Q

MG HS เป็นรถที่เชื่อถือได้หรือไม่?

MG HS เป็น SUV ที่เน้นความคุ้มค่าในด้านราคา โดยมีประสิทธิภาพความเชื่อถือได้อยู่ในระดับมาตรฐานของรถระดับเดียวกัน เครื่องยนต์ 1.5T และ 2.0T ที่ใช้เป็นเทคโนโลยีที่ผ่านการพัฒนามาอย่างดี ระบบเกียร์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะแบบ DCT ชุดขับเคลื่อนนี้ผ่านการทดสอบในตลาดมาหลายปี ทำให้มั่นใจได้ในความเสถียรในการใช้งานประจำวัน ตัวรถมีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพท้องถิ่นได้ดี โดยระบบช่วงล่างถูกปรับให้เหมาะสมกับสภาพถนนในเขตร้อน รวมถึงระบบแอร์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ความเย็นได้ประสิทธิภาพแม้อากาศร้อน จากเสียงตอบรับของผู้ใช้ จุดเด่นคืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ครบครัน แต่แนะนำให้อัปเดตซอฟต์แวร์ระบบรถเป็นประจำเพื่อความลื่นไหล ควรสังเกตว่าชุดแบตเตอรี่รุ่นไฮบริดภายใต้การใช้งานที่อุณหภูมิสูงเป็นเวลานานแนะนำให้เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบซึ่งเป็นหลักการบำรุงรักษาทั่วไปสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ทั้งหมด นโยบายการรับประกันของรุ่นนี้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน โดยรับประกันชุดขับเคลื่อนนาน 5 ปีหรือ 150,000 กม. ซึ่งช่วยลดความกังวลในการใช้งานระยะยาว ถ้ามีงบประมาณประมาณล้านบาท MG HS นี่ถือว่าคุ้มค่าในด้านพื้นที่ภายในและความครบครันของอุปกรณ์ เหมาะสำหรับครอบครัวที่เน้นการใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
สีของ MG HS 2020 คืออะไร?
รุ่น MG HS ปี 2020 มีให้เลือกหลายสีสัน ไม่ว่าจะเป็นสีขาวหิมะ สีดำออบซิเดียน สีแดงเพลิง สีน้ำตาลมายา หรือสีส้มไฟฟ้า ซึ่งสีเหล่านี้ไม่เพียงแต่ดูทันสมัยและโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าแต่ละคนอีกด้วย ในตลาดบ้านเรา สีแดงเพลิงและสีส้มไฟฟ้าเป็นที่นิยมมากเป็นพิเศษ เพราะช่วยเสริมให้รถดูเยาว์วัยและสปอร์ตยิ่งขึ้น แถมยังมีการเคลือบสีที่ใช้เทคโนโลยีการพ่นสีมาตรฐานสูง ทำให้สีคงทนและเงางามตลอดเวลา เวลาเลือกสีรถนอกจากจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวแล้ว ควรคำนึงถึงสภาพอากาศด้วย เช่นสีอ่อนจะช่วยสะท้อนแสงแดดในวันที่ร้อนจัด ทำให้อุณหภูมิในรถไม่สูงเกินไป ส่วนสีเข้มจะให้ความรู้สึกที่ดูหนักแน่นกว่า นอกจากนี้ดีไซน์ของ MG HS ยังเข้ากับสีเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ช่วยเน้นเส้นสายอันเรียวลู่และสไตล์สปอร์ตของตัวรถ ทำให้ไม่ว่าจะขับในเมืองหรือเดินทางไกล ก็เป็นที่สะดุดตาเสมอ
Q
“MG HS เป็นรถที่น่าซื้อหรือไม่?”
MG HS เป็น SUV ที่ทำผลงานได้ดีในตลาดไทย ด้วยการออกแบบที่ทันสมัย พร้อมพื้นที่ใช้งานที่คุ้มค่า และอุปกรณ์ครบครัน เหมาะสำหรับครอบครัวหรือผู้บริโภคที่ต้องการความคุ้มค่า สภาพอากาศในไทยที่ร้อนๆ แอร์ของ MG HS ทำงานได้ดี โต๊ะข้างในกว้างขวาง โดยเฉพาะพื้นที่ขาที่หลังนั่งสบายแม้เดินทางไกล ส่วนด้านกำลังขับ MG HS มีทั้งแบบเบนซินและปลั๊กอินไฮบริด โดยเครื่องยนต์ 1.5T แบบเบนซินให้กำลังเรียบเหมาะกับการขับในเมือง ส่วนรุ่นไฮบริดช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น สำหรับคนที่ต้องการลดค่าใช้จ่าย อุปกรณ์ภายในรถก็จัดเต็ม ทั้งจอสัมผัสขนาดใหญ่ หลังคากระจก ระบบช่วยขับขี่ ทำให้แข่งกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันได้ ด้านบริการหลังการขาย MG ในไทยมีศูนย์บริการครอบคลุม ค่าบำรุงรักษาก็สมเหตุสมผล แต่ต้องระวังเรื่องถนนบางพื้นที่ในไทยที่ขรุขระ แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีความสูงจากพื้นรถที่มากหน่อย และตรวจสอบช่วงล่างกับระบบกันสะเทือนเป็นประจำ นอกจากนี้เวลาซื้อรถควรดูโปรโมชั่นในไทยด้วย เช่น ส่วนลดผ่อน 0% หรือแพ็กเกจบริการฟรี ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกเยอะ
Q
MG HS มีปัญหาไหม?
MG HS เป็น SUV ที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยโดยรวมแล้วค่อนข้างมั่นคง แต่จากเสียงสะท้อนของเจ้าของบางรายอาจพบปัญหาเล็กน้อยที่พบบ่อย เช่น ระบบมัลติมีเดียอาจมีอาการค้างเป็นครั้งคราว หรือการเชื่อมต่อบลูทูธไม่เสถียร ซึ่งปัญหาประเภทนี้โดยทั่วไปสามารถแก้ไขได้ด้วยการอัปเดตระบบ นอกจากนี้ในสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้นและฝนบ่อย แนะนำให้ตรวจสอบท่อระบายน้ำของซันรูฟเป็นประจำเพื่อป้องกันการอุดตัน นี่เป็นข้อควรระวังในการดูแลรักษาเบื้องต้นสำหรับรถประเภท SUV ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.5 ลิตรของ MG HS นั้นทำงานได้สมดุลทั้งในสภาพการขับขี่ในเมืองและเส้นทางชานเมืองของไทย โดยควบคุมการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ในระดับที่เหมาะสม ขณะที่ด้านพื้นที่ภายในและอุปกรณ์ก็ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวไทยได้ดี ด้วยเครือข่ายบริการหลังการขายของ MG ในไทยที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความสะดวกในการเข้าศูนย์บริการก็ดีขึ้น สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อรถรุ่นนี้ แนะนำให้ไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น และสอบถามประสบการณ์การใช้จริงจากเจ้าของเดิมด้วย เพราะรถแต่ละรุ่นมีจุดเด่นต่างกัน การเลือกรถที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุดคือสิ่งสำคัญ
Q
MG HS ปี 2022 เป็นรถยนต์ที่ดีไหม?
รถ MG HS รุ่นปี 2022 เป็น SUV ที่น่าจับตามองในตลาดไทย ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัย พร้อมพื้นที่ภายในกว้างขวางและอุปกรณ์ครบครัน ดึงดูดผู้บริโภคจำนวนมาก โดยเฉพาะเหมาะสำหรับการใช้เป็นรถครอบครัว รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.5L ที่ให้กำลังขับเคลื่อนเรียบร้อยและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพถนนในเมืองและการเดินทางใกล้ๆ ในไทย ส่วนภายในห้องโดยสาร ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว ซันรูฟแบบพาโนรามิก และฟังก์ชันอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่ ด้านความปลอดภัยก็ครบครันด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถและระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของตลาดไทย นอกจากนี้ MG ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ สร้างความมั่นใจให้เจ้าของรถในเรื่องการดูแลรักษา สำหรับผู้ที่มองหาราคาประมาณ 1 ล้านบาท MG HS ถือเป็นตัวเลือกคุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่นในระดับเดียวกันที่ราคาและอุปกรณ์อาจสู้ไม่ได้ ถ้าชอบรถที่เทคโนโลยีแน่นและนั่งสบาย แนะนำให้ลอง MG HS แต่อย่าลืมทดลองขับด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจ จะได้รู้สึกถึงประสิทธิภาพจริงๆ
Q
เครื่องยนต์ของ MG HS 2022 คืออะไร?
รถ MG HS รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ แบบแรกเป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดแบบ DCL เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและประหยัดน้ำมัน ส่วนอีกแบบเป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 222 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร ใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบ DCL แบบเปียก สำหรับคนที่ชอบความแรง ทั้งสองรุ่นใช้เทคโนโลยีฉีดน้ำมันตรงเข้าเครื่องยนต์และผ่านมาตรฐานการระบายไอเสียของไทย ที่สำคัญคือระบบระบายความร้อนถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อน แบรนด์ MG ให้ความสำคัญกับตลาดไทยมากในช่วงหลัง รถ MG HS ถูกปรับแต่งให้เข้ากับสภาพถนนไทยโดยเฉพาะ เช่น เพิ่มการป้องกันสนิมสำหรับช่วงล่างเพื่อรับมือกับหน้าฝน ระบบแอร์ก็ออกแบบมาให้ทนอากาศร้อนได้ดี สำหรับคนไทยที่กำลังตัดสินใจเลือก MG HS แนะนำว่าเครื่อง 1.5T เหมาะกับการขับในกรุงเทพฯ ที่รถติด ส่วน 2.0T จะเหมาะกับคนที่ขับทางไกลหรือขึ้นเขาบ่อยๆ ที่สำคัญทั้งสองรุ่นได้รับบริการหลังการขายอย่างเต็มที่ที่ศูนย์บริการ MG ในไทย
Q
MG 2022 เป็นผู้ผลิตจากประเทศไหน?
สำหรับแบรนด์ MG รุ่นปี 2022 นั้นการผลิตอยู่ภายใต้การดูแลหลักโดย SAIC Motor (เซี่ยงไฮ้ออโตโมบิล) จากประเทศจีน ซึ่งเป็นเจ้าของหลักของแบรนด์ MG ตั้งแต่ปี 2007 ที่เข้าซื้อกิจการ และมีฐานการผลิตในหลายประเทศ เช่น จีน ไทย และอังกฤษ ส่วนในตลาดไทย บางรุ่นของ MG อาจมีการผลิตในประเทศที่โรงงานร่วมทุน SAIC Motor-CP ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งช่วยลดค่าภาษีและเพิ่มความรวดเร็วในการตอบสนองความต้องการของตลาด ล่าสุด MG ได้เปิดตัวหลายรุ่นทั้งรถไฟฟ้าและรถน้ำมันในไทย เช่น MG ZS EV และ MG HS ที่โดดเด่นในเรื่องความคุ้มค่าและการออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทย สำหรับผู้บริโภคที่สนใจสามารถตรวจสอบแหล่งที่ผลิตรถแต่ละรุ่นได้ผ่านช่องทางทางการของแบรนด์ และควรสอบถามนโยบายหลังการขายจากตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ เช่น การรับประกันแบตเตอรี่หรือโปรโมชั่นบริการรักษาตามระยะ เพราะรายละเอียดเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการผลิตรถยนต์ในยุคโลกาภิวัตน์จะมีการกระจายฐานการผลิตไปหลายพื้นที่ แต่เทคโนโลยีหลักและมาตรฐานคุณภาพยังคงถูกควบคุมโดยแบรนด์กลางเหมือนเดิม
Q
“MG HS 2022 มีความจุแบตเตอรี่เท่าไหร่?”
รถ MG HS รุ่นปี 2022 ที่วางขายในตลาดไทย ใช้แบตเตอรี่ขนาด 12V 70Ah ซึ่งเป็นแบตเตอรี่แบบไม่ต้องบำรุงรักษาขนาดใหญ่ พอเพียงสำหรับการทำงานของระบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบสตาร์ทรถในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำเพื่อป้องกันการกัดกร่อน หากเทียบกับรถ SUV ระดับเดียวกันอย่าง Toyota RAV4 หรือ Honda CR-V ที่มักใช้แบตเตอรี่ขนาด 60-75Ah จะเห็นว่า MG HS ใช้แบตเตอรี่ที่อยู่ในมาตรฐานทั่วไป สำหรับเจ้าของรถในไทย ควรระวังเรื่องอากาศร้อนที่ทำให้สารละลายในแบตเตอรี่ระเหยเร็ว แนะนำให้ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าที่ศูนย์บริการทุก 6 เดือน และหลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้นานๆ เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็ว ถ้าใช้เครื่องปรับอากาศหรือระบบเสียงบ่อยๆ อาจพิจารณาติดตั้งเครื่องตรวจวัดแรงดันไฟฟ้าเพิ่มเติมเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ MG มีบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ต้นฉบับที่ศูนย์บริการในไทย และยังออกแบบช่องระบายความร้อนเพิ่มเติมสำหรับแบตเตอรี่เพื่อปรับสภาพอากาศร้อน นี่คือการปรับแต่งเฉพาะตลาดไทยที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของแบรนด์ต่อผู้ใช้รถไทย
Q
"MG HS 2022 มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยเท่าไร?"
รุ่น MG HS ปี 2022 ที่วางขายในประเทศไทยมีประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมันที่แตกต่างกันตามรุ่นเครื่องยนต์ โดยรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบชาร์จ มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบผสมผสานตามมาตรฐาน NEDC ที่ประมาณ 6.2 ลิตร/100 กิโลเมตร ส่วนรุ่น 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ จะสิ้นเปลืองประมาณ 7.7 ลิตร/100 กิโลเมตร แต่ในความเป็นจริงอัตราสิ้นเปลืองอาจแตกต่างไปบ้างขึ้นอยู่กับสภาพอากาศร้อนของไทย การจราจรติดขัดในเมือง หรือนิสัยการขับขี่ของแต่ละคน MG HS ใช้เทคโนโลยีการฉีดน้ำมันตรงสู่กระบอกสูบและการออกแบบตัวรถที่ใช้วัสดุน้ำหนักเบา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยทั้งการขับขี่ในเมืองและเดินทางไกล ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่มีจำหน่ายในไทย สามารถวิ่งได้ถึง 75 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว และมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันรวมต่ำสุดเพียง 1.7 ลิตร/100 กิโลเมตร ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก โดยเฉพาะในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่น แนะนำให้เจ้าของรถในไทยบำรุงรักษารถอย่างสม่ำเสมอ ใช้น้ำมันเบนซินมาตรฐานเลข 95 และใช้โหมด Eco ขับขี่ เพื่อช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกันอย่าง Honda CR-V หรือ Toyota RAV4 ที่มีอัตราสิ้นเปลืองใกล้เคียงกัน แต่ MG HS ยังคงเป็นที่สนใจในตลาดไทยเพราะราคาที่แข่งขันได้และฟีเจอร์อัจฉริยะที่ครบครัน
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

ดีไซน์ภายนอกดีและหรูหรา
ภายในที่หรูหราพร้อมคุณสมบัติที่หลากหลาย ใช้ระบบพลังงานผสมล่าสุดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการขับขี่ ทำให้เครื่องยนต์และมอเตอร์ทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่
การออกแบบภายในละเอียดนัก ห้องโดยสารกว้างขวางและหรูหรา การออกแบบสีที่หลากหลาย ติดตั้งระบบกราฟิกจอควบคุมกลางและจอเล็กใหม่ เพิ่มการแสดงพลังงานผสม
โหมดการขับขี่มีการตอบสนองที่หลากหลาย พลังงานจากเครื่องยนต์ที่หลากหลาย พอสำหรับการใช้งานประจำวัน คุณภาพดี

ข้อเสีย

ข้างเก้าอีขาวเป็นที่หรูหราสำหรับรถสีขาว แต่มันง่ายที่จะสกปรกและทำความสะอาดได้ยาก
กราฟิกบนหน้าจอมีคุณภาพไม่ดี ดูแปลกและไม่สวยงาม
การออกแบบภายนอกขาดความใหม่ รุ่น Hybrid และรุ่นปกติมีความแตกต่างกันเฉพาะอุปกรณ์ชาร์จ สัญลักษณ์ PHV และลายล้อใหม่เท่านั้น

Q&A ล่าสุด

Q
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นไหนที่มีระยะทางวิ่งไกลที่สุดในปี 2025?
ภายในปี 2025 คาดว่ารถไฟฟ้าที่มีระยะทางไกลที่สุดจะเป็น Lucid Air Grand Touring ด้วยระยะทางสูงสุด 516 ไมล์ (ประมาณ 830 กิโลเมตร) ตามมาตรฐาน EPA รุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 113kWh และระบบขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง เหมาะสมเป็นพิเศษสำหรับการเดินทางไกล ส่วน Tesla Model S Plaid และ Mercedes-Benz EQS 580 ก็ติดโผด้วยระยะทาง 405 ไมล์ (ประมาณ 652 กิโลเมตร) และ 350 ไมล์ (ประมาณ 563 กิโลเมตร) ตามลำดับ โดยรถทั้งสองแบบใช้โครงสร้างน้ำหนักเบาร่วมกับการออกแบบลดแรงต้านอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน สำหรับผู้บริโภคที่กำลังมองหารรถไฟฟ้าระยะไกล ควรให้ความสนใจกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ (เช่น ความก้าวหน้าของแบตเตอรี่โซลิดสเตต) ความเข้ากันได้กับโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ (เช่น มาตรฐานการชาร์จในประเทศ) และประสิทธิภาพการใช้งานจริง (เช่น ผลกระทบของสภาพอากาศร้อนต่อแบตเตอรี่) ปัจจุบันเทคโนโลยีชาร์จเร็วสามารถเติมไฟได้ 80% ใน 30 นาที ขณะที่เครือข่ายสถานีชาร์จในท้องถิ่นก็เป็นปัจจัยสำคัญต่อความสะดวกในการใช้งาน
Q
ยานยนต์ไฟฟ้าแห่งปีในปี 2025 คืออะไร?
การแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมประจำปี 2025 (EV of the Year) คาดว่าจะดุเดือดมาก ตอนนี้มีหลายรุ่นที่ร้อนแรงจากหลายแบรนด์ที่อาจเป็นผู้แข่งขันตัวเต็ง เช่น BYD Seal, Tesla Model 3 รุ่นปรับโฉมใหม่, Great Wall Ora Good Cat เป็นต้น รุ่นเหล่านี้โดดเด่นในเรื่องระยะทางขับขี่, เทคโนโลยีอัจฉริยะ และประสบการณ์การขับขี่ โดยเฉพาะ BYD Seal ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี e-Platform 3.0 และการออกแบบ CTB ที่รวมแบตเตอรี่กับตัวถังเข้าด้วยกัน ทำให้ได้รับความสนใจในเรื่องความปลอดภัยและระยะทาง ส่วน Tesla Model 3 รุ่นใหม่ยังคงไว้ความได้เปรียบด้านระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติและเครือข่ายสถานีชาร์จ สำหรับผู้บริโภคในไทย นอกจากประสิทธิภาพแล้ว ราคาและบริการหลังการขายก็เป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งตอนนี้ราคาและนโยบายประกันของรุ่นเหล่านี้ในตลาดอาเซียนก็แข่งขันได้ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าพัฒนาอย่างรวดเร็วและอาจมีความก้าวหน้ามากขึ้นในปี 2025 เช่นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่โซลิดสเตตหรือโปรแกรมการชาร์จไฟที่เร็วขึ้น ขอแนะนำให้ให้ความสนใจกับการประเมินล่าสุดและกิจกรรมการขับขี่ทดสอบจากตัวแทนจําหน่ายในท้องถิ่นก่อนซื้อรถเพื่อเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
Q
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) อยู่ได้นานเท่าไร?
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถไฟฟ้านั้นส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับประเภทของแบตเตอรี่ พฤติกรรมการใช้งาน และปัจจัยแวดล้อม โดยทั่วไปแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่นิยมใช้ในปัจจุบันสามารถใช้งานได้ประมาณ 8-15 ปี หรือราว 160,000-240,000 กิโลเมตร ในสภาวะการใช้งานปกติ หลังจากนั้นความจุของแบตเตอรี่จะค่อยๆ ลดลงเหลือประมาณ 70-80% ของความจุเดิม แต่ยังสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ต่อไป อากาศร้อนจัดจะเร่งให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดเป็นเวลานานและควรใช้การชาร์จแบบช้าเพื่อยืดอายุการใช้งาน แบรนด์รถหลายแห่งยังให้บริการรับประกันแบตเตอรี่นานกว่า 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตรอีกด้วย เทคโนโลยีแบตเตอรี่มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเซลล์โซลิดสเตทรุ่นใหม่คาดว่าจะเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานและอายุการใช้งานของวงจรโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในอนาคตอาจลดลงเรื่อยๆ สำหรับการใช้งานประจำวัน ควรรักษาระดับประจุไฟฟ้าไว้ระหว่าง 20-80% ลดความถี่ในการชาร์จแบบเร็ว และตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่เป็นประจำ ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ นอกจากนี้รถบางรุ่นยังรองรับการนำแบตเตอรี่ที่หมดอายุการใช้งานแล้วไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่น เช่น การนำไปใช้เป็นอุปกรณ์เก็บพลังงานต่อไปได้อีกด้วย
Q
สีของ MG HS 2020 คืออะไร?
รุ่น MG HS ปี 2020 มีให้เลือกหลายสีสัน ไม่ว่าจะเป็นสีขาวหิมะ สีดำออบซิเดียน สีแดงเพลิง สีน้ำตาลมายา หรือสีส้มไฟฟ้า ซึ่งสีเหล่านี้ไม่เพียงแต่ดูทันสมัยและโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าแต่ละคนอีกด้วย ในตลาดบ้านเรา สีแดงเพลิงและสีส้มไฟฟ้าเป็นที่นิยมมากเป็นพิเศษ เพราะช่วยเสริมให้รถดูเยาว์วัยและสปอร์ตยิ่งขึ้น แถมยังมีการเคลือบสีที่ใช้เทคโนโลยีการพ่นสีมาตรฐานสูง ทำให้สีคงทนและเงางามตลอดเวลา เวลาเลือกสีรถนอกจากจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวแล้ว ควรคำนึงถึงสภาพอากาศด้วย เช่นสีอ่อนจะช่วยสะท้อนแสงแดดในวันที่ร้อนจัด ทำให้อุณหภูมิในรถไม่สูงเกินไป ส่วนสีเข้มจะให้ความรู้สึกที่ดูหนักแน่นกว่า นอกจากนี้ดีไซน์ของ MG HS ยังเข้ากับสีเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ช่วยเน้นเส้นสายอันเรียวลู่และสไตล์สปอร์ตของตัวรถ ทำให้ไม่ว่าจะขับในเมืองหรือเดินทางไกล ก็เป็นที่สะดุดตาเสมอ
Q
ความปลอดภัยของ Nissan Note 2020 ได้รับการจัดอันดับเท่าไหร่?
รถยนต์ Nissan Note รุ่นปี 2020 ได้รับการประเมินความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก ASEAN NCAP โดยมีคะแนนการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ที่ 92.17 คะแนน การปกป้องเด็กที่ 83.99 คะแนน และระบบช่วยเหลือความปลอดภัยที่ 71.43 คะแนน ซึ่งแสดงถึงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะในแบบทดสอบการชนด้านหน้าและด้านข้าง ที่แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างตัวรถที่แข็งแรงและการทำงานที่มีประสิทธิภาพของถุงลมนิรภัย รถรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยครบครันทั้ง ABS EBD ระบบช่วยเบรก ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและการเดินทางประจำวันของครอบครัว สำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย Nissan Note 2020 ถือเป็นตัวเลือกที่ดี แนะนำให้ทดลองขับด้วยตัวเองเพื่อสัมผัสถึงการควบคุมและประสิทธิภาพของระบบความปลอดภัยจริงๆ และควรเข้าศูนย์บริการเป็นประจำเพื่อให้รถอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเสมอ นอกจากนี้การทำความเข้าใจเรื่องประกันรถและระยะเวลาการรับประกันก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานอีกด้วย
ดูเพิ่มเติม