Q

Jaecoo J8 มีพื้นที่จัดเก็บของเท่าไหร่

Jaecoo J8 มีขนาดตัวถังยาวกว้างสูงเท่ากับ 4820 1930 1699 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2820 มิลลิเมตร โดยรวมแล้วทั้งพื้นที่โดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระถือว่ากว้างขวาง อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการประกาศข้อมูลความจุห้องเก็บสัมภาระอย่างเป็นทางการ โดยปกติแล้วความสามารถในการจัดเก็บของรถยนต์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดตัวถังเพียงอย่างเดียว การออกแบบภายในก็มีผลอย่างมากเช่นกัน การออกแบบภายในของ Jaecoo J8 ที่ลงตัว เช่น ฟังก์ชันพับเบาะ ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและประโยชน์ใช้สอยของพื้นที่จัดเก็บได้อีกด้วย หากคุณมีความต้องการบรรทุกสิ่งของขนาดใหญ่ แนะนำให้ไปทดลองใช้จริงที่ผู้จำหน่ายในพื้นที่เพื่อประเมินว่าเพียงพอต่อความต้องการในชีวิตประจำวันและการเดินทางหรือไม่
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
JAECOO J8 เป็นรถยนต์ไฮบริดหรือเปล่า?
JAECOO J8 มีทั้งรุ่นเครื่องยนต์สันดาปและรุ่นปลั๊กอินไฮบริด รุ่นเครื่องยนต์สันดาปติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0T กำลังสูงสุด 249 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีด มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อ ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดใช้ระบบขับเคลื่อนผสมประกอบด้วยเครื่องยนต์ 1.5T และมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์มีกำลังสูงสุด 115 กิโลวัตต์ ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมสามธาตุจาก Gotion High Tech จึงไม่สามารถกล่าวได้ว่า JAECOO J8 เป็นรถไฮบริดเพียงรุ่นเดียว เนื่องจากมีระบบขับเคลื่อนหลายประเภทให้ผู้บริโภคเลือกตามความต้องการและความชอบ ไม่ว่าจะเป็นความแรงของเครื่องยนต์แบบดั้งเดิม หรือความประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของรถพลังงานใหม่ ทุกคนสามารถหาตัวเลือกที่เหมาะสมได้
Q
ขนาดยางสำหรับ Jaecoo J8 คือเท่าไหร่
Jaecoo J8 มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว การออกแบบล้อขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นและความมั่นคงในการควบคุมรถรวมถึงความเสถียรขณะเข้าโค้ง อย่างไรก็ตามเมื่อขับบนถนนลื่นในช่วงฤดูฝนของไทยหรือถนนชนบทที่ไม่ได้ลาดยาง แนะนำให้เลือกใช้ยางออลเทอร์เรนที่มีแก้มหนาเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและการลุยได้ดี ล้อขนาด 20 นิ้วจะส่งแรงสั่นสะเทือนมากกว่าล้อขนาด 18-19 นิ้วเมื่อผ่านทางชะลอความเร็ว แต่มีข้อดีที่การตอบสนองพวงมาลัยแม่นยำขึ้นขณะขับความเร็วสูง หากต้องการความนุ่มนวลมากขึ้นควรสอบถามกับตัวแทนจำหน่ายว่ามีล้อขนาดเล็กกว่าที่ติดตั้งจากโรงงานให้เลือกหรือไม่
Q
JAECOO J8 มีแรงบิดเท่าไหร่
JAECOO J8 ติดตั้งเครื่องยนต์ 2.0T ที่มีแรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร แรงบิดเป็นตัวชี้วัดสำคัญในวงการรถยนต์ แสดงถึงกำลังที่เครื่องยนต์ส่งออกจากเพลาข้อเหวี่ยง แรงบิดสูงช่วยให้รถมีพละกำลังเพียงพอเมื่อต้องออกตัว เร่งความเร็ว หรือขึ้นทางชัน โดยเฉพาะเมื่อต้องบรรทุกหนักหรือขับบนถนนที่มีสภาพไม่ดี ตัวเลขแรงบิดของ JAECOO J8 ร่วมกับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด ทั้งรุ่นขับสองล้อและขับสี่ล้อ มอบประสบการณ์ขับขี่ที่มั่นใจในทุกสถานการณ์ รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและเส้นทางพิเศษได้อย่างดี
Q
Jaecoo J8 ลุยน้ำได้ลึกแค่ไหน?
Jaecoo J8 มีความสามารถลุยน้ำลึกได้สูงสุด 680 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าโดดเด่นในกลุ่ม SUV ขนาดเดียวกัน เหมาะอย่างยิ่งกับถนนที่มีน้ำขังในช่วงฤดูฝนของประเทศไทย ตัวเลขนี้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดโดยระบบไฟฟ้าและตำแหน่งท่อดักอากาศได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัยตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตามขณะขับลุยน้ำควรรักษาความเร็วคงที่และหลังจากผ่านควรแตะเบรกเบาๆ เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรกเพิ่มเติม ความสามารถในการลุยน้ำยังขึ้นอยู่กับแรงยึดเกาะของยางและความเร็วของกระแสน้ำ หากใช้งานในพื้นที่น้ำท่วมบ่อยอย่างกรุงเทพควรพิจารณาติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่แนะนำโดยศูนย์บริการเช่นท่อดักอากาศแบบยกสูงเพื่อเพิ่มความปลอดภัย หลังจากลุยน้ำควรล้างทำความสะอาดใต้ท้องรถทันทีเพื่อป้องกันสนิมและการกัดกร่อน
Q
Jaecoo J8 ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไหน?
Jaecoo J8 มีระบบขับเคลื่อนให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์สันดาปและรุ่นปลั๊กอินไฮบริด รุ่นเครื่องยนต์สันดาปติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0T กำลังสูงสุด 249 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อและขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก รองรับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะไกล ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดมาพร้อมระบบขับเคลื่อนที่ผสานเครื่องยนต์เบนซิน 1.5T กับมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์มีกำลังสูงสุด 115 กิโลวัตต์ ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ NMC จากบริษัท Gotion High Tech ซึ่งระบบนี้รวมข้อดีของทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน ให้ทั้งพลังขับเคลื่อนที่ดีเยี่ยมและประหยัดเชื้อเพลิงพร้อมลดการปล่อยมลพิษ
Q
Jaecoo 8 มีความยาวเท่าไหร่
Jaecoo 8 มีความยาวตัวถัง 4820 มิลลิเมตร รถ SUV ขนาดกลางรุ่นนี้มีมิติตัวถังยาว 4820 กว้าง 1930 สูง 1699 ระยะฐานล้อ 2820 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงในตลาด ความยาวของรถช่วยให้การจัดวางภายในห้องโดยสารมีความสะดวกสบาย รองรับการจัดที่นั่งที่กว้างขวางโดยเฉพาะในรุ่นที่มีเจ็ดที่นั่งที่ให้พื้นที่กว้างขวางทั้งแถวที่สองและสาม อีกทั้งยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่เพียงพอรองรับได้ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันหรือการท่องเที่ยวระยะไกลกับครอบครัวและเพื่อนฝูง การทำความเข้าใจขนาดรถถือเป็นสิ่งสำคัญเมื่อต้องพิจารณาความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานจริง
Q
Jaecoo J8 ไฟฟ้าหรือไม่
Jaecoo J8 ไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ล้วน แต่ใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร รหัส SQRF4J20C โดยใช้เทคโนโลยีวงจรมิลเลอร์อัตคินสัน บล็อกกระบอกสูบอะลูมิเนียม และระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงตรง ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ ACTECO เจเนอเรชันที่สามที่พัฒนาโดยความร่วมมือระหว่าง Chery และบริษัทวิศวกรรม AVL จากออสเตรีย นอกจากนี้ Chery ยังเคยเผยโฉมรุ่นปลั๊กอินไฮบริด Jaecoo J8 PHEV ซึ่งรองรับโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรดที่ชาญฉลาด ประหยัด และปลอดภัย หากคุณมีแผนจะซื้อรถแนะนำให้ติดตามข้อมูลข่าวสารของรุ่นนี้อย่างใกล้ชิดหรือไปที่โชว์รูมเพื่อรับข้อมูลโดยละเอียดจะช่วยให้เลือกได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด
Q
Jaecoo J8 มีอุปกรณ์เสริมอะไรบ้าง
Jaecoo J8 มาพร้อมอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานได้จริงหลายรายการ ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุหนังสังเคราะห์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมฟังก์ชันเบาะนั่งแบบปรับอุ่น มาพร้อมหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาที่ช่วยให้ห้องโดยสารโปร่งโล่งยิ่งขึ้น ติดตั้งกล้องรอบคัน 360 องศาและระบบเซนเซอร์จอดรถหน้าและหลังช่วยให้จอดรถได้สะดวกยิ่งขึ้น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอุณหภูมิสำหรับผู้โดยสารตอนหลังรวมถึงแถวที่สามมีช่องแอร์และพอร์ตชาร์จ USB แยกต่างหากพร้อมแผ่นชาร์จไร้สายและหน้าจอมาตรวัด LCD ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบความปลอดภัยเป็นจุดเด่นประกอบด้วยระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง ADAS เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB และถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบป้องกันเครื่องยนต์ถูกขโมย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ภายนอกติดตั้งไฟหน้า LED ไฟตัดหมอก LED กระจกมองข้างปรับพับอัตโนมัติพร้อมระบบไล่ฝ้า ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและยกระดับประสบการณ์การเดินทาง
Q
J8 มีความเร็วสูงสุดเท่าไหร่
Jaecoo J8 มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานบนทางหลวงในประเทศไทย ระบบขับเคลื่อนได้รับการปรับจูนมาเป็นพิเศษเพื่อให้มีกำลังที่ต่อเนื่องควบคู่กับความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายทั้งในเมืองและพื้นที่ภูเขาในประเทศไทย แม้รถจะรองรับการใช้งานความเร็วสูงได้ดีแต่แนะนำให้ลดความเร็วลงเมื่อเจอสภาพถนนลื่นหรือในช่วงอากาศร้อนเพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์และเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่ ความมั่นคงในความเร็วสูงของรถรุ่นนี้มาจากการออกแบบช่วงล่างและล้อขนาด 20 นิ้วอย่างพิถีพิถัน อย่างไรก็ตามการขับที่ความเร็วสูงสุดเป็นเวลานานจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันและเร่งการสึกหรอของยาง การควบคุมความเร็วอย่างเหมาะสมจะช่วยให้รถแสดงสมรรถนะได้ดีที่สุด
Q
Jaecoo J8 มีแรงม้าเท่าไหร่
Jaecoo J8 มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0T กำลังสูงสุด 249 แรงม้า เครื่องยนต์รุ่นนี้ให้กำลังที่เพียงพอรองรับการใช้งานทั้งในเมืองที่ต้องเจอกับการหยุดและออกตัวบ่อยครั้งได้อย่างราบรื่น และยังตอบสนองดีในการขับทางไกลหรือใช้ความเร็วสูง เช่น การเร่งแซงบนทางด่วน Jaecoo J8 มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถเพิ่มความสามารถในการขับผ่านเส้นทางลื่นหรือทางออฟโรดเบาๆ ได้ดีขึ้น เพิ่มทั้งความสนุกในการขับขี่และความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่

ข้อดี

การออกแบบส่วนนอกที่สไตล์ทำให้ดูน่าสนใจ
คุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยรับประกันความปลอดภัย
ส่วนภายในที่สบายให้การขับขี่ที่น่าพอใจ
ประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่ดีเพื่อการขับขี่ที่ราบรื่น

ข้อเสีย

การใช้เชื้อเพลิงอาจสูงขึ้นเล็กน้อย
ผู้ใช้บางคนรู้สึกว่าระบบโทรคมนาคมระหว่างผู้ขับและรถซับซ้อน
ระยะห่างขาในเบาะหลังอาจกว้างขึ้น

Q&A ล่าสุด

Q
รุ่นของ MU-X ปี 2025 มีอะไรบ้าง
รุ่นปี 2025 ของ MU-X ที่จะวางจำหน่ายในตลาดไทยคาดว่าจะมีหลายเวอร์ชันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน โดยจะมีรุ่นพื้นฐาน 2WD ระบบเกียร์ธรรมดา รุ่นกลาง 4WD เกียร์ออโต้ และรุ่นท็อปสุดหรูแบบ 7 ที่นั่ง ด้านเครื่องยนต์อาจยังคงใช้ดีเซล 3.0T แบบเดิม แต่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มตัวเลือกไฮบริดเพื่อตอบสนองเทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น สำหรับคนไทยที่สนใจ ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะใหม่ๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ จะเป็นฟีเจอร์เด่นที่ใช้งานได้ดีในสภาพอากาศที่มีฝนชุกอย่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สีตัวรถอาจเพิ่มโทนสียอดนิยมในเขตร้อนอย่างสีขาวไข่มุกและสีน้ำตาลเมทัลลิก ส่วนวัสดุภายในอาจอัปเกรดเป็นหนังสังเคราะห์ที่ทนความร้อนสูง ข้อสังเกตสำคัญคือราคาของ MU-X ในไทยมักจะแข่งขันกว่าเพื่อนบ้านแถบนี้ แถมยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุม เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องเดินทางระหว่างเมืองและต่างจังหวัดบ่อยๆ โดยคู่แข่งหลักของ MU-X ในไทยคือ Ford Everest และ Mitsubishi Pajero Sport แต่ MU-X ยังคงได้เปรียบในเรื่องความสูงจากพื้นรถและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ part-time ที่ทำให้การขับขี่ในเส้นทางเขาทางเหนือของไทยสมรรถนะดีกว่า
Q
Isuzu MUX รุ่น 2025 มีที่นั่งกี่ที่นั่ง
รถยนต์ Isuzu MU-X รุ่นปี 2025 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยมีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทั้งการใช้ในครอบครัวและงานธุรกิจ แบบ 7 ที่นั่งมีการจัดวางเบาะแบบ 2+3+2 โดยแถวกลางสามารถเลื่อนปรับได้ เพิ่มความสะดวกสบาย ส่วนแถวหลังเหมาะสำหรับเด็กหรือการเดินทางใกล้ๆ ส่วนแบบ 5 ที่นั่งนั้นให้พื้นที่กระโปรงหลังกว้างขวางกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นการบรรทุกของ เป็น SUV ยอดนิยมในไทยที่ยังคงใช้โครงสร้างแบบแชสซีแข็งแรง พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและทางออฟโรด โดยมีระยะความสูงจากพื้น 220 มม. และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบ่งเวลาที่เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายรูปแบบของไทย เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota Fortuner และ Ford Everest ที่มีตัวเลือกการจัดวางเบาะใกล้เคียงกัน แต่ MU-X ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคไทยด้วยความน่าเชื่อถือของ Isuzu ในด้านเครื่องยนต์ดีเซลและราคาที่คุ้มค่า แนะนำให้ไปทดลองนั่งและสัมผัสความสบายของเบาะที่ตัวแทนจำหน่ายในกรุงเทพฯหรือเชียงใหม่ก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
สเปคของเครื่องยนต์ดีเซลปี 2025 เป็นอย่างไร?
คาดว่าสเปคเครื่องยนต์ดีเซลในปี 2025 จะยังคงเดินหน้าอัพเกรดเทคโนโลยีเหมือนปัจจุบัน โดยเน้นไปที่การประหยัดน้ำมันและประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม พารามิเตอร์หลักๆ คาดว่าจะอยู่ที่ความจุกระบอกสูบ 2.0-3.0 ลิตร ใช้เทคโนโลยีหัวฉีดเชื้อเพลิงคอมมอนเรลแรงดันสูง ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 150-250 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 400-600 นิวตันเมตร และผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 6 หรือมาตรฐานไทยระดับ Tier 3 สำหรับตลาดไทย เครื่องยนต์ประเภทนี้น่าจะเหมาะกับรถปิกอัพและ SUV ยอดนิยมอย่าง Toyota Hilux Revo หรือ Isuzu D-MAX โดยออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น ทั้งเรื่องการระบายความร้อนและความทนทานต่อความชื้น พิเศษสำหรับคนไทยที่สนใจรถดีเซล ควรติดตามนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น การลดภาษีสำหรับรถ Eco Car รวมถึงต้องระวังเรื่องปริมาณกำมะถันในน้ำมันดีเซลไทยที่อาจส่งผลต่อ DPF ส่วนระบบออโต้สตาร์ทสต็อปและระบบไฮบริด 48V จะเป็นมาตรฐานในเครื่องยนต์รุ่นใหม่เพื่อลดการสิ้นเปลืองน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องมาตรฐาน API CK-4 เพื่อยืดอายุเครื่องยนต์
Q
“ความสามารถในการลากจูงของ Isuzu Mu-X 2025 คือเท่าไหร่?”
รุ่นปี 2025 ของ Isuzu MU-X คาดว่าจะยังคงมีความสามารถในการลากจูงที่แข็งแกร่งเช่นรุ่นปัจจุบัน ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร กำลังลากสูงสุดประมาณ 3,500 กก. เหมาะสำหรับลากเรือยอร์ช บ้านเคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์ขนาดใหญ่ ตอบสนองความต้องการการผจญภัยกลางแจ้งหรือทริปครอบครัวของผู้ใช้ไทย ภูมิประเทศภูเขาและฤดูฝนบ่อยครั้งของไทยต้องการสมรรถนะลากจูงสูง โครงสร้างตัวถังไม่รับน้ำหนักและช่วงล่างความแข็งแรงสูงของ MU-X ช่วยเพิ่มความมั่นคง ขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบแบ่งเวลาช่วยกระจายแรงขับได้อย่างมีประสิทธิภาพบนพื้นโคลนหรือทางลาดชัน สิ่งที่ควรระวังคือ การลากจูงจริงควรปฏิบัติตามกฎหมายจราจรไทยและอุปกรณ์ลากต้องได้มาตรฐานความปลอดภัย เช่น ระบบเบรกและสัญญาณไฟครบถ้วน พร้อมแนะนำตรวจสอบอุณหภูมิน้ำมันเกียร์เป็นประจำเพื่อป้องกันความร้อนสูงจากการใช้งานหนักต่อเนื่อง รถรุ่นเทียบเคียงเช่น Toyota Fortuner หรือ Ford Everest มีความสามารถลากจูงใกล้เคียงกัน แต่ MU-X ได้เปรียบในด้านค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาต่ำและเครือข่ายบริการครอบคลุมในไทย ทำให้ใช้งานได้สะดวกและคุ้มค่ามากกว่า
Q
“Isuzu MU-XX 2025 มีแรงบิดเท่าไหร่?”
รุ่นปี 2025 ของ Isuzu MU-X ในตลาดไทย ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้แรงบิดสูงถึง 450 นิวตันเมตร ซึ่งถือว่าโดดเด่นในกลุ่ม SUV ระดับเดียวกัน เหมาะอย่างยิ่งกับภูมิประเทศภูเขาและการขับทางไกลในไทย คุณสมบัติเครื่องยนต์ดีเซลที่มีแรงบิดสูงในรอบต่ำช่วยให้รถมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นเมื่อต้องบรรทุกหนักหรือขึ้นทางชัน MU-X เป็น SUV ยอดนิยมสำหรับการขับออฟโรดในไทย ด้วยโครงสร้างตัวถังไม่รับน้ำหนักและระบบขับสี่ล้อแบบแบ่งเวลา ประกอบกับแรงบิดสูง จึงสามารถรับมือกับถนนไม่ลาดยางในภาคเหนือและชนบทได้อย่างง่ายดาย สิ่งที่ควรระวังคือ คุณภาพดีเซลในไทยมีผลต่อการบำรุงรักษาเครื่องยนต์เทอร์โบ แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองมาตรฐานเดิมเป็นประจำและใช้ดีเซล B7 ขึ้นไปตามมาตรฐานประเทศ สำหรับรุ่นเทียบเคียง Toyota Fortuner เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร มีแรงบิด 500 นิวตันเมตร ส่วน Mitsubishi Pajero Sport เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร แรงบิด 430 นิวตันเมตร ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบตามความต้องการใช้งาน นอกจากนี้ ผู้ซื้อควรพิจารณากฎระเบียบการปล่อยมลพิษใหม่ที่เริ่มใช้ปี 2025 เพื่อให้มั่นใจว่ารถสอดคล้องกับมาตรฐาน Euro 6 เนื่องจากในอนาคต SUV ดีเซลในไทยอาจให้ความสำคัญกับสมดุลระหว่างแรงบิดและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ดูเพิ่มเติม