexus NX 300 ยังมีระบบ BSM ที่จะแจ้งเตือนด้วยไฟสัญญาณที่กระจกข้างเมื่อมีรถเข้าไปในจุดบอด เรื่องสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนบ่อยอาจทำให้กระจกมองไม่ชัด แนะนำให้ทำความสะอาดกระจกเป็นประจำและเช็คเซ็นเซอร์ว่ามีสิ่งสกปรกบังมั้ย สำหรับรุ่นที่ไม่มีระบบ BSM อาจติดกระจกเล็กมุมกว้างเพิ่มเพื่อช่วยมองเห็นจุดบอด โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่การจราจรคับคั่ง เวลาเปลี่ยนเลนควรหันหน้ามองจุดบอดด้วยและอย่าลืมเปิดสัญญาณไฟล่วงหน้า วิธีเหล่านี้จะช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยขึ้น พึงระวังว่าการขับรถพวงมาลัยขวาแบบไทยนั้นจุดบอดด้านขวาต้องสังเกตเป็นพิเศษ Lexus ยังมีระบบ LSS+ ที่รวมฟังก์ชัน RCTA สำหรับเตือนเวลาถอยหลังให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
Q
ความแตกต่างระหว่าง Lexus NX 250 และ 350 คืออะไร
Lexus NX 250 กับ NX 350 แตกต่างกันที่ระบบขับเคลื่อนและสมรรถนะเป็นหลัก โดย NX 250 ใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร แบบสูบตรง 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 203 แรงม้า เหมาะกับการขับขี่ในเมืองประจำวัน เพราะประหยัดน้ำมันกว่า ส่วน NX 350 ใช้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ กำลังสูงสุด 275 แรงม้า เร่งแรงกว่า เหมาะกับคนที่ชอบความสปอร์ต ด้านการออกแบบภายนอกและภายในแทบไม่ต่างกัน เพราะทั้งคู่ใช้ภาษาเดียวกับ Lexus รุ่นใหม่ ให้ความรู้สึกหรูและทันสมัย แต่ในตลาดไทย NX 350 ราคาสูงกว่า เหมาะกับคนงบพอและต้องการสมรรถนะสูง นอกจากนี้ Lexus ในไทยมีศูนย์บริการครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น NX 250 หรือ NX 350 ก็ได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งเรื่องซ่อมบำรุงและบริการหลังการขาย คนไทยสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณได้ แต่ต้องระวังเรื่องอากาศร้อนของไทยที่อาจส่งผลต่อระบบระบายความร้อนของรถ ทั้งสองรุ่นออกแบบมาเพื่อใช้งานในสภาพอากาศร้อนได้ดี แต่การบำรุงรักษาสม่ำเสมอยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้รถใช้งานได้ยาวนาน
Q
ความแตกต่างระหว่าง Lexus RX และ NX คืออะไร
Lexus RX กับ NX แตกต่างกันที่ตำแหน่งการใช้งาน ขนาดและความเหมาะสม RX เป็น SUV หรูขนาดกลาง ตัวถังใหญ่กว่าและมีตัวเลือกสามแถวที่นั่ง เหมาะสำหรับครอบครัวที่เดินทางไกลหรือคนที่ต้องการพื้นที่กว้างขึ้น ส่วน NX เป็น SUV ขนาดกะทัดรัด ตัวถังคล่องตัวกว่า เข้ากับการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางประจำวัน ในตลาดไทย RX เหมาะกับคนที่ชอบท่องเที่ยวด้วยรถส่วนตัวหรือครอบครัวใหญ่ ส่วน NX เนื่องจากตัวถังเล็กกว่า จึงเหมาะกับถนนแคบและการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบไฮบริดอันล้ำสมัยของ Lexus แต่ RX ให้พลังสูงกว่าและอุปกรณ์หรูหรากว่า ในขณะที่ NX เน้นประหยัดน้ำมันและความคุ้มค่า ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ทั้งคู่ติดตั้งระบบแอร์ประสิทธิภาพสูงและกระจกกันยูวี แต่ RX ยังเหนือกว่าด้วยระบบกันเสียงและความสบาย ขณะนี้ Lexus มีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุมทั่วไทย ไม่ว่าจะเป็น RX หรือ NX ก็ได้รับบริการดูแลอย่างมืออาชีพ สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกรุ่นขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนตัวและสถานการณ์ใช้งาน ถ้าชอบพื้นที่กว้างและความหรูหราให้เลือก RX แต่ถ้าอยากได้รถคล่องตัวและใช้งานในเมืองสะดวก NX คือคำตอบที่ดีกว่า
Q
ราคา Lexus NX เท่าไหร่
