Q

ราคาของ Honda Civic Hatchback ปี 2021 เท่าไหร่?

ราคารถ Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 ในตลาดประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 1-1.3 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์เสริมที่เลือก เช่น รุ่น LX ราคาประหยัดเหมาะสำหรับคนเริ่มต้น ส่วนรุ่น Sport หรือ RS ที่เป็นเวอร์ชันสูงจะราคาสูงกว่าเพราะมาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตรและระบบ Honda Sensing สำหรับความปลอดภัย รถรุ่นนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นไทยเพราะขับเคลื่อนคล่องตัวเหมาะกับสภาพถนนในเมืองอย่างกรุงเทพฯ แถมยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย ที่สำคัญรัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถประหยัดพลังงาน ทำให้ Honda Civic Hatchback คุ้มค่ามากขึ้น ส่วนราคารถมือสองจะลดลงประมาณ 15-30% ขึ้นอยู่กับระยะทาง สภาพรถและระยะเวลารับประกัน ถ้าคิดจะใช้ยาวๆ แนะนำให้ดูบริการรับประกันและแพ็กเกจบริการจาก Honda ประเทศไทย จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้เยอะ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ Civic Hatchback ปี 2021 มีระบบ VTEC ไหม?
รถ Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 ที่วางขายในตลาดไทยนี่ แน่นอนว่ามีระบบ VTEC เป็นมาตรฐาน แต่ต้องบอกก่อนว่าเครื่องยนต์ของรุ่นนี้เป็นแบบ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่ใช้ระบบ VTEC TURBO เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Honda ซึ่งจะแตกต่างจากระบบ VTEC แบบเครื่องยนต์ดูดอากาศทั่วไปครับ VTEC TURBO นี่เน้นใช้เทคโนโลยี Variable Valve Timing และ Lift ที่ด้านไอดีเป็นหลักเท่านั้น แล้วยังผสมผสานกับเทอร์โบชาร์จเจอร์เพื่อประสิทธิภาพการเผาไหม้และกำลังส่งที่ดียิ่งขึ้น สำหรับสภาพอากาศร้อนๆแบบไทยเรา การออกแบบนี้ช่วยให้ได้ทั้งกำลังขับที่แรงสมรรถนะสูง และยังประหยัดน้ำมันไปพร้อมกัน เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมืองกรุงเทพฯ ที่รถติดเป็นประจำ สำหรับคนไทยแล้ว ระบบ VTEC นี่ถือเป็นจุดขายสำคัญของรถฮอนด้ามาตลอด ส่วนCivic Hatchback รุ่น 2021 นี้ นอกจากจะยังคงความสปอร์ตในดีเอ็นเอแล้ว ยังเพิ่มแรงบิดช่วงรอบต่ำด้วยเทคโนโลยีเทอร์โบ ทำให้การขับขี่ในสภาพแวดล้อมของการจราจรแบบ Go Stop ซึ่งเป็นเรื่องปกติในประเทศไทย ที่สำคัญแม้ว่าระบบ VTEC TURBO จะทำงานแตกต่างจาก VTEC แบบเดิม แต่ยังคงสืบทอดแก่นแท้ของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ของฮอนด้า ด้วยระบบควบคุมวาล์วที่แม่นยำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ นี่ล่ะคือเหตุผลหนึ่งที่ทำไมรถรุ่นนี้ถึงได้ใจคนรุ่นใหม่ในไทยมาก
Q
รถ Honda Civic Hatchback 2021 มีขนาดเท่าไหร่?
รถ Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 เป็นที่นิยมมากในตลาดไทย ด้วยดีไซน์ 5 ประตูที่คล่องตัว ขนาดตัวรถยาว 4,539 มม. กว้าง 1,799 มม. สูง 1,434 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม. ทำให้ขับเคลื่อนในเมืองไทยได้สะดวก แถมยังมีพื้นที่ภายในกว้างขวางพอสมควร ความจุกระบอกสูบ 408 ลิตร แต่ถ้าพับเบาะหลังลงจะเพิ่มเป็น 1,214 ลิตร เหมาะมากสำหรับคนไทยที่ชอบช้อปปิ้งหรือไปเที่ยววันหยุด สาเหตุที่ Civic Hatchback ติดอันดับรถยอดนิยมในไทยก็เพราะขนาดกะทัดรัดและขับลื่นไหล แถมยังเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบก็ประหยัดน้ำมันแต่ยังให้กำลังดี อีกจุดขายสำคัญคือศูนย์บริการในไทยครอบคลุม แถมอะไหล่ก็หาง่าย นี่เป็นปัจจัยที่คนไทยให้ความสำคัญมาก ส่วนเรื่องสีก็มีให้เลือกหลายเฉด โดยเฉพาะสีสันสดใสที่ตรงใจคนไทยชอบความโดดเด่น
Q
แบตเตอรี่สำหรับ Honda Civic hatchback ราคาเท่าไหร่?
ในตลาดไทย ราคาแบตเตอรี่รถ Honda Civic Hatchback จะแตกต่างกันไปตามประเภทแบตเตอรี่ แบรนด์ และช่องทางในการซื้อ โดยทั่วไปแบตเตอรี่แบบเดิมจากศูนย์จะอยู่ที่ประมาณ 5,000-8,000 บาท ส่วนแบตเตอรี่จากแบรนด์อื่นอาจราคาถูกกว่าเริ่มต้นที่ 3,500 บาท แต่เพื่อความแน่นอนแนะนำให้สอบถามราคาจากโฮนด้าโชว์รูมหรืออู่บริการที่ได้รับอนุญาตในพื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศไทยที่ร้อนจัดส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างมาก จึงควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ทุก 2-3 ปี เพื่อป้องกันปัญหารถติดยากจากแบตเตอรี่เสื่อม นอกจากราคาแล้วเวลาซื้อควรดูค่า CCA (กระแสสตาร์ทเครื่องในที่เย็น) และความจุว่าเหมาะสมกับรุ่นรถหรือไม่ แบตเตอรี่รุ่นสูงบางรุ่นอาจมีการรับประทานที่ยาวนานกว่าหรือออกแบบมาให้ทนความร้อนได้ดีกว่า ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศร้อนตลอดปีของไทย ส่วนในชีวิตประจำวันควรหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้าในรถขณะดับเครื่องนานๆ เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่
Q
Honda Civic Hatchback ปี 2021 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยถือเป็นรุ่นที่แสดงความน่าเชื่อถือได้ดี เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จที่ผ่านการทดสอบตลาดมาหลายปี ให้กำลังส่งออกอย่างลื่นไหลและประหยัดน้ำมันเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองไทย ส่วนเกียร์ CVT ก็ถูกตั้งค่าให้เน้นความทนทานเป็นหลัก ระบบระบายความร้อนของรุ่นนี้ทำงานได้มั่นคงแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย แถมเครือข่ายผู้จำหน่ายฮอนด้าในไทยก็ครอบคลุม มีอะไหล่พร้อมให้บริการและค่าบำรุงรักษาก็สมเหตุสมผล ที่น่าสนใจคือ Civic ในตลาดมือสองของไทยยังคงมูลค่าสูง ซึ่งสะท้อนถึงความทนทานในระยะยาว สำหรับคนไทยที่สนใจรถรุ่นนี้ แนะนำให้ตรวจสอบระบบแอร์เป็นประจำ (เพราะใช้งานบ่อยในสภาพอากาศร้อน) และดูแลป้องกันสนิมช่วงล่างโดยเฉพาะในฤดูฝน จะช่วยยืดอายุการใช้งานรถได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆในระดับเดียวกัน ซีวิค แฮทช์แบ็กยังคงจุดเด่นด้านความคล่องตัวของพื้นที่ใช้สัยและสมรรถนะการขับขี่แบบฉบับฮอนด้า เหมาะกับครอบครัวรุ่นใหม่หรือผู้ที่มองหารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
Q
"รถ Honda Civic Hatchback ปี 2021 มีมูลค่าเท่าไหร่?"
ราคาขายต่อของ Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 ในตลาดมือสองประเทศไทยจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพรถ ระยะไมล์ อุปกรณ์และพื้นที่ โดยทั่วไปราคาอยู่ที่ประมาณ 700,000 ถึง 900,000 บาท ถ้าจะเจาะลึกหน่อย รุ่นที่ระยะไมล์ต่ำ (เช่นไม่เกิน 20,000 กิโลเมตร) และดูแลมาอย่างดีพร้อมอุปกรณ์สูงสุดอาจพุ่งไปถึง 900,000 บาท ส่วนรถที่ระยะไมล์สูงหรือเป็นรุ่นพื้นฐานก็จะถูกลง สำหรับในไทยแล้ว Civic เป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่เพราะความน่าเชื่อถือ ประหยัดน้ำมันและการออกแบบสปอร์ต โดยเฉพาะรุ่น Hatchback ที่ตอบโจทย์ทั้งความประหยัดและความสนุกในการขับขี่ ควรซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบประวัติรถให้ชัดเจน ทั้งประวัติการซ่อมและการบริการตามระยะ เพราะ Civic เป็นรถที่ครองราคาได้ดีในตลาดมือสอง แถมรถญี่ปุ่นในไทยยังมีอัตราคงราคาสูงอยู่แล้ว ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ก็อาจมองรถยี่ห้ออื่นในปีเดียวกัน แต่ต้องระวังเรื่องศูนย์บริการและอะไหล่ในระยะยาวด้วย
Q
รถ Honda Civic Hatchback ปี 2021 จะมีอายุการใช้งานได้นานแค่ไหน
อายุการใช้งานของ Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา นิสัยการขับขี่ และปัจจัยสภาพแวดล้อมเป็นหลัก หากทำตามคำแนะนำของทางผู้ผลิตในการเข้าศูนย์ทุก 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน (ตามระยะใดถึงก่อน) พร้อมใช้อะไหล่แท้และน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับสภาพอากาศไทย รถสามารถวิ่งได้เกิน 200,000 กิโลเมตรโดยยังคงสภาพเครื่องยนต์และเกียร์ที่สมบูรณ์ สภาพอากาศร้อนชื้นของไทยส่งผลต่อยางและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นพิเศษ แนะนำให้ตรวจสอบยางขอบหน้าต่าง ที่ปัดน้ำฝน และแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ กุญแจสำคัญในการยืดอายุรถคือการเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นทุก 2 ปีหรือ 40,000 กิโลเมตร และน้ำมันเกียร์ (รุ่น CVT เปลี่ยนทุก 60,000 กิโลเมตร) พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการขับระยะสั้นบ่อยๆ ที่อาจทำให้เกิดคาร์บอนสะสม สำหรับสภาพการจราจรติดขัดในไทย แนะนำให้ขับทางไกลเป็นครั้งคราวเพื่อช่วยเผาผลาญคาร์บอนในเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ 1.5T Earth Dreams ของ Civic สามารถทำงานได้อย่างมั่นคงกับน้ำมันเบนซิน 91 แต่การใช้เบนซิน 95 จะให้ประสิทธิภาพการเผาไหม้ที่ดีกว่า ในส่วนการป้องกันสนิม ถึงแม้ Honda จะเพิ่มการป้องกันสนิมสำหรับสภาพอากาศร้อนแล้ว แต่เจ้าของรถในเขตชายทะเลควรล้างช่วงล่างทุก 6 เดือน สิ่งที่น่าสนใจคือรุ่นที่ผลิตหลังปี 2021 ในไทยได้ติดตั้งระบบระบายความร้อนเกียร์ CVT รุ่นปรับปรุงใหม่เป็นมาตรฐาน ทำให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนมากขึ้น หากดูแลรักษาอย่างดี รถคันนี้สามารถใช้งานในไทยได้เกิน 15 ปีอย่างแน่นอน ซึ่งตรงกับข้อมูลในตลาดมือสองที่แสดงถึงอัตราการทรงมูลค่าที่ดีกว่าโมเดลอื่นในประเภทเดียวกัน
Q
2021 Civic Hatchback เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดไทย ด้วยความน่าเชื่อถือและประโยชน์ใช้สอยที่สืบทอดมาจากซีวิครุ่นก่อนๆ พร้อมดีไซน์ Hatchback ที่ขับสวนและจอดในซอยแคบๆ ในกรุงเทพฯ ได้สะดวกกว่า รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้กำลัง 173 แรงม้า มาพร้อมเกียร์ CVT หรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด แอร์เย็นฉ่ำแม้อากาศเมืองไทยจะร้อนจัด ส่วนเรื่องประหยัดน้ำมันก็ทำได้ดี โต๊ะเครื่องจัดวางแบบใช้งานง่าย พร้อมหน้าจอสัมผัส 7 นิ้วที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ด้านความปลอดภัยมีระบบ Honda SENSING รวมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้และช่วยเบรกเมื่อเสี่ยงชน ช่วยรับมือสภาพการจราจรที่คาดเดาไม่ได้ในไทย จุดเด่นคือสามารถพับเบาะหลังลงเพื่อขนของใหญ่ๆ อย่างทุเรียนได้สบายๆ เมื่อเทียบกับซีวิคซีดาน รุ่น Hatchback นี้ขับลื่นไหลกว่า โดยเฉพาะเวลาขับขึ้นเขาลงเขาทางคดเคี้ยวแถวเชียงใหม่ ส่วนเรื่องค่าขายต่อก็อยู่ในระดับดีเมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน ค่าดูแลรักษาก็ไม่แรงเกินไป ถือเป็นรถที่ตอบโจทย์ทั้งใช้งานในเมืองและทริปเที่ยวสุดสัปดาห์ได้ดีทีเดียว
Q
Honda Civic Hatchback ใช้น้ำมันอย่างไรต่อกิโลเมตรหลอดน้ำ?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามข้อมูลจากผู้ผลิตอยู่ที่ 5.8 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ซึ่งสามารถคำนวณเป็นอัตราสิ้นเปลืองต่อกิโลเมตรได้ โดยนำ 5.8 ÷ 100 = 0.058 ลิตร หมายความว่ารถคันนี้จะใช้น้ำมันประมาณ 0.058 ลิตรต่อการวิ่ง 1 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองจริงอาจมีความผันแปรตามพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุกของรถ เช่น หากมีการเร่งเครื่องกะทันหัน เบรกบ่อย หรือจอดติดเครื่องยนต์นาน ๆ อาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น แต่ถ้าขับขี่ในสภาพถนนที่ดี และมีพฤติกรรมการขับขี่ที่นุ่มนวล อัตราสิ้นเปลืองจริงก็อาจเข้าใกล้ตัวเลขจากผู้ผลิต
Q
Honda Civic hatchback ใช้แก๊สธรรมดาได้หรือไม่?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงประเภทเบนซิน ซึ่งตามทฤษฎีสามารถใช้น้ำมันเบนซินทั่วไปได้ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบคู่มือผู้ใช้หรือข้อมูลที่ระบุบนฝาถังน้ำมันเพื่อทราบค่าความเหมาะสมของน้ำมันที่แนะนำสำหรับรถรุ่นนี้ เนื่องจากน้ำมันแต่ละชนิดมีค่าออกเทนหรือความทนทานต่อการจุดระเบิดที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้วเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนกำลังอัดสูงหรือมีระบบเทอร์โบชาร์จมักต้องใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงกว่าเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หากใช้ค่าน้ำมันที่ไม่เหมาะสมติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เครื่องยนต์สั่น เร่งไม่ขึ้น หรือสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น โดยทั่วไปเครื่องยนต์เทอร์โบจะมีความไวต่อคุณภาพและค่าของน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป ดังนั้นเพื่อรักษาสมรรถนะและความทนทานของเครื่องยนต์ การเลือกใช้น้ำมันตามที่ผู้ผลิตแนะนำถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุด
Q
Honda Civic hatchback มีประสิทธิภาพการใช้น้ำมันอย่างไร?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo 2022 มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามข้อมูลจากโรงงานอยู่ที่ 5.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร โดยใช้เชื้อเพลิงเบนซิน ตัวเลขนี้ได้จากการทดสอบในสภาพแวดล้อมมาตรฐาน ซึ่งในการใช้งานจริงอัตราสิ้นเปลืองอาจมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ลักษณะการขับขี่ สภาพถนน น้ำหนักบรรทุก และการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถ หากมีการเร่งหรือเบรกอย่างรุนแรงบ่อยครั้ง หรือปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบานานเกินไป อัตราสิ้นเปลืองก็จะสูงกว่าค่าที่ระบุไว้ ขณะที่การขับขี่อย่างนุ่มนวล รักษาความเร็วให้เหมาะสม และใช้ระบบต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น เครื่องยนต์ที่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ของรุ่นนี้ยังช่วยให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงให้กับผู้ใช้
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

1. ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมพร้อมเครื่องยนต์ L15B7 Turbo 1.5 ลิตร ที่สอดคล้องกับระบบเปลี่ยนระดับอัตโนมัติ CVT ที่ฉลาด
2. มาพร้อมระบบท่อไอเสียคู่ตรงกลางที่ติดตั้งโรงงาน ช่วยประหยัดค่าแต่งตั้งให้กับลูกค้า
3. ติดตั้งระบบ Honda Sensing แสดงความสามารถในการขับขี่บนถนนที่ดี
4. ความเรียบง่ายของความปลอดภัยมีถุงลมนิรภัย 6 ถุง, กล้องตรวจสอบจุดบอด, และระบบช่วยสนับสนุนการขับขี่หลายระบบ
5. สไตล์ที่สตรีทไฟนิคร, แม้จะลงตลาดมาเรียบร้อยแล้วก็ยังเด่นซ้อน, มีลูกค้าชอบฉันโฉมแฮทช์แบคแนวนอน
6. ตกแต่งภายในแนวสปอรตสบาย ๆ, วัสดุที่ทันสมัย, พื้นที่ขาที่กว้างขวาง, มากมายและสนุก
7. มีภาพลักษณ์ที่น่ารัก, เครือข่ายบริการที่กว้างขวาง

ข้อเสีย

1. ราคาสูงที่สุดในระดับเดียวกัน ราคาใหม่ 122.9 ล้านบาท สูงกว่าคู่แข่งที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา
2. มีเพียงหนึ่งรุ่น ลูกค้ามีตัวเลือกน้อย
3. ในด้านความสบายของรถ ชุดล่างต้องปรับ มั่นใจไม่เต็มที่

Q&A ล่าสุด

Q
Chery Omoda 5 เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือไม่?
รุ่น Chery Omoda 5 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยส่วนใหญ่จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ไม่ใช่ระบบสี่ล้อขับเคลื่อน โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์รุ่นทั่วไปมักจะเน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหน้าเป็นหลัก ระบบขับเคลื่อนแบบนี้เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและสภาพถนนทั่วไป สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้ดี แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดต้นทุนได้อีกด้วย แต่ในบางตลาด เช่น อินโดนีเซีย อาจจะมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและระบบสี่ล้อขับเคลื่อน ระบบขับเคลื่อนแต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกัน ระบบสี่ล้อขับเคลื่อนมักจะแสดงประสิทธิภาพโดดเด่นในสภาพถนนที่ซับซ้อน อากาศเลวร้าย หรือเมื่อต้องการกำลังส่งและความมั่นคงสูงกว่า เช่น ในถนนหิมะ ถนนโคลน หรือสภาพถนนออฟโรด ส่วนระบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ต้นทุนต่ำกว่า และให้ความสะดวกสบายรวมถึงประหยัดน้ำมันได้ดีกว่าในการขับขี่ในเมือง
Q
Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์น้ำมันเบนซินใช่หรือไม่?
ใช่แล้ว Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน แม้ว่าชื่อของมันอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นรถพลังงานใหม่ แต่จริงๆ แล้วมันคือรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน Omoda 5 ถูกออกแบบมาในตำแหน่ง SUV ขนาดกะทัดรัด ด้วยดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น หน้าตาหน้ารถมาพร้อมกับคอนเซปต์แบบไร้กรอบโครเมี่ยม เน้นลวดลายกริลโล่ขนาดใหญ่เล็กสลับกัน พร้อมไฟหน้าแบบแยกส่วนที่ดูเฉียบคมและจัดเรียงในรูปแบบเมทริกซ์ ด้านข้างเป็นสไตล์เรียวลู่หลังคาแบบลอยตัว เส้นสายตัวรถที่ตัดเป็นช่วงๆ เพิ่มความรู้สึกด้านเทคโนโลยี มาพร้อมล้อสปอร์ตสีดำ ขนาดตัวรถคือ 4400/1830/1585 มม. ระยะฐานล้อ 2630 มม. รถน้ำมันรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานประจำวันและความสนุกในการขับขี่ แถมยังให้ประสบการณ์ด้านสมรรถนะที่คุ้มค่า
Q
รถยนต์ Chery Omoda 5 SUV กำลังถูกเรียกคืนทันทีหรือไม่?
ณ เวลานี้ยังไม่มีข่าวสารอย่างเป็นทางการจาก Chery ที่ระบุว่า SUV รุ่น Omoda 5 จะมีการเรียกกลับในทันที โดยปกติแล้วการเรียกกลับรถยนต์จะเกิดขึ้นเมื่อพบข้อบกพร่องที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพการทำงานของรถ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตจะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดและแจ้งให้ผู้บริโภครับทราบผ่านช่องทางทางการ เช่น การประกาศจากเว็บไซต์ทางการ การแจ้งเตือนจากตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น หากผู้ใช้งานต้องการติดตามข้อมูลการเรียกกลับของรถรุ่นนี้ สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ทางการของ Chery บัญชีโซเชียลมีเดียทางการ หรือสอบถามโดยตรงที่ตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นที่ได้รับอนุญาต พวกเขาจะสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเกี่ยวกับสถานะของรถรุ่นนี้ เพื่อให้เจ้าของรถสามารถรับทราบและดำเนินการแก้ไขในกรณีที่มีการเรียกกลับ
Q
รถ Chery Omoda 5 ประหยัดน้ำมันไหม?
Chery Omoda 5 รุ่นต่างๆ จะมีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่น 1.5T ที่ระบุในรายการนั้นมีการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 7.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นพื้นฐานที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 7.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะสั้นในช่วงวันหยุด ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน หรือน้ำหนักบรรทุก ดังนั้นตัวเลขการใช้น้ำมันจริงของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมันที่สุด ควรขับขี่อย่างนุ่มนวล ใช้แอร์อย่างเหมาะสม และไม่ควรปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบานานเกินไป นอกจากนี้ Chery ยังแนะนำให้ใช้เชื้อเพลิง 95 RON สำหรับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรใช้เบนซิน 91 RON ก็เพียงพอ การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามที่กำหนดจะช่วยรักษาประสิทธิภาพของรถและช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น
Q
Chery Omoda 5 มีคะแนนความปลอดภัยเท่าไหร่?
รถ Chery Omoda 5 ในปี 2022 ได้รับการประเมินความปลอดภัย 5 ดาวจาก ANCAP ครับ ในส่วนการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ได้คะแนน 87% ส่วนเด็กได้ 88% ส่วนผู้ใช้ถนนที่เปราะบางได้ 68% และระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยได้ 83% รุ่นนี้ติดตั้งถุงลมนิรภัยถึง 7 ตัว รวมถึงถุงลมนิรภัยกลางสำหรับผู้โดยสารแถวหน้า นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบเบรกอัตโนมัติความเร็วต่ำ (AEB) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมช่วยควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยรักษาเลนในกรณีฉุกเฉิน ระบบตรวจสอบจุดบอด ระบบเตือนเมื่อถอยหลังพร้อมเบรกอัตโนมัติ ระบบตรวจสอบการละสายตาของคนขับ ระบบช่วยควบคุมในจราจรติดขัด ระบบแสดงข้อมูลความเร็วตามป้ายจราจร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และกล้องมองรอบคัน 360 องศา ด้วยฟีเจอร์และคะแนนแบบนี้บอกได้เลยว่าเรื่องความปลอดภัยนั้นค่อนข้างดีทีเดียว ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกมั่นใจได้ระดับนึงเลยล่ะ
ดูเพิ่มเติม