Q

Jaecoo J8 ต้องการน้ำมันเท่าใดต่อ 100 กิโลเมตร

ถ้าคุณหมายถึง Jeep Wrangler J8 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 8.8 ถึง 12.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร โดยเมื่อขับบนทางด่วนจะใช้น้ำมันน้อยลง ประมาณ 9.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร แต่เมื่อขับในเมืองที่รถติดหนัก อัตราสิ้นเปลืองอาจสูงถึงกว่า 14 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เนื่องจากใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ 3.6 ลิตร น้ำหนักรถ และการออกแบบเพื่อสมรรถนะออฟโรดทำให้น้ำมันหมดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม การรักษาความดันลมยางให้เหมาะสม ตรวจสอบระบบเบรกอย่างสม่ำเสมอ บำรุงรักษาและเปลี่ยนไส้กรอง รวมถึงเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอ จะช่วยลดการใช้น้ำมันและเพิ่มความประหยัดได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหมายถึง Jaecoo J8 รุ่นอื่น ๆ เนื่องจากขาดข้อมูลที่ชัดเจน จึงไม่สามารถให้ข้อมูลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันได้ในตอนนี้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
JAECOO J8 มีแรงบิดเท่าไหร่
JAECOO J8 ติดตั้งเครื่องยนต์ 2.0T ที่มีแรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร แรงบิดเป็นตัวชี้วัดสำคัญในวงการรถยนต์ แสดงถึงกำลังที่เครื่องยนต์ส่งออกจากเพลาข้อเหวี่ยง แรงบิดสูงช่วยให้รถมีพละกำลังเพียงพอเมื่อต้องออกตัว เร่งความเร็ว หรือขึ้นทางชัน โดยเฉพาะเมื่อต้องบรรทุกหนักหรือขับบนถนนที่มีสภาพไม่ดี ตัวเลขแรงบิดของ JAECOO J8 ร่วมกับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด ทั้งรุ่นขับสองล้อและขับสี่ล้อ มอบประสบการณ์ขับขี่ที่มั่นใจในทุกสถานการณ์ รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและเส้นทางพิเศษได้อย่างดี
Q
Jaecoo J8 มีความลึกของการคลาดน้ำเท่าใด?
Jaecoo J8 มีความสามารถลุยน้ำลึกได้สูงสุด 680 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าโดดเด่นในกลุ่ม SUV ขนาดเดียวกัน เหมาะอย่างยิ่งกับถนนที่มีน้ำขังในช่วงฤดูฝนของประเทศไทย ตัวเลขนี้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดโดยระบบไฟฟ้าและตำแหน่งท่อดักอากาศได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัยตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตามขณะขับลุยน้ำควรรักษาความเร็วคงที่และหลังจากผ่านควรแตะเบรกเบาๆ เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรกเพิ่มเติม ความสามารถในการลุยน้ำยังขึ้นอยู่กับแรงยึดเกาะของยางและความเร็วของกระแสน้ำ หากใช้งานในพื้นที่น้ำท่วมบ่อยอย่างกรุงเทพควรพิจารณาติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่แนะนำโดยศูนย์บริการเช่นท่อดักอากาศแบบยกสูงเพื่อเพิ่มความปลอดภัย หลังจากลุยน้ำควรล้างทำความสะอาดใต้ท้องรถทันทีเพื่อป้องกันสนิมและการกัดกร่อน
Q
Jaecoo J8 ใช้ระบบส่งกำลังแบบใด
Jaecoo J8 มีระบบขับเคลื่อนให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์สันดาปและรุ่นปลั๊กอินไฮบริด รุ่นเครื่องยนต์สันดาปติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0T กำลังสูงสุด 249 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อและขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก รองรับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะไกล ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดมาพร้อมระบบขับเคลื่อนที่ผสานเครื่องยนต์เบนซิน 1.5T กับมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์มีกำลังสูงสุด 115 กิโลวัตต์ ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ NMC จากบริษัท Gotion High Tech ซึ่งระบบนี้รวมข้อดีของทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน ให้ทั้งพลังขับเคลื่อนที่ดีเยี่ยมและประหยัดเชื้อเพลิงพร้อมลดการปล่อยมลพิษ
Q
Jaecoo 8 มีความยาวเท่าไหร่
Jaecoo 8 มีความยาวตัวถัง 4820 มิลลิเมตร รถ SUV ขนาดกลางรุ่นนี้มีมิติตัวถังยาว 4820 กว้าง 1930 สูง 1699 ระยะฐานล้อ 2820 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงในตลาด ความยาวของรถช่วยให้การจัดวางภายในห้องโดยสารมีความสะดวกสบาย รองรับการจัดที่นั่งที่กว้างขวางโดยเฉพาะในรุ่นที่มีเจ็ดที่นั่งที่ให้พื้นที่กว้างขวางทั้งแถวที่สองและสาม อีกทั้งยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่เพียงพอรองรับได้ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันหรือการท่องเที่ยวระยะไกลกับครอบครัวและเพื่อนฝูง การทำความเข้าใจขนาดรถถือเป็นสิ่งสำคัญเมื่อต้องพิจารณาความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานจริง
Q
Jaecoo J8 ไฟฟ้าหรือไม่
Jaecoo J8 ไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ล้วน แต่ใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร รหัส SQRF4J20C โดยใช้เทคโนโลยีวงจรมิลเลอร์อัตคินสัน บล็อกกระบอกสูบอะลูมิเนียม และระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงตรง ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ ACTECO เจเนอเรชันที่สามที่พัฒนาโดยความร่วมมือระหว่าง Chery และบริษัทวิศวกรรม AVL จากออสเตรีย นอกจากนี้ Chery ยังเคยเผยโฉมรุ่นปลั๊กอินไฮบริด Jaecoo J8 PHEV ซึ่งรองรับโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรดที่ชาญฉลาด ประหยัด และปลอดภัย หากคุณมีแผนจะซื้อรถแนะนำให้ติดตามข้อมูลข่าวสารของรุ่นนี้อย่างใกล้ชิดหรือไปที่โชว์รูมเพื่อรับข้อมูลโดยละเอียดจะช่วยให้เลือกได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด
Q
Jaecoo J8 มีอุปกรณ์เสริมอะไรบ้าง
Jaecoo J8 มาพร้อมอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานได้จริงหลายรายการ ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุหนังสังเคราะห์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมฟังก์ชันเบาะนั่งแบบปรับอุ่น มาพร้อมหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาที่ช่วยให้ห้องโดยสารโปร่งโล่งยิ่งขึ้น ติดตั้งกล้องรอบคัน 360 องศาและระบบเซนเซอร์จอดรถหน้าและหลังช่วยให้จอดรถได้สะดวกยิ่งขึ้น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอุณหภูมิสำหรับผู้โดยสารตอนหลังรวมถึงแถวที่สามมีช่องแอร์และพอร์ตชาร์จ USB แยกต่างหากพร้อมแผ่นชาร์จไร้สายและหน้าจอมาตรวัด LCD ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบความปลอดภัยเป็นจุดเด่นประกอบด้วยระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง ADAS เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB และถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบป้องกันเครื่องยนต์ถูกขโมย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ภายนอกติดตั้งไฟหน้า LED ไฟตัดหมอก LED กระจกมองข้างปรับพับอัตโนมัติพร้อมระบบไล่ฝ้า ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและยกระดับประสบการณ์การเดินทาง
Q
J8 มีความเร็วสูงสุดเท่าไหร่
Jaecoo J8 มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานบนทางหลวงในประเทศไทย ระบบขับเคลื่อนได้รับการปรับจูนมาเป็นพิเศษเพื่อให้มีกำลังที่ต่อเนื่องควบคู่กับความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายทั้งในเมืองและพื้นที่ภูเขาในประเทศไทย แม้รถจะรองรับการใช้งานความเร็วสูงได้ดีแต่แนะนำให้ลดความเร็วลงเมื่อเจอสภาพถนนลื่นหรือในช่วงอากาศร้อนเพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์และเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่ ความมั่นคงในความเร็วสูงของรถรุ่นนี้มาจากการออกแบบช่วงล่างและล้อขนาด 20 นิ้วอย่างพิถีพิถัน อย่างไรก็ตามการขับที่ความเร็วสูงสุดเป็นเวลานานจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันและเร่งการสึกหรอของยาง การควบคุมความเร็วอย่างเหมาะสมจะช่วยให้รถแสดงสมรรถนะได้ดีที่สุด
Q
Jaecoo J8 มีแรงม้าเท่าไหร่
Jaecoo J8 มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0T กำลังสูงสุด 249 แรงม้า เครื่องยนต์รุ่นนี้ให้กำลังที่เพียงพอรองรับการใช้งานทั้งในเมืองที่ต้องเจอกับการหยุดและออกตัวบ่อยครั้งได้อย่างราบรื่น และยังตอบสนองดีในการขับทางไกลหรือใช้ความเร็วสูง เช่น การเร่งแซงบนทางด่วน Jaecoo J8 มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถเพิ่มความสามารถในการขับผ่านเส้นทางลื่นหรือทางออฟโรดเบาๆ ได้ดีขึ้น เพิ่มทั้งความสนุกในการขับขี่และความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่
Q
Jaecoo J8 มีความจุถังเชื้อเพลิงเท่าไหร่
Jaecoo J8 มาพร้อมความจุถังน้ำมันขนาด 58 ลิตร ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับการเดินทางระยะไกลควบคู่กับความประหยัดเชื้อเพลิง สำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย ความจุระดับนี้สามารถให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 600 ถึง 700 กิโลเมตรในสภาพถนนแบบผสมขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่และสภาพเส้นทาง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเส้นทางยอดนิยมอย่างกรุงเทพถึงเชียงใหม่ที่ต้องเติมน้ำมันเพียง 1 ถึง 2 ครั้งระหว่างทาง แนะนำให้ใช้เบนซินเบอร์ 95 ตามที่แนะนำเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ตำแหน่งถังน้ำมันได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อลดความเสี่ยงจากน้ำเข้าในช่วงที่ถนนมีน้ำขัง อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบซีลฝาถังน้ำมันอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะช่วงฤดูฝนเพื่อลดความเสี่ยงจากสิ่งปนเปื้อนที่อาจส่งผลต่อระบบเชื้อเพลิง
Q
Jaecoo J8 มีพื้นที่จัดเก็บของเท่าไหร่
Jaecoo J8 มีขนาดตัวถังยาวกว้างสูงเท่ากับ 4820 1930 1699 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2820 มิลลิเมตร โดยรวมแล้วทั้งพื้นที่โดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระถือว่ากว้างขวาง อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการประกาศข้อมูลความจุห้องเก็บสัมภาระอย่างเป็นทางการ โดยปกติแล้วความสามารถในการจัดเก็บของรถยนต์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดตัวถังเพียงอย่างเดียว การออกแบบภายในก็มีผลอย่างมากเช่นกัน การออกแบบภายในของ Jaecoo J8 ที่ลงตัว เช่น ฟังก์ชันพับเบาะ ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและประโยชน์ใช้สอยของพื้นที่จัดเก็บได้อีกด้วย หากคุณมีความต้องการบรรทุกสิ่งของขนาดใหญ่ แนะนำให้ไปทดลองใช้จริงที่ผู้จำหน่ายในพื้นที่เพื่อประเมินว่าเพียงพอต่อความต้องการในชีวิตประจำวันและการเดินทางหรือไม่

ข้อดี

การออกแบบส่วนนอกที่สไตล์ทำให้ดูน่าสนใจ
คุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยรับประกันความปลอดภัย
ส่วนภายในที่สบายให้การขับขี่ที่น่าพอใจ
ประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่ดีเพื่อการขับขี่ที่ราบรื่น

ข้อเสีย

การใช้เชื้อเพลิงอาจสูงขึ้นเล็กน้อย
ผู้ใช้บางคนรู้สึกว่าระบบโทรคมนาคมระหว่างผู้ขับและรถซับซ้อน
ระยะห่างขาในเบาะหลังอาจกว้างขึ้น

Q&A ล่าสุด

Q
Ram 2500 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
Ram 2500 มีหลายรุ่นย่อยให้เลือก ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีราคาที่แตกต่างกัน โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2,359,686 บาท ช่วงราคาของ Ram 2500 ค่อนข้างกว้าง เนื่องจากแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของอุปกรณ์ ความแรงของเครื่องยนต์ และระดับความหรูหรา เช่น รุ่น Tradesman 6.4L V8 ถือเป็นรุ่นเริ่มต้น ราคาจะย่อมเยากว่า ขณะที่รุ่น Limited 6.7L I-6 มาพร้อมอุปกรณ์ครบครันและหรูหรายิ่งขึ้น ราคาก็จะสูงตามไปด้วย ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณค่ะ
Q
Ram 2500 ราคาเท่าไหร่?
รถ Ram 2500 มีหลายรุ่น และราคาแตกต่างกันไปตามรุ่นแต่ละรุ่น ราคา Ram 2500 Tradesman 6.4L V8 2023 คือ 1,610,368 บาท ราคา Ram 2500 Big Horn 6.4L V8 2023 คือ 1,775,776 บาท ราคา Ram 2500 Laramie 6.4L V8 2023 คือ 2,228,638 บาท ราคา Ram 2500 Rebel 6.4L V8 2023 คือ 2,447,900 บาท ราคา Ram 2500 Power Wagon 6.4L V8 2023 คือ 2,451,397 บาท ราคา Ram 2500 Limited Longhorn 6.7L I-6 2023 คือ 2,934,682 บาท ราคา Ram 2500 Limited 6.7L I-6 2023 คือ 3,069,142 บาท ราคาเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยต่างๆ เช่น การจัดแต่งรถ และนโยบายของผู้จำหน่าย เป็นต้น ระหว่างการซื้อแนะนำให้สอบถามผู้จำหน่ายในท้องถิ่นเพื่อรับราคาที่ถูกต้องที่สุด
Q
Tank 700 มีความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถเท่าไหร่?
ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถของ Tank 700 จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและระบบช่วงล่างที่เลือก รุ่นมาตรฐานจะมีความสูงจากพื้นอยู่ที่ 245 มิลลิเมตร ส่วนรุ่นที่มาพร้อมระบบช่วงล่างแบบถุงลม (Air Suspension) จะสามารถปรับระดับความสูงได้ตั้งแต่ 255 ถึง 282 มิลลิเมตร โดยความสูงสูงสุดที่ทำได้คือ 282 มิลลิเมตร ระบบช่วงลมสามารถปรับระดับความสูงของรถได้ทั้งแบบอัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ และแบบปรับด้วยตัวเอง ช่วยให้ผู้ขับสามารถปรับช่วงล่างให้เหมาะกับเส้นทางหรือสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่น ระยะห่างจากพื้นมากขึ้นยังช่วยให้รถผ่านเส้นทางขรุขระ เนินสูง หรือพื้นที่มีน้ำขังได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงที่ใต้ท้องรถจะกระแทกกับสิ่งกีดขวาง ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
Q
Tank 700 มีที่นั่งกี่ที่?
รถถัง 700 มีการจัดวางแบบ 5 ที่นั่ง ซึ่งการออกแบบนี้ช่วยให้ผู้โดยสารภายในรถมีพื้นที่นั่งกว้างขวางและสะดวกสบาย รถมีความยาว 5,110 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,122 มิลลิเมตร ความสูง 1,986 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร ขนาดตัวรถที่ใหญ่โตนี้เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับความสบายของรูปแบบการจัดวาง 5 ที่นั่ง นอกจากนี้เบาะนั่งยังมีฟังก์ชันนวด และพนักพิงแถวหลังสามารถปรับเอนได้ เพื่อเพิ่มความสบายให้กับผู้โดยสาร พร้อมทั้งยังมีโซนควบคุมเครื่องปรับอากาศอิสระสำหรับแถวหลัง เพื่อยกระดับความสะดวกสบายในการโดยสารอีกด้วย การจัดวาง 5 ที่นั่งนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวขนาดเล็กหรือผู้ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายของพื้นที่ภายในรถ ซึ่งช่วยให้ทุกคนในรถมีพื้นที่เพียงพอและสนุกกับการเดินทางที่สุขสบาย
Q
ถังน้ำมันขนาด 700 แกลลอน กินน้ำมันประมาณไหน?
น้ำมัน 700 แกลลอน เมื่อแปลงเป็นลิตร จะประมาณ 2,649.79 ลิตร (1 แกลลอน เท่ากับประมาณ 3.78541 ลิตร) อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น ประเภทรถ ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง, SUV หรือรถกระบะ ซึ่งความจุเครื่องยนต์และน้ำหนักรถที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น ทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันแตกต่างกันอย่างมาก สไตล์การขับขี่ การขับขี่แบบรุนแรงที่เร่งเครื่องและเบรกกระทันหันบ่อยครั้งจะสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าการขับขี่อย่างนุ่มนวล สภาพถนน การขับขี่บนถนนในเมืองที่ติดขัดกับบนทางหลวงที่โล่งจะทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันแตกต่างกัน ในประเทศไทย ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินต่อวันสูงถึง 30 ล้านลิตร ยานพาหนะแต่ละประเภทจะมีการสิ้นเปลืองน้ำมันและระยะทางในการขับขี่ที่แตกต่างกันเมื่อใช้น้ำมัน 700 แกลลอน ตัวอย่างเช่น หากรถมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน 10 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เมื่อเติมน้ำมันเต็มถัง 700 แกลลอน ในทางทฤษฎีรถสามารถขับได้ 26,497.9 กิโลเมตร แต่ในทางปฏิบัติจะมีความแตกต่างอย่างมากเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น สไตล์การขับขี่และสภาพถนน
ดูเพิ่มเติม