"รถ V-Class ปี 2024 มีขนาดเท่าไหร่?

จากแนวโน้มการพัฒนาของเทคโนโลยีรถไฟฟ้าและแผนการของผู้ผลิตรายใหญ่ คาดว่าภายในปี 2025 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นทั่วไปจะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 500-700 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม ส่วนรุ่นพรีเมียมบางรุ่นอาจทะลุไปถึง 800 กิโลเมตร สิ่งนี้เป็นผลมาจากการพัฒนาความหนาแน่นพลังงานของแบตเตอรี่และการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานของรถ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่โซลิดสเตท (Solid-State) มาใช้เชิงพาณิชย์ที่จะช่วยแก้ปัญหาการลดลงของระยะวิ่งในฤดูหนาวได้อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน ระยะวิ่งขนาดนี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการเดินทางไกลจากกรุงเทพไปเชียงใหม่แล้ว ยิ่งถ้ามีสถานีชาร์จเร็ว 350kW ตามปั๊มบริการทางด่วน ที่สามารถชาร์จได้ 300 กิโลเมตรในเวลาเพียง 15-20 นาที ก็ยิ่งสะดวกขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ระยะวิ่งจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ การใช้เครื่องปรับอากาศ และสภาพการจราจร แนะนำให้ศึกษาข้อมูลการทดสอบระยะวิ่งในสภาพอากาศของประเทศไทยก่อนซื้อรถ เพราะถึงแม้อากาศร้อนชื้นจะช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้ดีขึ้น แต่การเปิดแอร์ตลอดเวลาก็ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ในช่วงฤดูฝน ถนนที่เปียกลื่นอาจทำให้แรงต้านการหมุนของยางเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระยะวิ่งลดลงประมาณ 5-8% ดังนั้นการเลือกรุ่นที่ติดตั้งระบบทำความร้อนแบบปั๊มความร้อน (Heat Pump) และยางที่มีแรงต้านการหมุนต่ำจะเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของไทยมากกว่า ในอนาคตเมื่อระบบรีไซเคิลแบตเตอรี่พัฒนามากขึ้น ตลาดรถมือสองก็จะมีชีวิตชีวามากขึ้น โดยอัตราการคงอยู่ของระยะวิ่งจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดมูลค่ารถ

ในปี 2023 Ferrari ผลิตรถยนต์ได้ทั้งหมด 13,663 คันทั่วโลก ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของแบรนด์ที่ยึดมั่นในการผลิตจำนวนจำกัด เพื่อรักษาความพิเศษและมาตรฐานสมรรถนะสูงสุดของรถสปอร์ตคันเก่ง แม้ในไทยจะไม่ค่อยเห็นเฟอร์รารี่บ่อยนัก แต่ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และประสบการณ์การขับที่ยอดเยี่ยมยังคงเป็นที่ดึงดูดใจแฟนๆ รถสปอร์ตมากมาย นโยบายการผลิตของ Ferrari สอดคล้องกับตำแหน่งของแบรนด์อย่างแนบแน่น ทุกๆ รุ่นล้วนถูกเติมเต็มด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบไฮบริด ขณะที่ยังคงรักษาความตื่นเต้นในการขับขี่แบบดั้งเดิม สำหรับคนที่หลงรักรถสปอร์ตสมรรถนะสูง Ferrari คือความฝัน แม้ราคาจะสูงลิ่วและมีจำนวนจำกัด แต่สถานะของมันในวงการยานยนต์นั้นไม่มีอะไรแทนที่ได้ ถ้ามีโอกาสได้ลองขับ คุณจะพบว่าความคมชัดในการควบคุมและเสียงเครื่องยนต์นั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์ นี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้ Ferrari มีแฟนตัวยงอยู่ทั่วโลก

รุ่นใหม่ Mercedes-Benz E-Class 2024 คาดการณ์ว่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 3.5 - 4.5 ล้านบาท โดยราคาจริงจะขึ้นอยู่กับรุ่นเครื่องยนต์ ออปชั่นเสริม และแพ็คเกจที่เลือก เช่น รุ่น E 200 แบบพื้นฐานอาจจะราคาใกล้เคียงขอบล่าง ส่วนรุ่นท็อปอย่าง E 300e แบบปลั๊กอินไฮบริดหรือรุ่นที่ติดตั้ง AMG Package ก็จะพุ่งไปที่ขอบบน รถรุ่นนี้ยังคงความหรูหราสไตล์เมอร์เซเดส พร้อมระบบหน้าจอคู่ล่าสุด MBUX และระบบช่วยขับอัตโนมัติระดับ L2 แถมยังอาจมีออปชั่นเสริมสำหรับสภาพอากาศร้อนอย่างเบาะระบายอากาศและระบบแอร์ที่แรงขึ้นเพื่อตอบโจทย์คนไทยโดยเฉพาะ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง BMW 5 Series และ Audi A6 ที่ราคาใกล้เคียงกัน แต่ E-Class ยังคงได้เปรียบในเรื่องความสบายและแบรนด์ที่ดูแพงกว่า อย่างไรก็ตาม ราคารถหรูแบบนี้รวมภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตแล้ว ถ้าจะผ่อนดาวน์เริ่มต้นประมาณ 20% ส่วนดอกเบี้ยก็ขึ้นอยู่กับนโยบายธนาคารกลาง แนะนำให้ติดตามราคาจริงช่วงเปิดตัวหรือสอบถามตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และลองเปรียบเทียบกับราคารถมือสองรุ่นเก่าด้วยจะช่วยตัดสินใจง่ายขึ้น

รุ่นปี 2024 ของ Mercedes-Benz V-Class ที่ไทยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 3.5-4.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่น ออปชั่นเสริม และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายครับ เป็นรถ MPV ระดับไฮเอนด์ที่มาสองแบบคือเวอร์ชั่นฐานล้อมาตรฐานเหมาะสำหรับครอบครัวในเมือง ส่วนเวอร์ชั่นล้อยาวจะเหมาะกับการรับรองลูกค้า โดยมีจุดเด่นที่เบาะแอร์โรว์แถวสองและหลังคากระจกแบบพาโนราม่า ด้านสมรรถนะยังใช้เครื่องยนต์ 2.0T แบบเดิมคู่กับเกียร์ 9AT บางรุ่นมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC ด้วยนะ ที่น่าสนใจคือ V-Class ค่อนข้างทรงตัวในตลาดมือสองครับ รถอายุ 3 ปียังรักษามูลค่าได้เกิน 60% ซึ่งเป็นผลมาจากความทนทานและแบรนด์ที่แข็งแกร่ง คู่แข่งหลักๆก็จะมี Toyota Alphard กับ Volkswagen Multivan แต่ V-Class จะให้ความรู้สึกนุ่มสบายกว่าในเรื่องของเสียงรบกวนและระบบช่วงล่าง ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้เปรียบเทียบโปรโมชั่นผ่อนจากหลายๆโชว์รูมนะครับ เพราะตอนนี้หลายแห่งมีโปรโมชั่นดาวน์ 0% หรือดอกเบี้ยต่ำ แถมสำหรับลูกค้าธุรกิจยังสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

Nissan ได้เปิดตัว Kicks รุ่นใหม่ปี 2024 จริงๆ นะ รุ่นนี้เป็น SUV ขนาดเล็กที่อัพเกรดทั้งในเรื่องการออกแบบและสเปค พ่วงด้วยเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร แบบธรรมชาติที่ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ทำงานคู่กับเกียร์ Xtronic CVT ที่ลื่นไหล แถมยังมาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะอย่างระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ซึ่งเหมาะมากกับการขับขี่ในเมือง ส่วนระบบมัลติมีเดียก็อัพเดทใหม่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้ใช้งานสะดวกขึ้น ในตลาดบ้านเรา Kicks รุ่นนี้ขายดีเพราะตอบโจทย์ทั้งเรื่องประหยัดและใช้งานจริง โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดและพื้นที่จอดรถจำกัด แถมทาง Nissan ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเน้นเรื่องความทนทานและค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง ซึ่ง Kicks ก็ทำได้ดีในจุดนี้ ถ้าใครกำลังมองหา SUV ขนาดเล็กอยู่ ลองไปดูรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Honda HR-V หรือ Toyota C-HR ก็ได้ แต่ถ้าพูดถึงราคาและความประหยัดน้ำมันแล้ว Kicks อาจจะได้เปรียบกว่าเล็กน้อย