Q

Honda BR-V ดีมั้ย

Honda BR-V เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย เหมาะสำหรับการใช้ในครอบครัว โดยเฉพาะในประเทศไทย รถรุ่นนี้ให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยมทั้งบนถนนในเมืองและชนบท มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร สูบนอน ที่ให้กำลังแรงและประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะสั้น เกียร์ CVT ถูกปรับให้เน้นความสบาย เป็นไปตามความต้องการของคนไทยที่ชอบการขับขี่ลื่นๆ ภายในห้องโดยสารออกแบบได้อย่างคล่องตัว มีเบาะ 3 แถวเพื่อรองรับการเดินทางแบบหมู่คณะ และสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถได้หลังจากพับเบาะหลังลง ซึ่งสะดวกสบายมาก ในส่วนอุปกรณ์ รุ่นท็อปมีฟังก์ชันใช้งานง่ายเช่นหน้าจอสัมผัสและกล้องถอยหลัง แต่วัสดุภายในส่วนใหญ่เป็นพลาสติกแข็ง ตามมาตรฐานของรถระดับนี้ ในตลาดไทย คู่แข่งหลักคือ Toyota Corolla Cross และ MG ZS แต่ข้อได้เปรียบของ BR-V อยู่ที่ความน่าเชื่อถือและอัตราการรักษามูลค่าที่สูงของแบรนด์ฮอนด้า ควรระวังเรื่องการตรวจสอบช่วงล่างและระบบอิเล็กทรอนิกส์บ่อยๆ ในสภาพอากาศไทยที่มีฝนชุก แต่เครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าที่ครอบคลุมทำให้การซ่อมบำรุงค่อนข้างสะดวก สำหรับครอบครัวที่ต้องการรถ 7 ที่นั่งแต่มีงบจำกัด BR-V เป็นตัวเลือกที่ปฏิบัติได้จริง แต่ถ้าต้องการความหรูหราหรือสมรรถนะ off-road มากขึ้น อาจต้องมองหาตัวเลือกอื่น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Honda BR-V มือสองดีไหม
ในตลาดรถมือสองของไทย Honda BR-V ถือเป็น SUV ประหยัดตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยความทนทานและประหยัดน้ำมันสไตล์ Honda ที่เหมาะมากสำหรับครอบครัวหรือคนที่ต้องเดินทางเป็นกลุ่มบ่อยๆ โมเดลนี้มาพร้อมการจัดวาง 7 ที่นั่งที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างคล่องตัว พร้อมพื้นที่เก็บของที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนเครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติก็มีความเสถียร แถมค่าบำรุงรักษาก็ไม่แพง หาอะไหล่ก็ง่ายตามศูนย์บริการทั่วไทย จุดเด่นคือความประหยัดน้ำมันที่เข้ากับทั้งสภาพการจราจรติดขัดในเมืองและการเดินทางไกล โช้คอัพปรับระดับนุ่มสบาย ทนทานต่อถนนสภาพไม่สมบูรณ์แบบบางพื้นที่ของไทย อัตราการทรงมูลค่าของ BR-V มือสองในตลาดไทยค่อนข้างดี แต่ก่อนซื้อควรตรวจสอบสภาพรถโดยเฉพาะเกียร์และช่วงล่าง แนะนำให้เลือกรถที่มีประวัติการบริการครบถ้วน สำหรับคนไทยที่ต้องการ SUV 7 ที่นั่งในงบจำกัด BR-V มือสองถือเป็นทางเลือกคุ้มค่า เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันแล้ว BR-V มีความน่าเชื่อถือสูงกว่าและค่าดูแลรักษาประจำวันก็ประหยัดกว่าแน่นอน

ข้อดี

ดีไซน์ภายนอกที่โ outstanding ได้ตามกระแสของยุคทัศน์ศิลป์ที่เป็นการเคลื่อนไหว ผสานระหว่างส่วนที่มองเห็นได้ต่าง ๆ อย่างลงตัว
ภายในกว้างขวางที่มีทั้ง 7 และ 5 ที่นั่งเป็นตัวเลือก สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ในรูปแบบที่หลากหลาย เพิ่มความเป็นประโยชน์
มีประสิทธิภาพในการใช้งานในเมือง การเร่งความเร็วที่แรง การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล วงจริระผ่อนคลาย การขับขี่ที่สบายและเป็นไปในทางที่ต้องการ
ระบบกันสะเทือนที่ยอดเยี่ยม กันสะเทือนที่ดีเยี่ยมในความเร็วต่ำ การขับขี่ที่ปลอดภัยแม้อยู่บนถนนที่ไม่สม่ำเสมอหรือร่องรอย
ประหยัดน้ำมัน เป็นรถยนต์หลากหลายฟังก์ชั่นที่ประหยัดน้ำมัน สามารถตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันได้

ข้อเสีย

ฤทธิ์การฉายเสียงภายนอกไม่ดี เมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ การยับยั้งเสียงจากการสัมผัสถนนด้อยกว่า
ขับขี่เต็มที่ไม่ค่อยสบาย โดยเฉพาะรถ 7 ที่นั่ง
สมรรถนะการตอบสนองพลังงานไม่ดีเท่าที่ควร 1.5 ลิตร i-VTEC ชนิดฉีดน้ำมัน มีแรงยันน้อย
ประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ความเร็วสูงเฉยๆ เป็นรถที่มีหลายฟังก์ชั่น การขับขี่ที่ความเร็วสูงมองเห็นว่านุ่ม
มีแบบจำลองให้เลือกน้อย มีเพียง 2 รุ่น รุ่น V 5 ที่นั่งราคา 765000 บาท รุ่น SV 7 ที่นั่งราคา 835000 บาท

Q&A ล่าสุด

Q
ปีสุดท้ายของ Alfa Romeo 4C คือปีใด?
Alfa Romeo 4C ยุติการผลิตในปี 2020 แต่ยังคงเป็นรถสปอร์ตคูเป้น้ำหนักเบาที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ด้วยดีไซน์อิตาเลียนอันเป็นเอกลักษณ์และสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในประเทศร้อนชื้นอย่างไทย โครงสร้างตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์โมโนค็อกและแชสซีอลูมิเนียมไม่เพียงให้ความแข็งแกร่งเหนือระดับ แต่ยังช่วยรับมือกับสภาพอากาศร้อนชื้นได้เป็นอย่างดี เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.75 ลิตร ให้กำลัง 240 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบ DCT ที่ตอบสนองฉับไว เหมาะสมทั้งกับการขับขี่ในเส้นทางภูเขาและในเมืองของไทย แม้จะเลิกผลิตไปแล้ว แต่ 4C ยังเป็นที่ต้องการในตลาดมือสอง โดยเฉพาะสำหรับคนไทยที่ชื่นชอบความสนุกในการขับและดีไซน์เฉพาะตัว แบรนด์ Alfa Romeo ในไทยอาจไม่ใหญ่โต แต่ด้วยสไตล์อิตาเลียนและสมรรถนะโดดเด่น ก็ยังมีแฟนพันธุ์แท้ที่ซื่อสัตย์ และในอนาคตอาจมีโมเดลใหม่ๆ เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของตลาดไทยมากขึ้น
Q
Alfa 4C เป็นระบบเกียร์ธรรมดาหรือไม่?
Alfa Romeo 4C มีรุ่นเกียร์ธรรมดาให้เลือกจริงๆ รถคันนี้ขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบน้ำหนักเบาและความสนุกในการขับขี่ เหมาะมากกับถนนเขียวชอุ่มและทางคดเคี้ยวในเมืองไทย แม้ว่าตลาดไทยจะเน้นรุ่นเกียร์ออโต้เป็นหลัก แต่ 4C แบบเกียร์มือถือจะตอบโจทย์คนรักรถที่ต้องการประสบการณ์ขับขี่แบบจัดเต็มมากกว่า ตัวรถใช้โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์โมโนค็อกและการขับเคลื่อนแบบกลางลำตัว-ส่งกำลังหลัง ด้านสมรรถนะมาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.75 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 240 แรงม้า เมื่อจับคู่กับเกียร์ธรรมดาจะช่วยดึงศักยภาพของรถออกมาได้เต็มที่ ในสภาพอากาศร้อนๆ แบบเมืองไทย แนะนำให้เจ้าของรถดูแลเรื่องระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์เป็นพิเศษ รวมถึงเปลี่ยนน้ำมันเกียร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รถอยู่ในสภาพพร้อมขับขี่ตลอดเวลา สำหรับคนไทยที่ชอบความมันส์ในการควบคุมพวงมาลัย 4C รุ่นเกียร์ธรรมดานี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง ทั้งสนุกไปกับการขับขี่และได้สัมผัสเสน่ห์เฉพาะตัวของรถสปอร์ตอิตาเลียนแท้ๆ
Q
ราคา Alfa 4C อยู่ที่เท่าไหร่?
ราคาของ Alfa Romeo 4C ในตลาดไทยจะมีความแตกต่างกันไปตามสเปกและนโยบายของตัวแทนจำหน่าย โดยราคาประมาณใหม่จะอยู่ที่ 3.5 ถึง 4.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เสริมและภาษีต่างๆ รถคันนี้โดดเด่นด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาและการออกแบบคลาสสิกสไตล์อิตาลี เหมาะมากสำหรับคนไทยที่ชอบความสนุกในการขับขี่ แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทยควรระวังเรื่องระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์กลางที่อาจมีผลด้วย เนื่องจากปัจจุบัน 4C หยุดผลิตแล้ว ตลาดไทยจึงมีแต่รถมือสองเป็นส่วนใหญ่ โดยรถสภาพดีจะราคาประมาณ 2.5 ถึง 3.5 ล้านบาท เวลาซื้อควรตรวจสอบประวัติการดูแลรักษาและสภาพช่วงล่างให้ดี ต้องบอกว่า 4C ในไทยถือเป็นรถเฉพาะกลุ่มจริงๆ การซ่อมบำรุงแนะนำให้ใช้บริการเฉพาะที่อู่ที่ได้รับการรับรองจาก Alfa Romeo เท่านั้น ถึงแม้ว่าอะไหล่อาจต้องรอนานหน่อย แต่ด้วยประสบการณ์การขับที่แตกต่างและความสวยระดับหันหลังมองทำให้รถคันนี้ยังเป็นที่นิยมในวงการคนรักรถไทยอยู่ดี
Q
รถ 4C มีระบบพวงมาลัยพาวเวอร์หรือไม่?
เกี่ยวกับคำถามที่ว่าการขับขี่ของ Alfa Romeo 4C มีระบบพวงมาลัยเพาเวอร์หรือไม่นั้น จริงๆ แล้วรุ่นนี้ออกแบบมาเป็นระบบพวงมาลัยแบบไม่มีพาวเวอร์ (unassisted steering) เพื่อเน้นความรู้สึกในการขับที่สมจริงและลดน้ำหนักรถ โดยเฉพาะเมื่อขับบนถนนโค้งในไทยหรือบนสนามแข่งจะให้ความรู้สึกต่อถนนที่ตรงไปตรงมา แต่พอขับในเมืองหรือตอนจอดรถความเร็วตํ่าอาจจะรู้สึกหนักมือหน่อยนะครับ ในสภาพอากาศร้อนของไทยแนะนำให้ระวังเรื่องลมยางด้วยเพราะมันส่งผลต่อความรู้สึกพวงมาลัยพอสมควร ปัจจุบันรถทั่วไปอย่างโตโยต้า ยาริส หรือรถรุ่นอื่นๆ ในไทยมักใช้ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า (EPS) ที่ปรับแรงช่วยตามความเร็วรถ ทำให้ขับความเร็วตํ่าก็เบา สูงก็มั่นคง ถ้าสนใจรถสปอร์ตอาจลองดูรุ่นอย่างพอร์เช่ 718 ที่มีเทคโนโลยีอัตราทดพวงมาลัยแปรผัน (variable ratio steering) ซึ่งช่วยให้ควบคุมรถได้แม่นยำขึ้น แนะนำให้ลองขับเปรียบเทียบระบบพวงมาลัยแต่ละแบบด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
รถ Alfa Romeo 4C มีเครื่องปรับอากาศหรือไม่?
Alfa Romeo 4C นั้นมีการติดตั้งระบบแอร์ แม้ว่ารถคันนี้จะออกแบบมาเพื่อความเบาและสมรรถนะสปอร์ตเป็นหลัก แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทย แอร์ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นผู้ผลิตจึงยังคงรักษาความสบายส่วนนี้ไว้โดยไม่เพิ่มน้ำหนักตัวรถเกินจำเป็น สำหรับผู้บริโภคไทยแล้ว ระบบแอร์ของ Alfa Romeo 4C นั้นทำงานได้มีประสิทธิภาพแม้อากาศร้อนจัด สามารถลดอุณหภูมิภายในรถได้เร็ว และการควบคุมแบบมือยังคงสอดคล้องกับแนวคิดรถสปอร์ตที่เน้นความสนุกในการขับขี่ ที่น่าสนใจคือสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยนั้นท้าทายความทนทานของระบบแอร์เป็นพิเศษ แต่ระบบแอร์ของ 4C ออกแบบมาโดยใช้วัสดุทนความร้อนและคอมเพรสเซอร์ประสิทธิภาพสูง ทำให้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่ารถรุ่นนี้จะเน้นประสบการณ์การขับขี่เป็นหลัก แต่ก็ยังให้ความสบายพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ซึ่งสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ที่ต้องเผชิญกับการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ นอกจากนี้รถสปอร์ตในตลาดไทยที่คล้ายคลึงกันก็มักจะยังคงรักษาระบบแอร์ไว้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านความเป็นประโยชน์ของผู้บริโภคท้องถิ่น
ดูเพิ่มเติม