Q
วิธีปิดเสียงแจ้งเตือนฟอร์ดเอเวอเรสต์
วิธีปิดเสียงแจ้งเตือนของ Ford Everest ในรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยสามารถทำได้ผ่านระบบอินโฟเทนเมนต์ ขั้นตอนคือสตาร์ทรถแล้วเข้าสู่เมนูการตั้งค่ารถบนหน้าจอกลาง เลือกหัวข้อการตั้งค่าเสียงแจ้งเตือนเพื่อปรับหรือตัดการทำงาน เส้นทางเมนูอาจต่างกันเล็กน้อยตามปีรุ่น แนะนำอ้างอิงคู่มือผู้ใช้ภาษาไทยหมวดที่เจ็ด สภาพอากาศร้อนชื้นในไทยอาจส่งผลต่อความไวของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หากหน้าจอสัมผัสตอบสนองช้าให้ทำความสะอาดหน้าจอหรือเข้ารับบริการที่ศูนย์ฟอร์ดในไทยซึ่งมีอุปกรณ์ตรวจสอบตามมาตรฐาน TISI การตั้งค่าในลักษณะเดียวกันพบได้ในเอสยูวีของค่ายอื่น เช่น Toyota Fortuner มักรวมไว้ในเมนูหน้าปัด Isuzu MU X อาจต้องใช้ปุ่มบนพวงมาลัยร่วมกันในการปรับตั้ง ผู้ใช้ควรเก็บบัตรคู่มือการตั้งค่าอย่างรวดไว้ตรวจสอบ หากรถถูกจอดทิ้งไว้นานจนระบบรีเซ็ตถือเป็นกลไกปกติของการป้องกันแบตเตอรี่เพียงตั้งค่าใหม่ก็ใช้งานได้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของ Ford Everest 2022 คือเท่าไร?
Ford Everest รุ่นปี 2022 ในประเทศไทยมีประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมันที่แตกต่างกันตามรุ่นเครื่องยนต์ โดยรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 7.6-8.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรในสภาพถนนแบบผสม ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 8.5-9.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ตัวเลขจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่และสภาพถนน โดยสภาพอากาศร้อนของไทยและการจราจรติดขัดบ่อยๆ ในเมืองอาจทำให้น้ำมันสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบลมยางและบำรุงรักษารถอย่างสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุด รถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีดีเซลอันล้ำสมัยของฟอร์ดที่สร้างสมดุลระหว่างพลังและความประหยัดน้ำมันได้อย่างดี เหมาะสำหรับการเดินทางไกลและการใช้งานในครอบครัวในประเทศไทย นอกจากนี้ระยะความสูงจากพื้นรถที่มากยังช่วยให้ขับเคลื่อนบนถนนสภาพซับซ้อนบางพื้นที่ของไทยได้ดี หากต้องการประหยัดน้ำมันมากขึ้นอาจพิจารณารุ่นไฮบริดหรือไฟฟ้า แต่ปัจจุบัน Everest ยังไม่มีรุ่นพลังงานทางเลือกวางจำหน่ายในประเทศไทย
Q
"2022 Everest มีเทคโนโลยีอะไรบ้าง?"
รถยนต์ Everest รุ่นปี 2022 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงหลายรายการ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สภาพถนนหลากหลายรูปแบบและความต้องการของผู้ใช้ครอบครัวชาวไทยโดยเฉพาะ ระบบ SYNC 4 ที่ติดตั้งมาสามารถรองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยและจอสัมผัสขนาด 12 นิ้ว ทำให้ใช้งานง่ายสำหรับคนไทย นอกจากนี้ยังมีกล้องรอบคันและระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาไปจอดในซอยแคบๆ ในกรุงเทพฯ หรือห้างสรรพสินค้า
ด้านสมรรถนะ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.0L คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ที่ให้ทั้งความประหยัดในเมืองและพลังเพียงพอสำหรับทางขึ้นเขาทางเหนือ ส่วนระบบ Terrain Management System ที่มีโหมดขับขี่ถึง 5 แบบ จะช่วยให้ขับผ่านเส้นทางลื่นๆ ในฤดูฝนหรือทางลาดชันรอบๆเชียงใหม่ได้อย่างมั่นใจ
เรื่องความปลอดภัยมีถุงลมนิรภัย 7 จุด ระบบ Cruise Control อัจฉริยะและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน NCAP ใหม่ของไทยปี 2022 ที่น่าสนใจคือระบบปรับอากาศที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย พร้อมช่องระบายอากาศแยกสำหรับผู้โดยสารหลัง และยังสามารถเลือกติดตั้งกระจกกันรังสี UV ได้
จุดเด่นของ Everest ในตลาดรถระดับเดียวกันคือการผสมผสานระหว่างสมรรถนะออฟโรดกับความสะดวกสบายสำหรับใช้ในเมืองได้อย่างลงตัว ทำให้เหมาะกับการท่องเที่ยวแบบ Road Trip ทุกพื้นที่ในไทย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะจะทำงานได้ดีทั้งบนหาดทรายที่เกาะเสม็ดหรือเส้นทางภูเขาทางเหนือ
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Ford Everest 2022 คือเท่าไหร่?
รถยนต์ Ford Everest รุ่นปี 2022 มีสมรรถนะด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม จนได้รับคะแนนความปลอดภัย 5 ดาวจากอาเซียน NCAP โดยการประเมินนี้พิจารณาจากประสิทธิภาพในการปกป้องผู้โดยสารทั้งผู้ใหญ่และเด็ก รวมถึงระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนถนนสภาพซับซ้อนแบบไทย ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง เช่น 7 ถุงลมนิรภัย ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ (ESC) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) และระบบช่วยรักษาเลน (LKA) ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้จริง สำหรับคนไทยแล้ว Everest ยังได้รับการออกแบบเฉพาะเพื่อปรับตัวสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ทั้งระบบเบรกที่ทำงานได้ดีในทุกสภาพ และเทคโนโลยีป้องกันสนิมบนตัวถัง นอกจากนี้ระยะยกตัวสูงและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อยังเหมาะกับการใช้งานบนถนนลูกรังในบางพื้นที่ของไทยด้วย
ที่น่าสนใจคือมาตรฐานการทดสอบของอาเซียน NCAP จะเน้นเรื่องความปลอดภัยภายใต้สภาพอากาศเขตร้อนเป็นพิเศษ รวมถึงการประเมินการชนกับรถจักรยานยนต์ซึ่งสำคัญมากสำหรับไทยที่มีจำนวนมอเตอร์ไซค์สูง แนะนำว่าก่อนตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคควรทดลองขับขี่ด้วยตนเองนอกเหนือจากการอ้างอิงการจัดอันดับความปลอดภัยในการเลือกซื้อและสัมผัสกับการกำหนดค่าความปลอดภัยของรถยนต์ให้เหมาะสมกับความต้องการของตนเองและได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าระบบความปลอดภัยจะทำงานได้ดีที่สุดตลอดเวลา
Q
รถ Ford Everest 2022 มีทั้งหมดกี่ที่นั่ง?
รถยนต์ Ford Everest รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกการจัดวางเก้าอี้ 2 แบบ ทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของแต่ละครอบครัว สำหรับรุ่น 7 ที่นั่งมีการจัดวางแบบ 2+3+2 ที่นั่งแถวสองสามารถเลื่อนปรับระยะหน้า-หลังได้ ส่วนแถวสามพับเก็บได้แบบ 50:50 ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในได้อย่างยืดหยุ่น เหมาะมากสำหรับครอบครัวใหญ่ในไทยที่ชอบท่องเที่ยวหรือต้องการพื้นที่ขนของ ส่วนรุ่น 5 ที่นั่งก็ให้พื้นที่กระโปรงหลังกว้างขวางขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นเรื่องความจุในการเก็บสัมภาระ ด้านสมรรถนะ SUV คันนี้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร ที่แสดงความสามารถได้อย่างโดดเด่นบนเส้นทางภูเขาในไทย คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน สิ่งที่น่าสนใจคือระยะความสูงจากพื้นรถที่มาก พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ ที่ช่วยให้ขับเคลื่อนบนถนนลื่นๆในช่วงฤดูฝนของไทยได้อย่างมั่นใจ ระบบ SYNC 4 ยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย ทำให้น่าใช้ยิ่งขึ้น พื้นที่เก็บของสามารถขยายได้ถึง 898 ลิตรเมื่อพับแถวที่นั่งสาม เหมาะสมอย่างยิ่งกับการไปจ่ายตลาดสุดสัปดาห์แบบคนไทย ที่ชอบซื้อของทีละมากๆ ตัวถังรถยังใช้วัสดุโบรอนสตีลที่คงความแข็งแรงได้แม้ในสภาพอากาศร้อนจัดของไทย
Q
รถยนต์ Ford Everest รุ่นปี 2022 มีแบบไฮบริดให้เลือกหรือไม่?