ราคาของ Lexus NX ในประเทศไทยสำหรับรุ่นปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 2.59 ถึง 3.79 ล้านบาท โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องยนต์และอุปกรณ์เสริม รุ่นเริ่มอย่าง NX 250 ใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร แบบธรรมชาติ ส่วนรุ่นสูงขึ้นอย่าง NX 350h เป็นระบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรกับมอเตอร์ไฟฟ้า และถ้าอยากได้พลังแบบเต็มๆ ก็ต้องเป็นรุ่น NX 450h+ ที่เป็น Plug-in Hybrid ให้เลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและสี่ล้อ ข้อดีในไทยคือรถไฮบริดอย่าง NX 350h ได้รับการลดภาษี ทำให้ราคาจับต้องได้มากขึ้น แถม Lexus ยังขึ้นชื่อเรื่องบริการหลังการขาย โดยให้ประกัน 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร และประกันแบตเตอรี่สำหรับรถไฮบริดยาวถึง 10 ปีหรือ 250,000 กิโลเมตร ถ้าสนใจแนะนำให้ไปทดลองขับที่โชว์รูมอย่างในกรุงเทพหรือพัทยา แล้วก็เปรียบเทียบโปรโมชั่นจากหลายๆ เจ้า เพราะความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทในช่วงนี้อาจส่งผลต่อราคารถยนต์นำเข้าด้วยเช่นกัน,นอกจากนี้ รัฐบาลไทยกำลังผลักดันอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และในอนาคตอาจจะมีการออกนโยบายจูงใจรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งน่าจับตามองจากผู้ซื้อที่มีศักยภาพ
Q
Lexus NX ผลิตที่ไหน
รถยนต์หรูหราระดับ SUV อย่าง Lexus NX เป็นรุ่นที่ผลิตจากหลายฐานการผลิตทั่วโลก โดยสำหรับตลาดไทยนั้น NX ส่วนใหญ่จะมาจากโรงงานในจังหวัดคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโรงงานที่มีชื่อเสียงในเรื่องกระบวนการผลิตมาตรฐานสูงและการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้ทุกคันที่ออกมามีคุณภาพตามมาตรฐานของ Lexus โดยแท้ สำหรับในตลาดไทย NX เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคด้วยการตกแต่งภายในอันประณีตเทคโนโลยีไฮบริดขั้นสูงและความสะดวกสบายในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะระบบไฮบริด 2.5 ลิตร ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องประหยัดน้ำมันและพลังขับเคลื่อนในสภาพการขับขี่ในเมืองของไทยได้อย่างดี นอกจากนี้ Lexus ยังมีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและบริการหลังการขายที่ครบวงจรในไทย ไม่ว่าจะเป็นการบริการดูแลรักษาตามระยะ การใช้อะไหล่แท้จากโรงงาน หรือบริการช่วยเหลือบนท้องถนน ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยเสริมความน่าสนใจให้กับ NX ยิ่งขึ้น สำหรับคนไทยแล้ว NX ไม่ใช่แค่ SUV หรูที่เหมาะกับการใช้งานในครอบครัว แต่ยังเป็นตัวแทนของความมุ่งมั่นในเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือที่ Lexus มอบให้ลูกค้าอีกด้วย
Q
ปีใดที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อ Lexus?
ปีที่ดีที่สุดในการซื้อรถ Lexus ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ ถ้าคุณมองหาความคุ้มค่า แนะนำให้เลือกรถมือสองอายุ 3-5 ปี เพราะรถในระยะนี้มักผ่านช่วงค่าเสื่อมราคาสูงสุด ราคาจับต้องได้ ในขณะที่สภาพรถยังดีอยู่ โดยเฉพาะ Lexus ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและเสียน้อย แม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยก็ยังวิ่งได้ดี แต่ถ้าคุณสนใจเทคโนโลยีและฟีเจอร์ล่าสุด แนะนำให้ซื้อรถใหม่ เพราะ Lexus มีการอัปเกรดระบบไฮบริดและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะอย่างเห็นได้ชัด เช่น ระบบไฮบริดประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมและชุดความปลอดภัย LSS+ ที่เหมาะกับการใช้งานในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ ไม่ว่าคุณจะเลือกรถใหม่หรือมือสอง ควรซื้อผ่านช่องทางทางการหรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการรับรอง เพื่อให้ได้ประวัติการบริการและบริการหลังการขายที่ครบถ้วน นอกจากนี้ไทยมีการเก็บภาษีนำเข้ารถค่อนข้างสูง ดังนั้นรุ่นที่ประกอบในประเทศอย่าง ES หรือ UX อาจได้เปรียบเรื่องราคาและสะดวกกว่าด้านการซ่อมบำรุง
Q
Lexus ต้องใช้น้ำมันเบนซินพรีเมียมหรือไม่?
รถยนต์ Lexus ส่วนใหญ่ในตลาดไทยแนะนำให้ใช้เบนซินพรีเมียมเกรด 95 ขึ้นไป โดยเฉพาะรุ่นที่ติดตั้งระบบเทอร์โบชาร์จหรือระบบไฮบริดสมรรถนะสูง เช่น ซีรีส์ IS LS หรือ LC เพราะเบนซินออกเทนสูงจะช่วยให้การจุดระเบิดของเครื่องยนต์ทำงานได้ดีขึ้น ลดปัญหาการน็อคและเพิ่มประสิทธิภาพการเร่ง แต่สำหรับรุ่นพื้นฐานอย่าง UX200 ก็สามารถใช้เบนซินธรรมดาเกรด 91 ได้ตามมาตรฐานผู้ผลิต แต่อาจส่งผลเล็กน้อยต่อการตอบสนองเวลาเร่ง รถในไทยที่อากาศร้อนแบบนี้ควรเลือกใช้เบนซินคุณภาพจากปั๊มเช่น PTT หรือบางจาก เพราะมีสารเติมแต่งที่ช่วยลดการสะสมคาร์บอนและปกป้องระบบฉีดเชื้อเพลิงตรง แถมถ้าใช้เบนซินเกรดต่ำเป็นเวลานานอาจทำให้ไฟเตือนเครื่องยนต์ขึ้นได้ แต่ไม่ต้องห่วงไป เพราะศูนย์บริการ Lexus ในไทยจะมีบริการทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงในช่วงเช็คระยะอยู่แล้ว ช่วยลดผลกระทบจากคุณภาพน้ำมันที่แตกต่างกันได้บ้าง สำหรับคนที่ขับในกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย รุ่นไฮบริดของเลกซัสจะช่วยลดความอ่อนไหวต่อเกรดน้ำมันเชื้อเพลิงได้เพราะมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วย นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่คนไทยนิยมเลกซัสรุ่นไฮบริดนั่นเอง
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

รถมีหลายรูปแบบให้เลือก รวมถึงรุ่นขับเคลื่อนที่แตกต่างกัน อีกทั้งมีสีที่หลากหลายให้เลือก
ภายในรถมีพวงมาลัยฟังก์ชั่นหลากหลาย การดำเนินการสะดวก มีปุ่มควบคุมทั้งหมด
ประตูท้ายรถมีระบบตรวจจับ สามารถเปิดปิดอัตโนมัติ มีฟังก์ชั่นจดจำ ทำให้สะดวกในการโหลดของ
มีโหมดการขับหลากหลาย สามารถเลือกตามสภาพถนน
มีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย รับประกันความปลอดภัยในการขับขี่

ข้อเสีย

การดำเนินการผ่านหน้าจอสัมผัสไม่ได้ราบรื่นพอทำให้การตอบสนองบางทีไม่ทันเวลา
การออกแบบรถยนต์มุ่งมองเพื่อความบางเฉียบ ทำให้พื้นที่เก็บของลดลง
ผืนที่นั่งแถวที่สองมีพื้นที่แคบมาก ไม่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ใช้นั่ง
แม้จะมีโหมดการขับขี่หลายรูปแบบแต่ไม่ใช่รุ่น off-road การแสดงผลในสภาพทางที่ซับซ้อนไม่ดี
สำหรับรุ่นรถหรู ค่าซ่อมบำรุงสูง เนื่องจาก ต้องเปลี่ยนอะไหล่บางชิ้นไม่ค่อยแข็งแรงบ่อยครั้ง และต้องส่งซ่อมที่ส่วนกลางของ Lexus ถึงแม้ลูกค้ามีความสามารถที่จะส่งซ่อมที่ศูนย์ Toyota แต่ผลงานการซ่อมแซมอาจจะไม่ดีพอ

Q&A ล่าสุด

Q
"รถที่มีราคาสูงที่สุดในโลกในปี 2024 คืออะไร?"
ในปี 2024 รถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกคงหนีไม่พ้น Rolls-Royce Boat Tail รุ่นคัสตอมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ราคาพุ่งไป 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากเรือยอร์ชโบราณ ตัวถังทาสีเมทัลลิกที่ขัดมืออย่างประณีต ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยอุปกรณ์สุดหรูเช่น ตู้เย็นเก็บแฮมพาร์มาและชุดเครื่องเงินสำหรับคาเวียร์ ตามมาติดๆ คือ Bugatti La Voiture Noire รถซุปเปอร์คาร์สัญชาติฝรั่งเศสที่ราคา 18.5 ล้านดอลลาร์ มาพร้อมเครื่องยนต์ W16 8.0 ลิตร ที่ทำความเร็วสูงสุดได้ 420 กม./ชม. สำหรับในตลาดรถไทย เราอาจจะเคยเห็น Rolls-Royce Phantom หรือ Lamborghini รุ่นลิมิเต็ดเอดิชันวิ่งอยู่แถวกรุงเทพฯบ้าง ซึ่งรถระดับนี้มักจะมีระบบป้องกันฝุ่นพิเศษ สําหรับผู้ที่ชื่นชอบการสะสมรถยนต์ นอกจากการให้ความสําคัญกับราคาแล้ว ควรเข้าใจศักยภาพในการรักษามูลค่าของรถยนต์เหล่านี้มากขึ้น เช่น ราคาของ Ferrari 250 GTO ในการประมูลเพิ่มขึ้นจาก 35 ล้านเป็น 70 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ความขาดแคลนนี้จึงเป็นคุณค่าหลักของรถยนต์หรูหราชั้นนํา
Q
อะไรทำให้ Revuelto มีราคาแพงขนาดนี้?
ราคาสูงลิ่วของ Lamborghini Revuelto เกิดจากการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูงในฐานะซูเปอร์คาร์ไฮบริดแบบปลั๊กอินรุ่นแรกของแบรนด์ พร้อมด้วยคุณสมบัติการผลิตแบบลิมิเต็ดเอดิชัน ที่มาพร้อมระบบไฮบริดซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์ 6.5 ลิตร V12 แบบดูดธรรมชาติและมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังสูงถึง 1,015 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.5 วินาที สมรรถนะระดับนี้ต้องพึ่งพาวัสดุลดน้ำหนักจากคาร์บอนไฟเบอร์และระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาในระดับมาตรฐานการบิน เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถขับเคลื่อนอย่างเต็มประสิทธิภาพแม้ในสภาพอากาศร้อนระอุของประเทศไทย ระบบระบายความร้อนอัจฉริยะและจานเบรกเซรามิกจะช่วยรักษาความเสถียรระหว่างขับขี่แบบสุดเหวี่ยง ส่วนกรรมวิธีการผลิตแบบทำมือในอิตาลีทำให้ผลผลิตต่อเดือนไม่ถึง 100 คัน ความหายากนี้เองที่ดันราคาให้สูงขึ้น ซูเปอร์คาร์ระดับนี้ส่วนใหญ่จะผลิตแบบออร์เดอร์เมด (สั่งทำตามใบสั่ง) โดยบริการปรับแต่งพิเศษเช่นสีรถเฉพาะหรือหนังหุ้มเบาะภายในย่อมเพิ่มต้นทุนเข้าไปอีก ในขณะที่ระบบไฮบริดซึ่งซับซ้อนกว่าซูเปอร์คาร์ทั่วไปก็ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระยะยาวด้วย ที่น่าสนใจคือ ไฮเปอร์คาร์ในระดับราคานี้มักมาพร้อมเทคโนโลยีระดับสนามแข่ง อย่างระบบแอคทีฟแอโรไดนามิกส์หรือระบบกระจายแรงบิด (Torque Vectoring) ซึ่งต้นทุนการวิจัยและพัฒนาที่สูงลิบเหล่านี้จะถูกเฉลี่ยเข้ากับแต่ละคันที่ผลิต ทำให้รถสมรรถนะขั้นสุดแบบนี้กลายเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มโดยธรรมชาติ
Q
มียอดขายรถ Lamborghini ในปี 2024 จำนวนเท่าไร?
ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับยอดขายทั่วโลกของ Lamborghini ในปี 2024 แต่จากผลงานในปีที่ผ่านมาของแบรนด์นี้ พบว่ายอดขายต่อปีมักจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 ถึง 10,000 คัน โดยรุ่น Urus เป็นตัวหลักที่ทำยอดขายเกิน 60% ของทั้งหมด ในตลาดท้องถิ่น Lamborghini มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายครอบคลุมเมืองใหญ่ๆ พร้อมเสนอผลิตภัณฑ์ครบทุกรุ่นทั้ง Huracán Aventador รุ่นต่อเนื่อง และ Urus ซึ่งรุ่น Urus นั้นได้รับความนิยมเป็นพิเศษเพราะตอบโจทย์ทั้งความแรงและความประหยัดพื้นที่ ที่น่าสนใจคือแบรนด์ซูเปอร์คาร์ในยุคนี้กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบไฟฟ้า Lamborghini เองก็ประกาศแล้วว่าจะเปิดตัว Revuelto รุ่นไฮบริดแรก ซึ่งนับเป็นการเริ่มปรับตัวตามเทรนด์พลังงานสะอาด แต่ยังคงรักษาลักษณะเฉพาะของเครื่องยนต์ความจุสูงไว้ แนวทางนี้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่นที่อยากได้ทั้งสมรรถนะสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับผู้ที่สนใจซื้อ นอกจากจะดูตัวเลขยอดขายแล้ว ควรให้ความสำคัญกับระยะเวลารอคอยและการบริการปรับแต่งเฉพาะตัวของรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันเหล่านี้ ซึ่งปกติต้องติดต่อล่วงหน้ากับตัวแทนจำหน่ายอย่างน้อยหลายเดือนเพื่อกำหนดสเปค
Q
รถยนต์ที่ขายเร็วที่สุดในปี 2024 คือรุ่นใด
รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในปี 2024 คือ Toyota Hilux Revo ซึ่งเป็นรถปิคอัพที่ครองใจผู้บริโภคด้วยความทนทาน ประหยัดน้ำมัน และความสามารถในการขับขี่บนทุกสภาพถนน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องขนของหรือเดินทางไกลบ่อยๆ Hilux Revo ไม่เพียงแต่มีโครงสร้างแข็งแรงและระบบเครื่องยนต์อันล้ำสมัย แต่ยังมาพร้อมฟีเจอร์ช่วยขับขี่อัจฉริยะ ที่ช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ นอกจากรถปิคอัพแล้ว รถไฟฟ้าอย่าง BYD ATTO 3 ก็มาแรงไม่แพ้กัน ด้วยราคาคุ้มค่าและค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่ต่ำ ดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา ยอดขายรถไฮบริดและรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นชัดเจน สะท้อนให้เห็นว่าตลาดเริ่มยอมรับเทคโนโลยีประหยัดพลังงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบเดิมหรือรถพลังงานใหม่ สิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเวลาซื้อรถคือความคุ้มค่า ความทนทาน และค่าบำรุงรักษา ขณะที่การบริการหลังการขายและการจัดหาอุปกรณ์เสริมที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
Q
รถที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในปี 2024 คืออะไร?
คาดว่าในปี 2024 รถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นรุ่นไฮบริดและไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะ Toyota bZ4X และ BYD ATTO 3 ที่ผสมผสานระหว่างความใช้งานได้จริงกับเทคโนโลยีรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งดึงดูดผู้บริโภคจำนวนมากด้วยต้นทุนการประหยัดพลังงานและนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล ส่วนรถปิกอัพอย่าง Toyota Hilux Revo และ Isuzu D-MAX ยังคงเป็นที่นิยมสูงเนื่องจากความทนทานและความหลากหลายในการใช้งานที่เหมาะกับสภาพถนนและไลฟ์สไตล์ของคนไทย นอกจากนี้รถหรูแบรนด์ดังอย่าง Mercedes-Benz EQ Series และ BMW iX ก็ยังครองใจกลุ่มตลาดบนด้วยภาพลักษณ์แบรนด์และเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟและการเพิ่มความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ยานพาหนะเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิมยังคงสามารถแข่งขันได้ด้วยเทคโนโลยีไฮบริด แนะนำให้ทดลองขับรถและเปรียบเทียบค่าบำรุงรักษาและประสิทธิภาพความทนทานของพลังงานประเภทต่าง ๆ ก่อนที่จะซื้อรถเพื่อให้เหมาะกับความต้องการส่วนบุคคล
ดูเพิ่มเติม