Q
ใช้เวลานานเท่าไหร่ในการซื้อ Tesla Model Y
เวลาจัดส่งรถ Tesla Model Y ที่สั่งซื้อในประเทศไทยโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น รุ่นรถ สต็อกที่มี และจำนวนออเดอร์ที่สั่งเข้ามา ตอนนี้ถ้าสั่งจองผ่านเว็บไซต์ทางการจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์กว่าจะได้รับรถจริง แต่เวลาอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับศูนย์จัดส่งในกรุงเทพฯหรือต่างจังหวัด ถ้าเลือกรถจากสต็อกที่มีอยู่ก็อาจได้รับรถเร็วขึ้น ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญของ Tesla ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย Model Y ได้รับความนิยมจากสมรรถนะการขับขี่ระยะไกลและบริการที่ปรับให้เหมาะกับคนไทย เช่น เครือข่ายสถานีชาร์จเร็ว Supercharger ที่ครอบคลุมในเมืองหลัก ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้ตรวจสอบเวลาจัดส่งล่าสุดผ่านเว็บไซต์หรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังควรศึกษานโยบายสนับสนุนรถ EV ของรัฐบาลไทย เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อรถ Tesla ยังมีบริการทดลองขับและแผนการเงินแบบ customize ให้เลือก เพื่อให้ผู้ซื้อได้สัมผัสสมรรถนะรถอย่างเต็มที่และวางแผนงบประมาณได้สะดวกยิ่งขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
รถยนต์ Tesla รุ่นใดขายดีที่สุดในปี 2024?
ถึงปี 2024 รถยนต์ที่ขายดีที่สุดของ Tesla ทั่วโลกยังคงเป็น Model Y รุ่นนี้เป็น SUV ไฟฟ้าขนาดกลางที่ครองใจผู้บริโภคด้วยระยะทางที่วิ่งได้ไกล พื้นที่ภายในกว้างขวาง และระบบขับขี่อัจฉริยะที่ครบครัน แม้แต่ในตลาดไทยก็ยังเป็นที่นิยมไม่เสื่อมคลาย Model Y มีให้เลือก 3 รุ่นคือ ขับเคลื่อนล้อหลัง ระยะทางไกล และรุ่นสมรรถนะสูง เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ความเร็วในการชาร์จที่สูงและเครือข่าย Supercharger ของ Tesla ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องยังทำให้การใช้งานรถไฟฟ้าสะดวกขึ้นมาก แถมระบบอัปเดตแบบ OTA ยังช่วยอัปเกรดสมรรถนะรถให้เหมือนใหม่ตลอดเวลา ด้วยความที่เทคโนโลยีรถไฟฟ้าพัฒนาเร็วแบบนี้ Model Y จึงกลายเป็นตัวเลือกหลักของหลายครอบครัว เพราะทั้งฉลาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการใช้งานในเมืองหรือทริปสั้นๆ ถ้าคุณสนใจรถไฟฟ้า Model Y นี่แหละคือตัวท็อปที่ควรคิดถึง ทั้งประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่คับแก้ว
Q
รถยนต์รุ่นไหนที่ถูกเรียกคืนมากที่สุดในปี 2024?