รุ่น Ford Everest ปี 2022 ในตลาดไทยยังไม่มีเวอร์ชันไฮบริดให้เลือก โดยตัวรถในไทยจะเน้นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร คู่กับเกียร์ออโต้ 10 สปีด ที่เน้นสมรรถนะออฟโรดและความประหยัดพื้นที่ ส่วนความสนใจในรถไฮบริดและรถไฟฟ้าของคนไทยนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ Ford ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงโฟกัสที่รถเครื่องยนต์สันดาปอยู่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเทรนด์รถไฟฟ้าโลกมาแรง แนวโน้มในอนาคต Everest อาจจะมีตัวเลือกไฮบริดหรือปลั๊ก-อินไฮบริดเพื่อตอบโจทย์ตลาด รัฐบาลไทยเองก็มีนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาด เช่น ลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งอาจดันให้หลายแบรนด์นำเข้ารถโมเดลพลังงานใหม่มาไทยมากขึ้น ตอนนี้ในตลาดไทยมี SUV ไฮบริดให้เลือกอย่าง Toyota Fortuner Hybrid และ Mitsubishi Outlander PHEV ที่ลูกค้าเลือกได้ตามความต้องการและเรื่องประหยัดน้ำมัน ส่วน Ford Everest ด้วยโครงสร้างแข็งแรงและความสามารถออฟโรดระดับพรีเมียมนั้นโด่งดังในเขตภูเขาและต่างจังหวัดของไทย ถ้าหากมีรุ่นไฮบริดออกมาในอนาคต คงช่วยเพิ่มจุดแข่งในตลาดได้ไม่น้อย
Q
“รถ Ford Everest ปี 2022 มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) ไหม?”
Ford Everest รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) ที่มาพร้อมระบบอัจฉริยะช่วยกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลังอัตโนมัติตามสภาพถนน ทำให้เหมาะกับสภาพเส้นทางหลากหลายของไทย ทั้งถนนภูเขาทางเหนือหรือผิวถนนลื่นช่วงฤดูฝน นอกจากรุ่น 4WD แล้วยังมีรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ให้เลือกตามความต้องการและงบประมาณ โดยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยที่ชอบท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือต้องเจอกับเส้นทางยากๆ เพราะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะและความคล่องตัว โดยเฉพาะในไทย Ford Everest ยังมาพร้อมโหมดขับขี่หลายแบบ เช่น โหมดปกติ โหมดโคลน/หิมะ โหมดทราย ช่วยให้รถปรับตัวได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม สำหรับคนไทยที่กำลังมองหา SUV การเข้าใจระบบขับเคลื่อนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะและการใช้งาน ไม่ว่าจะขับในเมืองหรือออกไปผจญภัย Ford Everest รุ่น 2022 ก็ตอบโจทย์ได้ดี
Q
ช่วงราคารถ Everest ปี 2022 คือเท่าไหร่?
รถ Ford Everest รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 1.4 - 2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์เสริมที่เลือก เช่น รุ่น Trend ราคาจับต้องได้เหมาะสำหรับคนงบประมาณไม่สูง ส่วนรุ่น Sport หรือ Titanium+ ที่เป็นรุ่นท็อปจะมาพร้อมฟีเจอร์หรูอย่างซันรูฟพาโนรามิก ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ทำให้ราคาสูงขึ้นหน่อย ในไทยรถคันนี้ค่อนข้างโดนใจทั้งครอบครัวและคนชอบออกไปเที่ยวธรรมชาติ เพราะทั้งแรงและพื้นที่ในรถกว้างขวาง เหมาะกับสภาพถนนหลายแบบของไทย จะขับในเมืองหรือทริปยาวๆ ก็ไม่มีปัญหา แถมยังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 3.0 ลิตร ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน ตอบโจทย์คนไทยที่ต้องการทั้งประโยชน์ใช้สอยและความประหยัดในตัวเดียว เวลาจะซื้อแนะนำให้ไปที่โชว์รูม Ford อย่างเป็นทางการเพื่อสอบถามโปรโมชั่นล่าสุด เพราะบางทีมีบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องฟรีหรือโปรผ่อนดาวน์เบาๆ แถมยังได้ทดลองขับรถรุ่นต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ จะได้รู้ว่ารุ่นไหนเหมาะกับสไตล์การใช้ชีวิตของไทยที่สุด
Q
Ford Everest 2022 คืออะไร?
Ford Everest รุ่นปี 2022 เป็น SUV ขนาดกลางที่ออกแบบมาสำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะที่ประเทศไทยได้รับความนิยมจากครอบครัวและนักท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ด้วยสมรรถนะออฟโรดที่ยอดเยี่ยมและพื้นที่ใช้งานที่กว้างขวาง รถรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้กำลังสูงถึง 226 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะและโหมดขับขี่หลากหลายภูมิประเทศ เหมาะสมกับสภาพถนนหลากหลายแบบในไทย ทั้งเส้นทางขรุขระแถบภาคเหนือหรือถนนลื่นในช่วงฤดูฝน ด้านภายในติดตั้งระบบความบันเทิง SYNC 4 ที่รองรับเสียงสั่งงานภาษาไทยและ Apple CarPlay แบบไร้สาย ส่วนเบาะหลังพับได้อย่างคล่องตัว เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุดถึง 2,010 ลิตร สำหรับใส่กระเป๋าไปตั้งแคมป์หรือของช้อปปิ้งชิ้นใหญ่ ระบบความปลอดภัยครบครันด้วย 7 หมอนอิงและ Ford Co-Pilot360 ที่สำคัญ Ford Everest เวอร์ชั่นไทยยังได้รับการปรับปรุงระบบปรับอากาศให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น และเพิ่มการป้องกันสนิมเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกันแล้ว Everest โดดเด่นเรื่องสมรรถนะออฟโรดและพื้นที่เก็บของ แต่อาจกินน้ำมันมากกว่ารถญี่ปุ่นบ้างเมื่อขับในเมือง ปัจจุบันรถรุ่นนี้ผลิตที่โรงงานระยอง พร้อมรับประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตรตามมาตรฐานไทย
Q
Ford Everest 2025 ราคาเท่าไหร่?
คาดว่าราคาของ Ford Everest รุ่นปี 2025 ในตลาดไทยจะอยู่ที่ประมาณ 1.8 ถึง 2.5 ล้านบาท โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องแต่งตัว เช่น รุ่นพื้นฐาน XL และรุ่นสูงสุด Platinum ที่มีราคาห่างกันค่อนข้างมาก แนะนำให้ผู้ซื้อติดตามราคาอัปเดตล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น รุ่นนี้ยังคงดีไซน์แนว SUV ทรหด พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร หรือเครื่องยนต์ดีเซล V6 เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเต็มเวลาและระบบจัดการการขับขี่บนพื้นผิวต่างๆ เหมาะสมกับสภาพเส้นทางภูเขาและฤดูฝนของไทยเป็นอย่างยิ่ง จุดเด่นของรุ่นปี 2025 คือการอัปเกรดหน้าจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้วและหน้าจอกลางขนาด 12 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและภาพพาโนรามา 360 องศา ซึ่งเป็นการอัปเกรดที่ชัดเจนในส่วนของเทคโนโลยี ในตลาดไทย Everest มีคู่แข่งหลักอย่าง Toyota Fortuner และ Isuzu MU-X ผู้บริโภคควรเปรียบเทียบนโยบายหลังการขายที่แต่ละแบรนด์เสนอ เช่น Ford ไทยปัจจุบันให้บริการรับประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร และบางตัวแทนยังมีโปรโมชั่นบริการฟรีให้อีกด้วย เนื่องจากรัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รุ่นดีเซลของ Everest จึงได้เปรียบด้านภาษีมากกว่ารุ่นเบนซิน นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่คนไทยนิยม SUV ระบบดีเซล
Q
“Ford Everest จะเปิดตัวในปี 2025 ใช่หรือไม่?”
ขณะนี้ทาง Ford ประเทศไทยยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับแผนการนำเข้า Ford Everest รุ่นปี 2025 แต่ด้วยความนิยมของรุ่นนี้ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประสิทธิภาพที่โดดเด่นของ Everest รุ่นปัจจุบันในไทย คาดว่าความเป็นไปได้ที่จะมีการนำเข้ารุ่นใหม่ค่อนข้างสูง สำหรับ Everest 2025 คาดว่าจะยังคงตำแหน่ง SUV แข็งแกร่ง พร้อมอาจอัพเกรดเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะและระบบความบันเทิงที่ทันสมัยขึ้น ซึ่งอัพเดตเหล่านี้เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายรูปแบบในไทยและความต้องการเทคโนโลยีของผู้บริโภค แนะนำให้ติดตามข้อมูลล่าสุดผ่านเว็บไซต์ Ford ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ สำหรับคนไทยที่กำลังมองหา SUV ทาง Everest Series ได้รับความนิยมจากสมรรถนะออฟโรดและพื้นที่กว้างขวางโดยเฉพาะในเขตภูเขาและชนบททางภาคเหนือของไทย ส่วนรุ่นอื่นในระดับเดียวกันเช่น Toyota Fortuner หรือ Mitsubishi Pajero Sport ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ควรทดลองขับและเปรียบเทียบตามความต้องการและงบประมาณของแต่ละคน
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
รถยนต์ Mitsubishi ปี 2023 มีค่าเท่าไร?
ราคาที่แน่นอนของรถยนต์มิตซูบิชิปี 2023 ขึ้นอยู่กับรุ่น รูปแบบ และโปรโมชั่นของตัวแทนจำหน่ายในแต่ละพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ราคาเริ่มต้นของมิตซูบิชิ ไทรตันใหม่ อยู่ที่ประมาณ 599,000 บาท ในขณะที่รุ่นท็อปสุดอาจมีราคาสูงกว่า 1.2 ล้านบาท รุ่นไฮบริดหรือขับเคลื่อนสี่ล้อโดยทั่วไปจะมีราคาสูงกว่า ราคารถมือสองจะได้รับผลกระทบจากสภาพรถ ระยะทางการใช้งาน และระยะเวลาการรับประกัน โดยทั่วไปแล้วจะต่ำกว่ารถใหม่ประมาณ 15%-30% มิตซูบิชิมีความโดดเด่นในกลุ่มรถกระบะและรถ SUV รุ่นต่างๆ เช่น ไทรตันและปาเจโร่ สปอร์ต ได้รับความนิยมเนื่องจากความทนทานและความคุ้มค่าสูง โดยเฉพาะไทรตันที่มีความสามารถในการขับขี่บนทางออฟโรดและพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่เหมาะสมกับสภาพถนนต่างๆ หากคุณกำลังพิจารณาซื้อ ขอแนะนำให้ตรวจสอบราคาล่าสุดบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการก่อน จากนั้นเปรียบเทียบนโยบายโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายต่างๆ เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือบริการบำรุงรักษาฟรี โปรดทราบว่าบางรุ่นระดับสูงอาจต้องสั่งจองล่วงหน้าและต้องรอ สำหรับรถมือสอง การซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการรับรองพร้อมการรับประกันจะช่วยให้อุ่นใจได้มากกว่า เนื่องจากเครือข่ายบริการหลังการขายของมิตซูบิชินั้นครอบคลุม และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล
Q
รถมิตซูบิชิปี 2023 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
รถยนต์มิตซูบิชิรุ่นปี 2023 แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือที่มั่นคง รุ่นหลักๆ เช่น รถกระบะ Triton และรถ SUV Pajero Sport ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาและพิสูจน์แล้วในตลาดมาอย่างยาวนานด้วยอัตราการเสียที่ต่ำ นอกจากนี้ ห่วงโซ่อุปทานชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศก็มีความมั่นคง ทำให้ต้นทุนการบำรุงรักษาอยู่ในระดับที่ได้เปรียบ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD ของมิตซูบิชิทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสภาพถนนที่ซับซ้อนในช่วงฤดูฝน ทำให้เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนลูกรังในชนบทหรือในพื้นที่น้ำท่วมในเมือง ผลตอบรับจากผู้ใช้บ่งชี้ว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรุ่นปี 2023 มีความเสถียรมากขึ้น โดยระบบควบคุมส่วนกลางมีอาการหน่วงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่ารถยนต์มิตซูบิชิมีช่วงล่างที่ค่อนข้างแข็ง ซึ่งอาจเป็นข้อกังวลสำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความสบาย สำหรับการใช้งานในระยะยาว ขอแนะนำให้เลือกรถยนต์มือสองที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ ซึ่งโดยทั่วไปจะมาพร้อมกับการรับประกันเพิ่มเติมและบันทึกการบำรุงรักษาจากโรงงานอย่างครบถ้วน เมื่อเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกัน รถยนต์มิตซูบิชิมีมูลค่าขายต่อสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดรถมือสอง การเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งและการบำรุงรักษาเกียร์ตามกำหนดเวลาเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความน่าเชื่อถือของรถ และนโยบายการรับประกัน 100,000 กิโลเมตรจากผู้ผลิตดั้งเดิมยังสามารถลดความเสี่ยงในการใช้งานในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
รถ Mitsubishi Mirage 2023 จะมีอายุการใช้งานนานเท่าไหร่?
รถยนต์ Mitsubishi Mirage รุ่นปี 2023 เป็นรถขนาดเล็กประเภทประหยัดน้ำมัน ที่สามารถใช้งานได้เกิน 2 แสนกิโลเมตรหากดูแลรักษาและขับขี่อย่างเหมาะสม อายุการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และความถี่ในการบำรุงรักษา รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.2 ลิตรที่มีชื่อเรื่องความทนทาน คู่กับเกียร์ CVT หรือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งค่าบำรุงรักษาไม่สูง เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และดูแลระบบระบายความร้อนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนควรเปลี่ยนไส้กรองแอร์และตรวจระบบระบายความร้อนบ่อยๆ ส่วนการป้องกันสนิมตัวถังก็สำคัญในพื้นที่ชื้น แนะนำให้ตรวจสอบช่วงล่างปีละครั้ง เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน Mirage ประหยัดน้ำมันโดดเด่น ใช้เพียง 4.5-5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และใช้เบนซิน 91 ก็เพียงพอ แต่อย่างไรก็ตาม รถขนาดเล็กแบบนี้เหมาะกับการขับบนถนนเรียบมากกว่า การขับทางไกลหรือถนนขรุขระบ่อยๆ จะทำให้ชิ้นส่วนช่วงล่างเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ถ้าคุณมองหาราคาประหยัด ค่าบำรุงน้อย และทนทาน Mirage เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้แต่รถมือสองที่ดูแลมาดีก็ยังมีมูลค่าค่อนข้างดีในตลาดรถมือสอง
Q
2023 Mitsubishi Mirage เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถยนต์ Mitsubishi Mirage รุ่นปี 2023 เป็นรถขนาดเล็กที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง ด้วยความประหยัดน้ำมันและความคล่องตัว เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 3 สูบคู่กับเกียร์ CVT ให้การทำงานที่ลื่นไหลในสภาพการจราจรติดขัด อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันตามมาตรฐานอยู่ที่ประมาณ 4.6 ลิตร/100 กม. ซึ่งถือว่าประหยัดมากสำหรับการขับขี่ประจำวัน ภายในรถออกแบบมาให้กะทัดรัดแต่ใช้งานได้พอดี พื้นที่เก็บของท้ายรถเพียงพอสำหรับการซื้อของทั่วไป แต่เก้าอี้แถวหลังอาจจะคับแคบสำหรับการเดินทางไกล ในส่วนของความปลอดภัยมีถุงลมนิรภัย 7 จุดและระบบควบคุมเสถียรภาพ车身มาตรฐาน แต่เทคโนโลยีความปลอดภัยเช่นระบบเบรกอัตโนมัติต้องเลือกรุ่นสูงถึงจะมี รถรุ่นนี้มีอัตราการรักษามูลค่าระดับกลางในตลาดมือสอง ค่าบำรุงรักษาไม่สูง เหมาะสำหรับครอบครัววัยเริ่มต้นหรือผู้ซื้อรถคันแรกที่มีงบจำกัด ควรระวังว่ารถขนาดเล็กมักมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนเมื่อขับความเร็วสูง ถ้าต้องใช้งานบนทางไกลบ่อยๆแนะนำให้ทดลองขับดูก่อน สำหรับคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda Brio อาจมีสมรรถนะด้านกำลังดีกว่า แต่ราคาก็สูงกว่า ผู้ซื้อควรเปรียบเทียบตามความต้องการจริง
Q
รถ Mitsubishi Mirage 2023 ราคาเท่าไหร่?
รถยนต์ Mitsubishi Mirage รุ่นปี 2023 ราคาอยู่ที่ประมาณ 549,000 - 619,000 บาท ขึ้นอยู่กับเวอร์ชั่นและอุปกรณ์ที่เลือก โดยราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนบ้าง รถคันนี้เป็นที่นิยมในเมืองเพราะราคาจับต้องได้และประหยัดน้ำมันมาก ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 3 สูบร่วมกับเกียร์ CVT ใช้เชื้อเพลิงเพียง 4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน แม้ตัวรถจะกะทัดรัดแต่มีการออกแบบภายในให้ใช้สอยได้ดี รุ่น 5 ประตูแบบแฮทช์แบคใช้งานได้จริง พื้นที่กระโปรงหลังเพียงพอต่อความต้องการทั่วไป ในส่วนความปลอดภัยมีถุงลมนิรภัยคู่ ระบบ ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพ ส่วนเวอร์ชั่นสูงอาจมีกล้องถอยหลังเพิ่มเข้ามา Mirage เป็นรถขนาดเล็กที่แข่งขันได้ดีในตลาด แถมค่าบำรุงรักษาไม่แพงและหาอะไหล่ง่าย ใช้แล้วอุ่นใจ ถ้าจะเปรียบเทียบในระดับเดียวกันก็มี Honda Brio กับ Toyota Yaris ที่น่าสนใจเหมือนกัน แนะนำให้ไปทดลองขับและเปรียบเทียบที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจ จะได้เลือกรุ่นที่ตอบโจทย์ที่สุด
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Ford เปิดตัว Everest Tremor รุ่นที่ทรงพลังที่สุดในเมืองสำหรับตลาดตะวันออกกลาง
Kevin WongDec 26, 2025

ตารางผ่อนชำระของ Ford Everest สัมผัสรถ SUV สไตล์อเมริกันได้อย่างง่าย
พงศธรNov 10, 2025

ตลาดรถมือสองในประเทศไทย: ความต้องการการบริโภคเบื้องหลังความนิยมและการวิเคราะห์แนวโน้มปี 2025
Kevin WongSep 10, 2025

Ford Everest: พื้นที่ 7 ที่นั่งและเทคโนโลยีอัจฉริยะเปิดเผยความคุ้มค่า
วิรุฬห์Apr 9, 2025

Ford Everest Special Edition เปิดตัวในช่วง Motor Show 2025
ณัฐวุฒิApr 2, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย