Q

ขนาดตัวถังของ Honda Civic เป็นเท่าไหร่?

ขนาดของ Honda Civic อาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามรุ่นและปีที่ผลิต แต่โดยทั่วไป รุ่นใหม่ ๆ จะมีความยาวประมาณ 4674 – 4681 มิลลิเมตร ความกว้างประมาณ 1800 – 1802 มิลลิเมตร และความสูงอยู่ที่ประมาณ 1415 – 1416 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อจะอยู่ที่ประมาณ 2733 – 2735 มิลลิเมตร ด้วยขนาดแบบนี้ Honda Civic จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ขนาด C-Segment ที่ให้สมดุลระหว่างความคล่องตัวในการขับขี่กับพื้นที่ใช้สอยภายในรถ ความยาวของรถช่วยเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสารและห้องเก็บของท้ายรถ ความกว้างช่วยให้รถขับขี่มั่นคง ส่วนความสูงก็ให้ท่านั่งที่สะดวกสบาย ถ้าคุณมักจะขับรถในเมืองหรือจอดในพื้นที่แคบ Civic ก็ถือว่าขนาดกำลังดี ไม่เทอะทะ และถ้าคุณมองหารถที่มีพื้นที่พอสมควรสำหรับผู้โดยสารหรือของสัมภาระ ขนาดฐานล้อและมิติตัวถังแบบนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
2024 Honda Civic เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ คืออะไร
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบแบบแถวเรียงของฮอนด้าซิวิค 2024 เป็นเครื่องยนต์ i-VTEC แบบดูดธรรมชาติดั้งเดิมของฮอนด้าที่มาพร้อมกับบล็อกกระบอกสูบและหัวกระบอกสูบอะลูมิเนียม ให้กำลังสูงสุดประมาณ 158 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 187 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT ที่ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลทั้งในเมืองและบนทางหลวง โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการจราจรที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆในกรุงเทพฯ เครื่องยนต์รุ่นนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและค่าบำรุงรักษาต่ำ มีประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย และยังสามารถใช้กับแก๊สโซฮอล์ E20 ได้ตามนโยบายเชื้อเพลิงท้องถิ่น ที่น่าสนใจคือระบบขับเคลื่อนนี้มาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T ที่เน้นประหยัดน้ำมัน ในขณะที่รุ่น 2.0L เหมาะกับคนที่ชอบการเร่งแบบลื่นไหลเป็นเส้นตรง ฮอนด้าให้ความสำคัญกับตลาดไทยโดยการผลิตในโรงงานไทยที่ได้มาตรฐานโลก พร้อมปรับแต่งเฉพาะให้เหมาะกับสภาพทางลาดชันและอากาศร้อน รวมถึงระบบแอร์ที่ออกแบบมาให้เย็นเร็วเป็นพิเศษ ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงถึงความเข้าใจในความต้องการของคนไทยจริงๆ
Q
รถฮอนด้า ซีวิค 2024 แจ้งเตือนเมื่อยางแบนหรือไม่
รถฮอนด้า ซีวิค รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทยได้ติดตั้งระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS) ซึ่งระบบจะแจ้งเตือนคนขับผ่านไฟสัญญาณบนหน้าปัดเมื่อความดันลมยางผิดปกติ แต่ต้องระวังหน่อยว่ารุ่นพื้นฐานอาจใช้ระบบ TPMS แบบอ้อม (ใช้เซ็นเซอร์วัดความเร็วล้อเพื่อตรวจสอบความดัน) ส่วนรุ่นท็อปจะติดตั้งระบบ TPMS แบบตรง (มีเซ็นเซอร์วัดความดันที่แต่ละยางแสดงค่าความดันแบบリアルタイム) ด้วยสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนจัด ความดันลมยางมักจะ受影响จากอุณหภูมิสูง แนะนำให้ตรวจสอบความดันลมยางด้วยตัวเองอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยเฉพาะก่อนเดินทางไกล และในกรุงเทพฯ ที่มักมีตะปูเหลือจากการก่อสร้างบนถนน ต้องคอยสังเกตไฟเตือนให้ดี ถ้าระบบแจ้งเตือนขึ้น ให้จอดรถในที่ปลอดภัยเพื่อตรวจสอบทันที อย่าขับ続เหมือนที่คนไทยชอบทำจนล้อเสียรูป เพราะหลายปั๊มน้ำมันและอู่ซ่อมรถในไทยมีบริการตรวจลมยางฟรี นอกจากระบบแจ้งเตือนแล้ว ควรฝึกสังเกตสภาพยาง和外観และการสั่นสะเทือนผิดปกติขณะขับขี่ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่ถนนลื่น การรักษาความดันลมยางให้เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้เยอะ
Q
รุ่นย่อยของ Honda Civic ปี 2024 มีอะไรบ้าง
รถฮอนด้า ซีวิค 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมหลายเวอร์ชั่นให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเน้นไปที่เครื่องยนต์ 2 แบบหลัก คือ 1.5 เทอร์โบชาร์จและ 1.8 แอทโมสเฟียร์ โดยเวอร์ชั่น 1.5 เทอร์โบจะแบ่งออกเป็นระดับ S, V และ RS ซึ่งเวอร์ชั่น RS เป็นรุ่นสปอร์ตที่โดดเด่นด้วยการออกแบบภายนอกที่ดุดันกว่าและดีไซน์ภายในเฉพาะตัว ส่วนรุ่น 1.8 ลิตรจะเน้นความประหยัดและใช้งานในชีวิตประจำวัน ฮอนด้าได้ปรับปรุงระบบแอร์และระบบระบายความร้อนให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในไทย พร้อมเพิ่มการป้องกันสนิมสำหรับพื้นที่ชายฝั่งที่มีความชื้นสูง จุดเด่นที่ต้องพูดถึงคือ ซีวิค 2024 ทุกรุ่นมาพร้อมระบบ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชั่นช่วยขับขี่อย่าง Adaptive Cruise Control และ Lane Keeping Assist ซึ่งถือเป็นจุดขายที่แข่งกับค่ายอื่นๆ ในระดับเดียวกัน สำหรับคนไทยแล้ว ซีวิคเป็นที่นิยมในตลาดรถเก๋งขนาดกะทัดรัดด้วยความน่าเชื่อถือและอัตราค่าเสื่อมที่ต่ำ โดยเฉพาะรุ่น RS ที่โด่งดังในกลุ่มวัยรุ่นด้วยระบบช่วงล่างที่ปรับเพื่อการขับขี่สปอร์ตและพวงมาลัยแบบ paddle shift ที่ให้ความรู้สึกสมรรถนะสูงเวลาขับจริง
Q
รถฮอนด้าซิวิค 2024 ถังน้ำมันเต็มสามารถวิ่งได้กี่ไมล์
รถฮอนด้า ซีวิค 2024 ในไทยประหยัดน้ำมันสุดๆ แบบนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดา! รุ่นเทอร์โบ 1.5 ลิตร ถังน้ำมันจุ 47 ลิตร ข้อมูลจากการทดสอบของกรมการขนส่งไทยเผยว่า ในเมืองวิ่งได้ประมาณ 14-15 กม./ลิตร ส่วนทางไกลวิ่งสบายๆ 18-20 กม./ลิตร แปลว่าเติมเต็มถังนี่ในเมืองจะวิ่งได้ประมาณ 658-705 กม. แต่ถ้าออกทางหลวงจะไปได้ไกลถึง 846-940 กม. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจริงอาจเปลี่ยนแปลงเพราะอากาศเมืองไทยร้อนจัด แอร์ต้องเปิดบ่อย รวมถึงสภาพการจราจรในกรุงเทพที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยๆ พิเศษกว่ารุ่นอื่น ซีวิคที่ขายในไทยออกแบบมาให้ใช้ E20 ได้ด้วยนะ แม้เติมเอทานอล 20% อาจทำให้สิ้นเปลืองมากขึ้น 5%-8% แต่ได้ประโยชน์จากภาษีรถ環保ของรัฐบาลไทย แนะนำให้เจ้าของรถเช็กลมยางบ่อยๆ (อากาศร้อนทำให้ลมยางเปลี่ยนแปลงง่าย) และดูแลทำความสะอาดฟิลเตอร์อากาศ (เพราะฝุ่นเยอะ) จะช่วยประหยัดน้ำมันได้จริงๆ ส่วนการออกแบบถังน้ำมันนั้นเรียบแบนเหมือนรถซีดานทั่วไป ไม่กินพื้นที่กระโปรงหลัง แต่ยังตอบโจทย์คนไทยที่ชอบขับทางไกลข้ามจังหวัดแบบชิลล์ๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าวิ่งจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ระยะทาง 700 กม. เต็มถังนี่ถึงแน่นอนไม่ต้องแวะเติม!
Q
รถฮอนด้า ซีวิค 2024 สามารถสตาร์ทด้วยแอปได้หรือไม่
รถฮอนด้า ซีวิค รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดประเทศไทย รองรับระบบสตาร์ทรถผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือได้จริงๆ โดยต้องใช้งานคู่กับระบบ Honda Connect ที่มาพร้อมฟังก์ชันสมาร์ทคอนเนกต์ เจ้าของรถสามารถใช้แอปเฉพาะของฮอนด้าเพื่อสตาร์ทรถและเปิดแอร์ล่วงหน้าในวันที่อากาศร้อนจัดแบบประเทศไทย หรือตรวจสอบสถานะการปิดกระจกในช่วงฤดูฝนได้จากระยะไกล ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้ดีกับสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถได้อย่างชัดเจน รุ่นที่ขายในไทยใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L ที่ทำงานประสานกับระบบนี้ได้ดี และทางเว็บไซต์ฮอนด้า ประเทศไทยยังระบุชัดเจนว่าแอปนี้รองรับทั้งระบบ Android และ iOS ปัจจุบันฟังก์ชันแบบนี้เริ่มเป็นที่นิยมในตลาดไทยมากขึ้น เช่น Toyota Connect และ NissanConnect ก็มีบริการควบคุมระยะไกล แต่รายละเอียดการใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละแบรนด์ ข้อควรระวังคือต้องจอดรถในจุดที่สัญญาณอินเทอร์เน็ต穩定 โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่สัญญาณดี แต่พื้นที่ห่างไกลอาจมีปัญหา นอกจากนี้ กฎหมายไทยกำหนดว่าหลังสตาร์ทรถแล้วยังต้องใช้กุญแจเพื่อเข้าเกียร์ขับเคลื่อน เพื่อป้องกันการทำงานผิดพลาด หากสนใจซื้อ แนะนำให้ไปทดลองใช้งานแอปที่ศูนย์แสดงรถฮอนด้าในไทยโดยตรง พนักงานขายจะสาธิตวิธีการผูกบัญชีและใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ให้ดูเป็นขั้นตอน
Q
2024 Honda Civic เป็นเจนไหน
รถฮอนด้า ซีวิค 2024 เป็นรุ่นที่ 11 ที่ยังคงดีไซน์และสเปคตามมาตรฐานโลกเหมือนเดิม แต่ถูกปรับให้ดูสปอร์ตและหรูขึ้นทั้งภายนอกและภายใน พ่วงด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตรที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับทั้งขับในเมืองและเดินทางไกลในไทยเป็นอย่างมาก รุ่นนี้ยังถูกปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพอากาศและถนนไทยโดยเฉพาะ ทั้งระบบแอร์ที่แรงขึ้นและช่วงล่างที่ทนทานขึ้น เพื่อให้ใช้งานได้มั่นใจแม้ในสภาพอากาศร้อนชื้น แถมยังมาพร้อมกับระบบ Honda SENSING ที่มีฟีเจอร์ช่วยขับขี่ปลอดภัยอย่าง Adaptive Cruise Control และ Lane Keeping Assist ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่คนไทยใช้ได้จริงๆ ถ้าคุณกำลังมองหารถเก๋งสปอร์ตแต่ใช้งานได้จริง ซีวิค 2024 นี่แหละที่น่าจับตามอง เพราะด้วยสมรรถนะที่ครบเครื่องและภาพแบรนด์ฮอนด้าที่เชื่อถือได้ในไทย จะทำให้คุณได้ประสบการณ์การขับขี่ที่ดีแน่นอน
Q
ถังน้ำมันของ Honda Civic 2024 มีขนาดใหญ่แค่ไหน
รถฮอนด้าซิวิคปี 2024 ที่วางขายในประเทศไทยมาพร้อมกับความจุถังน้ำมัน 47 ลิตร ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล สำหรับคนไทยแล้วถือว่าคุ้มค่ามาก โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ ที่ถังน้ำมันขนาดใหญ่จะช่วยลดความถี่ในการเติมน้ำมันลงได้ ส่วนเวลาที่ขับทางไกลขึ้นเหนือหรือลงใต้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางเพราะน้ำมันมีพอ แน่นอนว่าระยะทางจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ ถนนหนทาง และการใช้แอร์ที่อาจต้องเปิดบ่อยในอากาศร้อนแบบไทยๆ จนอาจทำให้ประหยัดน้ำมันน้อยลงเล็กน้อย นอกจากนี้ ฮอนด้าซิวิครุ่นนี้ยังมีทั้งแบบเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร และแบบไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับคนที่อยากช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดีนั้นก็ต้องดูความต้องการในการใช้งานและงบประมาณเป็นหลัก รวมถึงอย่าลืมดูแลรักษารถให้อยู่ในสภาพดีเสมอนะครับ
Q
ฮอนด้า ซีวิค 2024 ประหยัดน้ำมันไหม
รถฮอนด้า ซีวิค 2024 มีประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันโดดเด่น เหมาะสมกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทยและการเดินทางไกลเป็นพิเศษ รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตรร่วมกับเกียร์ CVT สามารถทำระยะทางได้ประมาณ 15-17 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับและสภาพถนน) ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการรถประหยัดพลังงานของตลาดไทย รถคันนี้ใช้เทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้า พร้อมระบบฉีดน้ำมันตรงและน้ำหนักเบาที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้รุ่นที่ขายในไทยยังปรับระบบแอร์ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อน ลดการกินกำลังเครื่อง ส่วนรุ่นไฮบริด (e:HEV) จะประหยัดน้ำมันกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ต้องเปรียบเทียบระหว่างราคาที่สูงขึ้นกับการประหยัดค่าเชื้อเพลิงในระยะยาว สำหรับคนไทยควรพิจารณานโยบายพลังงานของประเทศ เช่น การรองรับน้ำมัน E20 ที่รถซีวิค 2024 ใช้ได้ ซึ่งราคาถูกกว่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่อาจลดกำลังเครื่องเล็กน้อย เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างโตโยต้า คอร์โรลล่า อัลติส ซีวิคให้อัตราสิ้นเปลืองใกล้เคียงแต่การขับขี่สมรรถนะสูงกว่า เหมาะกับคนที่ชอบความสปอร์ต ส่วนการดูแลรักษาเช่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 5,000 กิโลเมตรและการขับขี่อย่างนุ่มนวลจะช่วยรักษาระดับการประหยัดน้ำมันให้ดีที่สุดในระยะยาว
Q
2024 Civic เป็น CVT หรือไม่?
ใช่แล้ว รุ่น Honda Civic 2024 ที่วางขายในตลาดประเทศไทยนั้นมาพร้อมกับเกียร์ CVT (เกียร์อัตโนมัติแบบปรับได้ต่อเนื่อง) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเกียร์ที่ฮอนด้าเลือกใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและความนุ่มนวลขณะขับขี่ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ เกียร์ CVT ทำงานด้วยระบบปรับความเร็วแบบต่อเนื่อง ทำให้การส่งกำลังเป็นเส้นตรงมากกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไป ลดอาการกระชากขณะเปลี่ยนเกียร์ และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่รถติดเป็นประจำ นอกจากรุ่น CVT แล้ว ในบางตลาดต่างประเทศอาจมีตัวเลือกเกียร์ธรรมดาหรือระบบไฮบริด แต่ที่ไทยตอนนี้เน้นรุ่น CVT เป็นหลัก ต้องบอกว่าเกียร์ CVT ของฮอนด้าพัฒนามาหลายรุ่นแล้ว ทั้งในเรื่องความทนทานและความเร็วในการตอบสนอง แถมระบบบริการหลังการขายในไทยก็พร้อม ค่าบำรุงรักษาก็ไม่แพงเกินไป ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ได้อย่างมั่นใจ ถ้าอยากทดสอบประสบการณ์การขับขี่จริง แนะนำให้ไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น เพื่อสัมผัสการทำงานร่วมกันระหว่างเกียร์ CVT และเครื่องยนต์เทอร์โบด้วยตัวเอง
Q
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Honda Civic 1.5 Turbo คืออะไร
ฮอนด้า ซีวิค 1.5 Turbo ในตลาดไทยแสดงประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันได้ค่อนข้างดี จากข้อมูลการทดสอบจริง เมื่อขับในเมืองจะกินน้ำมันประมาณ 6.5-7.5 ลิตร/100 กม. ส่วนเวลาขับทางหลวงจะลดลงเหลือแค่ 5.0-5.5 ลิตร/100 กม. โดยค่าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ประมาณ 5.8-6.3 ลิตร/100 กม. ซึ่งตัวเลขอาจแตกต่างกันไปตามสไตล์การขับ สภาพถนนและการใช้แอร์ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบชาร์จนี้มาพร้อมเทคโนโลยี VTEC ของฮอนด้าที่ไม่เพียงให้กำลังลื่นไหลแต่ยังประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการขับขี่ในไทยที่ทั้งติดขัดในเมืองและต้องวิ่งทางไกลทางหลวง สังเกตว่าสามารถใช้แก๊สโซฮอล์ E20 (น้ำมันผสมเอทานอล 20%) ได้ แม้อาจทำให้ประหยัดน้อยลงหน่อยแต่ช่วยลดต้นทุนและลดการปล่อยมลพิษ สำหรับคนไทยแล้ว การดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอและการใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดเหมาะสมจะช่วยรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้ดี โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบบ้านเรา

ข้อดี

รูปทรงรถที่สวยงามและเนรมิต ด้วยการผสมผสานความสวยงามของเส้นโค้งรถเก๋งพร้อมกับการออกแบบหรูหราที่ลงตัวมาก
การออกแบบภายใน เข้าฉลุยด้วยความหรูหรา มีฟีเจอร์ครบครัน พร้อมสุดยอดความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่สะดวกสบาย
บริเวณหน้ารถตกแต่งด้วย 10 ใบถุงลมสำหรับความปลอดภัย, ส่วนบนของจอดรถมีเทคโนโลยีป้องกันการชนชั้นแนวหน้า
รถยนต์ปี 2022 ตัวใหม่ ม emphasis ที่ความหรูหรา เพื่อสร้างบรรยากาศที่สวยงาม
เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร ที่มั่นคงเหนียวแน่น ความเร็ว 158 ม้า บิดมอเม้น 187 นิวตันเมตร พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT

ข้อเสีย

รุ่นก่อนนี้มีความรู้สึกว่าร่างคันค่อนข้างกว้าง ซึ่งไม่เหมาะสมกับซีรี่ส์รถคันนี้
กล่องเกียร์ CVT ของเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรยับยั้งความสนุกในการขับขี่, การเปลี่ยนเกียร์ด้วยปั่นต้องใช้ความพยายามในการทำงาน
ลดความรู้สึกรุนแรงในการขับขี่และส่งผลทำให้ดูหรูหรา ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกไม่สบาย
ไม่มีระบบพลังงานผสม, มีเพียงเครื่องยนต์เบนซินธรรมดา, อาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการของบางผู้บริโภคในการประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อม

Q&A ล่าสุด

Q
Navara มีค่าบำรุงรักษาสูงไหม?
สำหรับรถปิคอัพ Nissan Navara ในประเทศไทย ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาจัดอยู่ในระดับกลางๆ ของกลุ่มปิคอัพขนาดกลาง ค่าบำรุงรักษาประจำวันถูกกว่า Toyota Hilux หรือ Isuzu D-MAX นิดหน่อยแต่ไม่ต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่เป็นเพราะ Nissan มีเครือข่ายซัพพลายชิ้นส่วนภายในประเทศและศูนย์บริการที่ครอบคลุม การบริการพื้นฐาน (ทุก 10,000 กม. หรือ 6 เดือน) เช่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองอากาศ จะเสียเงินประมาณ 2,500-3,500 บาท ส่วนการบริการใหญ่ (40,000 กม.) ที่รวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก ฯลฯ จะใช้งบประมาณประมาณ 8,000-12,000 บาท ต้องระวังตรงที่เครื่องยนต์ดีเซลของ Navara ใช้เทคโนโลยีคอมมอนเรล ควรใช้น้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน API CJ-4 เพื่อการทำงานที่ยาวนานของเครื่องยนต์ และด้วยสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ควรตรวจสอบระบบแอร์และกันสนิมใต้ท้องรถเป็นประจำ ส่วนใครที่ใช้งานหนักหรือชอบขับออฟโรด แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันดิฟเฟอเรนเชียลและน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์บ่อยกว่าปกติ โปรแกรมบริการจากศูนย์ Nissan ในไทยช่วยประหยัดได้ 15%-20% และยังมีบริการตรวจเช็คฟรีบ่อยๆ ซึ่งช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายระยะยาวได้ดี เลี่ยงการใช้อะไหล่ไม่ใช่ของแท้เพราะอาจลดอายุการใช้งานและค่าขายต่อ โดยเฉพาะ Navara รุ่นที่มีระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ
Q
เครื่องยนต์ใน Nissan Navara 2024 คืออะไร?
รถกระบะ Nissan Navara รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องดีเซล YD25DDTi ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ และเครื่องเบนซิน 2.5 ลิตร โดยรุ่นดีเซลให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดพีค 450 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์ออโต้ 7 สปีด ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับพื้นที่ภูเขาและการขนส่งระยะไกลในไทย แถมยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเทคโนโลยีล่าสุดจาก Nissan ที่สามารถรับมือกับถนนลื่นช่วงฝนหรือทางออฟโรดในชนบทได้สบายๆ สิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญในรถกระบะคือความทนทานและโอกาสในการแต่ง ซึ่ง Navara ตอบโจทย์ด้วยโครงสร้างแบบแชสซีคานรูปสี่เหลี่ยมคางหมูและความสามารถในการบรรทุกสูงถึง 1 ตัน เหมาะมากสำหรับการทำเกษตรหรือใช้งานเชิงพาณิชย์ ในตลาดคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux และ Isuzu D-MAX ก็มีเครื่องดีเซลคล้ายๆ กัน แต่จุดเด่นของ Navara อยู่ที่ระบบช่วงล่างที่เน้นความนุ่มสบายเวลาขับบนถนนทางหลวง เหมาะกับคนที่ต้องวิ่งระหว่างเมืองและชานเมืองเป็นประจำ สำหรับสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทย แนะนำให้เปลี่ยนน้ำหล่อเย็นและกรองน้ำมันดีเซลตามกำหนด จะช่วยรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
Q
"Nissan Navara รุ่น 2024 มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในระดับใด?"
รถปิคอัพ Nissan Navara รุ่นปี 2024 ให้ประสบการณ์ด้านประหยัดน้ำมันที่น่าประทับใจด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร คู่กับเกียร์ออโต้ 7 สปีด ตามข้อมูลทางการระบุว่ามีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ประมาณ 7.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะกับการใช้งานทั้งในเมืองและบนทางไกลแบบที่คนไทยใช้งานกันจริงๆ โดยเฉพาะสภาพอากาศร้อนๆ และถนนหลากหลายแบบในไทย ระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงและการตั้งค่าเครื่องยนต์ยังช่วยรักษาอัตราการกินน้ำมันให้คงที่แม้ในสภาวะเหล่านี้ แถมยังมาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างระบบ Start-Stop ที่ช่วยประหยัดน้ำมันเวลาเจอรถติด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทยเพราะราคานํ้ามันค่อนข้างสูงและปิคอัพมักถูกใช้ทั้งขับทำงานและขนของประจำวัน ถ้าอยากให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น แนะนำให้ดูแลรักษารถตามกำหนดและขับขี่อย่างถูกวิธี เช่น ไม่เร่งกระชากและตรวจสอบลมยางสม่ำเสมอ เทคนิคง่ายๆ แบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้อีก
Q
Nissan Navara ปี 2024 มีเครื่องยนต์อะไร
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทย ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.5 ลิตร รหัส YD25DDTi ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบที่ผ่านการปรับแต่งใหม่ให้มีกำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ทำให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ออฟโรดและประหยัดน้ำมันในชีวิตประจำวัน เครื่องยนต์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีฉีดเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรลและเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ของ Nissan ช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและการขนส่งระยะไกลในไทย สำหรับคนไทยแล้ว จุดแข็งของ Navara คือความทนทานและเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม นอกจากนี้ตัวแทนจำหน่ายยังมีบริการแพ็กเกจดูแลพิเศษสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น เช่น ระบบระบายความร้อนแบบเสริมกำลังและการป้องกันสนิม เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux และ Mitsubishi Triton ที่มีเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใกล้เคียงกัน แต่ Navara ให้แรงบิดในรอบต่ำได้ดีกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องขนของหรือลากจูงบ่อยๆ รุ่นท็อปในตลาดไทยยังมาพร้อมระบบช่วยบนทางลาดชันและล็อกดิฟเฟอเรนเชียลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใช้งานได้จริงบนถนนลื่นช่วงฤดูฝนหรือในสวนผลไม้และฟาร์ม
Q
อัตราประหยัดน้ำมันของ Nissan Navara 2024 คือเท่าไหร่?
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2024 ในประเทศไทยมีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ค่อนข้างโดดเด่น โดยข้อมูลจำเพาะจะแตกต่างกันไปตามประเภทเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน สำหรับรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13-14 กิโลเมตรต่อลิตรในสภาพถนนแบบผสม ซึ่งเหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางไกลก็ยังคงรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้ดี ผู้บริโภคไทยเมื่อเลือกซื้อรถปิกอัพมักให้ความสำคัญกับเรื่องประหยัดน้ำมันและความทนทาน ซึ่ง Navara ถือว่ามีจุดแข็งที่สมดุลในด้านนี้ นอกจากนี้ลักษณะเฉพาะของเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้แรงบิดสูงในรอบต่ำยังเหมาะกับการใช้งานบรรทุกของหรือขับเคลื่อนแบบออฟโรดเบาๆ ที่พบได้บ่อยในประเทศไทย ควรระลึกไว้เสมอว่าสภาพถนนและพฤติกรรมการขับขี่ในประเทศไทยสามารถส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจริงได้ จึงแนะนำให้เจ้าของรถดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอและขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หลีกเลี่ยงการเร่งกระชากหรือบรรทุกหนักเกินไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้ง Navara ยังมีความสามารถในการแข่งขันด้านประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถปิกอัพในระดับเดียวกัน จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานไทยที่ต้องการรถสำหรับทั้งการทำงานและครอบครัว
ดูเพิ่มเติม