Q

Ford Everest 2004 ดีไหม

Ford Everest 2004 ในตลาดประเทศไทยมีการแสดงผลที่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยรวมแล้วค่อนข้างมีจุดเด่นในหลายด้าน สมรรถนะของเครื่องยนต์ในยุคนั้นสามารถรองรับการใช้งานทั่วไปและการขับขี่แบบออฟโรดเบา ๆ ได้ดี พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้างขวาง เหมาะสำหรับการเดินทางของครอบครัวและการขนของ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังว่า เนื่องจากเป็นรถรุ่นเก่า เทคโนโลยีและฟังก์ชันต่าง ๆ อาจจะล้าสมัยไปบ้าง ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันอาจไม่ดีเท่ารถรุ่นใหม่ ๆ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอาจค่อนข้างสูง แต่ถ้าบำรุงรักษาอย่างดี รถคันนี้ยังคงถือเป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
เมื่อไหร่ Ford Everest ใหม่จะเปิดตัว
ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศวันที่แน่ชัดสำหรับการเปิดตัวรุ่นใหม่ของ Ford Everest อย่างเป็นทางการ แต่โดยทั่วไป การเปิดตัวรถรุ่นใหม่มักต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้าน เช่น ความต้องการในตลาด ความก้าวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยี และแผนการดำเนินงานระดับโลก ในตลาดไทยเอง แบรนด์รถยนต์มักเลือกเปิดตัวรุ่นใหม่เมื่อมั่นใจว่าได้เตรียมพร้อมทุกด้านและตัวผลิตภัณฑ์มีความสามารถแข่งขันได้อย่างเต็มที่ คุณสามารถติดตามข่าวสารในวงการยานยนต์และข้อมูลจากทางแบรนด์เพื่อทราบข้อมูลล่าสุดที่แม่นยำ
Q
วิธีการเปิดฝากระโปรงฟอร์ดเอเวอเรสท์
การเปิดท้ายรถ Ford Everest โดยทั่วไปสามารถทำได้ผ่านปุ่มควบคุมภายในรถหรือปุ่มที่อยู่บนกุญแจรีโมท วิธีใช้งานขึ้นอยู่กับรุ่นและการติดตั้งอุปกรณ์ โดยปกติปุ่มควบคุมในรถมักอยู่ใกล้ที่นั่งคนขับ ส่วนปุ่มบนกุญแจรีโมทก็สามารถกดเพื่อเปิดท้ายได้ทันที สำหรับรุ่นที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ขั้นสูง อาจมีฟังก์ชันการเปิดท้ายแบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติ ซึ่งเพียงแค่พกกุญแจเข้าใกล้ท้ายรถ ท้ายรถก็จะเปิดเองโดยอัตโนมัติ
Q
อันไหนดีกว่า ฟอร์ดเอเวอเรสต์หรือโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์
ทั้ง Ford Everest และ Toyota Fortuner ต่างก็เป็นรถยนต์ยอดนิยมในตลาดไทย Ford Everest มีจุดเด่นที่สมรรถนะสูง การควบคุมที่ดีเยี่ยม และฟีเจอร์อุปกรณ์ที่หลากหลาย ขณะที่ Toyota Fortuner ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและประหยัดน้ำมัน พร้อมด้วยค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างต่ำ และมีมูลค่าขายต่อที่ดี การเลือกรถรุ่นใดที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและความชอบส่วนบุคคล หากคุณให้ความสำคัญกับประสบการณ์ขับขี่และเทคโนโลยีล้ำสมัย Ford Everest อาจเหมาะกว่า แต่ถ้าคุณเน้นเรื่องความเสถียรและค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่ต่ำ Toyota Fortuner ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน
Q
ยาวฟอร์ดเอเวอเรสท์เท่าไหร่
ความยาวของตัวถัง Ford Everest อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและการติดตั้งอุปกรณ์ โดยในรุ่นที่พบทั่วไป ตัวถังมีความยาวประมาณ 4,914 มิลลิเมตร
Q
Ford Everest 2022 มีสีอะไรบ้าง
Ford Everest 2022 มีตัวเลือกสีที่หลากหลายตามแต่ละรุ่น โดยทั่วไปแล้วจะมีสี Meteor Grey, Aluminium Metallic, Equinox Bronze, Absolute Black, Snow Flake White Pearl และ Luxe Yellow ให้เลือก
Q
วิธีเริ่มต้นฟอร์ด Everest ด้วยกุญแจ
โดยปกติ วิธีการสตาร์ทรถ Ford Everest จะคล้ายกับรถยนต์ทั่วไป โดยการเสียบกุญแจเข้าที่สวิตช์จุดระเบิด จากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าเกียร์อยู่ในตำแหน่งว่าง (หรือ P ในเกียร์อัตโนมัติ) จากนั้นบิดกุญแจตามเข็มนาฬิกาไปที่ตำแหน่งสตาร์ท เพื่อให้เครื่องยนต์เริ่มทำงาน อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มสตาร์ท ควรตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถให้ปลอดภัย และดูที่แผงหน้าปัดว่ามีการแจ้งเตือนความผิดปกติหรือไม่
Q
เครื่องยนต์อะไรอยู่ในฟอร์ดเอเวอเรสท์
ในตลาดประเทศไทย Ford Everest มีตัวเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ในบางรุ่นจะติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรแบบ Bi-Turbo ซึ่งให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า (155 กิโลวัตต์) ที่ 3,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ช่วง 1,750 - 2,000 รอบต่อนาที รุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์นี้ ได้แก่ 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x2 10AT, 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x4 10AT และ 2.0L Bi-Turbo WILDTRAK 10AT 4×4 ปี 2024 นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร V6 Turbo เช่น Everest 3.0L V6 Turbo Platinum 4WD 10AT ซึ่งมีกำลังสูงสุดถึง 250 แรงม้า (184 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 2,250 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะที่ทรงพลัง ในรุ่นก่อนหน้านั้นมีเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร 4 สูบ TDCI ที่ให้กำลัง 158 แรงม้า (160ps) และแรงบิด 385 นิวตันเมตร รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซล 3.2 ลิตร 5 สูบ TDCI ที่ให้กำลัง 197 แรงม้า (200ps) และแรงบิด 470 นิวตันเมตร โดยเครื่องยนต์เหล่านี้มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือเกียร์ธรรมดา และในรุ่นใหม่ยังมีเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดให้เลือกด้วย ทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4x2 และ 4x4 รวมถึงโหมดการขับขี่หลากหลายแบบ ช่วยให้ Ford Everest สามารถมอบสมรรถนะที่มั่นคงและเหมาะสมสำหรับทุกสภาพถนน
Q
วิธีการเปิดถังน้ำมันฟอร์ดเอเวอเรสต์
วิธีเปิดฝาถังน้ำมันของ Ford Everest โดยทั่วไปคือหาปุ่มเปิดฝาถังน้ำมันที่อยู่ใกล้กับที่นั่งคนขับ จากนั้นกดปุ่มเพื่อเปิดฝา แต่ทั้งนี้ในแต่ละรุ่นย่อยของ Ford Everest อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยในรายละเอียด
Q
ฟอร์ดเอเวอร์เรสท์มีที่นั่งกี่ที่
Ford Everest มีตัวเลือกการจัดวางเบาะทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลาย โดยรุ่น 5 ที่นั่งเหมาะสำหรับผู้ที่เน้นพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ส่วนรุ่น 7 ที่นั่งจะเหมาะกับการใช้งานในครอบครัว อย่างไรก็ตาม การจัดวางเบาะอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยหรือออปชันที่เลือกเพิ่ม
Q
ราคาฟอร์ดเอเวอเรสต์ใหม่เท่าไหร่
ราคาของ Ford Everest ในประเทศไทยแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดย 2.0L Turbo Trend 4x2 6AT ราคา 1,377,000 บาท, 2.0 Turbo Sport 4×2 6AT 2024 ราคา 1,507,000 บาท, 2.0 Sport 6AT Adventure Pack + DAT Pack B 2024 ราคา 1,600,000 บาท, 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x2 10AT 2024 ราคา 1,747,000 บาท, 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x4 10AT 2024 ราคา 1,897,000 บาท, 2.0 Bi-Turbo WILDTRAK 10AT 4×4 2024 ราคา 1,922,000 บาท และ 3.0L V6 Turbo Platinum 4WD 10AT ราคา 2,279,000 บาท

ข้อดี

เครื่องยนต์ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบเทวิน 2.0 มีกำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร เป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด PPV
พื้นที่ภายในรถที่มีประโยชน์จัดเป็น 7 ที่นั่ง 3 แถว ที่นั่งแถวที่สามสามารถพับลงอย่างถูกต้องด้วยกลไกไฟฟ้า
ติดตั้งอุปกรณ์ให้ครบครันเช่นประตูหลังไฟฟ้า กุญแจอัจฉริยะและระบบเริ่มต้นด้วยกดปุ่มเดียว ระบบควบคุมด้วยเสียง
การออกแบบภายนอกที่สวยงาม ติดตั้งล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้วสำหรับแบบที่ราคาสูงสุด กระจังหน้าและแถบป้องกันด้านหลังใหม่ การส่องสว่าง LED ทั้งรถ
บริการหลังการขายมีชื่อเสียงบ้าง

ข้อเสีย

10 เกียร์อัตโนมัติประสบปัญหาในการใช้งาน เช่น การเปลี่ยนเกียร์ขัดข้อง ฟอร์ดกำลังแก้ไข
การปรับปรุงรุ่นรถช้า ห่างจากการปรับปรุงครั้งล่าสุดเกือบ 2 ปี
บริการหลังการขายได้รับความคิดเห็นลบบนอินเทอร์เน็ต ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของผู้ซื้อ

Q&A ล่าสุด

Q
Porsche Cayenne รองรับ Apple CarPlay ไหม?
ใช่แล้วครับ Porsche Cayenne รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay เป็นมาตรฐานทุกคัน ช่วยให้คุณใช้งานแอปจาก iPhone เช่น แผนที่ navigation เพลง หรือโทรศัพท์ผ่านหน้าจอกลางรถได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณเช็กสภาพการจราจรผ่าน Google Maps หรือ Waze แบบเรียลไทม์ เพื่อเลือกเส้นทางที่โล่งที่สุด นอกจาก Apple CarPlay แล้ว Cayenne ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android อีกด้วย ระบบมัลติมีเดียของโพร์เช่ทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย พร้อมหน้าจอสัมผัสที่ตอบสนองได้ดี และยังมีปุ่มควบคุมที่พวงมาลัยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ที่น่าสนใจคือบางรุ่นระดับสูงในไทยยังมี Wireless CarPlay ให้ใช้งานแบบไร้สายโดยไม่ต้องเสียบสายเคเบิลอีกด้วย หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งาน สามารถติดต่อผู้จำหน่ายโพร์เช่ในประเทศไทยเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา
Q
“Porsche Cayenne ใช้ยางยี่ห้ออะไร
ยางแท้ของ Porsche Cayenne จะมีแบรนด์แตกต่างกันไปตามรุ่นและปีที่ผลิต ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นยางระดับพรีเมียมเช่น Michelin, Pirelli หรือ Continental ตัวอย่างเช่น ยาง Michelin Latitude Sport 3 หรือ Pirelli Scorpion Verde ที่ออกแบบมาสำหรับ SUV ประสิทธิภาพสูง โดยให้ทั้งการยึดเกาะถนนทั้งสภาพแห้งและเปียก และความทนทาน สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้เลือกยางที่มีสูตรป้องกันการเสื่อมสภาพจากความร้อนและมีดอกยางที่รีดน้ำได้ดี เพราะถนนไทยมีทางลาดชันค่อนข้างมาก การเลือกยางที่มีโครงสร้างแข็งแรงบริเวณแก้มยางจะช่วยรับมือกับสภาพถนนที่หลากหลายได้ดีขึ้น คุณสามารถตรวจสอบสเปกยางมาตรฐานได้ที่ศูนย์ Porsche หรือร้านยางที่ได้รับอนุญาตในไทย หรืออาจเลือกแบรนด์อื่นที่นิยมในท้องตลาดอย่าง Bridgestone Alenza แต่ต้องมั่นใจว่ายางนั้นตรงกับค่าดัชนีน้ำหนักและระดับความเร็วที่กำหนด ควรตรวจสอบความดันลมยางและความลึกของดอกยางเป็นประจำ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทยที่ควรลดความดันลมยางต่ำกว่ามาตรฐาน 3-5% เพื่อชดเชยการขยายตัวจากความร้อน ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางได้มากขึ้น
Q
รถ Porsche Cayenne เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
พอร์เช่ Cayenne คือ SUV ระดับไฮเอนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดไทย ด้วยการผสมผสานระหว่างความหรูหราและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ทำให้เหมาะกับสภาพถนนและความต้องการในการขับขี่ที่หลากหลายของประเทศไทย จุดเด่นของ Cayenne อยู่ที่ระบบขับเคลื่อนอันทรงพลัง ที่มาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบ รวมถึงรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่ประหยัดน้ำมัน เหมาะสมทั้งสำหรับการขับขี่ในเมืองที่เผชิญกับปัญหารถติดและการเดินทางไกล ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูง พร้อมด้วยเทคโนโลยีครบครัน เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับการขับขี่ นอกจากนี้ พอร์เช่ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมในไทย มอบความมั่นใจให้กับเจ้าของรถได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่า Cayenne มีราคาและค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูง และหากขับแบบสปอร์ตก็จะกินน้ำมันมากขึ้น นี่คือปัจจัยที่ผู้สนใจควรพิจารณาให้ดี สำหรับผู้บริโภคไทยที่มีงบประมาณเพียงพอและมองหารถที่รวมแบรนด์เนมกับสมรรถนะเข้าด้วยกัน Cayenne ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ความต้องการรถหรูนำเข้าในตลาดไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Cayenne ยืนหนึ่งในฐานะ SUV ระดับไฮเอนด์ที่เต็มไปด้วยความสามารถ
Q
ความกว้างของ Porsche Cayenne คือเท่าไร
ความกว้างของตัวถังรถปอร์เช่ คายเอนน์อยู่ที่ 1,983 มิลลิเมตร (ไม่รวมกระจกมองหลัง) แต่ถ้ารวมกระจกมองหลังแล้วจะกว้างถึง 2,195 มิลลิเมตร ซึ่งขนาดนี้ต้องระวังเป็นพิเศษเมื่อขับในเมืองไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่การจราจรคับคั่ง ซอยแคบและที่จอดรถขนาดกะทัดรัดอาจทำให้การขับขี่ท้าทายขึ้น การออกแบบความกว้างของคายเอนน์นั้นตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะสปอร์ตและความสะดวกสบายภายในรถ เหมาะกับความต้องการของคนไทยที่อยากได้ทั้งความหรูหราและความคล่องตัวในรถ SUV แบบครบเครื่อง สภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและระบบกันสะเทือนแบบปรับอากาศของคายเอนน์ช่วยให้การขับขี่มั่นคงปลอดภัย ส่วนความกว้างของตัวถังก็ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในให้กว้างขวาง เหมาะสำหรับการเดินทางไกล แต่สำหรับคนไทยที่สนใจคายเอนน์ ควรคำนึงถึงเรื่องประหยัดน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาด้วย เพราะแม้รถจะ性能เยี่ยม แต่การใช้งานประจำวันอาจต้องดูแลบ่อยขึ้นเพื่อให้รถอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด ตลาดรถ SUV หรูในไทยเติบโตขึ้นทุกปี และคายเอนน์ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมของกลุ่มผู้บริโภคระดับสูง เพราะทั้งแบรนด์แข็งแกร่งและประสิทธิภาพใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
Q
ราคาภาษีรถของ Porsche Cayenne คือเท่าไหร่ วิธีการคำนวณเป็นอย่างไร?
ในประเทศไทย ค่าภาษีรถยนต์ (Road Tax) สำหรับรถปอร์เช่ คายเอนน์ จะคำนวณจากขนาดเครื่องยนต์และอายุการใช้งานของรถเป็นหลัก โดยอัตราค่าภาษีจะปรับเปลี่ยนตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก ยกตัวอย่างในปี 2566 รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเบนซินที่มีขนาดเครื่องยนต์เกิน 3,000cc จะเสียภาษีจดทะเบียนปีแรกประมาณ 15,000-25,000 บาท และค่าต่ออายุภาษีในปีถัดไปจะลดลงประมาณ 10% ในแต่ละปี นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น น้ำหนักรถและมาตรฐานสิ่งแวดล้อม รัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยอาจให้ส่วนลดสำหรับรถที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 หรือยูโร 6 นอกจากภาษีรถยนต์แล้ว เจ้าของรถยังต้องจ่ายเงินประกันภัยภาคบังคับ (ป.ร.บ.) และประกันภัยแบบสมัครใจ แนะนำให้สอบถามข้อมูลอัตราค่าภาษีล่าสุดจากกรมการขนส่งทางบกหรือตัวแทนจำหน่ายก่อนซื้อรถ ระบบภาษีรถยนต์ในประเทศไทยค่อนข้างซับซ้อน โดยเฉพาะรถนำเข้าที่อาจต้องเสียภาษีศุลกากรและภาษีสรรพสามิตเพิ่มเติม ดังนั้นเจ้าของรถควรตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดผ่านช่องทางราชการหรือตัวแทนมืออาชีพเพื่อให้มั่นใจว่ามีความถูกต้องตามกฎหมายและสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายในการใช้รถได้อย่างเหมาะสม
ดูเพิ่มเติม