จากข้อมูลการเรียกคืนรถในปี 2024 รถ Tesla Model Y กลายเป็นรุ่นที่ถูกเรียกคืนบ่อยที่สุดในระดับโลก ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งสถานการณ์นี้ก็เกิดขึ้นในตลาดไทยเช่นกัน เนื่องจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทำให้ยอดขายของแบรนด์อย่าง Tesla เพิ่มขึ้นตามไปด้วย และการเรียกคืนรถก็ได้รับความสนใจมากขึ้น การเรียกคืนรถเป็นสิ่งที่แสดงถึงความรับผิดชอบของผู้ผลิตต่อผู้บริโภค โดยการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ กรมการขนส่งทางบกของไทยก็ได้กำหนดให้ผู้ผลิตต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการเรียกคืนอย่างเคร่งครัด สำหรับผู้บริโภคไทย สามารถตรวจสอบข้อมูลการเรียกคืนได้ผ่านเว็บไซต์ของผู้ผลิตหรือเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก พร้อมกันนี้ก็แนะนำให้ดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอและอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบในรถให้ทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม จำนวนครั้งที่ถูกเรียกคืนไม่ได้สะท้อนถึงคุณภาพรถเสมอไป แต่อาจเกี่ยวข้องกับปริมาณการขาย ความเข้มงวดของกฎหมาย และปัจจัยอื่นๆ ผู้บริโภคควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบด้านเพื่อเลือกรถที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
Q
Tesla Model Y ใช้ไฟฟ้ากี่กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
อัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าต่อชั่วโมงของ Tesla Model Y จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่น ลักษณะการขับขี่และสภาพถนน โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 15 ถึง 20 กิโลวัตต์ชั่วโมง (กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง) เช่น การขับรถบนถนนในเมืองไทย การสตาร์ต-ดับเครื่องบ่อยครั้งอาจส่งผลให้เกิดการใช้พลังงานที่สูง ในขณะที่การขับขี่ด้วยความเร็วคงที่บนทางหลวงนั้นประหยัดไฟฟ้ามากกว่า การใช้เครื่องปรับอากาศบ่อยครั้งในสภาพอากาศร้อนในประเทศไทยยังช่วยเพิ่มการใช้พลังงาน เจ้าของรถแนะนำให้ปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสมโดยใช้ช่องระบายความร้อนล่วงหน้าการตั้งค่าการประหยัดพลังงานด้วยโหมด Sentinel และอื่นๆ สำหรับผู้ใช้ชาวไทยยังต้องใส่ใจกับความเข้ากันได้ของสิ่งอำนวยความสะดวกในการชาร์จไฟ Model Y รองรับมาตรฐาน Type2 และ CCS2 จับคู่กับกองชาร์จไฟสาธารณะกระแสหลักในประเทศไทยการชาร์จไฟในบ้านสามารถติดตั้งกล่องติดผนังขนาด 7.4 กิโลวัตต์ใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงเพื่อเติม รถเอสยูวีไฟฟ้าระดับเดียวกันอย่าง BYD Atto 3 หรือ MG ZS EV มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานใกล้เคียงกัน แต่มีลักษณะเฉพาะของเทคโนโลยีการจัดการแบตเตอรี่และประสิทธิภาพการกู้คืนพลังงาน อัตราค่าไฟฟ้าในประเทศไทยเฉลี่ยประมาณ 4 บาท/kWh และ Model Y ต้นทุนค่าไฟฟ้าต่อกิโลเมตรประมาณ 0.6-0.8 บาท ซึ่งต่ำกว่ารถบรรทุกน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญ นิสัยการขับขี่ที่ดีเช่นการตรวจสอบความดันลมยางเป็นประจำและหลีกเลี่ยงการเร่งความเร็วอย่างเร่งด่วนสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้มากขึ้น เมื่อเดินทางไกลคุณสามารถใช้เครือข่าย Tesla Supercharger เพื่อเติมเต็มความทนทาน 270 กม. เป็นเวลา 30 นาที
Q
ยางรถ Tesla Model Y ใช้ได้นานเท่าไหร่
อายุการใช้งานยางรถ Tesla Model Y โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 ถึง 60,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับนิสัยการขับขี่ สภาพถนน และการดูแลรักษายาง สภาพอากาศร้อนและฤดูฝนของไทยอาจส่งผลต่อการสึกหรอของยางบ้าง แนะนำให้ตรวจสอบความดันลมยางและความลึกดอกยางเป็นประจำเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้สภาพถนนบางพื้นที่ในไทยค่อนข้างซับซ้อน โดยเฉพาะเส้นทางในเขตภูเขาหรือชนบทอาจทำให้ยางสึกเร็วขึ้น เจ้าของรถจึงควรสังเกตสภาพยางให้ดี และควรสลับหรือเปลี่ยนยางเมื่อถึงเวลา การเลือกยางที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นก็ช่วยยืดอายุยางได้เช่นกัน อีกอย่างรถไฟฟ้ามีแรงบิดที่สูงในช่วงเริ่มต้น การขับขี่อย่างนุ่มนวลจะช่วยลดการสึกหรอของยางได้ ส่วนใครที่ขับในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ บ่อยๆ การหยุดและออกตัวบ่อยๆ ก็อาจทำให้ยางเสื่อมเร็วได้ แนะนำให้ตรวจสภาพยางทุก 8,000 กิโลเมตรจะดีที่สุด
Q
วิธีการดูระยะทางที่ Tesla Model Y สามารถวิ่งได้
ระยะทางของ Tesla Model Y นั้นขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่ พฤติกรรมการขับขี่ และสภาพแวดล้อมเป็นหลัก ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย การใช้แอร์บ่อยๆ อาจส่งผลให้ระยะทางลดลงเล็กน้อย แต่ระบบปั๊มความร้อนของ Model Y ช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นมาตรฐานในเงื่อนไขทดสอบ WLTP จะวิ่งได้ประมาณ 455 กิโลเมตร ส่วนรุ่น Long Range จะวิ่งได้ถึง 540 กิโลเมตร แต่ในชีวิตจริงสำหรับการขับขี่ในกรุงเทพฯ แนะนำให้ดูระยะทางคงเหลือที่แสดงบนหน้าปัดจะเหมาะสมกว่า เพราะระบบนำทางจะคำนวณประเมินปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลือเมื่อถึงจุดหมายแบบเรียลไทม์ สำหรับเจ้าของรถในไทยควรรู้ว่าสถานีชาร์จเร็วอย่าง Supercharger V3 สามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที ส่วนการชาร์จที่บ้านเหมาะสำหรับชาร์จตอนกลางคืน การบำรุงรักษาแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอก็ช่วยรักษาประสิทธิภาพของระยะทางได้เช่นกัน นอกจากนี้ในช่วงฤดูฝนที่ถนนลื่น แนะนำให้เปิดโหมด "ผ่อนคลาย" เพื่อช่วยยืดระยะทาง และฟังก์ชั่นอุ่นแบตเตอรี่ของ Tesla ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเมื่อขับขี่ในเส้นทางภูเขาอย่างในเชียงใหม่ด้วย แนะนำให้เจ้าของรถใช้กราฟแสดงการสิ้นเปลืองพลังงานในระบบเพื่อวิเคราะห์ว่าพฤติกรรมการขับมีผลต่อระยะทางอย่างไร
Q
Tesla Model Y มีความเร็วอย่างไร
Tesla Model Y ในประเทศไทยมีความเร็วสูงสุดที่แตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังจะมีความเร็วสูงสุดที่ 217 กม./ชม. ส่วนรุ่น Performance สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 250 กม./ชม. ซึ่งความเร็วระดับนี้ถือว่าเกินพอสำหรับการใช้งานบนทางหลวงไทยที่จำกัดความเร็วอยู่ที่ 120 กม./ชม. โดยทั่วไป นอกจากความเร็วแล้ว Model Y ยังมีอัตราเร่งที่แรงมาก โดยรุ่น Performance สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.7 วินาที เนื่องมาจากลักษณะของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดทันทีทันใด
ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ของ Model Y สามารถรักษาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดี ขณะที่ความสูงของช่วงล่าง (ประมาณ 16.5 ซม.) ก็เหมาะกับสภาพถนนบางเส้นในไทยที่อาจไม่สมบูรณ์นัก อย่างไรก็ตาม ควรระวังเรื่องการสิ้นเปลืองพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อขับด้วยความเร็วสูง แนะนำให้วางแผนจุดชาร์จให้ดีเมื่อต้องเดินทางไกล โชคดีที่ปัจจุบันเครือข่าย Supercharger ของ Tesla ในไทยครอบคลุมทั้งเมืองหลักและเส้นทางท่องเที่ยวแล้ว โดยระบบนำทางสามารถช่วยวางแผนเส้นทางที่รวมจุดชาร์จไว้ให้โดยอัตโนมัติ
อีกจุดเด่นคือ Model Y มาพร้อมกับระบบช่วยขับ Autopilot ที่จะช่วยลดความเหนื่อยล้าได้ทั้งในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ หรือในการเดินทางไกล แต่อย่าลืมว่าผู้ขับขี่ยังต้องมีสมาธิและจดจ่อกับถนนอยู่เสมอ
Q
วิธีการเปลี่ยนฟิลเตอร์อากาศของ Tesla Model Y
การเปลี่ยนไส้กรองอากาศของ Tesla Model Y นั้นง่ายมากๆ เลย ขั้นแรกคุณต้องเตรียมไส้กรองอากาศตัวใหม่ที่เป็นของแท้หรือได้มาตรฐานมาไว้ก่อน แนะนำให้เลือกแบบที่ป้องกันเชื้อราเพราะเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ที่แบบนี้ช่วยลดปัญหาการสะสมแบคทีเรียและกลิ่นอับได้ดี เพราะบ้านเรามีทั้งความร้อนและความชื้นสูงนี่นา สำหรับตำแหน่งของไส้กรองใน Model Y จะอยู่ใต้กระโปรงหน้า หลังจากเปิดกระโปรงหน้าแล้วให้ถอดแผ่นรองเก็บของด้านล่างออก คุณจะเห็นแผงปิดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้ไขควงหัวแฉกคลายสกรูออกก็จะเห็นไส้กรองแล้ว เวลาเปลี่ยนต้องระวังเรื่องทิศทางลูกศรบนไส้กรองด้วยนะครับ ต้องให้ตรงกับตำแหน่งเดิม กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที โดยปกติแนะนำให้เปลี่ยนทุก 12 เดือนหรือขับครบ 20,000 กิโลเมตร แต่สำหรับเมืองไทยที่ทั้งอากาศไม่ค่อยดี ทั้งร้อนทั้งชื้นแบบนี้ ควรเปลี่ยนบ่อยหน่อยคือทุก 8-10 เดือนจะดีกว่า ช่วยให้อากาศในรถสะอาดอยู่เสมอ แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานระบบแอร์อีกด้วย โดยเฉพาะบ้านเราที่ต้องเปิดแอร์แทบจะตลอดเวลาแบบนี้ ต้องดูแลเป็นพิเศษเลยครับ ถ้าใครไม่มั่นใจหรือไม่อยากทำเอง ก็สามารถนัดหมายไปที่ศูนย์บริการ Tesla ในกรุงเทพฯ หรือพัทยาได้ครับ เขาจะเปลี่ยนให้แบบมืออาชีพเลย
Q
วิธีเปิดใช้งานระบบจอดรถอัตโนมัติ Tesla Model Y
หากต้องการใช้งานระบบจอดรถอัตโนมัติใน Tesla Model Y ก่อนอื่นต้องมั่นใจว่าเกียร์อยู่ในตำแหน่งถอยหลังหรือ D และความเร็วต่ำกว่า 24 กม./ชม. จากนั้นจะเห็นไอคอน "P" สีเทาบนหน้าจอกลาง แสดงว่าระบบกำลังสแกนหาที่จอดรถ เมื่อพบที่จอดที่เหมาะสม ไอคอนจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน แค่กดไอคอนนี้แล้วกดปุ่ม "เริ่มต้น" ค้างไว้ ระบบก็จะเริ่มทำงานอัตโนมัติ ขณะจอดควรวางมือไว้บนพวงมาลัยเพื่อพร้อมควบคุมรถตลอดเวลา
สำหรับการใช้ในประเทศไทย ต้องระวังเป็นพิเศษในซอยแคบหรือพื้นที่ที่มีรถจักรยานยนต์จำนวนมาก แนะนำให้ฝึกใช้งานในลานจอดรถกว้างๆ ก่อนเพื่อทำความคุ้นเคย Tesla ใช้กล้อง 8 ตัวและเซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัวในการจอดรถ ทั้งแบบขนานและตั้งฉาก แต่ระบบอาจทำงานได้ไม่ดีนักเวลาฝนตกหรือแสงน้อย
ต้องระมัดระวังกฎหมายไทยเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ปัจจุบันอนุญาตให้ใช้ระบบช่วยขับระดับ L2 ได้ แต่ผู้ขับยังต้องมีสมาธิตลอดเวลา ระบบนี้ทำงานได้ดีที่สุดในห้างสรรพสินค้าที่มีที่จอดมาตรฐาน ส่วนที่จอดแบบเฉียงที่พบทั่วไปในไทย อาจต้องใช้ประสบการณ์เพิ่มเติมหน่อย
Q
วิธีจอดรถอัตโนมัติ Tesla Model Y
รถ Tesla Model Y มีระบบจอดรถอัตโนมัติที่ใช้ง่ายมากในไทย ระบบ Autopilot จะทำงานเมื่อกดปุ่มจอดที่คันเกียร์ รถจะหาที่จอดให้เองและจอดให้อัตโนมัติ พอเหมาะกับที่จอดรถแน่นๆในกรุงเทพฯ แต่ต้องมีเส้นจอดรถชัดเจนนะ และถ้าเจอสถานการณ์ซับซ้อนควรเตรียมพร้อมควบคุมรถตลอดเวลา สภาพอากาศร้อนๆในไทยอาจทำให้เซ็นเซอร์ทำงานไม่เต็มที่ แนะนำให้ล้างกล้องกับเรดาร์บ่อยๆ รถยี่ห้ออื่นอย่าง BMW หรือ Mercedes-Benz ก็มีระบบแบบนี้เหมือนกัน แต่วิธีใช้อาจต่างกันนิดหน่อย ควรอ่านคู่มือหรือถามพนักงานขายให้เข้าใจก่อน ส่วนฟังก์ชันเรียกรถด้วยแอปมือถือก็ใช้ง่ายช่วงหน้าฝนหรือที่จอดคับขัน แต่ต้องดูสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยด้วย แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นของระบบจอดรถอัตโนมัติต่างกัน เลือกใช้ให้เหมาะกับความต้องการของตัวเอง
Q
น้ำหนักของรถยนต์ Tesla Model Y คือเท่าไหร่
น้ำหนักของ Tesla Model Y จะแตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังจะหนักประมาณ 1,971 กิโลกรัม ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (Long Range และ Performance) จะหนักใกล้เคียง 2,003 กิโลกรัม ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางหนักสำหรับ SUV ไฟฟ้า สาเหตุหลักมาจากแบตเตอรี่ความจุสูงและโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรง ในตลาดไทย น้ำหนักของ Model Y ไม่ได้ส่งผลต่อการขับขี่ประจำวันมากนัก เพราะถนนในเมืองไทยส่วนใหญ่เรียบและแรงบิดเริ่มต้นที่สูงของรถไฟฟ้าช่วยให้ขับเคลื่อนในสภาพการจราจรติดขัดได้อย่างสบายๆ แต่อาจต้องระวังหน่อยเวลาเลี้ยวหรือจอดในซอยแคบๆ หรือลานจอดรถเก่าๆ ที่พื้นที่จำกัด
จุดเด่นของรถไฟฟ้าคือการกระจายน้ำหนักที่สมดุลกว่าเครื่องยนต์สันดาป (เพราะแบตเตอรี่ถูกวางราบใต้พื้นรถ) ทำให้ Model Y ทรงตัวได้ดีกว่าในถนนลื่นหรือเมื่อต้องเปลี่ยนเลนกะทันหัน โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่ขับแล้วมั่นใจขึ้น
สำหรับคนไทยควรรู้ไว้ว่าน้ำหนักรถจะส่งผลต่อการคำนวณภาษีประจำปี แต่ตอนนี้รถไฟฟ้าในไทยยังได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีอยู่ ดังนั้นค่าใช้จ่ายจริงยังถูกกว่ารถน้ำหนักเท่ากันที่ใช้เครื่องยนต์ทั่วไป ถ้าชอบขับทางไกลบ่อยๆ น้ำหนักที่มากกว่าอาจเพิ่มการกินไฟหน่อยนึง แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางมากเพราะไทยมีสถานีชาร์จครอบคลุมแล้ว โดยเฉพาะ Supercharger ของ Tesla ที่มีให้บริการในเมืองใหญ่และจุดท่องเที่ยวหลัก
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
2022 CR-V เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ CR-V รุ่นปี 2022 เป็น SUV ที่ตอบโจทย์การใช้งานในครอบครัวได้ดีทุกด้าน มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T ที่ให้กำลังขับเคลื่อนแรงแต่ยังประหยัดน้ำมัน คู่กับเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหล ทำให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันนุ่มนวลและสบายๆ ด้านพื้นที่ภายในยังคงเป็นจุดแข็งของ CR-V ซีรีส์ โดยมีระยะขาที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง และยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระหลังท้ายที่ใหญ่เพียงพอต่อการเดินทางแบบครอบครัว ในส่วนของอุปกรณ์ความปลอดภัยก็มีระบบ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชันช่วยขับขี่อย่าง Adaptive Cruise Control และ Lane Keeping Assist ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเดินทาง สำหรับสภาพถนนไทยนั้นระยะล่างตัวถังสูงเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และระบบแอร์ก็เย็นฉ่ำเหมาะกับอากาศร้อนแบบไทย แค่จุดนิดนึงตรงที่วัสดุแผงคอนโซลบางส่วนยังเป็นพลาสติกแข็ง และเสียงอยู่ในระดับปานกลางในระดับเดียวกันของรถระดับเดียวกัน แต่ข้อดีคือค่าบำรุงรักษาไม่แพง อะไหล่ก็หาง่าย แถมยังขายต่อได้ราคาดี ถ้ามีงบประมาณเหลือแนะนำให้เลือกรุ่น Hybrid จะยิ่งช่วยประหยัดน้ำมันในเมืองได้มากขึ้น สรุปแล้ว CR-V 2022 นี่เป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง แนะนำให้ลองทดลองขับดูก่อนเพื่อเช็คความชอบส่วนตัวในเรื่องการตั้งค่าสปริง
Q
คุณควรจ่ายเท่าไหร่สำหรับรถ 2022 CR-V Hybrid?
ราคาที่เหมาะสมสำหรับ Honda CR-V Hybrid รุ่นปี 2022 จะอยู่ที่ประมาณ 1.2-1.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับระดับเครื่องแต่ง รายละเอียดการใช้งาน และสภาพรถ โดยถ้าเป็นรถใหม่แนะนำให้เช็คโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายหรือราคามาตรฐานจากช่องทางรถมือสองรับประกันคุณภาพจาก Honda โดยตรง รุ่นนี้ใช้ระบบไฮบริด i-MMD ของ Honda ที่ประหยัดน้ำมันเพียง 4.5 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับขับในเมืองที่รถติด ค่าดูแลรักษาไม่ต่างจากรุ่นน้ำมันปกติ แต่ต้องระวังเรื่องระยะเวลาการรับประกันแบตเตอรี่ที่มักจะอยู่ที่ 5-10 ปี ถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 Hybrid รุ่นปีเดียวกันอาจจะแพงกว่าเล็กน้อยประมาณ 5-10% ส่วนสีที่คนไทยนิยมอย่างสีขาวหรือสีเทาเมทัลลิกจะช่วยให้รถทรงตัวดีในเรื่องมูลค่าค้างคลัง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติการบริการจากฮอนด้าก่อนซื้อ โดยเฉพาะประวัติการลุยน้ำในช่วงฤดูฝนเพราะระบบไฮบริดต้องการการป้องกันวงจรไฟฟ้าที่ดีเป็นพิเศษ ถ้าต้องการประหยัดงบประมาณอาจจะมองหารุ่นปี 2020 ที่ราคาถูกกว่า 15-20% แต่ต้องทำความเข้าใจว่าระบบ i-MMD รุ่นที่ 2 จะตอบสนองเรื่องกำลังขับต่างไปเล็กน้อย
Q
เครื่องยนต์ของ Honda CR-V ปี 2022 เป็นแบบไหน?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุดถึง 193 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหล ชุดขับเคลื่อนนี้ทั้งประหยัดน้ำมันและให้พลังสมรรถนะสูง เหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมืองและเดินทางไกล เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยี VTEC ของ Honda ที่พัฒนาการทำงานของวาล์วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น ลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษ ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน โดยเฉพาะในตลาดไทยที่เครื่องยนต์นี้ทำงานได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนและถนนหลากหลายภูมิประเทศ ทั้งถนนติดขัดในกรุงเทพฯ หรือเส้นทางคดเคี้ยวในเชียงใหม่ก็ขับสบาย นอกจากนี้ CR-V ยังมีรุ่นไฮบริดที่ผสานเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงถึง 215 แรงม้า ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นและเงียบกว่า เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
Q
2022 CR-V เหมาะสมสำหรับการใช้งานในหิมะหรือไม่?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 แสดงสมรรถนะพอใช้ได้บนถนนหิมะ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Real Time AWD ที่มากับตัวรถมาตรฐานสามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้าและล้อหลังได้อัตโนมัติ เมื่อทำงานร่วมกับโหมดขับขี่บนหิมะจะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะบนพื้นผิวลื่นได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานนั้นออกแบบมาสำหรับการใช้งานบนถนนทั่วไปมากกว่า ดังนั้นหากคุณต้องเดินทางไปยังพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือหรือเขตอากาศหนาวบ่อยๆ แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ยางฤดูหนาวหรือติดโซ่ล้อเพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น แม้ว่าพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีหิมะตกน้อย แต่สภาพถนนที่เปียกลื่นในช่วงฤดูฝนที่ยาวนานก็คล้ายกัน CR-V ด้วยระยะความสูงจากพื้นรถ 187 มม. และระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้รถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังในฤดูฝนได้อย่างมั่นคง เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเต็มเวลาหรือโตโยต้า RAV4 ที่มีระบบ Dynamic Torque Vectoring AWD อาจทำได้ดีกว่าในสภาพถนนสุดขั้ว แต่ CR-V ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการขับขี่ในเมืองทั่วไปด้วยระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาเพื่อความนุ่มนวลเป็นพิเศษ ข้อควรระวังอีกอย่างสำหรับการใช้งานในพื้นที่อากาศหนาวคือความหนืดของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิต่ำ บางเจ้าของรถอาจเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเครื่องเกรด 0W-20 เพื่อให้เครื่องยนต์สตาร์ทในอากาศเย็นได้สะดวกขึ้น ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้สำคัญมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้งานรถในพื้นที่สูงอย่างเชียงใหม่
Q
"อัตราประหยัดน้ำมันของ Honda CR-V ปี 2022 เป็นเท่าไหร่?"
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 มีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม โดยข้อมูลจะแตกต่างกันไปตามระบบขับเคลื่อนและเครื่องยนต์ รุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5T ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมประมาณ 6.4-6.7 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อจะสิ้นเปลืองมากกว่าหน่อยที่ 6.7-7.0 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นไฮบริด e:HEV จะประหยัดน้ำมันที่สุด โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมเพียง 4.7-5.0 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมืองที่รถติดหรือการเดินทางไกล ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ CR-V นี้มาจากเทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่รวมถึงเครื่องยนต์เทอร์โบประสิทธิภาพสูงและระบบไฮบริดที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ รวมถึงเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหลก็ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ด้วย ในตลาดไทย CR-V มีจุดแข็งด้านประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถ SUV รุ่นเดียวกัน โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากในยุคที่ราคาน้ำมันสูง แนะนำให้เลือกรุ่นตามความต้องการใช้งานจริง ถ้าขับในเมืองบ่อยรุ่นไฮบริดจะคุ้มค่ากว่า ส่วนรุ่นเบนซินเหมาะสำหรับคนที่เน้นความแรงและราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้การดูแลรักษาเป็นประจำ เช่น เปลี่ยนไส้กรองอากาศและใช้น้ำมันเครื่องตามที่แนะนำ ก็ช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้ดีตลอดการใช้งาน
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตารางผ่อนอย่างเป็นทางการ Tesla Model Y 2025 ตอนนี้ซื้อได้ง่าย
Kevin WongNov 14, 2025

Panasonic พัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ ช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่ของ Tesla Model Y ได้อีก 145 กิโลเมตร
พงศธรSep 19, 2025

Tesla Model Y L เปิดตัวในจีน เตรียมบุกตลาดออสเตรเลียปีหน้า
AshleyAug 19, 2025

แม้การแข่งขันจะดุเดือด แต่ Model Y ยังคงเป็น SUV ที่ขายดีที่สุดในประเทศจีน โดยมียอดขายในช่วงครึ่งปีแรก 171,491 คัน
สุรเดชJul 31, 2025

Teslaในประเทศของเรามีการลงทะเบียนเพิ่มขึ้น 1,035% โดย Model Y เป็นแรงผลักดันหลัก
AshleyJun 13, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย