Q
ฮอนด้าซิตี้ 2024 มีความจุซีซีเท่าไหร่
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ คือเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรและเครื่องยนต์แบบธรรมดา 1.5 ลิตร โดยเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรมีความจุกระบอกสูบ 998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบธรรมดามีความจุ 1,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า เครื่องยนต์ทั้งสองแบบถูกออกแบบมาให้สมดุลระหว่างประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกลในไทย ฮอนด้าซิตี้เป็นที่นิยมในตลาดไทยเสมอมาด้วยความน่าเชื่อถือ ค่าซ่อมบำรุงไม่แพง และประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่นปี 2024 ยังเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING เข้ามา ทำให้ยิ่งโดดเด่นขึ้น สำหรับลูกค้าชาวไทยที่กำลังตัดสินใจเลือกเครื่องยนต์ แนะนำว่าเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรเหมาะกับคนที่เน้นประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เครื่อง 1.5 ลิตรแบบธรรมดาจะให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลมากกว่า ทั้งสองแบบตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีอยู่แล้ว แค่เลือกให้เหมาะกับสไตล์การขับและงบประมาณของคุณก็พอ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Honda City 2024 คืออะไร
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยแสดงผลงานด้านความปลอดภัยได้ดีเยี่ยม ด้วยระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างครบครัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษาเลน และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยแบบพาสซีฟที่ครบถ้วน เช่น ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบเบรก ABS ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นในกลุ่มรถระดับเดียวกัน จากการทดสอบตามมาตรฐาน NCAP ของไทย คาดว่ารถรุ่นนี้จะได้คะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาว เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชนบทของไทยที่หลากหลาย สำหรับผู้บริโภคชาวไทย นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าประกันรถด้วย เพราะเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยมีความพร้อมสูง มีอะไหล่ครบครัน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานระยะยาวค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยมักคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อรถเช่นกัน
Q
วิธีเปิดส่วนหน้าของรถ Honda Civic 2024
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารุ่นฮอนด้าซิวิค 2024 สิ่งแรกที่ต้องทำคือนั่งในที่นั่งคนขับ แล้วมองหาคันปลดล็อกฝากระโปรงหน้า ซึ่งจะมีสัญลักษณ์รูปเครื่องยนต์อยู่ด้านล่างซ้ายของพวงมาลัย ดึงคันนี้เบาๆจนได้ยินเสียงฝากระโปรงหน้ายกขึ้น จากนั้นเดินไปที่หน้าตัวรถ ใช้มือสอดเข้าไปในช่องกลางฝากระโปรง แล้วหาล็อกนิรภัยตัวที่สองให้เจอ ให้ดันล็อกนี้ไปทางซ้ายหรือขวาพร้อมกับยกฝากระโปรงขึ้น สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเบรกในห้องเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้รถทำงานได้ปกติ และควรทำความสะอาดห้องเครื่องด้วย ระวังอย่าให้ใบไม้หรือเศษอุดตันท่อระบายน้ำ ถ้าต้องขับในพื้นที่ติดขัดอย่างกรุงเทพฯ บ่อยๆ ควรเช็กด้วยว่าฟิลเตอร์อากาศอุดตันฝุ่นหรือไม่ เพราะจะช่วยรักษาสมรรถนะเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันได้ ส่วนเวลาปลดล็อกฝากระโปรงถ้าได้ยินเสียงเฮียกที่บานพับ ให้ทาจาระบีเล็กน้อย และเนื่องจากอากาศไทยร้อนจัดทำให้ยางซีลเสื่อมสภาพเร็ว ควรตรวจสอบความแน่นของซีลทุกๆครึ่งปี
Q
ความจุของกระโปรงท้ายรถฮอนด้าซิตี้ 2024 คือเท่าไร
รถฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทยมีปริมาตรกระโปรงหลังขนาด 536 ลิตร ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวหรือการท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางหลายใบหรือของช้อปปิ้งได้อย่างสบายๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือช้อปปิ้งบ่อยๆ การออกแบบกระโปรงหลังทำได้อย่างสมเหตุสมผล มีช่องเปิดที่กว้าง ทำให้สะดวกในการลำเลียงสิ่งของ นอกจากนี้เบาะหลังยังสามารถพับลงได้ตามสัดส่วน ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก กระโปรงหลังของซิตี้ยังมีการป้องกันการรั่วซึมที่ดี ช่วยปกป้องสิ่งของจากความชื้นหรือความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ปริมาตรกระโปรงหลังขนาดนี้จัดอยู่ในระดับกลางถึงดี และเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างโตโยต้า ยาริส แอททีฟแล้วยังได้เปรียบอยู่บ้าง สำหรับผู้ใช้งานไทยที่มักต้องพกพาสิ่งของจำนวนมาก พื้นที่กระโปรงหลังของซิตี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่值得พิจารณา แนะนำให้ไปทดลองบรรจุของที่ตัวแทนจำหน่ายด้วยตัวเองเพื่อความสะดวก และควรเปรียบเทียบกับการออกแบบกระโปรงหลังของรถรุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกัน เพื่อเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด
Q
สีของ Honda City 2024 มีอะไรบ้าง
รถฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมีให้เลือกหลายสีสันสไตล์โมเดิร์น ทั้งหมด 7 สีคลาสสิค ได้แก่ สีพลาตินัม ออบซิเดียน บลู เพิร์ล (น้ำเงินไข่มุก), อิกไนท์ เรด เมทัลลิก (แดงเมทัลลิก), แพลตตินัม ไวท์ เพิร์ล (ขาวไข่มุก), คริสตัล แบล็ค เพิร์ล (ดำไข่มุก), ลูนาร์ ซิลเวอร์ เมทัลลิก (เงินเมทัลลิก), อุกกาบาต เกรย์ เมทัลลิก (เทาเมทัลลิก) และทัฟเฟต้า ไวท์ (ขาวทาฟเฟต้า) เวลาเลือกสีรถควรคิดถึงเรื่องค่าดูแลรักษาด้วยนะครับ สีอ่อนๆ ในแดดเมืองไทยจะทนต่อคราบสกปรกกว่า ส่วนสีเข้มต้องล้างรถและขัดแว็กซ์บ่อยหน่อยเพื่อรักษาความเงางาม แถมบางสีพิเศษอาจต้องสั่งจองล่วงหน้าหรือรอรับรถนานกว่าปกติครับ
Q
วิธีเปิดฝากระโปรงหน้ารถ Honda City 2024
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 สิ่งแรกที่ต้องทำคือนั่งบนที่นั่งคนขับแล้วมองหาแถบปลดล็อกฝากระโปรงซึ่งอยู่ด้านล่างซ้ายของแผงหน้าปัด มักจะอยู่แถวๆ Pedal ให้ดึงขึ้นจนได้ยินเสียงฝากระโปรงหน้ากระเด้งเล็กน้อย จากนั้นเดินไปที่หัวรถแล้วใช้นิ้วมือสอดเข้าไปในช่องกลางขอบฝากระโปรงหน้า จะพบกับล็อกความปลอดภัยตัวที่สอง ให้ดันขึ้นพร้อมกับยกฝากระโปรง ถ้ารู้สึกหนักไปอาจใช้ค้ำยันช่วย สำหรับสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่องเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนขับทางไกล ต้องเช็กระบบระบายความร้อนให้ดี ภายในห้องเครื่องฮอนด้าซิตี้จัดวางเป็นระเบียบ ทำให้เจ้าของรถสามารถเติมน้ำฉีดกระจกหรือตรวจสอบน้ำมันเบรคได้เอง แต่ถ้าเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าหรือชิ้นส่วนเครื่องกลที่ซับซ้อน ควรไปที่ศูนย์บริการฮอนด้าจะดีกว่า ที่ศูนย์ใหญ่ๆ ในกรุงเทพหรือเชียงใหม่ยังมีบริการตรวจเช็คฟรีให้อีกด้วย ข้อสำคัญเวลาปิดฝากระโปรงหน้า ต้องปล่อยจากความสูงประมาณ 30 เซนติเมตรให้ปิดเองตามธรรมชาติ เพื่อให้ล็อกเข้าที่สนิท ป้องกันฝากระโปรงเปิดขณะขับรถ และช่วงหลังฤดูฝนของไทย ควรทำความสะอาดใบไม้ที่อาจตกค้างในห้องเครื่อง เพื่อไม่ให้ท่อระบายน้ำอุดตัน
Q
ฉันจะเปิดถังน้ำมันบนรถฮอนด้า 2024 ของฉันได้อย่างไร
วิธีเปิดฝาถังน้ำมันของฮอนด้ารุ่นปี 2024 ทำได้ง่าย มีสองแบบขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของแต่ละรุ่น แบบแรกคือปุ่มกดภายในรถ จะอยู่ด้านซ้ายของผู้ขับขี่บนคอนโซลกลางหรือแผงประตู กดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ถังน้ำมัน ฝาถังจะเด้งเปิด แบบที่สองคือกดตรงฝาถังภายนอก หลังจากปลดล็อกรถแล้วกดเบาๆ ฝาจะเปิด ทั้งสองแบบเหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกของไทย ป้องกันการใช้งานผิดพลาดและรักษาการปิดสนิท ปั๊มน้ำมันส่วนใหญ่ในไทยมีพนักงานบริการเติมน้ำมัน จึงไม่จำเป็นต้องเติมเอง แต่ควรตรวจสอบชนิดน้ำมันว่าเป็นเบนซินหรือดีเซลก่อนเติม เนื่องจากอากาศร้อนอาจทำให้น้ำมันระเหย แนะนำไม่เติมเต็มเกินไปเพื่อเว้นพื้นที่ให้น้ำมันขยาย เพิ่มความปลอดภัยและประหยัดเชื้อเพลิง สำหรับรถที่ใช้งานระยะยาวควรตรวจสอบซีลฝาถังเป็นประจำ ป้องกันน้ำหรือฝุ่นเข้าช่วงฤดูฝนและคงคุณภาพน้ำมัน
Q
คุณสามารถสตาร์ทรถ Honda 2024 จากโทรศัพท์ของคุณได้ไหม
รุ่นฮอนด้า 2024 บางรุ่นในตลาดไทยรองรับฟังก์ชั่นสตาร์ทรถทางโทรศัพท์ได้จริง แต่ขึ้นอยู่กับรุ่นและระบบ Honda Connect ที่ติดตั้งมา เช่น รุ่นท็อปอย่าง CR-V หรือ Accord มักจะมีฟีเจอร์นี้ ผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดแอป Honda และผูกบัญชีกับรถยนต์ก่อน หลังจากนั้นจะสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ เปิดแอร์ล่วงหน้า หรือปลดล็อคประตูผ่านมือถือได้ ซึ่งเหมาะมากกับอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ แต่อย่าลืมว่าฟีเจอร์นี้ต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตและรถต้องอยู่ในพื้นที่ที่สัญญาณครอบคลุม รวมถึงควรตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ด้วย เพราะบางฟังก์ชั่นอาจถูกจำกัดตามกฎหมายไทยหรือเครือข่ายโทรศัพท์ นอกจากนี้ เทคโนโลยีควบคุมระยะไกลแบบเดียวกันนี้ยังมีในแบรนด์อื่นๆ เช่น Toyota Connect ของโตโยต้าหรือ NissanConnect ของนิสสัน ซึ่งทำงานผ่านโมดูลสื่อสารในรถที่เชื่อมกับแอปบนมือถือ เมื่อ 5G แพร่หลายมากขึ้น ฟีเจอร์เหล่านี้จะทำงานเร็วและเสถียรขึ้น แน่นอนว่าทำให้ชีวิตคนใช้รถในไทยสะดวกสบายขึ้นอีกเยอะ
Q
รถฮอนด้าซิตี้ปี 2024 มีระบบ VTEC หรือไม่
รถยนต์ฮอนด้าซิตีรุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดประเทศไทยยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ แบบธรรมชาติ โดยไม่ได้นำเทคโนโลยี VTEC มาใช้ แต่ยังคงใช้ระบบ i-VTEC ที่ปรับปรุงการทำงานของวาล์วให้ฉลาดขึ้น ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อประหยัดน้ำมันและเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำถึงกลาง ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดและการขับขี่ที่ต้องหยุดบ่อยในเมืองไทย แม้ว่า VTEC จะโดดเด่นในเรื่องพลังสปินสูง แต่ i-VTEC ให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมันมากกว่า ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยในยุคที่ราคาน้ำมันแพง อีกจุดสำคัญคือฮอนด้าจะปรับตั้งค่าทางเทคนิคให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในไทย โดยเสริมประสิทธิภาพระบบระบายความร้อนและแอร์ ส่วนการไม่ใช้ VTEC ก็แสดงว่าผู้ผลิตเข้าใจความต้องการของคนไทยจริงๆ เพราะในสภาพรถติดแบบกรุงเทพฯ การใช้พลังรอบสูงแทบไม่เกิดประโยชน์เท่าการประหยัดน้ำมันในชีวิตประจำวัน ถ้าอยากได้พลังมากขึ้น ลองดูรุ่น City RS ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร ซึ่งให้แรงบิดดีกว่าในการแซง แต่ก็ยังไม่ใช้ระบบ VTEC แบบดั้งเดิมเช่นกัน
Q
รถ Honda City 2024 เฉลี่ยแล้ววิ่งได้กี่กิโลเมตรต่อลิตร
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15-18 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งตัวเลขอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนนและรุ่นย่อยของรถ สำหรับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC จะให้สมรรถนะที่สมดุลในสภาพการขับขี่แบบผสม ส่วนรุ่น e:HEV แบบไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันได้มากกว่า โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ ที่ต้องเร่ง-หยุดบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ในไทยควรระวังว่าอากาศร้อนและการเปิดแอร์อาจส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย การดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ เช่น การเปลี่ยนไส้กรองอากาศและปรับลมยางให้เหมาะสม จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันอย่างโตโยต้ายาริสหรือมาสด้า 2 ที่มีอัตราสิ้นเปลืองใกล้เคียงกัน แต่ใช้เทคโนโลยีต่างกัน แนะนำให้ลองทดลองขับเพื่อเปรียบเทียบ นอกจากนี้ นโยบายลดภาษีของรัฐบาลไทยสำหรับรถประหยัดพลังงานยังทำให้ซิตี้เป็นตัวเลือกคุ้มค่า และในระยะยาว รุ่นไฮบริดจะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มากกว่าชัดเจน
Q
ฮอนด้าซิตี้ 2024 มีแรงม้าเท่าไหร่
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ แบบแรกเป็นเครื่อง 1.0 ลิตร VTEC Turbo ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ส่วนอีกแบบเป็นเครื่อง 1.5 ลิตรแบบธรรมดาที่ให้กำลัง 121 แรงม้า ทั้งสองรุ่นใช้เกียร์ CVT ที่ช่วยให้ขับขี่ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยที่ต้องใช้งานหนัก ทางฮอนด้ายังออกแบบระบบระบายความร้อนและแอร์ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแม้ต้องขับนานๆ พ่วงมาด้วยระบบความปลอดภัย Honda SENSING ที่มีฟังก์ชันช่วยเบรกฉุกเฉินและรักษาระยะเลน ช่วยลดความเหนื่อยล้าเวลาเจอรถติดในกรุงเทพฯ จุดเด่นอีกอย่างคือเป็นรถยอดนิยมของฮอนด้าที่มีศูนย์บริการกระจายทั่วประเทศ ทำให้ค่าซ่อมไม่แพงและขายต่อได้ราคาดี โดยเฉพาะรุ่น 1.0T ที่ออกแบบมาเฉพาะด้วยระบบ 3 สูบ ช่วยลดการปล่อยมลพิษตามนโยบายรถ环保ของรัฐบาลไทย
Q&A ล่าสุด
Q
"Swift 2022 วิ่งได้กี่กิโลเมตรต่อลิตรของน้ำมัน?"
Swift รุ่นปี 2022 ในไทยประหยัดน้ำมันสุดๆ แบบเบนซิน 1.2 ลิตร สภาพขับจริงในเมืองวิ่งได้ 18-20 กม./ลิตร ส่วนถนนทางหลวงพุ่งไป 22-24 กม./ลิตร ส่วนรุ่น 1.0 ลิตรเทอร์โบที่มีระบบไฮบริดเบาๆ ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีก 5-8% เพราะมีระบบ Start-Stop ช่วยอัตโนมัติ รถคันนี้ใช้เทคโนโลยีตัวถังเบา HEARTECT ล่าสุดจาก Suzuki ผสมผสานกับระบบไฮบริดอัจฉริยะ แบบนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพถนนที่ติดขัดในกรุงเทพฯ ที่มีการสตาร์ต-ดับเครื่องบ่อยครั้ง แต่ต้องบอกก่อนนะว่าค่าประหยัดน้ำมันจริงๆ ของแต่ละคนอาจต่างกันไปตามสไตล์การขับ เปิดแอร์บ่อยแค่ไหน หรือสภาพถนนแบบไหน แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด ใช้แบบความหนืดต่ำได้มาตรฐาน JASO จะช่วยให้รถสมรรถนะดีตลอด ส่วนค่าดูแลรักษานั้นสวิฟท์ถือว่าถูกกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่างยาริสหรือซิตี้ โดยศูนย์แนะนำให้เช็คระยะทุก 1 หมื่นกิโลหรือทุก 6 เดือน ถ้าพูดถึงรถประหยัดน้ำมันตัวอื่นในตลาดไทยก็มีอัลเมร่าเทอร์โบให้เปรียบเทียบ แต่ Swift ยังคงแข่งขันในตลาดรถเข็นระดับเริ่มต้นด้วยระบบไฮบริดที่เติบโตเต็มที่และราคาที่เป็นมิตรกับผู้คนมากขึ้น
Q
Swift 2022 ต้องใช้น้ำมันเครื่องเท่าไร?
สำหรับ Swift รุ่นปี 2022 ความจุน้ำมันเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 3.3 ลิตรเมื่อเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องด้วย แต่ถ้าเปลี่ยนแค่น้ำมันเครื่องอย่างเดียวจะใช้ประมาณ 3.1 ลิตร แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบเกรด 0W-20 ที่ได้มาตรฐาน API SN หรือสูงกว่า เพราะจะช่วยป้องกันเครื่องยนต์ในสภาพอากาศร้อนของไทยได้ดีกว่า และยังช่วยประหยัดน้ำมันด้วย สำหรับคนไทยต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะอากาศที่นี่ร้อนชื้นตลอดปี ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน (ดูอย่างไหนถึงก่อน) ซึ่งบ่อยกว่าปกติเมื่อเทียบกับประเทศอากาศเย็น เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้สมบูรณ์แม้อากาศร้อนจัด เวลาเลือกซื้อน้ำมันเครื่อง ลองดูแบรนด์ที่หาง่ายในไทย เช่น PTT Lubricants Shell Helix หรือ Idemitsu ที่มีสูตร 0W-20 เหมาะกับสวิฟท์โดยเฉพาะ ถ้าต้องขับในเมืองติดขัดบ่อยๆแบบกรุงเทพฯ หรือขับขึ้นเขาลงห้วยแบบเชียงใหม่บ่อย อาจต้องเปลี่ยนถี่ขึ้นเป็นทุก 8,000 กิโลเมตร โชว์รูมซูซูกิในไทยมักมีโปรแกรมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแบบครบเซ็ต รวมไส้กรองและค่าแรง ราคาประมาณ 1,500-2,000 บาท แม้จะแพงกว่าอู่ทั่วไปแต่ได้ของแท้และมีประวัติการซ่อมบำรุงครบถ้วน
Q
ระยะความสูงจากพื้นถึงตัวรถ ของ Swift 2022 คือเท่าไหร่?
รุ่น Suzuki Swift 2022 ที่วางขายในตลาดไทยมีระยะความสูงจากพื้นถึงตัวรถ (Ground Clearance) 163 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถขนาดเล็กในกลุ่มเดียวกัน ทำให้สามารถใช้งานได้ดีบนสภาพถนนหลากหลายแบบในไทย ทั้งถนนในเมืองและทางลูกรังบางพื้นที่ในชนบท ช่วยให้ขับผ่านได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่มักมีน้ำขังบนถนน ระยะความสูงแบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดรอยขีดข่วนใต้ท้องรถได้ ส่วนขนาดตัวรถที่กะทัดรัดของ Swift ยังเป็นจุดแข็งสำหรับการขับขี่ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่น อย่างไรก็ตาม การขับผ่านถนนสภาพต่างๆ จริงๆ แล้วยังขึ้นอยู่กับการตั้งค่าตัวถัง ขนาดยาง และปัจจัยอื่นๆ ด้วย ควรขับด้วยความระมัดระวังในเส้นทางที่ยากลำบาก นอกจากนี้สภาพอากาศร้อนชื้นของไทยยังส่งผลต่อการเกิดสนิมใต้ท้องรถ จึงควรตรวจสอบสภาพใต้ท้องรถเป็นประจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพในการขับขี่ให้ดีเสมอ
Q
Suzuki Swift 2022 เป็นรถที่ดีหรือเปล่า?
รถยนต์ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยถือเป็นรถขนาดเล็กที่คุ้มค่าเงินมาก เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและการใช้งานประจำวัน ด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบธรรมชาติที่ประหยัดน้ำมันอย่างน่าประทับใจ ใช้เชื้อเพลิงเพียง 4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในไทยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีขนาดกระทัดรัด ขับเคลื่อนคล่องตัวในซอยแคบๆ และที่จอดรถคับขัน ส่วนภายในออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานได้ดี มีหน้าจอสัมผัส 7 นิ้วและบลูทูธให้แบบมาตรฐาน แม้ว่าจะใช้วัสดุพลาสติกแข็งเป็นหลัก แต่ก็ทำออกมาได้แน่นหนา สมกับราคา ในด้านความปลอดภัย รุ่นไทยมีถุงลมนิรภัย 2 ใบ พร้อมระบบ ABS และ EBD ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าอยากได้ระบบความปลอดภัยเพิ่มเติมก็สามารถเลือกอุปกรณ์เสริมได้ Swift ยังมีจุดเด่นที่ค่าบำรุงรักษาไม่แพง และหาอะไหล่ได้ง่ายในไทย ซึ่งเป็นเหตุผลที่คนไทยหลายคนเลือกมัน ส่วนระบบแอร์ที่ไทยต้องใช้สู้ร้อนนั้น Swift ก็ทำได้ดีเยี่ยม เย็นเร็วทันใจ ถ้าคุณมองหาราคาประหยัด ประหยัดน้ำมัน และใช้งานได้จริง Swift ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าต้องการพื้นที่กว้างขวางหรืออุปกรณ์มากกว่านี้ อาจต้องมองรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน แนะนำให้ลองขับดูก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
Q
ความเร็วสูงสุดของ Swift 2022 คือเท่าไหร่?
รถ Suzuki Swift รุ่นปี 2022 ในประเทศไทยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 180 กม./ชม. โดยอาจแตกต่างกันไปบ้างขึ้นอยู่กับรุ่นและการขับขี่ Swift เป็นรถขนาดเล็กประเภทประหยัดพลังงาน ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบธรรมดาหรือ 1.0 ลิตร เทอร์โบ (แล้วแต่รุ่น) ให้ความรู้สึกขับขี่ที่คล่องตัวทั้งในเมืองและบนทางด่วนของไทย เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันหรือทริปสั้นๆ สภาพอากาศร้อนของไทยที่ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดี แต่ Swift ออกแบบระบบหล่อเย็นมาเพื่อรับมือกับอุณหภูมิสูงได้เป็นอย่างดี แถมยังประหยัดน้ำมันซึ่งตอบโจทย์คนไทยที่เน้นความประหยัดและใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัดและการควบคุมที่คล่องตัว ทำให้ Swift เหมาะมากกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ถ้าอยากได้สมรรถนะสูงขึ้นก็มีรุ่น Sport ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เทอร์โบ ให้ความแรงกว่าเดิม ความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 210 กม./ชม. ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก็ควรเข้าศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้รถอยู่ในสภาพดีที่สุดตลอดเวลา
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ควรพลาดรถยนต์เกโรของญี่ปุ่น, รุ่น Honda City ใดคุ้มค่าที่สุดในการเลือก?
ณัฐวุฒิNov 6, 2024

Honda City e:HEV ลดราคา THB40,000! มาราธอน 800km, ประหยัดน้ำมันและสบาย!
AshleyAug 5, 2024

2024 Honda City Sedan ราคาตั้งแต่ THB 599,000 จะเลือก Turbo หรือ e: HEV?
LienApr 16, 2024

มอเตอร์โชว์กรุงเทพฯ: Honda City 2024, เพิ่มรูปแบบ 1.0 Turbo S, ราคา 599000 บาท
Kevin WongMar 26, 2024

Honda N-ONE e:เปิดตัวอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น ระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 295 กิโลเมตร
LienSep 12, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย