Q

เฟอร์รารี่ 296 GTB เร็วได้อย่างไร

เฟอร์รารี่ 296 GTB ที่ทำความเร็วได้อย่างเหลือเชื่อนี้ ต้องขอบคุณระบบไฮบริดสุดล้ำและการออกแบบแอโรไดนามิกส์ที่ลงตัว รถคันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่ ผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังรวมสูงถึง 830 แรงม้า การตอบสนองของพลังขับนั้นรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แถมมอเตอร์ไฟฟ้ายังช่วยแก้ปัญหาการตอบช้าของเทอร์โบ ทำให้การเร่งนั้นลื่นไหลกว่าเดิม แม้ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย ระบบระบายความร้อนอันล้ำสมัยก็ยังคงรักษาประสิทธิภาพได้อย่างสม่ำเสมอ อีกจุดเด่นคือ 296 GTB ใช้ระบบแอโรไดนามิกส์แบบแอคทีฟ อย่างเช่นสปอยเลอร์หลังที่ปรับตัวได้อัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ ช่วยเพิ่มแรงกดลงเมื่อขับด้วยความเร็วสูง ซึ่งเหมาะมากสำหรับถนนโค้งเข
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Will 296 GTB คงมูลค่าไว้ได้หรือไม่
เฟอร์รารี่ 296 GTB ในฐานะซูเปอร์คาร์ไฮบริดแบบปลั๊กอินที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน V6 ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า ถือเป็นรุ่นที่มีศักยภาพในการรักษามูลค่าสูงในตลาดประเทศไทย ด้วยเหตุผล 3 ประการหลักๆ อย่างแรกเลยคือแบรนด์เฟอร์รารี่มีความหมายพิเศษในวงนักสะสมรถสปอร์ตระดับไฮเอนด์ของไทย นโยบายการผลิตจำนวนจำกัดและการบริการแบบคัสตอมไชน์ซ์ของเฟอร์รารี่ช่วยพยุงราคาตลาดมือสองได้โดยธรรมชาติ ประการที่สอง ระบบขับเคลื่อนของ 296 GTB ที่ใช้เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จมุม 120 องศาคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ไม่เพียงให้พลังสูงถึง 830 แรงม้า แต่ยังตอบโจทย์กฎหมายสิ่งแวดล้อมของไทยที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ ความทันสมัยทางเทคนิคแบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากนโยบายที่จะกระทบมูลค่าซากของรถได้ ส่วนประการที่สาม ความนิยมเทคโนโลยีไฮบริดในกลุ่มคนรักซูเปอร์คาร์ไทยกำลังเติบโต ดูได้จากราคารถมือสองของ LaFerrari ในตลาดท้องถิ่นที่ระบบไฮบริดกลับเป็นจุดขายสำคัญ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่มากกว่าตลาดยุโรป แนะนำให้เจ้าของรถเข้าตรวจสอบระบบไฟฟ้าแรงสูงที่ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการตามระยะ พร้อมทั้งรักษาประวัติการเซอร์วิสให้ครบถ้วน เพราะเอกสารเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อเมื่อต้องการขายต่อ หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน 296 GTB ยังได้เปรียบด้านขนาดตัวรถที่เหมาะกับถนนแคบๆ ในกรุงเทพฯ ทำให้มีความใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่า ซึ่งก็ส่งผลดีต่ออัตราการรักษามูลค่าของรถเช่นกัน
Q
เฟอร์รารี 296 GTB มีกระบอกสูบกี่กระบอก
เฟอร์รารี่ 296 GTB ติดตั้งเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จ 2.9 ลิตร ที่มาพร้อมกับระบบไฮบริด ทำให้มันกลายเป็นซูเปอร์คาร์สุดล้ำที่มี 6 สูบ ด้วยพลังรวมสูงถึง 830 แรงม้า ซึ่งแสดงถึงความสามารถระดับตำนานของเฟอร์รารี่ในด้านเทคโนโลยีไฮบริด รุ่นนี้กำลังเป็นที่พูดถึงในวงการรถซิ่งของไทย โดยเฉพาะสำหรับการขับสปอร์ตบนสนามแข่งระดับพรีเมียมรอบๆ กรุงเทพฯ สำหรับแฟนรถไทยแล้ว เครื่องยนต์ V6 ของ 296 GTB ไม่เพียงสืบทอดความรู้สึกเร้าใจแบบเฟอร์รารี่คลาสสิก แต่ยังตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของโลก แถมไทยยังนำเข้ารถซิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ซูเปอร์คาร์ไฮบริดแบบ 296 GTB เข้าตามาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดของไทยได้อย่างดี ส่วนเครื่อง V6 เทอร์โบนั้น ขนาดกะทัดรัดแต่ให้พลังเหลือล้น เหมาะทั้งขับในเมืองไทยและลงสนามแข่ง อีกทั้งในไทยก็เริ่มมีอู่เตรียมอัพเกรดเฉพาะรถไฮบริดแบบนี้แล้ว ทำให้เจ้าของรถมีออปชั่นเพิ่มความมันส์ได้อีกเยอะ
Q
ความเร็วสูงสุดของ 296 GTB คือเท่าไหร่
เฟอร์รารี่ 296 GTB เป็นซูเปอร์คาร์ไฮบริดที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 330 กม./ชม. ด้วยระบบขับเคลื่อนที่ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่ และมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังรวมสูงถึง 830 แรงม้า ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในรุ่นที่ทรงพลังที่สุดในตระกูล V6 ของเฟอร์รารี่ แม้ในสภาพอากาศร้อนระอุของไทย ระบบระบายความร้อนอันล้ำสมัยของรถคันนี้ก็สามารถรักษาประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนให้ทำงานได้อย่างเสถียร เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการสัมผัสประสบการณ์ขับขี่สุดเร้าใจทั้งบนสนามแข่งระดับสูงเช่นบุรีรัมย์อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต หรือบนทางหลวงรอบกรุงเทพฯ เทคโนโลยีไฮบริดไม่เพียงแต่เพิ่มสมรรถนะ แต่ยังช่วยลดการปล่อยมลพิษ สอดคล้องกับเทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมทั่วโลก สำหรับคอซูเปอร์คาร์ไทย 296 GTB ถือเป็นความลงตัวระหว่างเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปกับระบบไฟฟ้า ที่แสดงถึงความก้าวล้ำของเฟอร์รารี่ในด้านการพัฒนาเครื่องยนต์ พร้อมกันนี้ดีไซน์อิตาเลียนสุดคลาสสิกยังตอบโจทย์ความต้องการด้านสุนทรียภาพของคนไทยที่ชื่นชอบซูเปอร์คาร์ระดับหรูอีกด้วย
Q
โหมดการขับขี่สำหรับ Ferrari 296 GTB มีอะไรบ้าง
เฟอร์รารี่ 296 GTB ในฐานะซูเปอร์คาร์ไฮบริดปลั๊กอิน ที่มาพร้อมกับ 4 โหมดขับขี่เพื่อตอบโจทย์ทุกสภาพถนนและความต้องการของผู้ขับในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศร้อนชื้นหรือถนนที่ทั้งติดขัดในกรุงเทพฯ และคดเคี้ยวบนเขาในต่างจังหวัด โหมด eDrive ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน เหมาะกับการขับขี่ในเมืองที่ความเร็วต่ำ วิ่งได้ 25 กิโลเมตรแบบไร้มลพิษและเงียบสงบ ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมของไทย ส่วนโหมด Hybrid จะปรับสมดุลระหว่างเครื่อง V6 กับมอเตอร์ไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ ถือเป็นตัวชาญฉลาดสำหรับการขับขี่ประจำวัน โหมด Performance จะเน้นการตอบสนองความแรงของเครื่อง เหมาะกับทางหลวงโล่งๆในไทยหรือวันลงสนามที่ชะอำ ส่วนโหมด Qualify จะปล่อยพลังเต็มพิกัด 830 แรงม้า ออกแบบมาสำหรับสนามแข่งระดับมืออาชีพอย่างบุรีรัมย์ อีกทั้งระบบแอคทีฟแอร์โรไดนามิกส์ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในความเร็วสูงแม้อากาศร้อนจัด สุดท้ายระบบ Manettino ที่ทำงานร่วมกับดิฟฟ์เฟอเรนเชียลอิเล็กทรอนิกส์และระบบกันสะเทือน SCM-E ช่วยให้เกาะถนนได้ดีแม้ในสภาพถนนลื่นช่วงฤดูฝนของไทย เรียกได้ว่าระบบทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์สภาพอากาศพิเศษของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ดีกว่าซูเปอร์คาร์ทั่วไป
Q
เฟอร์รารี 296 GTB เป็นระบบมือถือหรืออัตโนมัติ
เฟอร์รารี่ 296 GTB มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบ DCT ไม่ใช่เกียร์ธรรมดาแบบมือถือ ซูเปอร์คาร์ไฮบริดรุ่นนี้ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงถึง 830 แรงม้า การออกแบบเกียร์เน้นทั้งความเร็วในการเปลี่ยนเกียร์และประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ในไทยทั้งในเมืองที่รถติดและเส้นทางภูเขาเปิดโล่ง ในตลาดไทย รถเกียร์อัตโนมัติเป็นที่นิยมมากกว่าเพราะสภาพการจราจรที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยในกรุงเทพฯ ทำให้การขับขี่สะดวกสบายขึ้น นอกจากนี้ระบบไฮบริดของ 296 GTB ยังสามารถขับเคลื่อนด้วยโหมดไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวในระยะสั้น ลดการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ สอดคล้องกับนโยบายสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลไทย สำหรับคนที่ชอบความสนุกในการขับขี่ เฟอร์รารี่ยังคงความรู้สึกในการเปลี่ยนเกียร์ที่เร้าใจผ่านการตั้งค่าเกียร์อย่างแม่นยำ และปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยก็ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการขับเกียร์มือถือ สิ่งที่น่าสนใจคือกลุ่มคนรักรถสปอร์ตระดับสูงในไทยเริ่มให้ความสนใจเทคโนโลยีไฮบริดมากขึ้นเรื่อยๆ รุ่นอย่าง 296 GTB ที่รวมความแรงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในตลาด ส่วนนวัตกรรมไฮบริดของเฟอร์รารี่ก็การันตีประสิทธิภาพที่เสถียรแม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทย
Q
คุณต้องการชาร์จ 296 GTB ไหม
สำหรับรถสปอร์ต Ferrari 296 GTB รุ่นไฮบริด Plug-in นี้จำเป็นต้องชาร์จไฟเป็นประจำเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบบวกกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่สามารถวิ่งในโหมด EV ได้ประมาณ 25 กิโลเมตร เหมาะกับการใช้งานในเมืองไทยแบบสั้นๆ หรือลดการปล่อยมลพิษในพื้นที่ติดขัด แต่ต้องระวังเรื่องสภาพอากาศร้อนของไทยที่อาจส่งผลต่อแบตเตอรี่ แนะนำให้จอดในที่ร่มหรือลานจอดรถใต้ดินเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ ส่วนในกรุงเทพฯ สามารถชาร์จไฟได้ตามศูนย์การค้าชั้นนำอย่างสยามพารากอนหรือเซ็นทรัลเวิลด์ที่มีจุดชาร์จให้บริการ ระบบไฮบริดของ 296 GTB จะเน้นใช้พลังงานไฟฟ้าเมื่อขับเคลื่อนที่ความเร็วต่ำ ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ดี โดยเฉพาะในสภาพการจราจรของไทยที่ต้องหยุด-เดินบ่อยๆ สำหรับคนไทยที่อยากลองสปอร์ตคาร์แต่ยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม รุ่นนี้ตอบโจทย์ด้วยเทคโนโลยีและความประหยัดที่รถน้ำมันทั่วไปทำได้ยาก แต่ต้องไม่ลืมว่ามันเป็น Plug-in Hybrid ที่ต้องมีการวางแผนเรื่องจุดชาร์จไฟ ถ้าขับด้วยน้ำมันอย่างเดียวก็ได้ แต่จะเสียทั้งสมรรถนะและความประหยัดไปบ้าง ตอนนี้ไทยเริ่มมีสถานีชาร์จมากขึ้น โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างภูเก็ตหรือเชียงใหม่ ที่โรงแรมระดับห้าดาวหลายแห่งก็เริ่มติดตั้งจุดชาร์จให้ใช้สะดวกขึ้น
Q
296 GTB มีจำกัดหรือไม่
เฟอร์รารี 296 GTB เป็นซูเปอร์คาร์ไฮบริดแบบผลิตจำกัด แต่จำนวนขึ้นอยู่กับตลาดและออปชั่น สำหรับตลาดไทยมักจำหน่ายตามโควตา เนื่องจากข้อจำกัดการนำเข้ารถสมรรถนะสูงและกฎหมายสิ่งแวดล้อมเข้มงวด จำนวนรถอาจหายากกว่าตลาดโลก 296 GTB ติดตั้งเครื่องยนต์ V6 2.9 ลิตร เทอร์โบคู่ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวม 830 แรงม้า เป็นรุ่นสำคัญของเฟอร์รารีในการก้าวสู่ยุคไฟฟ้า สำหรับผู้ชื่นชอบรถหรูในไทย รถรุ่นนี้ไม่เพียงสะท้อนเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ยังมีมูลค่าการสะสม ควรสังเกตว่าประเทศไทยมีนโยบายส่งเสริมภาษีสำหรับรถพลังงานใหม่ แม้ 296 GTB เป็นรถไฮบริดสมรรถนะสูงไม่ใช่รถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แต่คุณสมบัติรักษ์สิ่งแวดล้อมอาจให้สิทธิประโยชน์ภาษีบางส่วน นอกจากนี้สภาพอากาศร้อนของไทยทำให้ระบบระบายความร้อนของไฮบริดมีความสำคัญ แต่เทคโนโลยีสนามแข่งของเฟอร์รารีช่วยให้รถทำงานได้เสถียรในสภาพอากาศร้อน แนะนำให้ผู้สนใจติดต่อผ่านช่องทางตัวแทนอย่างเป็นทางการเพื่อสอบถามโควตาและระยะเวลาส่งมอบ รถจำกัดรุ่นแบบนี้มักมีมูลค่าคงตัวสูงในตลาดมือสองไทย
Q
คุณสามารถใช้ 296 GTB ในชีวิตประจำวันได้ไหม
เฟอร์รารี่ 296 GTB ในฐานะซูเปอร์คาร์แบบปลั๊กอินไฮบริดนั้นใช้งานในชีวิตประจำวันที่ไทยได้แน่นอน แต่ต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมจริงในท้องถิ่นด้วย รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0T V6 คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงถึง 830 แรงม้า ในเส้นทางเมืองอย่างกรุงเทพฯ โหมดไฟฟ้าล้วนสามารถวิ่งได้ 25 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้นและลดการปล่อยมลพิษ สภาพอากาศร้อนๆ ของไทยนั้น ระบบแอร์ประสิทธิภาพสูงและห้องโดยสารคาร์บอนไฟเบอร์จะช่วยให้การขับขี่สบายอยู่เสมอ แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นทางน้ำท่วมขังในช่วงหน้าฝนเพราะช่วงล่างค่อนข้างต่ำ เทียบกับซูเปอร์คาร์ทั่วไป ระบบไฮบริดของ 296 GTB ให้ความประหยัดน้ำมันที่ดีกว่า ซึ่งเป็นจุดเด่นในเมื่อราคาน้ำมันไทยค่อนข้างสูง สิ่งที่ต้องระวังคือซอยแคบๆ และสภาพถนนซับซ้อนในไทยอาจสร้างความยากลำบากกับความกว้างตัวถัง (1958 มม.) แนะนำให้ติดตั้งกล้องรอบคัน ส่วนการใช้งานประจำวันก็ควรตรวจสอบเครือข่ายบริการหลังการขายในพื้นที่เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถดูแลระบบไฮบริดได้สะดวก จริงๆ แล้วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็มีรถสมรรถนะสูงอย่างพอร์เช่ 911 Turbo S ที่ถูกนำมาใช้เป็นรถประจำวันเหมือนกัน สิ่งสำคัญคือต้องประเมินสถานการณ์การใช้งานของตัวเองให้ดี
Q
เฟอร์รารี 296 GTB มีบลูทูธหรือไม่
ใช่แล้ว เฟอร์รารี 296 GTB มีระบบบลูทูธที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์เพื่อฟังเพลงหรือสนทนาได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งฟีเจอร์นี้เหมาะมากกับสภาพอากาศร้อนของไทย เพราะผู้ขับขี่สามารถควบคุมระบบความบันเทิงผ่านบลูทูธได้โดยตรง ไม่ต้องเสียสมาธิไปกับการปรับตั้งระบบด้วยมือ ในฐานะซูเปอร์คาร์ปลั๊กอินไฮบริด 296 GTB ไม่เพียงมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จที่ทันสมัยคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า แต่ยังมีระบบอินโฟเทนเมนต์ล่าสุดที่รวมถึงบลูทูธและ Apple CarPlay ทำให้เหมาะทั้งกับการขับขี่ในเมืองที่รถติดและการเดินทางไกลในไทย ในประเทศไทย เจ้าของรถหรูหลายคนให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีของรถ และระบบบลูทูธก็กลายเป็นมาตรฐานของซูเปอร์คาร์สมัยใหม่ไปแล้ว โดย 296 GTB ทำได้ดีมากในจุดนี้ เพราะทั้งรักษาความตื่นเต้นในการขับขี่แบบเฟอร์รารีดั้งเดิม และยังเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันเข้าไป นอกจากนี้ตัวแทนจำหน่ายเฟอร์รารีในไทยมักจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับระบบในรถอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้เจ้าของรถใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว และมั่นใจได้ว่าประสบการณ์การขับขี่จะทั้งสะดวกและปลอดภัย
Q
เฟอร์รารี 296 GTB มีประเภทรถแบบไหน
เฟอร์รารี่ 296 GTB เป็นซูเปอร์คาร์ที่มาพร้อมกับการออกแบบคูเป้ฮาร์ดท็อป แบบเบอร์ลิเนตต้า ซึ่งเป็นการออกแบบคลาสสิกของรถสปอร์ตอิตาลีที่เน้นทั้งความสวยงามของเส้นสายและสมรรถนะสูง รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบไฮบริด V6 เทอร์โบชาร์จ ที่ไม่เพียงให้พลังอันทรงพลัง แต่ยังตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม เหมาะสมกับสภาพการจราจรในเมืองไทยอย่างกรุงเทพฯ ทั้งในย่านที่การจราจรหนาแน่นหรือเมื่อต้องออกวิ่งบนถนนโล่งก็สามารถโชว์ความแรงได้อย่างเต็มที่ ในไทย รถสปอร์ตสมรรถนะสูงแบบนี้มักเป็นที่นิยมในหมู่คนรักรถ โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาหรือภูเก็ต ที่เรามักจะเห็นพวกมันวิ่งกันให้เห็นบ่อยๆ แบบเบอร์ลิเนตต้านั้นเน้นทั้งประสบการณ์การขับขี่และประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ ซึ่ง 296 GTB ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ด้วยตัวรถที่ต่ำและเส้นสายคมชัดที่ไม่ได้แค่ดูดี แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ความเร็วสูง สำหรับคนไทยที่สนใจรถรุ่นนี้ นอกจากเรื่องสมรรถนะแล้ว ยังต้องคำนึงถึงผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนในไทยที่มีต่อระบบระบายความร้อนของรถ รวมถึงความสะดวกในการดูแลรักษา เพราะอากาศร้อนชื้นของไทยนั้นค่อนข้างท้าทายสำหรับรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอยู่ไม่น้อย

ข้อดี

กำลังไฮบริดที่แข็งแกร่ง ส่งมอบความตื่นเต้นในการขับรถ
การออกแบบแบบอิตาลีอันหยาดคู่ควร ปรากฏความสง่างามร่วมกับหลักทางอากาศพลศาสตร์
อัตราคงที่สูง เนื่องจากเป็นยี่ห้อฟาเรอรี่ที่มีชื่อเสียง
เสียงเครื่องยนต์ที่โดดเด่น เป็นลักษณะเฉพาะของรถฟาเรอรี่
เทคโนโลยีล้ำสมัยในห้องพักขับขี่ เพื่อความรู้สึกในการขับรถที่ทันสมัย

ข้อเสีย

ราคาสูง ทำให้เป็นทางเลือกที่มีค่าใช้จ่ายสูง
การใช้งานประจำวันมีข้อจำกัด เช่น พื้นที่บรรทุกของเล็ก
การขับขี่ไม่สบายที่สุด เน้นความสามารถทางด้านประสิทธิภาพมากกว่า
ค่าใช้จ่ายในการใช้งานและบำรุงรักษาสูง
ความซับซ้อนของระบบไฮบริดอาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคต

Q&A ล่าสุด

Q
Honda Accord 2023 มีเกียร์แบบไหน?
รถ Honda Accord 2023 ในตลาดไทยมีให้เลือกสองแบบเกียร์ คือเกียร์ CVT และเกียร์ออโต้ 10 สปีด ขึ้นอยู่กับรุ่นและระบบขับเคลื่อน รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบจะจับคู่กับเกียร์ CVT ที่โดดเด่นเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทย ส่วนรุ่นไฮบริดใช้เกียร์ E-CVT ที่ทันสมัยกว่า ผสมผสานความสามารถของมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ เพื่อประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ดียิ่งขึ้น สำหรับคนไทยแล้ว เกียร์ CVT ได้รับการพิสูจน์แล้วเรื่องความทนทานในสภาพอากาศร้อนของไทย ส่วนระบบไฮบริดก็ตอบโจทย์การขับขี่ที่ต้องหยุด-บ่อยในเมืองไทย ต้องบอกว่าเทคโนโลยีเกียร์ของฮอนด้ามีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะความทนทานในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยที่ทำได้ดีมาก ไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองหรือท่องเที่ยวทางไกล เกียร์ของ Accord 2023 ให้ความรู้สึกสบายและมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและดูแลรักษาอย่างทันท่วงที
Q
Honda Accord 2023 สามารถวิ่งได้เร็วแค่ไหน?
รถ Honda Accord รุ่นปี 2023 ที่ขายในไทยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 185 กม./ชม. แต่ความเร็วสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับเครื่องยนต์ที่เลือก ในตลาดไทยจะมีให้เลือก 2 แบบคือเครื่อง 1.5 ลิตรเทอร์โบชาร์จกับระบบไฮบริด 2.0 ลิตร รุ่น 1.5T นี่แหละที่เหมาะกับสภาพถนนในเมืองและทางด่วนของไทย เพราะให้การเร่งที่เนียนๆ และประหยัดน้ำมัน ส่วนเรื่องอากาศร้อนๆ ของไทยนี่ก็ต้องบอกว่า Accord เขาออกแบบระบบระบายความร้อนมาให้ใช้งานได้ดี แม้จะขับเร็วติดๆ กันนานๆ หรือเจอรถติดก็ยังทำงานได้ปกติ แต่ถึงรถจะทำความเร็วสูงได้ขนาดนี้ เวลาขับจริงๆ ในไทยก็ต้องเคารพกฎหมาย จำกัดความเร็วในเมืองอยู่ที่ 80 กม./ชม. ส่วนทางด่วน 120 กม./ชม. สำหรับคนไทยที่กำลังคิดจะซื้อ Accord นอกจากความเร็วแล้ว ควรดูเรื่องความกว้างขวางภายในรถ สะดวกสบายเวลาโดยสาร รวมถึงระบบกันสะเทือนที่ปรับมาให้เหมาะกับถนนไทย และที่สำคัญคือเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยที่ครอบคลุม เพราะเรื่องพวกนี้ในชีวิตประจำวันสำคัญกว่าความเร็วสูงสุดอีก
Q
“ราคาขายต่อของ Honda Accord ปี 2023 คือเท่าไหร่?”
รถยนต์มือสอง Honda Accord รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยยังคงมีอัตราการรักษามูลค่าได้ค่อนข้างดี โดยหลังจากใช้งานมา 3 ปี มักจะรักษามูลค่าไว้ได้ประมาณ 60%-65% ของราคาเดิม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทางที่ใช้งาน และระดับอุปกรณ์ด้วย ตลาดรถมือสองไทยให้การยอมรับแบรนด์ฮอนด้าค่อนข้างสูง แถม Honda Accord ยังได้เปรียบจากภาพลักษณ์รถซีดานขนาดกลางที่ใช้งานได้จริงและความน่าเชื่อถือ ทำให้เป็นที่ต้องการในตลาดรถมือสอง ปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่ารถมือสองได้แก่ ประวัติการบริการรักษาตามกำหนดระยะ ประวัติอุบัติเหตุ รวมถึงสีตัวถัง (คนไทยมักนิยมสีขาวหรือสีเงินมากกว่า) ส่วนรุ่น Hybrid อาจมีแนวโน้มรักษามูลค่าได้ดีกว่ารุ่นเบนซินในไทย เพราะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่า สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทย แนะนำให้เช็คสภาพระบบแอร์และร่องรอยสนิมบนตัวถังให้ดี เพราะรายละเอียดเหล่านี้ก็ส่งผลต่อราคาขายต่อด้วย เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน Honda Accord ถือว่ามีอัตราการรักษามูลค่าได้อยู่ในระดับดีปานกลางถึงค่อนข้างดี แต่ราคาจริงก็ควรตรวจสอบกับทางร้านรถมือสองอีกทีเพื่อความชัวร์
Q
“Honda Accord ปี 2023 กับ 2024 มีอะไรต่างกันบ้าง?”
