Q
ราคา Lotus Emeya ปี 2025 อยู่ที่เท่าไหร่?
รถ Lotus Emeya รุ่นปี 2025 ที่จะวางจำหน่ายในตลาดไทยคาดการณ์ว่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 15-18 ล้านบาท (ราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับสเปก ภาษี และอัตราแลกเปลี่ยน) สำหรับ GT คาร์ไฟฟ้าสุดแรงคันนี้มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Twin Motor ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 905 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.78 วินาที และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 600 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) ด้วยดีไซน์แอโรไดนามิกส์ที่รวมถึงกริลล์และสปอยเลอร์อัจฉริยะที่ปรับตัวได้ ทำให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำเพียง 0.21
สำหรับคนไทยแล้ว Emeya นั้นตอบโจทย์ทั้งเรื่องการชาร์จเร็ว (ชาร์จไฟ 350kW ใช้เวลาเพียง 15 นาทีเพื่อเติมแบตฯ ถึง 80%) ซึ่งเหมาะกับเครือข่ายสถานีชาร์จรถไฟฟ้าที่กำลังขยายตัวในประเทศไทย แถมยังมีระบบช่วงล่างอัจฉริยะและระบบพวงมาลัยหลังที่ช่วยให้ขับเคลื่อนทั้งในเมืองและเส้นทางคดเคี้ยวบนภูเขาได้อย่างมั่นใจ
ที่สำคัญ Lotus จำหน่ายผ่านช่องทางทางการในไทย พร้อมบริการรับประกันเต็มรูปแบบ (รวมถึงการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 16 หมื่นกม.) และทางแบรนด์กำลังขยายศูนย์บริการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์คนไทยมากยิ่งขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ใครคือเจ้าของ Lotus Emeya?
Lotus Emeya คือรถสปอร์ตไฟฟ้า 4 ประตูคันแรกของ Lotus แบรนด์รถสปอร์ตหรูจากอังกฤษ โดยเป็นรถที่อยู่ภายใต้การดูแลของกลุ่ม Lotus ซึ่งกลุ่ม Lotus นี้ถูกควบรวมโดย Geely กลุ่มบริษัทชั้นนำจากจีนตั้งแต่ปี 2017 พร้อมกับที่ Etika Automotive จากมาเลเซียก็ถือหุ้นส่วนอยู่ด้วย ทำให้การพัฒนาและบริหาร Emeya แห่งนี้ได้รวมเอาทรัพยากรและความเชี่ยวชาญจากทั้งสามประเทศเข้าด้วยกัน รุ่นนี้ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ Lotus กำลังเดินหน้าสู่ตลาดรถไฟฟ้าและตลาดรถหรู โดยยังคงดีไซน์ที่ยึดหลักแอโรไดนามิกส์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ พร้อมระบบชาร์จเร็วแรงดันสูง 800V ที่ทันสมัย ทั้งความทนทานและสมรรถนะ มุ่งสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ สำหรับผู้บริโภคไทยแล้ว โลตัสเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในจุดเด่นเรื่องน้ำหนักเบาและความสนุกในการขับขี่ ส่วนการนำ Emeya เข้าสู่ประเทศไทยน่าจะผ่านเครือข่ายระดับโลกของ Geely ซึ่งจะช่วยเพิ่มตัวเลือกรถไฟฟ้าให้ตลาดไทยได้อีกหนึ่งตัว ที่สำคัญ รัฐบาลไทยเองก็กำลังส่งเสริมอุตสาหกรรม EV อย่างแข็งขัน ทั้งมาตรการลดภาษีและการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้นรถสปอร์ตไฟฟ้าสมรรถนะสูงอย่าง Emeya ในอนาคตอาจได้ประโยชน์จากนโยบายเหล่านี้ แต่แผนการจดทะเบียนเฉพาะจะต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลอย่างเป็นทางการ
Q
ความเร็วสูงสุดของ Lotus Emeya ปี 2025 คือเท่าไหร่?
รถ Lotus Emeya รุ่นปี 2025 นั้นทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 256 กม./ชม. สำหรับรถ GT หรูไฟฟ้าล้วนคันนี้มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยมอเตอร์คู่ ให้กำลังสุงสูงถึง 905 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.78 วินาที แสดงถึงศักยภาพของ Lotus ในยุคไฟฟ้าแบบเต็มสูบ สำหรับผู้ใช้ไทยแล้ว ความเร็วระดับนี้ตอบโจทย์การขับขี่บนทางหลวงระหว่างเมืองเช่นจากกรุงเทพไปพัทยาได้สบายๆ แต่อย่าลืมว่ารถบ้านเราเขามีกฎหมายจำกัดความเร็วที่ 120 กม./ชม. นะ Emeya มาพร้อมระบบไฟฟ้าแรงดันสูง 800V ที่รองรับการชาร์จเร็ว 350kW แค่ชาร์จ 5 นาทีก็เพิ่มระยะทางได้ 180 กม. ซึ่งเข้ากับสถานีชาร์จในไทยที่เริ่มมีเยอะขึ้นทุกวัน แถมยังมีระบบพวงมาลัยหลังแบบแอคทีฟและระบบช่วงล่างปรับอากาศ ช่วยให้ขับทั้งในเมืองที่มีสภาพถนนซับซ้อนหรือบนเส้นทางคดเคี้ยวอย่างถนนขึ้นดอยสุเทพเชียงใหม่ได้อย่างมั่นใจ เรียกได้ว่า Emeya เป็นโมเดลสำคัญที่แสดงถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคไฟฟ้าของ Lotus โดยยังคงดีเอ็นเอด้านสมรรถนะเหมือนเดิม แต่เพิ่มความหรูและเทคโนโลยีอัจฉริยะมาให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่ไฟฟ้าระดับพรีเมียมแบบใหม่สุดๆ
Q
ใครเป็นเจ้าของ Lotus ในปี 2024?
ในปี 2024 Lotus เป็นบริษัทในเครือของ Geely กลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากจีน ที่เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ Lotus เมื่อปี 2017 และกลายเป็นบริษัทแม่ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้ Lotus ได้รับทั้งเงินทุนสนับสนุนและเทคโนโลยีสำคัญ ช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าและการขยายตัวในตลาดโลก สำหรับตลาดไทย Lotus ก็ค่อยๆ สร้างความนิยมให้กับแบรนด์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการเปิดตัวรุ่น Eletre ที่ดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่สนใจรถไฟฟ้าสมรรถนะสูง การสนับสนุนจากเจ้อหลี่ไม่เพียงเสริมความแข็งแกร่งด้านการวิจัยและพัฒนา แต่ยังช่วยเรื่องช่องทางการจัดจำหน่ายและบริการหลังการขายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย ที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า ทั้งมาตรการลดภาษีและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเปิดโอกาสทางการตลาดให้แบรนด์อย่าง Lotus ในอนาคตคาดว่า Lotus อาจเพิ่มการลงทุนในไทยมากขึ้น พัฒนารุ่นรถที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทย พร้อมใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของ Geely ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อยกระดับระบบจัดจำหน่ายและบริการ ให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภคไทย
Q
“Lotus Emeya เป็นรถที่ดีหรือไม่?”
รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง Emeya รุ่นนี้ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในตลาดไทย ด้วยสถาปัตยกรรมระบบไฟฟ้า 800 โวลต์ที่รองรับการชาร์จเร็ว 350 กิโลวัตต์ แค่ชาร์จ 15 นาทีก็เติมแบตได้ถึง 80% ซึ่งตอบโจทย์โครงข่ายสถานีชาร์จในไทยที่กำลังพัฒนาอย่างดี โดยเฉพาะเส้นทางยาวๆ แบบกรุงเทพฯ-พัทยาที่คนไทยนิยมขับกัน รถรุ่นนี้วิ่งได้ไกลถึง 600 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC และด้วยภูมิประเทศแบบราบเรียบของไทย ก็ทำให้การใช้งานจริงน่าจะได้ระยะทางตามนี้แน่นอน นอกจากนี้ระบบพวงมาลัยหลังและระบบกันสะเทือนแบบแอร์ซัสเพนชันยังช่วยให้ขับเคลื่อนในสภาพถนนเมืองไทยได้ดี ทั้งซอยสุขุมวิทคับแคบหรือถนนลื่นๆ ช่วงหน้าฝน ก็ควบคุมทิศทางได้มั่นใจ อินทีเรียที่ใช้เส้นใยรีไซเคิลและวัสดุรักษ์สิ่งแวดล้อมก็เข้ากับเทรนด์รักษ์โลกที่คนไทยให้ความสำคัญ
ที่พลาดไม่ได้คือมาตรการสนับสนุนรถ EV ของรัฐบาลไทย ทั้งลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ทำให้รถไฟฟ้าระดับพรีเมียมอย่าง Emeya นี้ราคาจับต้องได้มากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าสภาพอากาศร้อนๆ ของไทยก็เป็นบททดสอบสำหรับระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ แนะนำให้ลองขับสักหน่อยก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะระบบแอร์และระบบป้องกันแบตเตอรี่ร้อนเกิน
สรุปแล้ว Emeya ที่ผสมผสานระหว่างสมรรถนะการขับขี่สไตล์อังกฤษกับเทคโนโลยีไฟฟ้านี้ เป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจในตลาดรถไฟฟ้าระดับสูงของไทย
Q
รถ Lotus Emeya รุ่นปี 2024 มีราคาเท่าไหร่?
รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง Lotus Emeya รุ่นปี 2024 คาดว่าจะวางจำหน่ายในตลาดไทยด้วยราคาประมาณ 15-18 ล้านบาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสเปก อัตราแลกเปลี่ยนและภาษีนำเข้า) โดยรุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์รุ่นเรือธงของ Lotus ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบทวิมอเตอร์ ให้กำลังสูงสุดถึง 905 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.8 วินาที และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 600 กม. ตามมาตรฐาน WLTP การออกแบบยังคงแนวคิดน้ำหนักเบาแบบ Lotus พร้อมทั้งติดตั้งชุดแอร์โรไดนามิกส์และใช้วัสดุภายในห้องโดยสารระดับพรีเมียม ในตลาดไทย Emeya จะแข่งขันกับรถยนต์อย่าง Porsche Taycan Turbo S แต่ด้วยสไตล์การขับแบบอังกฤษและดีเอ็นเอจากสนามแข่งอาจดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบความสนุกสนานในการขับขี่ สิ่งที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยมีมาตรการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (ตามความจุแบตเตอรี่) ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการจัดจำหน่ายได้บ้าง ส่วนเรื่องสถานีชาร์จ ในเมืองหลักของไทยได้วางสถานีชาร์จเร็ว 350kW ที่สามารถชาร์จไฟจาก 10% เป็น 80% ได้ภายใน 18 นาที สำหรับผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบราคาล่าสุดและนัดทดลองขับผ่านเว็บไซต์ Lotus ประเทศไทย รวมทั้งควรติดตามนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าเช่นมาตรการ EV 3.5 ว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่
Q&A ล่าสุด
Q
รถ Land Rover Discovery รุ่นปี 2020 จะใช้งานได้นานแค่ไหน?
รถ Land Rover Discovery รุ่นปี 2020 หากได้รับการบำรุงรักษาอย่างถูกต้องตามกำหนด สามารถใช้งานได้นานกว่า 15 ปี หรือวิ่งได้เกิน 250,000 กิโลเมตร โดยอายุการใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการขับขี่ ในประเทศไทยที่อากาศร้อนชื้น อาจส่งผลต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยางของรถ แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อน แอร์ และซีลอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือนตามที่ผู้ผลิตแนะนำ นอกจากนี้สภาพถนนบางพื้นที่ในไทยอาจขรุขระ จึงควรตรวจสอบระบบช่วงล่างและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นประจำเพื่อความมั่นใจเวลาขับบนเส้นทางยากลำบาก การเลือกใช้อะไหล่แท้หรืออะไหล่ทดแทนคุณภาพสูงจะช่วยยืดอายุรถได้ และควรหลีกเลี่ยงการใช้งานหนักหรือขับในสภาวะ extremes ต้องยอมรับว่ารถ SUV ระดับหรูอย่าง Discovery ค่าบำรุงจะสูงกว่าปกติ แต่การดูแลที่ดีจะช่วยเพิ่มความทนทานให้รถได้มาก สำหรับคนที่ใช้รถในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ ควรให้ความสนใจระบบเบรกและเกียร์เป็นพิเศษ เพราะการจอดเดินบ่อยๆ ทำให้ชิ้นส่วนเหล่านี้สึกหรอเร็ว
Q
รถ Land Rover Discovery Sport ปี 2020 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
รุ่นปี 2020 ของรถยนต์ Land Rover นั้นให้ความน่าเชื่อถือในระดับปานกลาง จุดเด่นอยู่ที่ความหรูหราของห้องโดยสาร ประสิทธิภาพการขับขี่ออฟโรดที่แข็งแกร่ง และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ทันสมัย โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายในช่วงฤดูฝนของไทย แต่ระบบอิเล็กทรอนิกส์อาจมีปัญหาเล็กน้อยบ่อยกว่ารถคู่แข่งจากญี่ปุ่น แนะนำให้ผู้บริโภคไทยตรวจสอบสภาพการทำงานของระบบกันสะเทือนแบบปรับระดับลม (ถ้ามี) ในสภาพอากาศร้อนชื้นเป็นพิเศษ และควรเปลี่ยนน้ำมันดิฟเฟอเรนเชียลเป็นประจำเพื่อรับมือกับการขับลุยน้ำบ่อยๆ ที่น่าสนใจคือตลาดไทยมีบริการรับประกันจากศูนย์ถึง 5 ปี ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้มาก แต่ถ้าซื้อรถมือสองต้องระวังเป็นพิเศษเรื่องความเร็วในการตอบสนองของหน้าจอกลางและสภาพการเสื่อมของยางรองรับช่วงล่าง เมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน Land Rover มีศูนย์บริการครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯ ค่อนข้างดี แต่ในต่างจังหวัดอาจต้องรออะไหล่นานกว่า สำหรับคนไทยที่เน้นการขับออฟโรด ระบบ Terrain Response ในรุ่น Discovery Sport ปี 2020 สามารถปรับตัวอัจฉริยะให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศทุกแบบในไทย ตั้งแต่ภูเขาจนถึงชายหาด แนะนำให้ตรวจสอบสถานะของเหลวกรณีโอนทุก 20,000 กิโลเมตรในการใช้งานจริงเพื่อความน่าเชื่อถือ
Q
เครื่องยนต์ใน Discovery Sport คืออะไร?
Discovery Sport ในปัจจุบันมีตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่แตกต่างกัน ในประเทศไทยมักพบเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Ingenium เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ และเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 3 สูบ รุ่นดีเซลให้กำลัง 150 แรงม้าและแรงบิด 380 นิวตันเมตร เหมาะกับการขับทางไกลและเส้นทางภูเขาในไทย ส่วนรุ่นเบนซิน 1.5 ลิตรเน้นประหยัดน้ำมันในเมือง ทุกรุ่นมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ พิเศษสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย Discovery Sport มาพร้อมระบบจัดการอุณหภูมิอัจฉริยะที่ช่วยรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดีที่สุด นอกจากนี้ลูกค้าไทยยังสามารถเลือกรุ่นที่ติดตั้งระบบ Mild Hybrid 48V ซึ่งช่วยเก็บพลังงานขณะเบรกและจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าในรถ ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มักจะเผชิญกับการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ในส่วนของการดูแลรักษา แนะนำให้ผู้ใช้ในไทยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน และควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมาก เครื่องยนต์เหล่านี้ได้รับการปรับแต่งเฉพาะสำหรับสภาพอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ทำงานได้อย่างมั่นคงในสภาพอากาศร้อนชื้น
Q
เครื่องยนต์ที่ใช้ใน Discovery Sport 2020 มีอะไรบ้าง?
รถยนต์ Land Rover Discovery Sport รุ่นปี 2020 ในตลาดประเทศไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จจากซีรีส์ Ingenium และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ โดยรุ่นเบนซินให้กำลังสูงสุด 249 แรงม้า ส่วนรุ่นดีเซลอยู่ที่ 204 แรงม้า ทั้งคู่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวร ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและการลุยเส้นทางออฟโรดแบบเบาๆ ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย เครื่องยนต์ทั้งสองแบบนี้มีประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีและให้แรงบิดสูงที่รอบต่ำ (โดยเฉพาะเครื่องดีเซลที่เหมาะกับสภาพการจราจรที่ต้องหยุด-บ่อยครั้ง) พร้อมผ่านมาตรฐานการปล่อยไอเสีย Euro 5 ของไทย ที่น่าสนใจคือคนไทยนิยมใช้รุ่นดีเซลมากกว่า เพราะประหยัดน้ำมันเมาะมากสำหรับการเดินทางไกลและเส้นทางภูเขา แถมระบบ Hybrid แบบ 48V ยังช่วยให้การทำงานของระบบ Start-Stop นุ่มนวลขึ้นและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ถ้าพูดถึงรถนำเข้าแบบขนานในตลาดไทย อาจจะเจอรุ่น P300e แบบปลั๊กอินไฮบริดที่วิ่งได้ประมาณ 55 กิโลเมตรด้วยไฟฟ้าล้วน เหมาะกับเมืองติดจารจรอย่างกรุงเทพฯ แต่ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของสถานีชาร์จให้ดี ส่วนเรื่องการบำรุงรักษา ไม่ว่าจะเลือกใช้เครื่องยนต์แบบไหน การเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นสม่ำเสมอและเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นก็สำคัญมากต่ออายุการใช้งานของเครื่องยนต์
Q
รถ Range Rover Sport ปี 2020 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
รถรุ่น Land Rover Range Rover Sport ปี 2020 ในด้านความน่าเชื่อถือถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ระบบขับเคลื่อนและสมรรถนะออฟโรดได้รับการยกย่องเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตรและระบบ Terrain Response ที่เหมาะกับสภาพทางภูเขาและถนนช่วงฤดูฝนของไทย แต่ระบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบช่วงล่างแบบลมอาจมีปัญหาเล็กน้อยบ้าง แนะนำให้ทำการบำรุงรักษาเป็นประจำ สำหรับการใช้ในไทยต้องระวังผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนชื้นต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่อาจเพิ่มภาระให้เกียร์ ดังนั้นการเลือกศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิตจึงสำคัญมาก เมื่อเทียบกับรถ SUV ระดับเดียวกัน รถคันนี้ทำออฟโรดได้ดีกว่าหลายรุ่น แต่ค่าซ่อมบำรุงแพงกว่ารถหรูจากญี่ปุ่น ในตลาดไทยมักพบเป็นรุ่นดีเซลที่ประหยัดน้ำมัน แต่ต้องระวังคุณภาพน้ำมันดีเซลท้องถิ่น ส่วนในตลาดรถมือสอง รุ่นที่มีประวัติการบำรุงรักษาครบถ้วนจะได้รับความนิยมมากกว่า แนะนำให้ตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนซื้อ
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย