Q

Ford Everest 2007 ดีไหม

Ford Everest 2007 ในตลาดประเทศไทยมีผลการทำงานที่ดี มันมีสมรรถนะการขับขี่ทางออฟโรดที่แข็งแกร่ง สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพพื้นผิวที่หลากหลายของประเทศไทยได้ดี ด้านสมรรถนะเครื่องยนต์สามารถตอบสนองความต้องการในการขับขี่ประจำวันและเส้นทางที่มีความซับซ้อนได้พอสมควร ภายในรถมีพื้นที่กว้างขวางและนั่งสบาย อย่างไรก็ตาม การสิ้นเปลืองน้ำมันค่อนข้างสูง และค่าใช้จ่ายในการดูแลบางชิ้นส่วนอาจไม่ถูก แต่โดยรวมแล้ว สำหรับผู้ที่มีความต้องการและความชอบเฉพาะ รถคันนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
เมื่อไหร่ Ford Everest ใหม่จะเปิดตัว
ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศวันที่แน่ชัดสำหรับการเปิดตัวรุ่นใหม่ของ Ford Everest อย่างเป็นทางการ แต่โดยทั่วไป การเปิดตัวรถรุ่นใหม่มักต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้าน เช่น ความต้องการในตลาด ความก้าวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยี และแผนการดำเนินงานระดับโลก ในตลาดไทยเอง แบรนด์รถยนต์มักเลือกเปิดตัวรุ่นใหม่เมื่อมั่นใจว่าได้เตรียมพร้อมทุกด้านและตัวผลิตภัณฑ์มีความสามารถแข่งขันได้อย่างเต็มที่ คุณสามารถติดตามข่าวสารในวงการยานยนต์และข้อมูลจากทางแบรนด์เพื่อทราบข้อมูลล่าสุดที่แม่นยำ
Q
วิธีการเปิดฝากระโปรงฟอร์ดเอเวอเรสท์
การเปิดท้ายรถ Ford Everest โดยทั่วไปสามารถทำได้ผ่านปุ่มควบคุมภายในรถหรือปุ่มที่อยู่บนกุญแจรีโมท วิธีใช้งานขึ้นอยู่กับรุ่นและการติดตั้งอุปกรณ์ โดยปกติปุ่มควบคุมในรถมักอยู่ใกล้ที่นั่งคนขับ ส่วนปุ่มบนกุญแจรีโมทก็สามารถกดเพื่อเปิดท้ายได้ทันที สำหรับรุ่นที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ขั้นสูง อาจมีฟังก์ชันการเปิดท้ายแบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติ ซึ่งเพียงแค่พกกุญแจเข้าใกล้ท้ายรถ ท้ายรถก็จะเปิดเองโดยอัตโนมัติ
Q
อันไหนดีกว่า ฟอร์ดเอเวอเรสต์หรือโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์
ทั้ง Ford Everest และ Toyota Fortuner ต่างก็เป็นรถยนต์ยอดนิยมในตลาดไทย Ford Everest มีจุดเด่นที่สมรรถนะสูง การควบคุมที่ดีเยี่ยม และฟีเจอร์อุปกรณ์ที่หลากหลาย ขณะที่ Toyota Fortuner ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและประหยัดน้ำมัน พร้อมด้วยค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างต่ำ และมีมูลค่าขายต่อที่ดี การเลือกรถรุ่นใดที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและความชอบส่วนบุคคล หากคุณให้ความสำคัญกับประสบการณ์ขับขี่และเทคโนโลยีล้ำสมัย Ford Everest อาจเหมาะกว่า แต่ถ้าคุณเน้นเรื่องความเสถียรและค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่ต่ำ Toyota Fortuner ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน
Q
ยาวฟอร์ดเอเวอเรสท์เท่าไหร่
ความยาวของตัวถัง Ford Everest อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและการติดตั้งอุปกรณ์ โดยในรุ่นที่พบทั่วไป ตัวถังมีความยาวประมาณ 4,914 มิลลิเมตร
Q
Ford Everest 2022 มีสีอะไรบ้าง
Ford Everest 2022 มีตัวเลือกสีที่หลากหลายตามแต่ละรุ่น โดยทั่วไปแล้วจะมีสี Meteor Grey, Aluminium Metallic, Equinox Bronze, Absolute Black, Snow Flake White Pearl และ Luxe Yellow ให้เลือก
Q
วิธีเริ่มต้นฟอร์ด Everest ด้วยกุญแจ
โดยปกติ วิธีการสตาร์ทรถ Ford Everest จะคล้ายกับรถยนต์ทั่วไป โดยการเสียบกุญแจเข้าที่สวิตช์จุดระเบิด จากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าเกียร์อยู่ในตำแหน่งว่าง (หรือ P ในเกียร์อัตโนมัติ) จากนั้นบิดกุญแจตามเข็มนาฬิกาไปที่ตำแหน่งสตาร์ท เพื่อให้เครื่องยนต์เริ่มทำงาน อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มสตาร์ท ควรตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถให้ปลอดภัย และดูที่แผงหน้าปัดว่ามีการแจ้งเตือนความผิดปกติหรือไม่
Q
เครื่องยนต์อะไรอยู่ในฟอร์ดเอเวอเรสท์
ในตลาดประเทศไทย Ford Everest มีตัวเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ในบางรุ่นจะติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรแบบ Bi-Turbo ซึ่งให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า (155 กิโลวัตต์) ที่ 3,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ช่วง 1,750 - 2,000 รอบต่อนาที รุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์นี้ ได้แก่ 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x2 10AT, 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x4 10AT และ 2.0L Bi-Turbo WILDTRAK 10AT 4×4 ปี 2024 นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร V6 Turbo เช่น Everest 3.0L V6 Turbo Platinum 4WD 10AT ซึ่งมีกำลังสูงสุดถึง 250 แรงม้า (184 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 2,250 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะที่ทรงพลัง ในรุ่นก่อนหน้านั้นมีเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร 4 สูบ TDCI ที่ให้กำลัง 158 แรงม้า (160ps) และแรงบิด 385 นิวตันเมตร รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซล 3.2 ลิตร 5 สูบ TDCI ที่ให้กำลัง 197 แรงม้า (200ps) และแรงบิด 470 นิวตันเมตร โดยเครื่องยนต์เหล่านี้มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือเกียร์ธรรมดา และในรุ่นใหม่ยังมีเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดให้เลือกด้วย ทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4x2 และ 4x4 รวมถึงโหมดการขับขี่หลากหลายแบบ ช่วยให้ Ford Everest สามารถมอบสมรรถนะที่มั่นคงและเหมาะสมสำหรับทุกสภาพถนน
Q
วิธีการเปิดถังน้ำมันฟอร์ดเอเวอเรสต์
วิธีเปิดฝาถังน้ำมันของ Ford Everest โดยทั่วไปคือหาปุ่มเปิดฝาถังน้ำมันที่อยู่ใกล้กับที่นั่งคนขับ จากนั้นกดปุ่มเพื่อเปิดฝา แต่ทั้งนี้ในแต่ละรุ่นย่อยของ Ford Everest อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยในรายละเอียด
Q
ฟอร์ดเอเวอร์เรสท์มีที่นั่งกี่ที่
Ford Everest มีตัวเลือกการจัดวางเบาะทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลาย โดยรุ่น 5 ที่นั่งเหมาะสำหรับผู้ที่เน้นพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ส่วนรุ่น 7 ที่นั่งจะเหมาะกับการใช้งานในครอบครัว อย่างไรก็ตาม การจัดวางเบาะอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยหรือออปชันที่เลือกเพิ่ม
Q
ราคาฟอร์ดเอเวอเรสต์ใหม่เท่าไหร่
ราคาของ Ford Everest ในประเทศไทยแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดย 2.0L Turbo Trend 4x2 6AT ราคา 1,377,000 บาท, 2.0 Turbo Sport 4×2 6AT 2024 ราคา 1,507,000 บาท, 2.0 Sport 6AT Adventure Pack + DAT Pack B 2024 ราคา 1,600,000 บาท, 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x2 10AT 2024 ราคา 1,747,000 บาท, 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x4 10AT 2024 ราคา 1,897,000 บาท, 2.0 Bi-Turbo WILDTRAK 10AT 4×4 2024 ราคา 1,922,000 บาท และ 3.0L V6 Turbo Platinum 4WD 10AT ราคา 2,279,000 บาท

ข้อดี

เครื่องยนต์ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบเทวิน 2.0 มีกำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร เป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด PPV
พื้นที่ภายในรถที่มีประโยชน์จัดเป็น 7 ที่นั่ง 3 แถว ที่นั่งแถวที่สามสามารถพับลงอย่างถูกต้องด้วยกลไกไฟฟ้า
ติดตั้งอุปกรณ์ให้ครบครันเช่นประตูหลังไฟฟ้า กุญแจอัจฉริยะและระบบเริ่มต้นด้วยกดปุ่มเดียว ระบบควบคุมด้วยเสียง
การออกแบบภายนอกที่สวยงาม ติดตั้งล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้วสำหรับแบบที่ราคาสูงสุด กระจังหน้าและแถบป้องกันด้านหลังใหม่ การส่องสว่าง LED ทั้งรถ
บริการหลังการขายมีชื่อเสียงบ้าง

ข้อเสีย

10 เกียร์อัตโนมัติประสบปัญหาในการใช้งาน เช่น การเปลี่ยนเกียร์ขัดข้อง ฟอร์ดกำลังแก้ไข
การปรับปรุงรุ่นรถช้า ห่างจากการปรับปรุงครั้งล่าสุดเกือบ 2 ปี
บริการหลังการขายได้รับความคิดเห็นลบบนอินเทอร์เน็ต ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของผู้ซื้อ

Q&A ล่าสุด

Q
2022 Subaru WRX มีแรงม้าเท่าไหร่
รถยนต์ Subaru WRX รุ่นปี 2022 มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ Boxer 4 สูบ 2.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 271 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 349 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์ CVT ที่เลือกได้ ชุดขับเคลื่อนนี้ให้ทั้งพลังและความสนุกในการขับขี่ทั้งบนเส้นทางภูเขาและในเมืองของไทย ที่น่าสนใจคือการออกแบบเครื่องยนต์แบบ Boxer ที่จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการเข้าโค้งที่ไทยมีเยอะ แถมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD ยังรับมือกับถนนลื่นช่วงฤดูฝนได้ดี ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัย สำหรับคนไทยแล้ว WRX ไม่ใช่แค่รถสปอร์ตสมรรถนะสูง แต่ยังใช้งานประจําวันได้ดีด้วยการออกแบบแบบ 4 ประตู พร้อมเครือข่ายบริการหลังการขายของ Subaru ในไทยที่พร้อมให้ความมั่นใจ ถ้าอยากได้สมรรถนะสูงขึ้นไปอีก สามารถดูรุ่น WRX STI ได้ แต่ต้องระวังเรื่องภาษีรถยนต์ขนาดใหญ่ของไทยที่จะส่งผลต่อราคาสุดท้ายนะ
Q
2022 Subaru WRX ราคาเท่าไหร่?
รถ Subaru WRX รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 1.59 ถึง 1.99 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับระดับความจัดเต็มและโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย รุ่นนี้โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์แบบ Boxer และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวรที่เหมาะกับสภาพอากาศฝนตกบ่อยและถนนซับซ้อนของไทย ด้านสมรรถนะมาพร้อมเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรเทอร์โบที่ให้กำลัง 271 แรงม้าและแรงบิด 350 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์ CVT ที่จำลอง 8 สปีด ในตลาดไทย WRX มีคู่แข่งหลักๆอย่าง Honda Civic Type R และ Mitsubishi Lancer Evolution แต่จุดแข็งของ WRX คือการขับขี่ที่เหนือกว่าในทุกสภาพอากาศรวมถึงความประหยัดพื้นที่ ส่วนนึงที่คนไทยต้องรู้คือรถสมรรถนะสูงในไทยจะราคาสูงกว่าต้นทางพอสมควรเพราะเรื่องภาษีนำเข้า แนะนำให้เปรียบเทียบราคาจากหลายๆโชว์รูมก่อนตัดสินใจ ซับารุในไทยมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครบครันซึ่งเป็นจุดขายสำคัญ WRX ได้รับความนิยมจากกลุ่มคนรุ่นใหม่และคอรถสปอร์ตในไทย โดยเฉพาะดีไซน์ที่ดุดันและโอกาสในการแต่งรถที่เปิดกว้าง
Q
ยางขนาดไหนที่ติดตั้งใน Isuzu MU-X 2025
จากข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้ คาดว่ารุ่น Isuzu MU-X 2025 ที่จะวางจำหน่ายในตลาดไทยจะยังคงใช้ขนาดยางแบบเดียวกับรุ่นปัจจุบัน ซึ่งมี 2 แบบคือ 255/60 R18 และ 255/65 R17 โดยจะแยกตามระดับเครื่องแต่งรถแต่ละแบบ การเลือกขนาดยางแบบนี้ถือว่าครอบคลุมทั้งการใช้งานบนถนนทั่วไปและการขับลุยแบบเบาๆ ในสภาพเส้นทางหลากหลายแบบของไทยได้ค่อนข้างดี สำหรับเจ้าของรถในไทยที่ใช้ MU-X ซึ่งเป็น SUV โครงสร้างแบบแชสซีแข็ง ควรให้ความสำคัญกับการเลือกยางที่มีสัญลักษณ์ M+S (โคลนและหิมะ) เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานทั้งในภาคเหนือช่วงฤดูฝนและเส้นทางแถบชายทะเลภาคใต้ และต้องไม่ลืมว่ากรมการขนส่งทางบกไทยกำหนดให้ดอกยางต้องเหลือไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. ดังนั้นควรตรวจสอบสภาพยางเป็นประจำ หากต้องการเปลี่ยนยาง แนะนำให้เลือกยี่ห้อที่มีศูนย์บริการในไทย เช่น Bridgestone หรือ Michelin ที่มีการพัฒนาสูตรยางสำหรับสภาพอากาศร้อนโดยเฉพาะ ทนทานต่อความร้อนจากพื้นถนนได้ดี แถมยังคุ้มราคาหากเลือกยางที่ผลิตในไทย แต่ต้องตรวจสอบด้วยว่ายางนั้นได้มาตรฐาน TISI เพื่อความปลอดภัยตามกฎหมายไทย
Q
เครื่องยนต์ของ 2025 MU-X คืออะไร
รุ่น MU-X 2025 คาดว่าจะยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตรของอิซูซุที่ทันสมัย ซึ่งเครื่องยนต์นี้โดดเด่นในเรื่องความทนทานและการให้แรงบิดสูงที่รอบต่ำ (430 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที) ทำให้แสดงประสิทธิภาพได้ดีในสภาพพื้นที่หลากหลายของประเทศไทย พร้อมทั้งยังได้มาตรฐานยูโร 5 ซึ่งตอบโจทย์ทั้งเรื่องสมรรถนะและสิ่งแวดล้อม สำหรับตลาดไทย อิซูซุได้ปรับแต่งเครื่องยนต์ให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นเป็นพิเศษ เช่น การปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้ทนต่ออุณหภูมิสูง และออกแบบระบบฉีดเชื้อเพลิงให้เข้ากับน้ำมันดีเซลคุณภาพท้องถิ่น ที่น่าสนใจคือเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็ก 1.9 ลิตร RZ4E-TC ที่อิซูซุกำลังส่งเสริมในระยะหลังนี้อาจจะมาเป็นตัวเลือกสำหรับรุ่นเริ่มต้น โดยใช้เทคโนโลยีเทอร์โบแบบปรับ geometry ได้เพื่อประหยัดน้ำมัน (ข้อมูลทางการระบุว่าสามารถวิ่งได้ประมาณ 14-15 กิโลเมตรต่อลิตร) ซึ่งเหมาะกับเทรนด์การประหยัดพลังงานที่ไทยให้ความสำคัญมากขึ้น ผู้ใช้ในไทยสามารถเลือกได้ตามความต้องการ โดยคนที่ขับทางไกลหรือบรรทุกหนักบ่อยๆน่าจะชอบเครื่อง 3.0 ลิตรที่ให้กำลังเหลือเฟือ ส่วนครอบครัวที่ใช้ในเมืองอาจจะชอบเครื่อง 1.9 ลิตรที่ประหยัดน้ำมันมากกว่า ทั้งนี้เครือข่ายศูนย์บริการกว่า 200 แห่งของอิซูซุในไทยก็พร้อมให้บริการดูแลเครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นที่ผ่านการทดสอบสำหรับสภาพท้องถิ่นมาแล้วอย่างดี
Q
MU-X 2025 ยาวเท่าไหร่
อีซูซุ MU-X รุ่นปี 2025 มีความยาวตัวรถ 4850 มิลลิเมตร SUV ขนาดกลางรุ่นนี้ได้รับความนิยมในตลาดไทยด้วยสมรรถนะออฟโรดที่โดดเด่นและความใช้งานได้จริง เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายและการเดินทางแบบครอบครัว MU-X ยังคงโครงสร้างตัวถังแบบไม่รับน้ำหนักและระบบขับสี่ ขณะเดียวกันรุ่นปี 2025 ปรับปรุงพื้นที่ภายในให้กว้างขึ้น เบาะแถวสามมีพื้นที่ขาเพิ่มขึ้น และพื้นที่เก็บสัมภาระสามารถพับขยายได้อย่างเหมาะสม สำหรับความทนทาน เครื่องยนต์ดีเซล 3.0T ของ MU-X นอกจากสอดคล้องกับนิสัยการใช้น้ำมันในไทยแล้ว ยังมีแรงบิดสูงที่รอบต่ำเหมาะกับถนนภูเขาและการบรรทุก น้ำหนัก ตัวรถมีมุมเข้าและมุมออกดีกว่ารุ่นเดียวกัน พร้อมการขับขี่บนถนนลื่นช่วงฤดูฝนในไทย ระบบอัจฉริยะใหม่ เช่น กล้องมุมมองรอบคัน 360 องศา และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันช่วยในการขับขี่ในกรุงเทพที่รถติด MU-X เป็น SUV ที่พัฒนาจากปิกอัพขายดีในไทย มูลค่าขายต่อสูง หลังปรับโฉมล่าสุดเพิ่มดีไซน์ด้านหน้าให้ทันสมัยและไฟ LED อัปเกรดดึงดูดกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่
ดูเพิ่มเติม