Q

วิธีปิดเสียงแจ้งเตือนฟอร์ดเอเวอเรสต์

วิธีปิดเสียงเตือนของ Ford Everest มักขึ้นอยู่กับการตั้งค่าและรุ่นของรถ โดยทั่วไปคุณสามารถค้นหาตัวเลือกที่เกี่ยวข้องในเมนูการตั้งค่าของรถ อย่างไรก็ตาม วิธีการอาจแตกต่างกันไปตามปีและรุ่นของรถ การดำเนินการทั่วไปคือการเข้าไปที่เมนูการตั้งค่าผ่านระบบอินโฟเทนเมนต์ของรถหรือปุ่มควบคุมบนแผงหน้าปัด จากนั้นค้นหาตัวเลือกที่เกี่ยวกับเสียงเตือนและปิดมัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
เมื่อไหร่ Ford Everest ใหม่จะเปิดตัว
ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศวันที่แน่ชัดสำหรับการเปิดตัวรุ่นใหม่ของ Ford Everest อย่างเป็นทางการ แต่โดยทั่วไป การเปิดตัวรถรุ่นใหม่มักต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้าน เช่น ความต้องการในตลาด ความก้าวหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยี และแผนการดำเนินงานระดับโลก ในตลาดไทยเอง แบรนด์รถยนต์มักเลือกเปิดตัวรุ่นใหม่เมื่อมั่นใจว่าได้เตรียมพร้อมทุกด้านและตัวผลิตภัณฑ์มีความสามารถแข่งขันได้อย่างเต็มที่ คุณสามารถติดตามข่าวสารในวงการยานยนต์และข้อมูลจากทางแบรนด์เพื่อทราบข้อมูลล่าสุดที่แม่นยำ
Q
วิธีการเปิดฝากระโปรงฟอร์ดเอเวอเรสท์
การเปิดท้ายรถ Ford Everest โดยทั่วไปสามารถทำได้ผ่านปุ่มควบคุมภายในรถหรือปุ่มที่อยู่บนกุญแจรีโมท วิธีใช้งานขึ้นอยู่กับรุ่นและการติดตั้งอุปกรณ์ โดยปกติปุ่มควบคุมในรถมักอยู่ใกล้ที่นั่งคนขับ ส่วนปุ่มบนกุญแจรีโมทก็สามารถกดเพื่อเปิดท้ายได้ทันที สำหรับรุ่นที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ขั้นสูง อาจมีฟังก์ชันการเปิดท้ายแบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติ ซึ่งเพียงแค่พกกุญแจเข้าใกล้ท้ายรถ ท้ายรถก็จะเปิดเองโดยอัตโนมัติ
Q
อันไหนดีกว่า ฟอร์ดเอเวอเรสต์หรือโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์
ทั้ง Ford Everest และ Toyota Fortuner ต่างก็เป็นรถยนต์ยอดนิยมในตลาดไทย Ford Everest มีจุดเด่นที่สมรรถนะสูง การควบคุมที่ดีเยี่ยม และฟีเจอร์อุปกรณ์ที่หลากหลาย ขณะที่ Toyota Fortuner ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและประหยัดน้ำมัน พร้อมด้วยค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างต่ำ และมีมูลค่าขายต่อที่ดี การเลือกรถรุ่นใดที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและความชอบส่วนบุคคล หากคุณให้ความสำคัญกับประสบการณ์ขับขี่และเทคโนโลยีล้ำสมัย Ford Everest อาจเหมาะกว่า แต่ถ้าคุณเน้นเรื่องความเสถียรและค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่ต่ำ Toyota Fortuner ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน
Q
ยาวฟอร์ดเอเวอเรสท์เท่าไหร่
ความยาวของตัวถัง Ford Everest อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและการติดตั้งอุปกรณ์ โดยในรุ่นที่พบทั่วไป ตัวถังมีความยาวประมาณ 4,914 มิลลิเมตร
Q
Ford Everest 2022 มีสีอะไรบ้าง
Ford Everest 2022 มีตัวเลือกสีที่หลากหลายตามแต่ละรุ่น โดยทั่วไปแล้วจะมีสี Meteor Grey, Aluminium Metallic, Equinox Bronze, Absolute Black, Snow Flake White Pearl และ Luxe Yellow ให้เลือก
Q
วิธีเริ่มต้นฟอร์ด Everest ด้วยกุญแจ
โดยปกติ วิธีการสตาร์ทรถ Ford Everest จะคล้ายกับรถยนต์ทั่วไป โดยการเสียบกุญแจเข้าที่สวิตช์จุดระเบิด จากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าเกียร์อยู่ในตำแหน่งว่าง (หรือ P ในเกียร์อัตโนมัติ) จากนั้นบิดกุญแจตามเข็มนาฬิกาไปที่ตำแหน่งสตาร์ท เพื่อให้เครื่องยนต์เริ่มทำงาน อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มสตาร์ท ควรตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถให้ปลอดภัย และดูที่แผงหน้าปัดว่ามีการแจ้งเตือนความผิดปกติหรือไม่
Q
เครื่องยนต์อะไรอยู่ในฟอร์ดเอเวอเรสท์
ในตลาดประเทศไทย Ford Everest มีตัวเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ในบางรุ่นจะติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรแบบ Bi-Turbo ซึ่งให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า (155 กิโลวัตต์) ที่ 3,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ช่วง 1,750 - 2,000 รอบต่อนาที รุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์นี้ ได้แก่ 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x2 10AT, 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x4 10AT และ 2.0L Bi-Turbo WILDTRAK 10AT 4×4 ปี 2024 นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร V6 Turbo เช่น Everest 3.0L V6 Turbo Platinum 4WD 10AT ซึ่งมีกำลังสูงสุดถึง 250 แรงม้า (184 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 2,250 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะที่ทรงพลัง ในรุ่นก่อนหน้านั้นมีเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร 4 สูบ TDCI ที่ให้กำลัง 158 แรงม้า (160ps) และแรงบิด 385 นิวตันเมตร รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซล 3.2 ลิตร 5 สูบ TDCI ที่ให้กำลัง 197 แรงม้า (200ps) และแรงบิด 470 นิวตันเมตร โดยเครื่องยนต์เหล่านี้มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือเกียร์ธรรมดา และในรุ่นใหม่ยังมีเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดให้เลือกด้วย ทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4x2 และ 4x4 รวมถึงโหมดการขับขี่หลากหลายแบบ ช่วยให้ Ford Everest สามารถมอบสมรรถนะที่มั่นคงและเหมาะสมสำหรับทุกสภาพถนน
Q
วิธีการเปิดถังน้ำมันฟอร์ดเอเวอเรสต์
วิธีเปิดฝาถังน้ำมันของ Ford Everest โดยทั่วไปคือหาปุ่มเปิดฝาถังน้ำมันที่อยู่ใกล้กับที่นั่งคนขับ จากนั้นกดปุ่มเพื่อเปิดฝา แต่ทั้งนี้ในแต่ละรุ่นย่อยของ Ford Everest อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยในรายละเอียด
Q
ฟอร์ดเอเวอร์เรสท์มีที่นั่งกี่ที่
Ford Everest มีตัวเลือกการจัดวางเบาะทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลาย โดยรุ่น 5 ที่นั่งเหมาะสำหรับผู้ที่เน้นพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ส่วนรุ่น 7 ที่นั่งจะเหมาะกับการใช้งานในครอบครัว อย่างไรก็ตาม การจัดวางเบาะอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยหรือออปชันที่เลือกเพิ่ม
Q
ราคาฟอร์ดเอเวอเรสต์ใหม่เท่าไหร่
ราคาของ Ford Everest ในประเทศไทยแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดย 2.0L Turbo Trend 4x2 6AT ราคา 1,377,000 บาท, 2.0 Turbo Sport 4×2 6AT 2024 ราคา 1,507,000 บาท, 2.0 Sport 6AT Adventure Pack + DAT Pack B 2024 ราคา 1,600,000 บาท, 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x2 10AT 2024 ราคา 1,747,000 บาท, 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x4 10AT 2024 ราคา 1,897,000 บาท, 2.0 Bi-Turbo WILDTRAK 10AT 4×4 2024 ราคา 1,922,000 บาท และ 3.0L V6 Turbo Platinum 4WD 10AT ราคา 2,279,000 บาท

ข้อดี

เครื่องยนต์ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบเทวิน 2.0 มีกำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร เป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด PPV
พื้นที่ภายในรถที่มีประโยชน์จัดเป็น 7 ที่นั่ง 3 แถว ที่นั่งแถวที่สามสามารถพับลงอย่างถูกต้องด้วยกลไกไฟฟ้า
ติดตั้งอุปกรณ์ให้ครบครันเช่นประตูหลังไฟฟ้า กุญแจอัจฉริยะและระบบเริ่มต้นด้วยกดปุ่มเดียว ระบบควบคุมด้วยเสียง
การออกแบบภายนอกที่สวยงาม ติดตั้งล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้วสำหรับแบบที่ราคาสูงสุด กระจังหน้าและแถบป้องกันด้านหลังใหม่ การส่องสว่าง LED ทั้งรถ
บริการหลังการขายมีชื่อเสียงบ้าง

ข้อเสีย

10 เกียร์อัตโนมัติประสบปัญหาในการใช้งาน เช่น การเปลี่ยนเกียร์ขัดข้อง ฟอร์ดกำลังแก้ไข
การปรับปรุงรุ่นรถช้า ห่างจากการปรับปรุงครั้งล่าสุดเกือบ 2 ปี
บริการหลังการขายได้รับความคิดเห็นลบบนอินเทอร์เน็ต ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของผู้ซื้อ

Q&A ล่าสุด

Q
ขนาดล้อของ Tesla Model Y คือเท่าไหร่?
Tesla Model Y ที่จำหน่ายในประเทศไทยมีตัวเลือกขนาดล้อหลัก ๆ อยู่ 2 ขนาด คือ ล้อขนาด 19 นิ้ว และ 20 นิ้ว โดยรุ่นมาตรฐานจะมาพร้อมล้อ Gemini ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางแบบ All-season ซึ่งเหมาะกับการขับขี่ในเมืองและเดินทางไกลเป็นครั้งคราว ให้ความสมดุลทั้งในด้านความนุ่มนวลและระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จ ส่วนล้อขนาด 20 นิ้วแบบ Induction เป็นอุปกรณ์เสริมที่เลือกเพิ่มได้ ใช้ยางที่มีหน้ากว้างและแก้มยางเตี้ย ช่วยให้ควบคุมรถได้ดีขึ้น แต่จะมีผลต่อระยะทางที่วิ่งได้ โดยอาจลดลงเล็กน้อย ในสภาพอากาศของไทยที่ฝนตกบ่อย แนะนำให้ใช้ยางแบบ All-season เพื่อให้ยึดเกาะถนนได้ดีในสภาพถนนลื่น หากใช้งานในกรุงเทพฯ หรือเมืองที่ถนนไม่เรียบ ล้อ 19 นิ้วจะช่วยซับแรงกระแทกและให้ความนุ่มนวลมากกว่า ขนาดล้อมีผลต่อความสูงใต้ท้องรถ โดย Model Y มีความสูงใต้ท้องรถประมาณ 16.8 เซนติเมตร ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานบนถนนต่างจังหวัดในไทย แต่หากเปลี่ยนล้อให้ใหญ่ขึ้น อาจมีผลต่อระบบช่วงล่าง และอาจกระทบเงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ ควรเลือกอุปกรณ์ผ่านศูนย์บริการ Tesla เท่านั้น ด้วยสภาพอากาศร้อนของไทย ควรตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ ซึ่ง Tesla Model Y มีระบบตรวจจับแรงดันลมยางแบบเรียลไทม์ ที่สามารถแจ้งเตือนทันทีเมื่อแรงดันผิดปกติ ป้องกันปัญหาจากอุณหภูมิที่สูงจนทำให้ลมยางเปลี่ยนแปลงผิดปกติได้
Q
Tesla Model Y ใช้พลังงานสิ้นเปลืองเท่าไหร่?
Tesla Model Y เป็นรถ SUV ไฟฟ้าล้วน ซึ่งอัตราการใช้พลังงานจริงในประเทศไทยอาจแตกต่างกันไปตามพฤติกรรมการขับขี่และสภาพถนน โดยข้อมูลจากโรงงานระบุว่า Model Y ใช้พลังงานประมาณ 15-17 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร หากคำนวณตามค่าไฟฟ้าปัจจุบันในไทย ต้นทุนต่อกิโลเมตรจะอยู่ที่ประมาณ 0.5–0.7 บาท ซึ่งถูกกว่ารถที่ใช้น้ำมันมาก ในสภาพอากาศร้อนของไทย การเปิดแอร์บ่อยอาจเพิ่มการใช้พลังงานขึ้นประมาณ 10% แต่ระบบปรับอากาศแบบปั๊มความร้อน (Heat Pump) และฟังก์ชันอุ่นแบตเตอรี่ของ Tesla จะช่วยให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับผู้ใช้ในไทย นอกจากเรื่องการใช้พลังงานแล้ว ยังควรพิจารณาความสะดวกในการชาร์จไฟด้วย ปัจจุบันประเทศไทยกำลังขยายเครือข่ายสถานีชาร์จอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเมืองใหญ่และตามทางหลวงที่มีสถานี Supercharger ครอบคลุมแล้ว การติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้านก็ทำได้ไม่ยาก ในด้านระยะทาง Model Y รุ่นมาตรฐานสามารถวิ่งได้ประมาณ 455 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม และรุ่น Long Range วิ่งได้ถึง 540 กิโลเมตร ซึ่งเพียงพอต่อการเดินทางระหว่างจังหวัด เช่น จากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ที่สำคัญคือ Tesla Model Y เหมาะมากกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่รถติด เพราะช่วยประหยัดค่าน้ำมัน และยังได้ประโยชน์จากนโยบายภาษีของรัฐที่ลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ Model Y เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนไทยที่มองหารถพลังงานสะอาดและล้ำสมัย
Q
Tesla Model Y คุ้มค่าน่าซื้อไหม? มาดูฟีเจอร์ของมันกัน!
Tesla Model Y เป็นรถ SUV ไฟฟ้าที่น่าพิจารณาในตลาดไทย ด้วยระยะทางวิ่งที่โดดเด่น รุ่น Long Range สามารถวิ่งได้มากกว่า 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เหมาะทั้งกับการขับในเมืองและเดินทางข้ามจังหวัด อีกทั้งยังมีสมรรถนะที่แรง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ขับขี่ได้ลื่นไหล รถรุ่นนี้มาพร้อมระบบช่วยขับ Autopilot ที่ล้ำสมัย ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเหนื่อยล้าเวลาเจอสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ภายในรถกว้างขวาง มีพื้นที่เก็บของด้านหลังเยอะ เหมาะกับครอบครัว และหลังคากระจกพาโนรามาช่วยเพิ่มความสว่างภายในรถ ขับสบายแม้ในอากาศร้อนแบบไทย Tesla ยังมีการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ Supercharger อย่างต่อเนื่องในไทย ทำให้ความสะดวกในการชาร์จเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบความสะดวกในการชาร์จในชีวิตประจำวันก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะโครงสร้างพื้นฐานยังอยู่ในช่วงพัฒนา โดยรวมแล้ว Tesla Model Y เป็นรถไฟฟ้าที่ผสมผสานทั้งสมรรถนะ เทคโนโลยี และความเหมาะสมในการใช้งาน เหมาะกับคนไทยที่ต้องการรถล้ำสมัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม
Q
Tesla Model Y เปิดตัวครั้งแรกเมื่อไหร่?
Tesla Model Y เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2022 โดยถือเป็นก้าวสำคัญของ Tesla ในการรุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รถ SUV ไฟฟ้ารุ่นนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้บริโภคชาวไทย ด้วยจุดเด่นด้านระยะทางวิ่งไกล (ประมาณ 533 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP) และเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่สามารถชาร์จได้ถึง 270 กิโลเมตรในเวลาเพียง 15 นาทีผ่านสถานี Supercharger Tesla Model Y เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ และการเดินทางระยะสั้นรอบเมือง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐของไทยที่มอบสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งช่วยให้ราคารถแข่งขันได้มากขึ้น Tesla ยังได้ร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นเพื่อสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จ โดยตั้งเป้าขยายจำนวนสถานี Supercharger ให้เกิน 50 แห่งภายในสิ้นปี 2023 ครอบคลุมเมืองหลักและแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางของผู้ใช้ชาวไทยได้อย่างมาก Model Y มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและรุ่น Performance โดยรุ่น Performance สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.7 วินาที เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสนุกในการขับขี่ ในขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว Tesla Model Y จะเป็นหนึ่งในรุ่นสำคัญที่ร่วมผลักดันการใช้งานรถพลังงานสะอาดในประเทศ ควบคู่ไปกับรุ่นอื่น ๆ เช่น BYD ATTO 3 ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดลองขับและการส่งมอบได้ทางเว็บไซต์ Tesla ประเทศไทย
Q
วันที่วางจำหน่าย Tesla Model Y คือเมื่อไร?
Tesla Model Y เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2022 ซึ่งถือเป็นหมากสำคัญของ Tesla ในการขยายตลาดสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รถ SUV ไฟฟ้ารุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย ด้วยจุดเด่นเรื่องระยะทางการวิ่งที่ไกล (ประมาณ 533 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP) และเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ที่สามารถชาร์จได้ถึง 270 กิโลเมตรภายในเวลาเพียง 15 นาทีผ่านสถานี Supercharger Tesla Model Y เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ หรือการเดินทางระยะใกล้ในจังหวัดใกล้เคียง ทั้งยังตอบโจทย์นักเดินทางที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยก็สนับสนุนการใช้รถ EV อย่างจริงจัง ทั้งการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งช่วยให้ราคา Model Y มีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น อีกจุดที่น่าสนใจคือ Tesla ได้ร่วมมือกับบริษัทในประเทศเพื่อเร่งสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จ โดยตั้งเป้าเปิดสถานี Supercharger ให้ได้มากกว่า 50 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปี 2023 ครอบคลุมเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งช่วยลดความกังวลของผู้ใช้เกี่ยวกับระยะทางและการหาสถานีชาร์จ Model Y มีให้เลือก 2 รุ่นหลัก ได้แก่ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) และรุ่น Performance ซึ่งรุ่น Performance สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.7 วินาที เหมาะกับคนที่ชื่นชอบสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ต เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง BYD ATTO 3 ที่เริ่มเข้ามาทำตลาดเช่นกัน Tesla Model Y ถือเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม แนะนำให้ผู้ที่สนใจติดตามข้อมูลการทดลองขับและวันส่งมอบผ่านเว็บไซต์ทางการของ Tesla ประเทศไทย
ดูเพิ่มเติม