Q

ราคา Mazda CX-3 ปี 2022 เท่าไหร่?

ราคาขาย Mazda CX-3 รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยอยู่ที่ประมาณ 989,000 ถึง 1,199,000 บาท โดยราคาอาจแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องยนต์และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 1.5 ลิตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและสี่ล้อ ด้วยดีไซน์ KODO ที่เป็นเอกลักษณ์และห้องโดยสารที่หรูหรา ทำให้มันดูโดดเด่นในกลุ่มรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก จุดสำคัญคือ CX-3 เป็นรถนำเข้าซึ่งราคาจะขึ้นลงตามอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีนำเข้า แนะนำให้เปรียบเทียบบริการหลังการขายจากตัวแทนต่างๆ เช่น สัญญาขยายระยะเวลารับประกันหรือบริการเช็คระยะฟรี นอกจากนี้แม้พื้นที่ภายในจะไม่ได้กว้างขวางมากแต่การขับขี่คล่องตัวและประหยัดน้ำมันเหมาะกับการใช้ในเมือง ค่าบำรุงรักษาก็ไม่สูงเกินไป ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกน่าสนใจสำหรับครอบครัววัยหนุ่มสาวหรือผู้ที่กำลังมองหารถคันแรก
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ Mazda รุ่นปี 2022 จะใช้งานได้นานแค่ไหน?
รถ Mazda รุ่นปี 2022 ในสภาพการใช้งานและการดูแลรักษาปกติ คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ไกลถึง 200,000-300,000 กิโลเมตรหรือมากกว่านั้น อายุการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับนิสัยการขับขี่ สภาพถนน และความถี่ในการดูแลรักษา Mazda เป็นที่รู้จักจากเทคโนโลยี Skyactiv ที่ผ่านการทดสอบความทนทานของเครื่องยนต์และเกียร์ในตลาดมาแล้ว โดยเฉพาะเครื่องยนต์แบบแอตโมสเฟียร์ที่มีโครงสร้างเรียบง่าย บำรุงรักษาไม่แพง เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในประเทศไทย แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ฟิลเตอร์ และน้ำหล่อเย็นอย่างสม่ำเสมอ และควรตรวจสอบการป้องกันสนิมช่วงใต้ท้องรถเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน ในตลาดรถมือสอง Mazda ที่มีประวัติการบำรุงรักษาครบถ้วนจะมูลค่าคงเหลือสูง มักรักษามูลค่าได้เกิน 60% หลังจากใช้งานมาแล้ว 5 ปี ส่วนรุ่นไฮบริดแม้ต้นทุนเริ่มแรกจะสูงกว่า แต่ช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มากในระยะยาว โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดในเมือง ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นเครื่องยนต์แบบไหน การปฏิบัติตามคู่มือการบำรุงรักษาของทางผู้ผลิตและใช้บริการศูนย์บริการที่ได้รับการรับรอง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้อย่างเห็นได้ชัด
Q
รถ Mazda CX-3 ปี 2022 ใช้น้ำมันเครื่องชนิดไหน?
สำหรับรถ Mazda CX-3 รุ่นปี 2022 แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องชนิดสังเคราะห์เต็มรูปแบบที่มีความหนืด 0W-20 หรือ 5W-20 เพราะน้ำมันเครื่องเกรดนี้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในประเทศไทย ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นแม้อุณหภูมิจะสูง แถมยังตอบโจทย์เทคโนโลยี Skyactiv ที่ต้องการความแม่นยำของเครื่องยนต์ ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน API SN หรือ SP เพื่อการปกป้องที่ดีที่สุด เวลาเข้าศูนย์บริการก็เน้นใช้น้ำมันเครื่องแบรนด์ Mazda ของทางศูนย์ไปเลยจะดีที่สุด เพราะผ่านการทดสอบมาแล้วว่าเข้ากับรถของไทยได้ดี แต่ถ้าจะใช้แบรนด์อื่นก็ต้องเช็คให้ชัวร์ว่าได้มาตรฐาน Mazda Moly บางคนอาจคิดจะใช้น้ำมันเครื่องความหนืด 5W-30 แทน แต่ถ้าไม่ใช่กรณีพิเศษอะไร ก็ไม่แนะนำให้เปลี่ยนความหนืดเองเพราะอาจทำให้ประหยัดน้ำมันน้อยลงและเครื่องยนต์ตอบสนองช้าลงได้ เวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่าลืมเปลี่ยนไส้กรองไปด้วย ควรเปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรหรือ 12 เดือน แต่ถ้าต้องเจอรถติดหรือขับระยะสั้นบ่อยๆ อาจต้องเปลี่ยนถี่ขึ้นเป็นทุก 8,000 กิโลเมตร แม้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบจะราคาสูง แต่ความสามารถในการต้านทานออกซิเดชันและความคงตัวในอุณหภูมิสูงนั้นคุ้มค่า โดยเฉพาะกับเครื่องยนต์เทอร์โบ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้เยอะเลย
Q
ฉันควรจ่ายเงินเท่าไหร่สำหรับรถ Mazda CX-3 ปี 2025?
ตามข้อมูลตลาดไทย รุ่น Mazda CX-5 ปี 2025 คาดว่าจะมีราคาอยู่ระหว่าง 950,000 ถึง 1,200,000 บาท โดยราคาสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับระดับเครื่องยนต์ ออปชั่นเสริม และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย รุ่นพื้นฐานอาจมาพร้อมล้อขนาด 16 นิ้วและระบบเสียงมาตรฐาน ส่วนรุ่นท็อปจะอัพเกรดเป็นล้อ 18 นิ้ว ระบบเสียง BOSE และซันรูฟแบบพาโนรามา เมื่อซื้อในไทยต้องคำนวณค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นภาษีสรรพสามิต 7% VAT 3% รวมถึงค่าประกันและค่าทะเบียนซึ่งจะทำให้ราคาสิ้นสุดเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% แนะนำให้จับตาช่วงโปรโมชั่นสิ้นปีหรือสิ้นไตรมาสที่ตัวแทนมักแถมบริการฟรีหรือเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง Honda HR-V และ Toyota C-HR ที่มีราคาใกล้เคียง แต่ CX-3 โดดเด่นด้วยดีไซน์ KODO และเทคโนโลยี SKYACTIV ที่ช่วยประหยัดน้ำมันเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ก่อนตัดสินใจซื้อควรตรวจสอบรายการอุปกรณ์ล่าสุดผ่านเว็บไซต์ Mazda ประเทศไทย และเปรียบเทียบราคาจากอย่างน้อย 2 โชว์รูม รวมถึงพิจารณาออปชั่นเสริมเช่นที่นั่งระบายอากาศและกระจกกันความร้อนที่จำเป็นสำหรับอากาศร้อนของไทย
Q
เครื่องยนต์ของ Mazda CX-3 รุ่นปี 2025 คืออะไร?
รุ่นปี 2025 ของ Mazda CX-3 ในตลาดไทยคาดว่าจะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร แบบดูดธรรมดา ซึ่งเครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นนี้โดดเด่นในเรื่องอัตราส่วนอัดสูงและประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ในเมืองไทยที่เจอทั้งรถติดและต้องเร่ง-หยุดบ่อยๆ โดยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรให้กำลังสูงสุดประมาณ 115 แรงม้า ส่วนรุ่น 2.0 ลิตรทำได้ถึง 150 แรงม้า พร้อมเกียร์ออโต้ 6 สปีด และบางรุ่นอาจมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก เทคโนโลยี SKYACTIV ของ Mazda ยังช่วยปรับปรุงเรื่องแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์และการจัดการความร้อน ทำให้ทั้งแรงและประหยัดน้ำมันไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นจุดสำคัญสำหรับคนไทยเพราะราคาน้ำมันสูงและรถติดเป็นประจำ แถมเครื่องยนต์ของ CX-3 ยังใช้ได้กับน้ำมันเบนซิน 91 และ 95 ที่มีขายทั่วไปในไทย ค่าบำรุงรักษาก็ไม่แพง ออกแบบมาให้เหมาะกับอากาศร้อนแบบเมืองไทย โดยระบบระบายความร้อนก็ถูกปรับแต่งให้ทำงานได้ดีในสภาพอุณหภูมิสูง ถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง Honda HR-V และ Toyota C-HR ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใกล้เคียงกัน แต่ Mazda จะให้ความรู้สึกสนุกกว่าตอนขับ เพราะพวงมาลัยตอบสนองดีกว่าและเหยียบคันเร่งแล้วเร่งได้นุ่มลื่นกว่า
Q
รถ Mazda CX-3 รุ่นปี 2025 มีขนาดเท่าไหร่?
Mazda CX-3 ปี 2025 จะมีขนาดใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบันในตลาดประเทศไทย โดยมีความยาวประมาณ 4,275 มม. กว้าง 1,765 มม. สูง 1,535 มม. และระยะฐานล้อ 2,570 มม. ถือเป็นรถ SUV ขนาดกะทัดรัด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่และจอดรถในถนนแคบๆ ในเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพมหานคร รถยนต์รุ่นนี้ยังคงรักษาเอกลักษณ์การออกแบบ "Soul Motion" ของมาสด้าไว้ ด้วยเส้นสายที่นุ่มนวลและความรู้สึกสปอร์ต สีพิเศษอย่าง Coral หรือ Platinum Steel Gray ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ชาวไทยจะยังคงมีให้เลือกอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของขุมพลัง Mazda 2 เวอร์ชั่นไทยอาจมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv ขนาด 1.5 ลิตร หรือ 2.0 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้ความประหยัดน้ำมันและการควบคุมที่คล่องตัว เหมาะกับการขับขี่บนเส้นทางภูเขาของประเทศไทย พื้นที่ภายในได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาด เบาะหลังสามารถพับลงได้ ทำให้สะดวกสบายสำหรับการช้อปปิ้งในชีวิตประจำวันหรือการเดินทางท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์ ที่สำคัญคือ CX-3 มีระยะห่างจากพื้นต่ำ เหมาะสำหรับการขับผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขังในประเทศไทยในช่วงฤดูฝน และระบบควบคุม G-Vectoring ที่เป็นมาตรฐานยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพบนถนนลื่นอีกด้วย ในขณะที่คู่แข่งในระดับเดียวกัน เช่น Honda HR-V หรือ Toyota C-HR มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยแต่มีราคาแพงกว่า แต่ CX-3 กลับได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยรุ่นใหม่ด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและความเพลิดเพลินในการขับขี่
Q
Mazda 2025 ตลาดไทยมีอัปเดตหลักอะไรบ้าง?
สำหรับรุ่นปี 2025 ของ Mazda ในตลาดไทยมีการอัปเดตหลักๆ ดังนี้ เริ่มจากดีไซน์ภายนอกที่ใช้ภาษา Kodo Soul of Motion แบบใหม่ ด้านหน้าใช้กระจังหน้าทรงโล่สามมิติพร้อมไฟหน้า LED เรียวเพรียว เส้นสายตัวรถดูลื่นไหลขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ แถมยังติดฟิล์มกรองแสง UV แบบพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อสภาพอากาศร้อนของไทยให้เป็นมาตรฐานทุกรุ่น ส่วนระบบขับเคลื่อนนั้น ปรับปรุงเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.5L แบบสูบธรรมชาติ พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นถึง 8% เหมาะสมกับสภาพการจราจรแบบสตาร์ท-สต็อปในกรุงเทพฯ และยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ i-Activ AWD ให้เลือกสำหรับการขับขี่ในเส้นทางภาคเหนือช่วงฤดูฝน ด้านภายในติดตั้งจอแสดงผลกลางขนาด 12.3 นิ้วที่รองรับระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย วัสดุหุ้มเบาะนั่งใช้หนังสังเคราะห์ที่ระบายอากาศได้ดีขึ้น สำหรับระบบความปลอดภัยเพิ่มกล้องรอบคันและระบบช่วยเบรกอัจฉริยะเวอร์ชันอัปเกรด ที่สามารถตรวจจับรถจักรยานยนต์ได้แม่นยำขึ้นในสภาพการจราจรแบบผสมผสานของไทย ที่น่าสนใจคือโรงงาน Mazda ที่จังหวัดระยองอาจจะเริ่มผลิตรถบางรุ่นในประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ราคาถูกลงและส่งมอบรถได้เร็วขึ้น ส่วนรุ่นไฮบริดที่คนไทยให้ความสนใจ แม้รุ่นปี 2025 จะยังไม่มี แต่ Mazda ได้ประกาศแล้วว่าจะร่วมมือกับบริษัทไทยเพื่อพัฒนาระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้น คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าที่สำคัญในปี 2026
Q
รถ Mazda CX-3 รุ่นปี 2025 ราคาเท่าไหร่?
รุ่นปี 2025 ของ Mazda CX-3 คาดว่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 900,000 ถึง 1,200,000 บาทในประเทศไทย โดยราคาอาจแตกต่างกันไปตามระดับความจัดแต่งและโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย รุ่นนี้ยังคงดีไซน์ด้วยภาษาการออกแบบ KODO ที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า พร้อมเครื่องยนต์ Skyactiv-G ที่ให้ประสิทธิภาพสูง ประหยัดน้ำมัน และการขับขี่ที่สมรรถนะดี เหมาะกับการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมืองของไทย ในตลาดไทย CX-3 มีคู่แข่งหลักอย่าง Honda HR-V และ Toyota C-HR แต่มาสด้ายังคงได้ใจผู้บริโภคด้วยการออกแบบภายในที่หรูหราและสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น สำหรับผู้สนใจซื้อรถรุ่นนี้ ควรติดตามนโยบายสนับสนุนรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลไทยเพราะอาจได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีบ้าง นอกจากนี้เครือข่ายบริการหลังการขายของมาสด้าในไทยก็ค่อนข้างครอบคลุม ทั้งในเรื่องการบริการรักษาตามระยะและอะไหล่ที่มีพร้อมจำหน่าย CX-3 เป็นที่นิยมในกลุ่มครอบครัววัยรุ่นและมนุษย์เงินเดือนในเมือง โดยเฉพาะคนที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์สวยงามและความสนุกในการขับขี่
Q
มีรถ Mazda 3 รุ่นใหม่ออกมาในปี 2025 ไหม?
จากข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้ ทางมาสด้ายังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับวันเปิดตัวรุ่น Mazda 3 ปี 2025 แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากวงจรการอัพเดทรุ่นใหญ่ที่ปกติจะเกิดขึ้นทุก 5-6 ปี และด้วยความที่รุ่นปัจจุบัน (รุ่นที่ 4) เปิดตัวไปเมื่อปี 2019 จึงมีความเป็นไปได้สูงที่เราจะได้เห็นรุ่นใหม่ในปี 2025 สำหรับตลาดไทยคาดว่าน่าจะได้เห็นรถรุ่นนี้พร้อมกันหรืออาจจะหลังตลาดหลักเล็กน้อย สิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคไทยคือ รุ่นใหม่นี้น่าจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ Skyactiv-X แบบคอมเพรสชันอิกไนต์ล่าสุดจากมาสด้าที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น ซึ่งเหมาะมากกับการขับขี่ในเมืองไทยที่ต้องเจอกับการจราจรติดขัดบ่อยๆ นอกจากนี้ยังอาจมีการปรับแต่งช่วงล่างให้เหมาะสมกับสภาพถนนแบบไทยๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย ในตลาดไทย Mazda 3 ได้สร้างชื่อจากห้องโดยสารที่ดูพรีเมียมและการขับขี่ที่สมรรถนะสูง แข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Toyota Corolla Altis และ Honda Civic ได้อย่างโดดเด่น สำหรับใครที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลล่าสุดผ่านเว็บไซต์มาสด้าไทยหรือตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นได้ โดยปกติแล้วงาน Bangkok International Motor Show จะเป็นเวทีสำคัญที่มักใช้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ อีกเรื่องที่ควรจับตาคือ นโยบายส่งเสริมรถยนต์รักษ์สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลไทยซึ่งให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี หากรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับระบบไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ก็อาจทำให้ได้ราคาที่ถูกกว่าซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้บริโภคไทยเวลาตัดสินใจซื้อรถ
Q
Mazda CX-3 ใหม่จะมาเมื่อไหร่
ทางมาเอดา ประเทศไทย ยังไม่ได้ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับรถรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Mazda CX-3 ในตลาดไทย แต่ถ้าดูจากรอบการเปิดตัวทั่วโลกและระยะเวลาที่ผ่านมาของการนำรถรุ่นใหม่เข้ามาในไทย คาดว่าอาจจะได้เห็นรถรุ่นนี้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 ไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2025 ส่วนวันที่แน่นอนต้องรอประกาศจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยอีกที สำหรับรุ่นใหม่นี้คาดว่าจะยังคงดีไซน์ด้วยภาษา KODO Soul of Motion พร้อมระบบเครื่องยนต์ Skyactiv-G เวอร์ชันอัปเกรดที่ทั้งประหยัดน้ำมันและแรงกว่าน้องพี่รุ่นก่อน ส่วนตลาดไทยน่าจะได้ระบบแอร์ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับอากาศร้อนและกระบวนการป้องกันสนิมใต้ท้องรถที่ดียิ่งขึ้น จุดเด่นที่คนไทยน่าจับตามองคือขนาดตัวรถที่กำลังดี เข้ากับสภาพถนนแคบๆ ในกรุงเทพฯ ได้อย่างลงตัว รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่มาเอดาทำได้ดีเสมอมา สำหรับใครที่สนใจ แนะนำให้ติดตามข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของมาเอดา ประเทศไทย หรือไปลงทะเบียนจองล่วงหน้าที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน จะได้ไม่พลาดโอกาสทดลองขับและโปรโมชั่น Early Bird ส่วนโปรโมชั่นในไทยมักจะมีทั้งดาวน์เบาๆ แถมฟรีค่าบำรุงรักษาในช่วงแรกๆ อีกด้วย
Q
ราคา Mazda CX-3 เท่าไหร่
ในตลาดไทย ราคารถ Mazda CX-3 จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและโปรโมชั่น โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 900,000 ถึง 1,200,000 บาท แต่แนะนำให้สอบถามราคาล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่โดยตรง Mazda CX-3 ในฐานะ SUV ขนาดกะทัดรัดที่มาพร้อมดีไซน์สวยและสมรรถนะการขับขี่ชั้นดี เป็นที่นิยมในหมู่คนไทยโดยเฉพาะสำหรับการขับขี่ในเมือง แถมยังประหยัดน้ำมันได้ดีอีกด้วย ตลาดไทยมีความต้องการ SUV ขนาดเล็กค่อนข้างสูง ซึ่ง CX-3 มีขนาดและสเปคเครื่องยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้รถในไทย โดยรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร เป็นที่นิยมมากเพราะให้ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน นอกจาก CX-3 แล้ว ยังมีคู่แข่งอย่าง Honda HR-V และ Toyota C-HR ที่น่าสนใจ ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบรถแต่ละรุ่นตามงบและความต้องการได้ ส่วนเวลาซื้อรถในไทย อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องภาษี ประกัน และบริการหลังการขายด้วย แนะนำให้เปรียบเทียบราคาและบริการจากหลายๆ โชว์รูมก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

วัสดุตกแต่งภายในคุณภาพดี แม้ว่าการออกแบบจะเรียบง่ายแต่ก็ยังคงความหรูหรา การผลิตที่ยอดเยี่ยม ความรู้สึกที่มีคุณภาพ
ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ได้รับการพัฒนา จาก SKYACTIV-D พัฒนาเป็น SKYACTIV-G ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เร่งอย่างทันท่วงที คงที่และลื่นไถล
รถเข็นง่ายในการใช้งาน ควบคุมได้ง่าย ควบคุมดี น้ำหนักที่เหมาะสม การขับขี่และควบคุมมีความแม่นยำมากขึ้น
การออกแบบเบรกดี ไม่มีความหนักและไม่ลื่น ปรับเข้ากับทุกประเภทของถนน
มีแรงสูบดี ร่วมกับเทคโนโลยีเฟรมและความปลอดภัย การขับขี่มีความมั่นใจมากขึ้น

ข้อเสีย

หลังจากที่นั่งสูงมากหรูแต่ที่นั่งด้านหลังสูงมาก คนที่สูงใหญ่อาจจะลำบากในการขับขี่ครั้งยาวจะเหนื่อยง่าย
พื้นที่จัดเก็บสัมภาระน้อย พื้นที่จัดเก็บสัมภาระในท้ายรถเล็กมาก ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือน
ชาซีนุ่มเกินไป ขับขี่ไม่สะดวก เมื่อเจอถนนที่ขรุขระทำให้ผู้โดยสารในรถรู้สึกชัดเจน
เสียงเครื่องยนต์ดัง การขับเครื่องยนต์ความเร็วสูงดังมาก อาจจะทำให้รำคาญ
จอแสดงผลทำงานผิดพลาดบ่อยครั้ง อุปกรณ์บางตัวมีตำหนิ มันเป็นงานยากในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิสูงในระยะทางที่ยาว

Q&A ล่าสุด

Q
รถยนต์ Mitsubishi ปี 2023 มีค่าเท่าไร?
ราคาที่แน่นอนของรถยนต์มิตซูบิชิปี 2023 ขึ้นอยู่กับรุ่น รูปแบบ และโปรโมชั่นของตัวแทนจำหน่ายในแต่ละพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ราคาเริ่มต้นของมิตซูบิชิ ไทรตันใหม่ อยู่ที่ประมาณ 599,000 บาท ในขณะที่รุ่นท็อปสุดอาจมีราคาสูงกว่า 1.2 ล้านบาท รุ่นไฮบริดหรือขับเคลื่อนสี่ล้อโดยทั่วไปจะมีราคาสูงกว่า ราคารถมือสองจะได้รับผลกระทบจากสภาพรถ ระยะทางการใช้งาน และระยะเวลาการรับประกัน โดยทั่วไปแล้วจะต่ำกว่ารถใหม่ประมาณ 15%-30% มิตซูบิชิมีความโดดเด่นในกลุ่มรถกระบะและรถ SUV รุ่นต่างๆ เช่น ไทรตันและปาเจโร่ สปอร์ต ได้รับความนิยมเนื่องจากความทนทานและความคุ้มค่าสูง โดยเฉพาะไทรตันที่มีความสามารถในการขับขี่บนทางออฟโรดและพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่เหมาะสมกับสภาพถนนต่างๆ หากคุณกำลังพิจารณาซื้อ ขอแนะนำให้ตรวจสอบราคาล่าสุดบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการก่อน จากนั้นเปรียบเทียบนโยบายโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายต่างๆ เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือบริการบำรุงรักษาฟรี โปรดทราบว่าบางรุ่นระดับสูงอาจต้องสั่งจองล่วงหน้าและต้องรอ สำหรับรถมือสอง การซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการรับรองพร้อมการรับประกันจะช่วยให้อุ่นใจได้มากกว่า เนื่องจากเครือข่ายบริการหลังการขายของมิตซูบิชินั้นครอบคลุม และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล
Q
รถมิตซูบิชิปี 2023 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
รถยนต์มิตซูบิชิรุ่นปี 2023 แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือที่มั่นคง รุ่นหลักๆ เช่น รถกระบะ Triton และรถ SUV Pajero Sport ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาและพิสูจน์แล้วในตลาดมาอย่างยาวนานด้วยอัตราการเสียที่ต่ำ นอกจากนี้ ห่วงโซ่อุปทานชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศก็มีความมั่นคง ทำให้ต้นทุนการบำรุงรักษาอยู่ในระดับที่ได้เปรียบ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD ของมิตซูบิชิทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสภาพถนนที่ซับซ้อนในช่วงฤดูฝน ทำให้เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนลูกรังในชนบทหรือในพื้นที่น้ำท่วมในเมือง ผลตอบรับจากผู้ใช้บ่งชี้ว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรุ่นปี 2023 มีความเสถียรมากขึ้น โดยระบบควบคุมส่วนกลางมีอาการหน่วงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่ารถยนต์มิตซูบิชิมีช่วงล่างที่ค่อนข้างแข็ง ซึ่งอาจเป็นข้อกังวลสำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความสบาย สำหรับการใช้งานในระยะยาว ขอแนะนำให้เลือกรถยนต์มือสองที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ ซึ่งโดยทั่วไปจะมาพร้อมกับการรับประกันเพิ่มเติมและบันทึกการบำรุงรักษาจากโรงงานอย่างครบถ้วน เมื่อเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกัน รถยนต์มิตซูบิชิมีมูลค่าขายต่อสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดรถมือสอง การเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งและการบำรุงรักษาเกียร์ตามกำหนดเวลาเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความน่าเชื่อถือของรถ และนโยบายการรับประกัน 100,000 กิโลเมตรจากผู้ผลิตดั้งเดิมยังสามารถลดความเสี่ยงในการใช้งานในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
รถ Mitsubishi Mirage 2023 จะมีอายุการใช้งานนานเท่าไหร่?
รถยนต์ Mitsubishi Mirage รุ่นปี 2023 เป็นรถขนาดเล็กประเภทประหยัดน้ำมัน ที่สามารถใช้งานได้เกิน 2 แสนกิโลเมตรหากดูแลรักษาและขับขี่อย่างเหมาะสม อายุการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และความถี่ในการบำรุงรักษา รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.2 ลิตรที่มีชื่อเรื่องความทนทาน คู่กับเกียร์ CVT หรือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งค่าบำรุงรักษาไม่สูง เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และดูแลระบบระบายความร้อนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนควรเปลี่ยนไส้กรองแอร์และตรวจระบบระบายความร้อนบ่อยๆ ส่วนการป้องกันสนิมตัวถังก็สำคัญในพื้นที่ชื้น แนะนำให้ตรวจสอบช่วงล่างปีละครั้ง เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน Mirage ประหยัดน้ำมันโดดเด่น ใช้เพียง 4.5-5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และใช้เบนซิน 91 ก็เพียงพอ แต่อย่างไรก็ตาม รถขนาดเล็กแบบนี้เหมาะกับการขับบนถนนเรียบมากกว่า การขับทางไกลหรือถนนขรุขระบ่อยๆ จะทำให้ชิ้นส่วนช่วงล่างเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ถ้าคุณมองหาราคาประหยัด ค่าบำรุงน้อย และทนทาน Mirage เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้แต่รถมือสองที่ดูแลมาดีก็ยังมีมูลค่าค่อนข้างดีในตลาดรถมือสอง
Q
2023 Mitsubishi Mirage เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถยนต์ Mitsubishi Mirage รุ่นปี 2023 เป็นรถขนาดเล็กที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง ด้วยความประหยัดน้ำมันและความคล่องตัว เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 3 สูบคู่กับเกียร์ CVT ให้การทำงานที่ลื่นไหลในสภาพการจราจรติดขัด อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันตามมาตรฐานอยู่ที่ประมาณ 4.6 ลิตร/100 กม. ซึ่งถือว่าประหยัดมากสำหรับการขับขี่ประจำวัน ภายในรถออกแบบมาให้กะทัดรัดแต่ใช้งานได้พอดี พื้นที่เก็บของท้ายรถเพียงพอสำหรับการซื้อของทั่วไป แต่เก้าอี้แถวหลังอาจจะคับแคบสำหรับการเดินทางไกล ในส่วนของความปลอดภัยมีถุงลมนิรภัย 7 จุดและระบบควบคุมเสถียรภาพ车身มาตรฐาน แต่เทคโนโลยีความปลอดภัยเช่นระบบเบรกอัตโนมัติต้องเลือกรุ่นสูงถึงจะมี รถรุ่นนี้มีอัตราการรักษามูลค่าระดับกลางในตลาดมือสอง ค่าบำรุงรักษาไม่สูง เหมาะสำหรับครอบครัววัยเริ่มต้นหรือผู้ซื้อรถคันแรกที่มีงบจำกัด ควรระวังว่ารถขนาดเล็กมักมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนเมื่อขับความเร็วสูง ถ้าต้องใช้งานบนทางไกลบ่อยๆแนะนำให้ทดลองขับดูก่อน สำหรับคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda Brio อาจมีสมรรถนะด้านกำลังดีกว่า แต่ราคาก็สูงกว่า ผู้ซื้อควรเปรียบเทียบตามความต้องการจริง
Q
รถ Mitsubishi Mirage 2023 ราคาเท่าไหร่?
รถยนต์ Mitsubishi Mirage รุ่นปี 2023 ราคาอยู่ที่ประมาณ 549,000 - 619,000 บาท ขึ้นอยู่กับเวอร์ชั่นและอุปกรณ์ที่เลือก โดยราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนบ้าง รถคันนี้เป็นที่นิยมในเมืองเพราะราคาจับต้องได้และประหยัดน้ำมันมาก ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 3 สูบร่วมกับเกียร์ CVT ใช้เชื้อเพลิงเพียง 4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน แม้ตัวรถจะกะทัดรัดแต่มีการออกแบบภายในให้ใช้สอยได้ดี รุ่น 5 ประตูแบบแฮทช์แบคใช้งานได้จริง พื้นที่กระโปรงหลังเพียงพอต่อความต้องการทั่วไป ในส่วนความปลอดภัยมีถุงลมนิรภัยคู่ ระบบ ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพ ส่วนเวอร์ชั่นสูงอาจมีกล้องถอยหลังเพิ่มเข้ามา Mirage เป็นรถขนาดเล็กที่แข่งขันได้ดีในตลาด แถมค่าบำรุงรักษาไม่แพงและหาอะไหล่ง่าย ใช้แล้วอุ่นใจ ถ้าจะเปรียบเทียบในระดับเดียวกันก็มี Honda Brio กับ Toyota Yaris ที่น่าสนใจเหมือนกัน แนะนำให้ไปทดลองขับและเปรียบเทียบที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจ จะได้เลือกรุ่นที่ตอบโจทย์ที่สุด
ดูเพิ่มเติม