สำหรับรุ่น 2023 และ 2024 ของ Honda Accord ในตลาดไทย ความแตกต่างหลักจะอยู่ที่การอัปเกรดในรายละเอียดและเทคโนโลยี โดยรุ่น 2024 ได้ปรับปรุงระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยมากขึ้น เช่น เพิ่มระบบตรวจสอบจุดบอดที่แม่นยำขึ้นและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ปรับตัวได้ดีกว่า รวมถึงหน้าจอกลางอาจมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อยและรองรับแอปพลิเคชันในท้องถิ่นได้มากขึ้น ส่วนด้านดีไซน์ยังคงรักษาภาษาการออกแบบเดิมไว้ มีเพียงการปรับแต่งเล็กน้อยที่กรอบหน้ากากกับล้อเท่านั้น ในส่วนของระบบขับเคลื่อนยังคงเป็นเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบและระบบไฮบริด 2.0 ลิตรซึ่งเป็นตัวเลือกหลักในตลาดไทย แต่รุ่นไฮบริดอาจได้รับการปรับปรุงระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยมากขึ้น สำหรับผู้ใช้ในไทยแล้ว ความแตกต่างหลักระหว่างสองรุ่นนี้จะอยู่ที่การอัปเกรดเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น แนะนำให้ไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นก่อนตัดสินใจซื้อ และควรติดตามนโยบายภาษีรถยนต์ของไทยซึ่งอาจส่งผลต่อราคาสุดท้าย รวมถึงโปรโมชั่นบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของฮอนด้าไทยด้วย นอกจากนี้ เนื่องจากสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้น ควรตรวจสอบระบบแอร์และการป้องกันสนิมใต้ท้องรถเป็นประจำเพื่อการดูแลรถที่เหมาะสม
Q
2023 Honda Accord เป็นแบบ 2WD หรือ 4WD?
Honda Accord ปี 2023 วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยในรูปแบบขับเคลื่อนล้อหน้า (2WD) โดยไม่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) รุ่นนี้ยังคงปรัชญาการออกแบบของฮอนด้าที่เน้นการประหยัดน้ำมันและความสะดวกสบายในการขับขี่ในเมือง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมืองใหญ่และสภาพอากาศร้อนในประเทศไทย ในประเทศไทย รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าเป็นตัวเลือกแรกของผู้บริโภคส่วนใหญ่ ด้วยโครงสร้างที่เรียบง่าย ค่าบำรุงรักษาต่ำ และประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถยนต์ซีดานขนาดกลางอย่างแอคคอร์ด ซึ่งการออกแบบระบบขับเคลื่อนล้อหน้าช่วยสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมรถและการใช้พื้นที่ได้อย่างลงตัว แม้ว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจะให้ข้อได้เปรียบบนถนนลื่นหรือภูมิประเทศที่ซับซ้อน เมื่อพิจารณาจากสภาพถนนและทางหลวงในเมืองใหญ่ของประเทศไทย ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าของ Accord สามารถตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันได้อย่างครบถ้วน พร้อมลดต้นทุนการซื้อและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน นอกจากนี้ Accord ปี 2023 ยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบส่งกำลังอันทรงประสิทธิภาพล่าสุดของฮอนด้า ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่และประหยัดน้ำมัน คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยรับประกันความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่องในตลาดรถเก๋งขนาดกลางของประเทศไทย
ดูเพิ่มเติม