Q

วิธีการรีเซ็ต Tesla Model S

สำหรับวิธีการรีเซ็ตรถ Tesla Model S โดยทั่วไปสามารถทำได้โดยการกดปุ่มลูกล้อทั้งสองข้างบนพวงมาลัยค้างไว้ประมาณ 10 วินาทีจนกว่าจอภาพจะดับและเริ่มระบบใหม่ ซึ่งคล้ายกับการรีสตาร์ทสมาร์ทโฟน ช่วยแก้ปัญหาการค้างชั่วคราวของระบบได้ส่วนใหญ่ ในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของประเทศไทย การรีเซ็ตเป็นประจำจะช่วยให้ระบบรถมีความเสถียรมากขึ้น ข้อควรระวังคือหากผู้ใช้ในประเทศไทยเจอปัญหาระบบไม่สามารถเริ่มทำงานได้เนื่องจากแบตเตอรี่ 12V หมด ต้องติดต่อศูนย์บริการ Tesla กรุงเทพฯ หรือใช้บริการรถบริการเคลื่อนที่เพื่อจ่ายไฟข้าม เพราะแบตเตอรี่แรงสูงของ Model S ไม่สามารถชาร์จไฟให้ระบบ 12V โดยตรงได้ สำหรับปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น แนะนำให้ส่งข้อมูลวินิจฉัยผ่านหน้าจอสัมผัสในรถไปยัง Tesla เพื่อให้ทีมช่างในประเทศไทยวิเคราะห์และเสนอวิธีแก้ไขจากระยะทางไกล บริการดิจิทัลแบบนี้มีประสิทธิภาพเป็นพิเศษในตลาดรถไฟฟ้าเกิดใหม่อย่างประเทศไทย ในชีวิตประจำวัน ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถในพื้นที่ต่ำเป็นเวลานานในช่วงฤดูฝนของประเทศไทย เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบแรงสูงตัดไฟอัตโนมัติหลังจากน้ำท่วม ซึ่งในกรณีนี้ต้องใช้เครื่องมือตรวจสอบเฉพาะทางถึงจะรีเซ็ตได้ รถไฟฟ้าอย่าง Model S มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ซับซ้อนกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไป แต่การอัปเดตระบบผ่าน OTA เป็นประจำจะช่วยป้องกันปัญหาซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ได้ แนะนำให้เจ้าของรถในประเทศไทยเชื่อมต่อรถกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาเพื่อรับเฟิร์มแวร์ล่าสุด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ต้องใช้กี่กิโลวัตต์-ชั่วโมงในการชาร์จ Tesla Model S
สำหรับ Tesla Model S ที่ใช้แบตเตอรี่ความจุทั่วไป 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง หากชาร์จจาก 0 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ตามทฤษฎีจะต้องใช้พลังงานประมาณ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง แต่ในความเป็นจริงจะใช้มากกว่านั้นเล็กน้อยเนื่องจากการสูญเสียพลังงานระหว่างการชาร์จและปัจจัยจากระบบจัดการแบตเตอรี่ หากชาร์จจาก 20 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์จะใช้พลังงานประมาณ 60 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทั้งนี้เป็นเพียงค่าประมาณเท่านั้น โดยอาจแตกต่างกันไปตามประสิทธิภาพของอุปกรณ์ชาร์จ อุณหภูมิสิ่งแวดล้อม และสภาพการใช้งานของรถ
Q
Tesla Model S วิ่งเร็วเท่าไหร่
ความเร็วสูงสุดของ Tesla Model S แตกต่างกันตามรุ่น โดยรุ่นพื้นฐานสามารถทำความเร็วได้สูงสุด 193 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่รุ่นสมรรถนะสูงเช่นรุ่น Plaid ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 322 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Q
ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการชาร์จ Tesla Model S
ระยะเวลาในการชาร์จ Tesla Model S แตกต่างกันไปตามรูปแบบการชาร์จ หากใช้สถานีซุปเปอร์ชาร์จเช่นหัวชาร์จ V3 ขนาด 250 กิโลวัตต์จะให้ความเร็วในการชาร์จสูง รุ่นใหม่ของ Model S Plaid สามารถชาร์จจาก 5 เปอร์เซ็นต์ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ได้ภายในประมาณ 51 นาที และการชาร์จเพียง 15 นาทีสามารถเพิ่มระยะทางได้ประมาณ 300 กิโลเมตร ส่วนหัวชาร์จ V2 ที่มีพิกัดสูงสุด 120 กิโลวัตต์จะช้ากว่า V3 เล็กน้อย สำหรับการชาร์จที่บ้านหากใช้ปลั๊ก 220 โวลต์ 10 แอมป์ จะชาร์จได้ประมาณ 22 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 10 ชั่วโมง หรือ 2.2 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อชั่วโมง หากแบตเตอรี่มีความจุ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมงจะต้องใช้เวลาประมาณ 40 ชั่วโมงในการชาร์จเต็ม หากใช้ปลั๊ก 16 แอมป์ ความเร็วจะเพิ่มเป็น 3520 วัตต์ต่อชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 25 ชั่วโมง และหากใช้ปลั๊กอุตสาหกรรม 380 โวลต์ ความเร็วการชาร์จจะเพิ่มเป็นประมาณ 40 ถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากใช้สถานีชาร์จสาธารณะระดับสองที่มีพิกัด 11 ถึง 22 กิโลวัตต์ การชาร์จแบตเตอรี่ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมงจาก 20 เปอร์เซ็นต์ถึง 80 เปอร์เซ็นต์จะใช้เวลาระหว่าง 3 ชั่วโมง 56 นาทีถึง 7 ชั่วโมง 52 นาที
Q
Tesla Model S มีระยะทางเท่าไหร่
ระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้งของ Tesla Model S แตกต่างกันไปตามรุ่นและมาตรฐานการทดสอบ โดยในรุ่นปี 2023 ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบมอเตอร์คู่มีระยะทางตามมาตรฐาน CLTC อยู่ที่ 715 กิโลเมตร ส่วนรุ่น Plaid ที่ใช้มอเตอร์สามตัวมีระยะทาง 672 กิโลเมตร สำหรับรุ่นปี 2024 ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบมอเตอร์คู่มีระยะทางตามมาตรฐาน EPA ประมาณ 651 กิโลเมตร ขณะที่รุ่น Plaid ที่ใช้มอเตอร์สามตัวเมื่อใช้ล้อขนาด 19 นิ้วมีระยะทาง 578 กิโลเมตร และเมื่อใช้ล้อขนาด 21 นิ้วจะเหลือ 515 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามระยะทางจริงในการขับขี่อาจแตกต่างจากข้อมูลทางการ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ เช่น การเร่งหรือเบรกอย่างรุนแรง อุณหภูมิแวดล้อมซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ น้ำหนักบรรทุก สภาพเส้นทาง และการใช้งานระบบเสริมต่างๆ เช่น เครื่องปรับอากาศหรือเครื่องเสียง
Q
น้ำหนักของรถยนต์ Tesla Model S คืออะไร
น้ำหนักของ Tesla Model S แตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง โดยทั่วไปน้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ประมาณ 2000 กิโลกรัม
Q
ราคาแบตเตอรี่ Tesla Model S คือเท่าไร
ไม่พบข้อมูลราคาชุดแบตเตอรี่ของเทสล่า Model S ในประเทศไทย แต่สามารถให้ข้อมูลอ้างอิงได้ว่าราคาชุดแบตเตอรี่ของ Model S โดยประมาณอยู่ที่ 165500 ถึง 231700 บาท
Q
วิธีการเปิดโหมดอัตโนมัติบน Tesla Model S
หากต้องการเปิดโหมดขับขี่อัตโนมัติบน Tesla Model S ให้ตรวจสอบก่อนว่ารถของคุณมีฮาร์ดแวร์ที่รองรับระบบ Autopilot โดยดูจากสัญญาซื้อขายหรือเว็บไซต์ทางการของเทสล่า พร้อมอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดผ่านหน้าจอสัมผัสในเมนูควบคุมจากนั้นเลือกซอฟต์แวร์เพื่อตรวจสอบและติดตั้งการอัปเดต เมื่อสตาร์ทรถแล้วให้เปลี่ยนจากโหมดจอดเป็นโหมดขับขี่และคาดเข็มขัดนิรภัย ใช้ลูกกลิ้งฝั่งขวาของพวงมาลัยเพื่อตั้งค่าความเร็ว แล้วไปที่เมนูควบคุมเลือก Autopilot และเปิดใช้งานโดยเลือกแบบดับเบิลคลิก จากนั้นเลื่อนลูกกลิ้งฝั่งขวาลงสองครั้งติดต่อกันหากระบบตรวจสอบว่าถนนเหมาะสม สัญลักษณ์ความเร็วและพวงมาลัยจะปรากฏเป็นสีเทาบนหน้าปัด และเมื่อเลื่อนอีกสองครั้งหากระบบช่วยเลี้ยวทำงานสัญลักษณ์จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินแสดงว่า Autopilot ถูกเปิดใช้งานแล้ว อย่างไรก็ตามผู้ขับขี่ยังคงต้องให้ความสนใจตลอดเวลาและวางมือบนพวงมาลัยพร้อมรับช่วงควบคุมรถเมื่อจำเป็น
Q
เมื่อ Tesla Model S ถูกเปิดตัว
Tesla Model S ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในเดือนธันวาคม 2022 แต่ปัจจุบันในเว็บไซต์ทางการของเทสล่าในประเทศไทย โมเดล S แสดงสถานะไม่สามารถสั่งซื้อได้
Q
ความยาวของการรับประกันในรถ Tesla Model S คืออะไร
Tesla Model S ในประเทศไทยมักจะมีระยะเวลาประกัน 4 ปี หรือ 80,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่เกิดขึ้นก่อน แต่ควรทราบว่า นโยบายประกันที่เฉพาะเจาะจงอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาในการซื้อและกลยุทธ์การขาย
Q
วิธีการรีเซ็ต Tesla Model S
วิธีการรีเซ็ต Tesla Model S อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นรถและเวอร์ชันซอฟต์แวร์ โดยทั่วไปสามารถเข้าถึงเมนูการตั้งค่าผ่านหน้าจอกลางของรถแล้วค้นหาตัวเลือกการรีเซ็ตที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องระวังว่า การรีเซ็ตที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ระบบของรถมีปัญหา ดังนั้น ควรติดต่อบริการลูกค้าของ Tesla อย่างเป็นทางการเพื่อขอคำแนะนำและการสนับสนุนที่ถูกต้องก่อนที่จะทำการดำเนินการใด ๆ

ข้อดี

ประสิทธิภาพสูงพร้อมการเร่งความเร็วที่น่าทึ่ง
ระยะทางขับขี่ยาวทำให้การเดินทางไกลง่ายขึ้น
การออกแบบที่ดูดีและมีความพร้อมที่หลากหลาย

ข้อเสีย

ราคาสูงเมื่อเทียบกับแบบบางอย่าง
ส่วนภายในอาจถูกถือว่ามัธยฐานโดยบางคน
พื้นที่ด้านหลังอาจรู้สึกแคบเล็กน้อย

Q&A ล่าสุด

Q
ราคา BYD SEALION 7 เท่าไหร่
รถ BYD Sealion 7 เป็นรุ่น SUV ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดจาก BYD ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดไทย ตอนนี้ยังไม่มีประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าดูจากนโยบายการตั้งราคาของ BYD ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงสเปกของรถรุ่นนี้ คาดว่าราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความจุแบตเตอรี่ ระบบขับเคลื่อน และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี e-platform 3.0 ล่าสุดจาก BYD ที่ให้ระยะทางวิ่งมากกว่า 500 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) และรองรับระบบชาร์จเร็ว ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหารถไฟฟ้าระยะทางไกลและชาร์จสะดวก ในตลาดไทย BYD Sealion 7 จะแข่งกับรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ เช่น Tesla Model Y และ MG Marvel R แต่ BYD ได้เปรียบเรื่องการผลิตในประเทศที่อาจทำให้ราคาดีกว่าและมีเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมมากกว่า ที่สำคัญตอนนี้รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถ EV ค่อนข้างดี ทั้งการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งช่วยให้ราคารถถูกลงอีก ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความต้องการรถยนต์อีโคคาร์ที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค รถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงอย่าง BYD Sealion 7 คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด
Q
BYD SEALION 7 มีที่นั่งกี่ที่
BYD SEALION 7 เป็น SUV ขนาดกลางที่ออกแบบมา 5 ที่นั่ง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของครอบครัวไทยหรือการออกทริปกับเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี โอกาสนี้ยังมีพื้นที่ด้านหลังและกระโปรงหลังที่กว้างขวาง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวหรือต้องขนสัมภาระจำนวนมาก รถรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยี Hybrid แบบ Plug-in (DM-i Super Hybrid) ของ BYD ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย โหมด EV ก็เหมาะกับการใช้ชีวิตในเมือง ส่วนเรื่องที่สำคัญคือ ตลาดไทยกำลังเติบโตในเรื่องรถพลังงานสะอาด ซึ่ง Sealion 7 เป็น Plug-in Hybrid ที่ได้สิทธิประโยชน์เหมือนรถ EV แถมยังไม่ต้องกังวลกับสถานีชาร์จที่อาจยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ อีกทั้งยังติดตั้งระบบปรับอากาศแรงๆ สำหรับเมืองร้อน และระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ ที่สำคัญแบตเตอรี่มีมาตรฐานกันน้ำระดับ IP67 ทนสภาพฝนตกชุกของไทยได้ดี เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 ที่ก็เป็น 5 ที่นั่งเหมือนกัน แต่ Sealion 7 โดดเด่นกว่าในเรื่องเทคโนโลยีเชื่อมต่อและนวัตกรรมพลังงานสะอาด อย่างไรก็ตามผู้ซื้อควรเลือกตามความต้องการและงบประมาณที่มี เพราะตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังสนับสนุนนโยบาย EV 3.5 ทำให้ SUV ประหยัดพลังงานแบบนี้จะเป็นทางเลือกยอดนิยมของครอบครัวไทยมากขึ้นเรื่อยๆ
Q
Isuzu MU-X 1.9 ต้องเสียภาษีเท่าไหร่
ในประเทศไทย ภาษีของรถ Isuzu MU-X 1.9 จะประกอบไปด้วยภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยจำนวนเงินที่ต้องจ่ายจริงจะขึ้นอยู่กับราคา CIF ของรถ (รวมค่าการขนส่งและประกัน) รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่นขนาดเครื่องยนต์ ตามนโยบายภาษีของไทย รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตรจะถูกจัดอยู่ในอัตราภาษีสรรพสามิต 20% และต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% โดยรวมแล้วภาษีจะอยู่ที่ประมาณ 30% ของราคา CIF แต่จำนวนสุดท้ายต้องรอการประเมินจากศุลกากร นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีสิทธิประโยชน์สำหรับรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยถ้า Isuzu MU-X 1.9 ซึ่งเป็นรุ่นเครื่องดีเซลสามารถผ่านมาตรฐาน Euro ก็อาจจะได้รับส่วนลดภาษีบางส่วน ควรระวังไว้ว่ารัฐบาลไทยอาจมีการปรับอัตราภาษีรถยนต์เป็นครั้งคราว ดังนั้นก่อนซื้อควรสอบถามข้อมูลล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายหรือหน่วยงานด้านภาษีในพื้นที่ สุดท้ายแล้ว Isuzu MU-X 1.9 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยเนื่องจากความทนทานและประหยัดน้ำมัน แม้ว่าภาษีจะเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการซื้อรถ แต่ในระยะยาวการประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำก็ช่วยให้เจ้าของรถประหยัดเงินได้ไม่น้อย
Q
รีโมทคอนโทรลของ Isuzu MU-X รุ่นอะไร?
สำหรับรถยนต์ Isuzu MU-X ในตลาดไทย รีโมทคีย์ที่นิยมใช้จะเป็นยี่ห้อ 4D-TECH ซึ่งมักเป็นรุ่น 4D-60 หรือ 4D-63 ขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตและระดับเครื่องของรถ แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบป้ายด้านหลังของกุญแจหรือสอบถามตัวแทนจำหน่ายอีซูสุอย่างเป็นทางการในไทยเพื่อความถูกต้อง ส่วนการเปลี่ยนหรือตั้งค่ารีโมทคีย์ในประเทศไทย ต้องทำผ่านช่องทางมืออาชีพโดยเฉพาะรถที่ติดตั้งระบบอิมโมบิไลเซอร์ (Immobilizer) ควรเลือกบริการศูนย์บริการทางการของอีซูสุหรืออู่ที่ได้รับการรับรอง เพื่อความปลอดภัยและความเข้ากันได้ของระบบ นอกจากนี้สภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทยอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ของรีโมท (ปกติใช้แบตเตอรี่รุ่น CR2032) ถ้ารีโมททำงานไม่ดีหรือกดแล้วไม่ค่อยตอบสนอง ลองเปลี่ยนแบตเตอรี่ดูก่อน สำหรับการดูแลรักษารีโมทคีย์ในชีวิตประจำวัน ควรหลีกเลี่ยงการวางทิ้งไว้ในที่ร้อนเช่นแผงหน้าปัด และระวังไม่ให้น้ำเข้า เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรีโมทได้ หากต้องการทำกุญแจเพิ่ม ในไทยมีร้านค้าชิ้นส่วนรถยนต์ขนาดใหญ่เช่น Zeer Rangsit หรือร้านอิเล็กทรอนิกส์รถยนต์เฉพาะทางที่ให้บริการได้ แต่ต้องมั่นใจว่าชิปที่ใช้เข้ากันได้กับของเดิมเพื่อป้องกันระบบรักษาความปลอดภัยของรถทำงานล็อกโดยไม่จำเป็น
Q
ยางขนาด 18 นิ้ว Isuzu MU-X ควรเลือกแบบไหน?
สำหรับรถ SUV อย่าง Isuzu MU-X การเลือกยางขนาด 18 นิ้วต้องคำนึงถึงสภาพอากาศในไทยที่ฝนชุกและถนนหลากหลายรูปแบบ แนะนำให้ใช้ยางออฟโรด (AT) หรือยางสำหรับ SUV แบบทางเรียบ (HT) ถ้าขับในเมืองบ่อย ยาง HT เช่น Bridgestone Dueler H/P Sport หรือ Michelin Primacy SUV+ จะให้ความรู้สึกเงียบกว่าและเกาะถนนดีเวลาฝนตก เหมาะกับฤดูฝนของไทย แต่ถ้าต้องเจอทางลูกรังหรือโคลนบ้างเป็นครั้งคราว ยาง AT อย่าง Toyo Open Country A/T หรือ Pirelli Scorpion ATR จะทนทานกว่าและเหมาะกับการขับออฟโรดเล็กน้อย อย่าลืมว่าอากาศร้อนของไทยส่งผลต่อการระบายความร้อนของยาง แนะนำให้เลือกยางที่มีมาตรฐานรับความร้อนสูง (เช่น TEMP ระดับ A) และตรวจสอบลมยางสม่ำเสมอ (ควรอยู่ที่ 32-35 psi ตามที่ผู้ผลิตกำหนด) นอกจากนี้กฎหมายไทยกำหนดว่าดอกยางต้องเหลือไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. ช่วงก่อนฝนควรเปลี่ยนยางใหม่เพื่อการระบายน้ำที่ดี ส่วนขนาดยางที่เหมาะกับกระทะล้อ 18 นิ้วของ MU-X จะเป็น 255/60R18 ต้องเช็คดัชนีรับน้ำหนัก (Load Index) อย่างน้อย 110 ขึ้นไปเพื่อให้รับน้ำหนักรถได้ และอัตราความเร็ว (Speed Rating) อย่างน้อยระดับ H (210km/h) เพื่อให้เหมาะสมกับการขับบนทางด่วนในไทย
ดูเพิ่มเติม