Q

จองรถ Toyota New Yaris Ativ Smart ต้องใช้เวลาเท่าไรก็ตามจะได้รถ

เวลาในการจองและรับรถ Toyota New Yaris Ativ Smart มักขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยทั่วไปแล้วอาจใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 3 เดือน แต่ไม่แน่นอน หากมีการตั้งค่ารถที่พิเศษ การปรับแผนการผลิต หรือความต้องการในตลาดสูง เวลาในการรับรถอาจยืดออกไป คำแนะนำคือติดต่อกับตัวแทนจำหน่าย Toyota ในท้องถิ่นเพื่อขอข้อมูลที่แม่นยำเกี่ยวกับเวลาประมาณการในการรับรถ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Toyota Yaris ATIV มีอะไรบ้าง?
Toyota Yaris ATIV อาจมีข้อด้อยบางประการ โดยเฉพาะในด้านพละกำลัง เพราะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดเพียง 94 แรงม้า ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบขับรถแรง ๆ หรือชอบเร่งแซงเร็ว ๆ บนทางด่วน อัตราเร่งอาจรู้สึกว่าช้าไปนิด ในเรื่องพื้นที่เก็บของด้านหลังก็เช่นกัน ตัวรถมีขนาดค่อนข้างกะทัดรัด ทำให้พื้นที่ท้ายรถมีจำกัด เวลาต้องขนของเยอะ ๆ หรือของชิ้นใหญ่ อาจไม่สะดวกเท่ารถรุ่นที่ใหญ่กว่า อีกเรื่องที่ควรพิจารณาคือระบบเบรก บางรุ่นยังใช้ดรัมเบรกที่ล้อหลัง ซึ่งเมื่อเทียบกับดิสก์เบรกแล้ว อาจมีข้อเสียเรื่องการระบายความร้อนและความต่อเนื่องของประสิทธิภาพเบรก โดยเฉพาะเวลาขับบนทางชันหรือเบรกบ่อย ๆ อาจทำให้เบรกมีอาการเฟดหรือหน่วงช้าลงได้
Q
Toyota Yaris ATIV อยู่ใน Segment ไหน
Toyota Yaris ATIV เป็นรถในระดับ B-Segment ที่มีความโดดเด่นในเรื่องขนาด สมรรถนะ อุปกรณ์ และราคา ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในเมืองและการเดินทางแบบครอบครัวได้เป็นอย่างดี ตัวรถมีความยาว 4,425 มม. กว้าง 1,740 มม. สูง 1,480 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,620 มม. ทำให้พื้นที่ภายในกว้างขวางพอที่จะนั่งได้ 5 คนอย่างสบายๆ ด้านสมรรถนะมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2L แบบสูบธรรมดา ให้กำลังสูงสุด 69 kW แรงม้า 94 PS แรงบิดสูงสุด 110 N·m คู่กับเกียร์ CVT และระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ทำให้วิ่งในเมืองได้คล่องแคล่ว ประหยัดน้ำมันเหมือนกัน ส่วนอุปกรณ์ก็ครบครันทั้งเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย 6 ตัว ระบบควบคุมเสถียรภาพ ระบบเตือนระยะถอยหลัง ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและใช้งานง่ายขึ้น
Q
ราคารถมือสองของ Toyota Yaris ATIV อยู่ที่เท่าไหร่?
ราคารถ Toyota Yaris ATIV มือสองจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปีที่ผลิต ระยะทางที่วิ่งไปแล้ว สภาพของรถ ออปชันที่มี รวมถึงความต้องการในตลาดช่วงนั้นด้วย อย่างรุ่นปี 2020 ตอนเปิดตัวราคาประมาณ 529,000 - 649,000 บาท ถ้ารถใช้งานมาหลายปี วิ่งเยอะ สภาพธรรมดา ราคาขายต่อก็จะลดลงพอสมควร แต่ถ้าสภาพยังดี ไมล์น้อย ก็ยังขายได้ในราคาที่ไม่ขี้เหร่ ส่วนรุ่นปี 2022 เปิดราคาที่ประมาณ 549,000 - 699,000 บาท ถ้าดูแลดี มีออปชันเยอะ เวลาขายต่อก็จะได้ราคาที่ค่อนข้างดี สำหรับรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Toyota Yaris ATIV Nightshade ปี 2024 ที่ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 699,000 บาท เนื่องจากเพิ่งออกไม่นาน ถ้าจะขายต่อแล้วรถยังอยู่ในสภาพดี ราคาก็ยังไม่ตกมาก สรุปแล้ว ราคาขายต่อของ Yaris ATIV ต้องดูเป็นคัน ๆ ไป ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ไมล์ และตลาดช่วงนั้นเป็นหลักค่ะ
Q
“Yaris ATIV ใช้เครื่องกี่ซีซี?
Toyota Yaris ATIV มีหลายรุ่นให้เลือก รุ่นที่ขายทั่วไปจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1197 ซีซี หรือ 1.2 ลิตร เป็นเครื่องยนต์แบบธรรมดา (NA) มี 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 69 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร หรือประมาณ 94 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ขับขี่นุ่มนวล ใช้งานในเมืองได้สบาย ประหยัดน้ำมันดีด้วย นอกจากนี้ยังมีรุ่น Yaris ATIV Hybrid ที่ใช้ระบบไฮบริดเต็มรูปแบบ (Full Hybrid) เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1496 ซีซี หรือ 1.5 ลิตร เป็นแบบ 4 สูบ DOHC ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้ทั้งความแรงและความประหยัดน้ำมันมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความล้ำสมัยและเน้นความคุ้มค่าในระยะยาวค่ะ
Q
Toyota Yaris ATIV ใช้เครื่องยนต์แบบไหน?
Toyota Yaris ATIV ที่ขายในไทย ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ แบบไม่มีเทอร์โบ (รหัสเครื่อง 3NR-FE) มาพร้อมเทคโนโลยี Dual VVT-i ที่ช่วยปรับการเปิด-ปิดวาล์วให้เหมาะสมตามรอบเครื่อง ให้กำลังสูงสุด 86 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่รถติดเป็นประจำ เครื่องตัวนี้ออกแบบมาให้ประหยัดน้ำมันและตอบสนองดีในรอบต่ำ โดยรอบประมาณ 2,200 ก็สามารถเรียกแรงบิดสูงสุดออกมาได้แล้ว ทำให้ขับในเมืองหรือขึ้นทางลาดได้สบาย นอกจากนี้ยังออกแบบให้ทนทานต่ออากาศร้อนและความชื้นสูงของไทย โดยใช้บล็อกเครื่องเป็นเหล็กหล่อ ส่วนฝาสูบเป็นอะลูมิเนียม ช่วยระบายความร้อนได้ดี เกียร์ที่ใช้เป็นแบบ CVT (เกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง) ที่มีการจำลอง 7 สปีด ขับลื่นๆ เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล ดูแลง่าย ไม่จุกจิก เหมาะกับคนไทยที่อยากได้รถที่ทั้งประหยัดและไม่ต้องดูแลมากค่ะ
Q
เกียร์ของ Toyota Yaris ATIV เป็นแบบไหน
Toyota Yaris ATIV ใช้เกียร์แบบ CVT (เกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่อง) ซึ่งให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่นุ่มนวล แทบไม่รู้สึกถึงจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้ขับสบายมาก โดยเฉพาะในเมือง แถมเกียร์แบบนี้ยังช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่เหมาะสม ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีอีกด้วย ถึงแม้แต่ละรุ่นย่อยจะมีออปชันต่างกัน แต่ทุกรุ่นก็ใช้เกียร์ CVT เหมือนกัน เพื่อให้ได้ทั้งความนุ่มนวลและประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันสูงสุดเวลาขับค่ะ
Q
ขนาด PCD ของล้อรถ Toyota Yaris ATIV คือเท่าไหร่?
ตอนนี้ยังไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลัก) ของ Toyota Yaris ATIV ครับ ขนาด PCD นี่สำคัญมากเวลาจะเปลี่ยนล้อหรือแต่งรถ เพราะรถแต่ละรุ่นจะมีขนาด PCD ไม่เหมือนกัน ถ้าใช้ล้อที่มีขนาด PCD ไม่ตรงกับรถ อาจทำให้การขับขี่ไม่เสถียร เสี่ยงต่อความปลอดภัย หรืออาจทำให้ยางสึกหรอผิดปกติได้ ถ้าอยากทราบขนาด PCD ที่แน่นอนของ Toyota Yaris ATIV แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายรถโตโยต้าสำหรับข้อมูลทางเทคนิคที่ถูกต้องครับ พวกเขาจะให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับขนาด PCD และอื่นๆ เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงที่เชื่อถือได้ในการเปลี่ยนล้อหรือแต่งรถครั้งต่อไป
Q
Toyota Yaris ATIV มีระบบ Apple CarPlay ไหม?
ตอนนี้ในข้อมูลของ Toyota Yaris ATIV ทุกรุ่นที่มีจำหน่าย ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่ารองรับระบบ Apple CarPlay หรือไม่ ซึ่ง Apple CarPlay เป็นระบบของทาง Apple ที่ช่วยให้เชื่อมต่อ iPhone เข้ากับหน้าจอของรถ เพื่อใช้งานแอปต่าง ๆ ได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้นระหว่างขับรถ ถ้ารถรองรับระบบนี้ ปกติจะต้องใช้สาย USB แบบ Lightning ต่อ iPhone เข้ากับพอร์ต USB ของรถ จากนั้นเปิด Siri ที่มือถือ แล้วระบบ CarPlay จะขึ้นมาที่หน้าจอรถโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่ขึ้นก็สามารถกดที่ไอคอน CarPlay บนมือถือได้เลย ถ้าอยากรู้แน่ชัดว่า Toyota Yaris ATIV รองรับ Apple CarPlay หรือไม่ แนะนำให้สอบถามโดยตรงกับศูนย์โตโยต้าหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าจะดีที่สุดค่ะ
Q
ยางติดรถของ Toyota Yaris ATIV ใช้ยี่ห้ออะไร?
ยางที่ใช้กับ Toyota Yaris ATIV โดยทั่วไปมักจะเป็นยี่ห้อดัง ๆ อย่าง Michelin, Goodyear, Bridgestone หรือ Pirelli ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นแตกต่างกัน เช่น Michelin ชื่อเสียงดี ใช้งานนุ่มนวล, Goodyear ทนทาน คุ้มค่า, Bridgestone ก็ได้รับคำชมเยอะ ส่วน Pirelli จะเด่นเรื่องสมรรถนะและการยึดเกาะถนนดีเยี่ยม ขนาดยางมาตรฐานที่มักใช้คือ 195/60 R16 ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง แต่ทั้งนี้ยี่ห้อและรุ่นของยางจริง ๆ ที่ติดมากับรถอาจแตกต่างกันตามล็อตการผลิตหรือรุ่นย่อยของรถ ถ้าอยากรู้แน่ ๆ แนะนำดูในคู่มือรถหรือสอบถามที่ศูนย์บริการใกล้บ้านได้เลยค่ะ
Q
Toyota Yaris ATIV เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกัน
oyota Yaris ATIV มีข้อดีหลายอย่างนะ เป็นรถขนาด B-Segment ตัวรถยาว 4,425 มม. กว้าง 1,740 มม. สูง 1,480 มม. และระยะฐานล้อ 2,620 มม. ขนาดกำลังดี ใช้งานได้ทั้งบรรทุกคนและของในชีวิตประจำวันแบบสบาย ๆ เครื่องยนต์เป็นแบบเบนซิน 1.2 ลิตร จับคู่กับเกียร์ CVT ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล สมูธ ไม่กระชาก เหมาะกับคนที่ชอบความขับสบาย ประหยัดน้ำมันก็โอเค เรื่องความปลอดภัยก็จัดว่าดี มีระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VSC), ถุงลมนิรภัย 6 จุด ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ส่วนในห้องโดยสารก็มีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน แอร์หลัง และหน้าจอสัมผัส 9 นิ้วที่ช่วยให้ดูทันสมัยและใช้งานบันเทิงได้หลากหลาย แต่ก็มีข้อสังเกตเหมือนกัน คือเครื่อง 1.2 ลิตรอาจไม่ค่อยถูกใจสายแรง ขับแซงบนทางด่วนอาจต้องรอรอบหน่อย ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบคานบิด (Torsion Beam) ซึ่งอาจไม่ได้แน่นหนึบเท่ารถที่ใช้ช่วงล่างแบบอิสระ โดยเฉพาะเวลาเจอถนนขรุขระหรือขับเร็ว ๆ

ข้อดี

ราคาให้คุณคุ้มค่า, เริ่มต้นที่ 529,000 บาท, ต่ำกว่า Yaris รุ่นทวินเบ็กเล็กน้อย
การตั้งค่าความปลอดภัยครบครัน, มีระบบ ABS/EBD, TRC, HAC และอื่น ๆ, มาพร้อม 7 ถุงลมนิรภัย
ดีไซน์น่าดู, มีชุดสปอร์ตที่เพิ่มความทันสมัย
การซื้อและขายง่าย, การบริการหลังการขายที่น่าเชื่อถือ, การรับประกันจากแบรนด์

ข้อเสีย

พลังงานค่อนข้างอ่อนแอเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แรงม้าและค่าแรงบิดน้อยกว่า
เป็นรุ่นหลักที่บางครั้งชนิดธรรมดา การออกแบบภายนอกและประสิทธิภาพการขับขี่ไม่โดดเด่น ทำให้คนรู้สึกเบื่อง่าย

Q&A ล่าสุด

Q
ชื่อภาษาจีนของ BYD Song Max คืออะไร?
BYD Song Max ในตลาดจีนใช้ชื่อว่า "บีวายดี ซ่ง MAX" ส่วนในตลาดไทยก็มีคนรู้จักในชื่อ "BYD Song Plus Max" รุ่นนี้เป็น MPV 7 ที่นั่ง ใช้เทคโนโลยี Hybrid DM รุ่นที่ 3 ของบีวายดี สามารถวิ่งได้ 81 กิโลเมตรด้วยไฟฟ้าอย่างเดียว (มาตรฐาน NEDC) เหมาะมากสำหรับครอบครัวไทยหรือการท่องเที่ยว ในสภาพอากาศร้อนของไทย แบตเตอรี่ของรถรุ่นนี้มีระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะที่ช่วยให้ทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ ส่วนกำลังขับเคลื่อนรวม 182 แรงม้า ก็ทำให้ขับขึ้นเขาที่เชียงใหม่ได้สบายๆ ที่น่าสนใจคือรุ่นพวงมาลัยขวาที่ขายในไทยยังคงมีฟีเจอร์ใช้งานได้จริงอย่างกล้องรอบคัน และวัสดุพวงมาลัยยังออกแบบมาเพื่อป้องกันลื่นในสภาพอากาศร้อนอีกด้วย ตอนนี้บีวายดีมีโรงงานผลิตที่จังหวัดระยองแล้ว ทำให้การจัดหาอะไหล่และบริการหลังการขายของ Song Max สะดวกขึ้นมาก ถ้าเทียบกับ MPV รุ่นอื่นในตลาดไทยอย่าง Toyota Innova หรือ Honda BR-V แล้ว Song Max มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่เหนือกว่าชัดเจน
Q
BYD Song Max มี 7 ที่นั่งไหม?
รถ BYD Song Max มีรุ่น 7 ที่นั่งแบบ "2+3+2" ซึ่งออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและใช้งานได้หลากหลาย แถวที่สองสามารถเลื่อนและพับได้ ช่วยให้ผู้โดยสารแถวสามขึ้นลงง่าย แถวสามยังพับเก็บได้ตามสัดส่วน เมื่อไม่มีการใช้งานก็สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ นอกจากนี้ยังมีรุ่น 6 ที่นั่งแบบ "2+2+2" อีกด้วย Song Max ในฐานะรถ MPV ที่มาพร้อมตัวเลือกการจัดเรียงที่นั่งแบบต่างๆ ช่วยตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ทั้งการเดินทางกับครอบครัวหรือการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเลือกรุ่น 7 ที่นั่งหรือ 6 ที่นั่ง ก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการส่วนตัว
Q
BYD Song Max เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือไม่?
ปัจจุบัน BYD Song Max ในตลาดจีนมีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) เท่านั้น ยังไม่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) รุ่น MPV 7 ที่นั่งนี้เน้นความประหยัดและประโยชน์ใช้สอยสำหรับครอบครัว โดยมาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L หรือระบบไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก DM-i ที่ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่แบบไทยได้ดี โดยเฉพาะการเดินทางไกลอย่างไปเที่ยวหัวหินหรือเชียงใหม่ในช่วงวันหยุด สำหรับตลาดไทยแล้ว ลูกค้ามักสนใจเรื่องความประหยัดน้ำมันและความยืดหยุ่นของพื้นที่ภายใน รถรุ่นนี้มีการจัดวางที่นั่งแบบ 2+2+3 พร้อมพื้นที่เก็บของที่ปรับระดับเรียบได้ ซึ่งใช้งานได้สะดวกในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไทยมีอากาศร้อนชื้น ควรตรวจสอบระบบทำความเย็นและสารเคลือบใต้ท้องรถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาหลังการใช้งานระยะยาว หากลูกค้าต้องการรถ MPV ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจริงๆ อาจต้องมองหารุ่นอื่นจากแบรนด์อื่นแทน แต่ต้องระวังว่าระบบ 4WD จะทำให้ราคาสูงขึ้นและกินน้ำมันมากขึ้น ซึ่งสำหรับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าก็เพียงพอแล้ว
Q
Omoda C9 กินน้ำมันกี่กิโลต่อลิตร?
Omoda C9 เป็นรถ SUV ที่เน้นทั้งดีไซน์ทันสมัยและการใช้งานจริง ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ชาวไทย โดยจากข้อมูลของผู้ผลิต รถรุ่นนี้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6.5-7.2 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามลักษณะการขับขี่ สภาพการจราจร (เช่น รถติดในกรุงเทพฯ หรือวิ่งทางไกลต่างจังหวัด) รวมถึงความถี่ในการเปิดแอร์ ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้หมั่นตรวจเช็กไส้กรองอากาศและแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน ควรเติมน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เมื่อเปรียบเทียบกับ SUV ในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Corolla Cross หรือ Honda HR-V อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของ Omoda C9 ถือว่าใกล้เคียงกัน แต่ด้วยดีไซน์ที่เน้นความทันสมัยและฟีเจอร์อัจฉริยะ อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการรถที่มีความเป็นตัวของตัวเอง หากมีแผนจะขับทางไกลไปเชียงใหม่หรือภูเก็ต ซึ่งเส้นทางมีทางลาดชัน แนะนำให้ใช้โหมด ECO เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน โดยปั๊มน้ำมันในไทยส่วนใหญ่มีบริการน้ำมันเบนซินผสมเอทานอล (เช่น E20) แต่ควรตรวจสอบคู่มือรถก่อนเติมว่าเครื่องยนต์รองรับน้ำมันชนิดนั้นหรือไม่ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อเครื่องยนต์
Q
OMODA C9 แรงม้ากี่แรง?
OMODA C9 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 192 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 261 แรงม้า (PS) ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขกำลังที่ดี ช่วยให้รถเร่งแซงหรือขับขึ้นทางชันได้อย่างมั่นใจ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8.52 วินาที สำหรับรุ่นที่วางจำหน่ายในมาเลเซีย ใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกัน ให้กำลังสูงสุด 261 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด (8AT) ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.6 วินาที เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการสมรรถนะที่เร้าใจมากยิ่งขึ้น
ดูเพิ่มเติม