Q

รถ Isuzu D-Max 2022 มีพละกำลังเป็นอย่างไง?

รถยนต์ Isuzu D-Max รุ่นปี 2022 ที่วางขายในตลาดไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลาย โดยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.9 ลิตร รหัส RZ4E ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร รหัส 4JJ3-TCX ให้กำลังสูงถึง 190 แรงม้าและแรงบิดสุดเหวี่ยง 450 นิวตันเมตร ทั้งสองรุ่นมาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและการลุยออฟโรด ด้วยแรงบิดสูงของ D-Max ทำให้เหมาะเป็นพิเศษกับการบรรทุกและการปีนเขาภายใต้สภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและอากาศร้อนของไทย นอกจากนี้เทคโนโลยี VGS เทอร์โบแบบปรับผันแปรได้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและลดต้นทุนการใช้งาน ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพาร์ทไทม์และล็อก Differential หลังทำให้การขับเคลื่อนบนถนนลูกรังหรือเส้นทางโคลนในช่วงฤดูฝนของไทยเป็นเรื่องง่ายดาย ตัวถังทำจากเหล็กความแข็งแรงสูง พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก ASEAN NCAP คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้เป็นรถยอดนิยมในตลาดรถกระบะไทยที่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและความน่าเชื่อถือ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
2022 D-MAX มีแรงม้าเท่าไหร่?
สำหรับรุ่นปี 2022 ของ Isuzu D-MAX ในตลาดไทย มีตัวเลือกเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ แบบแรกเป็นเครื่องดีเซลเทอร์โบ 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ที่แรงกว่าคือรุ่น 3.0 ลิตร เทอร์โบดีเซล ที่ให้กำลังถึง 190 แรงม้าและแรงบิดสูงถึง 450 นิวตันเมตร ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ทั่วไปและการลุยออฟโรด ด้วยแรงบิดสูงของ D-MAX ทำให้เหมาะเป็นพิเศษกับการขับขึ้นเขาและเดินทางไกลในสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและอากาศร้อนของไทย นอกจากนี้เทคโนโลยี VGS หรือ Variable Geometry System ยังช่วยลดอาการเทอร์โบแลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่น่าสนใจคือโครงสร้างตัวถังแบบแชสซีแยกและระบบล็อกดิฟเฟอเรนเชียลหลัง ทำให้ D-MAX เป็นที่นิยมในหมู่เกษตรกร ชาวประมง และคนรักกิจกรรมกลางแจ้งในไทย และที่สำคัญคือรถรุ่นนี้ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ล่าสุดของไทย ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Isuzu ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Q
"ความจุของถังน้ำมันสำหรับ 2022 D-MAX คือเท่าไหร่?
รถกระบะ D-MAX รุ่นปี 2022 มีความจุถังน้ำมันถึง 76 ลิตร ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งการเดินทางไกลและการใช้งานประจำวัน โดยเฉพาะในประเทศอย่างไทยที่มีภูมิประเทศหลากหลายและมักต้องเดินทางไกล ถังน้ำมันขนาดใหญ่แบบนี้ช่วยลดความถี่ในการเติมน้ำมัน ทำให้สะดวกสบายมากขึ้น D-MAX เป็นรถกระบะที่คนไทยนิยมมาก แถมยังประหยัดน้ำมันดี คู่กับเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูง ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานอีกด้วย สำหรับคนที่ต้องขนของหรือออฟโรดบ่อยๆ ความจุถังน้ำมันถือเป็นปัจจัยสำคัญ ถัง 76 ลิตรของ D-MAX นั้นจัดอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางสูงเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน ทำให้วิ่งได้ไกลพอสมควร นอกจากนี้ในไทยมีปั๊มน้ำมันกระจายอยู่ค่อนข้างหนาแน่น แต่ถ้าต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกลหรือขึ้นเขาลงเขา ถังน้ำมันใหญ่จะเห็นข้อเด่นชัดเจน แนะนำให้เจ้าของรถวางแผนจุดเติมน้ำมันล่วงหน้าในการเดินทางไกล เพื่อให้การเดินทางราบรื่น
Q
เครื่องยนต์ใน Isuzu D-Max 2022 คืออะไร?
รถปิกอัพ Isuzu D-Max รุ่นปี 2022 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 1.9 ลิตร รหัส RZ4E-TC และ 3.0 ลิตร รหัส 4JJ3-TCX โดยเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและประหยัดน้ำมันเป็นพิเศษ เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองและการเดินทางไกลในไทย ส่วนเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 190 แรงม้าและแรงบิดสูงถึง 450 นิวตันเมตร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องบรรทุกหนักหรือขับบ่อยในพื้นที่ภูเขา ทั้งสองรุ่นสามารถเลือกได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์ออโต้ 6 สปีด และผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ล่าสุดของไทย ที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลของ Isuzu ได้รับการยอมรับในเรื่องความทนทานและค่าบำรุงรักษาต่ำ แม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยก็ยังทำงานได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้ D-Max ยังติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพาร์ทไทม์ ช่วยให้ขับเคลื่อนบนถนนลูกรังในช่วงฤดูฝนได้อย่างมั่นใจ ความนิยมของรถปิกอัพรุ่นนี้ในตลาดไทยมาจากการออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง โดยลูกค้าสามารถเลือกเครื่องยนต์ให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเองได้ว่าจะเน้นพลังหรือประหยัดน้ำมันมากกว่า
Q
Isuzu D-Max 2022 มีกี่กิโลวัตต์ (kW)?
Isuzu D-Max รุ่นปี 2022 มีกำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) จากเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร เทอร์โบ ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ (190 แรงม้า) ทั้งสองรุ่นจับคู่กับเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้บริโภคชาวไทยให้ความสนใจเป็นพิเศษกับความทนทานและประหยัดน้ำมันของรถกระบะ D-Max ใช้เทคโนโลยี Blue Power Diesel ที่ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพและผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดของประเทศไทย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเพลาท้าย D-Max มีระบบล็อคเฟืองท้าย (Time Fractional Quad Drive) และระบบล็อคเฟืองท้าย (Differial Lock) ที่เหมาะกับสภาพถนนที่เต็มไปด้วยโคลนในฤดูฝน นอกจากนี้ ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ เช่น Adaptive Cruise และ Lane Keep ที่ติดตั้งในรถยนต์คันนี้ ยังช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการขับขี่ได้อย่างมากท่ามกลางการจราจรที่หนาแน่นในกรุงเทพฯ ตลาดไทยให้การยอมรับในวัฒนธรรมการดัดแปลงรถกระบะเป็นอย่างดี การออกแบบตัวถังและอุปกรณ์ตกแต่งที่หลากหลายของ D-Max ทำให้เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบการดัดแปลงรถกระบะ ตั้งแต่แร็คกันสะเทือนสำหรับรถบรรทุกไปจนถึงการอัพเกรดช่วงล่าง
Q
รถ D-Max 2022 มีขนาดเท่าไหร่?
รถกระบะ D-Max รุ่นปี 2022 เป็นที่นิยมมากในตลาดไทย ด้วยขนาดตัวรถที่ยาว 5,265 มิลลิเมตร กว้าง 1,870 มิลลิเมตร สูง 1,790 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 3,125 มิลลิเมตร ทำให้ขับเคลื่อนได้สะดวกทั้งในเมืองและเส้นทางชนบทของไทย พร้อมยังมีกระบะขนสินค้าขนาด 1,495 มิลลิเมตร × 1,530 มิลลิเมตร × 490 มิลลิเมตร ที่เหมาะสำหรับการบรรทุกของหรืออุปกรณ์ออกค้างแรม D-Max 2022 ในไทยยังมีหลายรุ่นให้เลือก ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร และ 1.9 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 2WD และ 4WD เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ทุกกลุ่ม สำหรับคนไทย รถกระบะไม่ใช่แค่รถทำงาน แต่ยังเป็นรถครอบครัวที่ครบครัน D-Max 2022 จึงโดดเด่นด้วยความทนทานและใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงระบบความปลอดภัยเช่น ABS, EBD และถุงลมนิรภัยหลายจุด ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดไทย ทั้งการเดินทางไกลและการใช้ชีวิตประจำวัน
Q
Isuzu D-Max มีระยะความสูงจากพื้นเท่าไหร่?
รถปิคอัพ Isuzu D-Max รุ่นปี 2022 มีระยะความสูงจากพื้น 240 มม. ซึ่งถือว่าโดดเด่นในกลุ่มรถปิคอัพด้วยกัน ทำให้สามารถขับเคลื่อนบนเส้นทางหลากหลายแบบในประเทศไทยได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นถนนลูกรังในชนบท สภาพถนนที่มีน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝน หรือแม้แต่ทางออฟโรดแบบเบาๆ ด้วยการออกแบบโครงสร้างช่วงล่างที่มีความแข็งแกร่ง พร้อมระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดี D-Max จึงไม่เพียงให้ความมั่นใจในเรื่องการขับขี่ผ่านเส้นทางยากๆ แต่ยังรักษาความมั่นคงขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ทั้งใช้ชีวิตในเมืองก็ขนของเป็นประจำ ระยะความสูงจากพื้นนับเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บอกถึงความสามารถในการผ่านพ้นสิ่งกีดขวาง ยิ่งตัวเลขสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งลดโอกาสการเกิดรอยขีดข่วนที่ช่วงล่าง แต่ก็ต้องระวังเรื่องจุดศูนย์ถ่วงที่สูงขึ้นอาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงในโค้ง ซึ่ง D-Max ก็จัดการจุดนี้ได้อย่างลงตัว ด้วยการปรับแต่งที่แม่นยำ และยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเลือกได้ (Part-time 4WD) ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการหลุดพ้นจากปัญหาได้ได้อีกด้วย สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเดินทางไปและกลับจากสวนอุตสาหกรรมรอบกรุงเทพฯ หรือบริเวณภูเขาทางตอนเหนือเป็นประจำ การออกแบบดังกล่าวช่วยลดความเสี่ยงต่อความเสียหายที่เกิดจากพื้นผิวถนนที่ขรุขระได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการรักษาสนิมจากโรงงานเดิมยังคำนึงถึงลักษณะภูมิอากาศของประเทศไทยที่มีอุณหภูมิสูงและความชื้นสูง การใช้งานในระยะยาวจึงสบายใจยิ่งขึ้น
Q
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Isuzu D-Max 2022 คือเท่าไร?
รถปิกอัพ Isuzu D-Max รุ่นปี 2022 ในไทยนั้นประหยัดน้ำมันได้ดีมากครับ ตัวเลขการบริโภคน้ำมันจะแตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน สำหรับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.9 ลิตร จะวิ่งได้ประมาณ 15-17 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนรุ่น 3.0 ลิตรเทอร์โบจะอยู่ที่ 13-15 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ตัวเลขจริงอาจขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ ถนน และน้ำหนักบรรทุกด้วยนะ ในสภาพอากาศร้อนและเส้นทางขึ้นเขาของไทย แนะนำให้เจ้าของรถดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบลมยางให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการเร่งหรือเบรกกระทันหัน จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นครับ Isuzu D-Max เป็นปิกอัพยอดนิยมในตลาดไทย ด้วยเทคโนโลยีเครื่องดีเซลที่เชื่อถือได้และความประหยัดน้ำมันที่ถือเป็นจุดเด่นสำคัญ เหมาะมากสำหรับทั้งการใช้งานทั่วไปและการขนส่งของในชีวิตประจำวัน แถมเครือข่ายบริการหลังการขายของ Isuzu ในไทยก็ครอบคลุม ทำให้สะดวกในการดูแลรักษารถอีกด้วย
Q
"ความจุของถังน้ำมันสำหรับ 2022 D-MAX คือเท่าไหร่?
รถปิคอัพ D-MAX รุ่นปี 2022 มีความจุถังน้ำมัน 76 ลิตร ซึ่งถือเป็นขนาดมาตรฐานในกลุ่มรถปิคอัพระดับเดียวกัน ทำให้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขาหรือการเดินทางข้ามจังหวัดของไทย ที่ถังน้ำมันขนาดใหญ่จะช่วยลดความถี่ในการเติมน้ำมัน เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ อย่างไรก็ตาม ระยะทางจริงที่วิ่งได้ยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ น้ำหนักบรรทุกและสภาพถนน เช่น การเร่ง-เบรกบ่อยหรือการขับขึ้นเขาจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถปิคอัพ นอกจากความจุถังน้ำมันแล้ว อาจลองดูเรื่องประหยัดน้ำมันของรถด้วย อย่าง D-MAX ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 1.9T และ 3.0T ที่ทั้งแรงและประหยัด เหมาะกับสภาพการใช้งานที่หลากหลายในไทย แถมสถานีน้ำมันในไทยก็มีเยอะ ถัง 76 ลิตรนี้ส่วนใหญ่ก็วิ่งได้สบายๆระหว่างปั๊ม แต่ถ้าไปเที่ยวพื้นที่ห่างไกล แนะนำให้วางแผนจุดเติมน้ำมันล่วงหน้าจะดีกว่า
Q
เครื่องยนต์อะไรอยู่ใน Isuzu D-MAX 2022?
สำหรับรุ่นปี 2022 ทาง Isuzu D-MAX ในตลาดไทยได้เตรียมเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูงและความน่าเชื่อถือไว้ให้เลือก 2 รุ่น คือ 1.9 ลิตร RZ4E-TC และ 3.0 ลิตร 4JJ3-TCX เทอร์โบชาร์จ ซึ่งทั้งคู่ใช้เทคโนโลยีคลีนดีเซลอันล้ำสมัยจากอีซูซุ ที่ผ่านมาตรฐานสิ่งแวดล้อมล่าสุดของไทย เครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร เหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดน้ำมัน ส่วนเครื่อง 3.0 ลิตร ให้กำลังแรงถึง 190 แรงม้าและแรงบิด 450 นิวตันเมตร เลยเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องลากของหนักหรือขับบนทางเขาบ่อยๆ ด้วยสภาพอากาศร้อนและภูมิประเทศเป็นภูเขาในไทย D-MAX ออกแบบระบบระบายความร้อนพิเศษมาเพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องยนต์จะทำงานได้อย่างเสถียรแม้อยู่ในอุณหภูมิสูงหรือทางชัน แถมทั้งสองรุ่นยังติดตั้ง DPF (ตัวกรองอนุภาคดีเซล) ที่ช่วยให้ได้ทั้งกำลังเครื่องยนต์แรงๆ และยังผ่านกฎหมายควบคุมมลพิษอันเข้มงวดของไทย สำหรับคนไทยที่ต้องขับทั้งในซอยแคบๆ หรือขึ้นเขาลงห้วยบ่อยๆ D-MAX ถือว่าเหมาะมากเพราะเครื่องยนต์ถูกออกแบบมาให้มีแรงบิดสูงแม้รอบต่ำ ช่วยให้ขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัวทั้งให้กำลังดีและประหยัดน้ำมันไปพร้อมๆ กัน นี่แหละที่เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ D-MAX ยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถกระบะไทยมาอย่างยาวนาน
Q
รถ Isuzu D-Max 2022 ราคาเท่าไหร่?
รถยนต์ปิกอัพ Isuzu D-Max รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยมีราคาอยู่ระหว่าง 579,000 บาท ถึง 1,199,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก เช่น ระบบขับเคลื่อน ประเภทเกียร์ และระดับความหรูหรา โดยรุ่นพื้นฐานอย่าง Cab 4x2 กับรุ่นท็อปอย่าง Prestige 4x4 จะมีราคาต่างกันค่อนข้างมาก ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2 แบบคือ 1.9L และ 3.0L ให้เลือก ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและเกียร์ออโต้ 6 สปีด พ่วงได้หนักสุดถึง 3.5 ตัน เหมาะกับทุกการใช้งานในไทย ทั้งขับในเมืองหรือขนส่งการเกษตร จุดเด่นคือ D-Max เป็นรถที่ค่าตัวคงทนมาก แถมศูนย์บริการอิซูซุก็มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ แม้ในต่างจังหวัดก็เข้าถึงง่าย ส่วนคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux และ Ford Ranger ก็มีจุดเด่น แต่ D-Max ยังคงเป็นที่นิยมอันดับต้นๆ ในตลาดปิกอัพไทย เพราะค่าบำรุงรักษาถูกและความทนทานเป็นเลิศ ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้ไปทดลองขับและเปรียบเทียบที่ตัวแทนจำหน่ายตามงบประมาณและความต้องการจริงๆของแต่ละคน

ข้อดี

รูปลักษณ์ทรงพลังและทันสมัย สายการวาดตามธรรมชาติ การจับคู่ของไฟหน้าและกริดที่ทันสมัย
ภายในรถกว้างขวาง ที่นั่งแถวหน้านุ่มสบาย การออกแบบคอนโซลส่วนกลางเป็นประโยชน์และมีฟังก์ชั่นครบครัน
มีเครื่องยนต์สองรุ่นที่ให้เลือก ทนทานและประหยัดน้ำมัน
บริการหลังการขายยอดเยี่ยม ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ดูแลอย่างดียิ่ง ราคาอะไหล่ไม่สูง มีศูนย์บริการทั่วประเทศ
ราคาของรถมือสองไม่ลดลงมาก ฐานรถสามารถดูดซับการสั่นสะเทือนได้ดีเมื่อขับขี่ในเมือง

ข้อเสีย

หน้ารถและกริลล์ไม่สอดคล้องกัน
เครื่องยนต์ 1.9 ลิตรเร่งความเร็วไม่ทันเวลาโดยเฉพาะในฟาสท์องค์และการแซง
เมื่อความเร็วสูงขึ้น ชาซีนิ่มเกินไป มีความเอียงชัดเจนในทางโค้ง
หลังจากการใช้งานเป็นระยะหนึ่ง มีเสียงแปลกๆ เมื่อหมุนพวงมาลัย

Q&A ล่าสุด

Q
“Ford Everest จะเปิดตัวในปี 2025 ใช่หรือไม่?”
ขณะนี้ทาง Ford ประเทศไทยยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับแผนการนำเข้า Ford Everest รุ่นปี 2025 แต่ด้วยความนิยมของรุ่นนี้ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประสิทธิภาพที่โดดเด่นของ Everest รุ่นปัจจุบันในไทย คาดว่าความเป็นไปได้ที่จะมีการนำเข้ารุ่นใหม่ค่อนข้างสูง สำหรับ Everest 2025 คาดว่าจะยังคงตำแหน่ง SUV แข็งแกร่ง พร้อมอาจอัพเกรดเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะและระบบความบันเทิงที่ทันสมัยขึ้น ซึ่งอัพเดตเหล่านี้เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายรูปแบบในไทยและความต้องการเทคโนโลยีของผู้บริโภค แนะนำให้ติดตามข้อมูลล่าสุดผ่านเว็บไซต์ Ford ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ สำหรับคนไทยที่กำลังมองหา SUV ทาง Everest Series ได้รับความนิยมจากสมรรถนะออฟโรดและพื้นที่กว้างขวางโดยเฉพาะในเขตภูเขาและชนบททางภาคเหนือของไทย ส่วนรุ่นอื่นในระดับเดียวกันเช่น Toyota Fortuner หรือ Mitsubishi Pajero Sport ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ควรทดลองขับและเปรียบเทียบตามความต้องการและงบประมาณของแต่ละคน
Q
Ford กำลังจะออก SUV รุ่นใหม่ในปี 2025 หรือไม่?
จากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน Ford มีแผนที่จะเปิดตัว SUV รุ่นใหม่ในปี 2025 โดยคาดว่าน่าจะเป็นรุ่นไฟฟ้าหรือไฮบริด เพื่อตอบสนองเทรนด์ตลาดรถยนต์โลกที่กำลังเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาด สำหรับตลาดไทย Ford เองก็มีการนำเข้า SUV หลายรุ่นอย่าง Everest และ EcoSport ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทยมาโดยตลอด การเปิดตัว SUV รุ่นใหม่นี้จะช่วยเสริมสายผลิตภัณฑ์ของ Ford ในไทยให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในแง่ของพื้นที่ใช้งาน ประสิทธิภาพ และความรักษ์สิ่งแวดล้อม ไทยถือเป็นตลาดรถยนต์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความต้องการ SUV สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดและไฟฟ้าที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล SUV รุ่นใหม่ของ Ford อาจมีการออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของคนไทย เช่น ระบบปรับอากาศที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนหรือช่วงล่างที่ทนทานมากขึ้น นอกจากนี้ นโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยอาจทำให้รถรุ่นนี้มีความน่าสนใจในด้านราคามากขึ้น หากต้องการข้อมูลที่แน่นอน แนะนำให้ติดตามข่าวสารล่าสุดจากเว็บไซต์ฟอร์ดประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่
Q
รถยนต์รุ่นใดที่จะหยุดการผลิตในปี 2025?
จากสถานการณ์อุตสาหกรรมรถยนต์โลกและการปรับกลยุทธ์ของบางแบรนด์ในปัจจุบัน คาดว่าภายในปี 2025 จะมีรถบางรุ่นที่ทยอยหยุดผลิตเนื่องจากอัปเดตสายการผลิตหรือเปลี่ยนไปผลิตรถไฟฟ้า เช่น รุ่นดีเซลของ Toyota Land Cruiser Prado ในตลาดไทยอาจลดลงเนื่องจากกฎหมายเรื่องการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้น ส่วน Mitsubishi Pajero ที่หยุดผลิตไปแล้วทั่วโลกตั้งแต่ปี 2021 อาจยังเหลือสต็อกขายในไทยไปจนถึงปี 2025 ผู้บริโภคไทยควรระวังว่าเมื่อรัฐบาลเพิ่มนโยบายสนับสนุนรถพลังงานสะอาด รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ขนาดใหญ่อาจค่อยๆ หายไปจากตลาด เช่น Ford ประกาศแล้วว่าจะหยุดขายรถน้ำมันในยุโรปก่อนปี 2025 แต่สำหรับตลาดไทยยังต้องรอฟังประกาศจากตัวแทนจำหน่ายอีกที แนะนำให้เจ้าของรถไทยติดตามข่าวการหยุดผลิตจากช่องทางทางการ และลองศึกษารุ่นรถไฟฟ้าทดแทนล่วงหน้า เช่น รถพลังงานใหม่ของ BYD หรือ MG ที่เปิดตัวในไทย เพื่อเตรียมพร้อมรับเทรนด์ในอนาคต นอกจากนี้ไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตรถยนต์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาจจะมีรถไฮบริดและรถไฟฟ้าเข้ามาแทนที่รถน้ำมันแบบเดิม ผู้บริโภคควรพิจารณาค่าใช้จ่ายและสิทธิประโยชน์จากนโยบายต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อรถคันต่อไป
Q
Ford Everest 2025 ราคาเท่าไหร่?
คาดว่าราคาของ Ford Everest รุ่นปี 2025 ในตลาดไทยจะอยู่ที่ประมาณ 1.8 ถึง 2.5 ล้านบาท โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องแต่งตัว เช่น รุ่นพื้นฐาน XL และรุ่นสูงสุด Platinum ที่มีราคาห่างกันค่อนข้างมาก แนะนำให้ผู้ซื้อติดตามราคาอัปเดตล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น รุ่นนี้ยังคงดีไซน์แนว SUV ทรหด พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร หรือเครื่องยนต์ดีเซล V6 เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเต็มเวลาและระบบจัดการการขับขี่บนพื้นผิวต่างๆ เหมาะสมกับสภาพเส้นทางภูเขาและฤดูฝนของไทยเป็นอย่างยิ่ง จุดเด่นของรุ่นปี 2025 คือการอัปเกรดหน้าจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้วและหน้าจอกลางขนาด 12 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและภาพพาโนรามา 360 องศา ซึ่งเป็นการอัปเกรดที่ชัดเจนในส่วนของเทคโนโลยี ในตลาดไทย Everest มีคู่แข่งหลักอย่าง Toyota Fortuner และ Isuzu MU-X ผู้บริโภคควรเปรียบเทียบนโยบายหลังการขายที่แต่ละแบรนด์เสนอ เช่น Ford ไทยปัจจุบันให้บริการรับประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร และบางตัวแทนยังมีโปรโมชั่นบริการฟรีให้อีกด้วย เนื่องจากรัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รุ่นดีเซลของ Everest จึงได้เปรียบด้านภาษีมากกว่ารุ่นเบนซิน นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่คนไทยนิยม SUV ระบบดีเซล
Q
รถ SUV รุ่นไหนดีที่สุดที่ควรซื้อในปี 2025?
หากคุณกำลังมองหา SUV ที่มีประสิทธิภาพครบวงจรสำหรับตลาดไทยในปี 2025 มีหลายรุ่นที่น่าสนใจ เช่น โตโยต้า RAV4 Hybrid, ฮอนด้า CR-V e:HEV และ MG ZS EV ซึ่งแต่ละคันต่างโดดเด่นในเรื่องประหยัดน้ำมัน ความสะดวกสบายของพื้นที่ภายใน และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ตอบโจทย์สภาพอากาศร้อนชื้นและถนนในเมืองของไทย โตโยต้า RAV4 Hybrid เป็นตัวท็อปสำหรับครอบครัวด้วยเทคโนโลยีไฮบริดที่ผ่านการทดสอบมาแล้วและบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้ ส่วนฮอนด้า CR-V e:HEV จะเหนือชั้นในด้านความรู้สึกขณะขับขี่และความหรูหราของห้องโดยสาร แต่ถ้าชอบรถไฟฟ้า 100% MG ZS EV ก็เป็นตัวเลือกน่าจับตามองด้วยระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จและเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมในไทย แถมรัฐบาลไทยยังมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถพลังงานสะอาด ทำให้ราคาซื้อรถไฟฟ้าและไฮบริดถูกกว่าในระยะยาวยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้อีกด้วย ก่อนตัดสินใจแนะนำให้ลองขับเปรียบเทียบตามความต้องการส่วนตัว และตรวจสอบเครือข่ายบริการหลังการขายในพื้นที่ของคุณเพื่อความมั่นใจในระยะยาว
ดูเพิ่มเติม