Q

Honda Civic มีรุ่นอะไรบ้าง

Honda Civic รุ่นที่พบได้บ่อย ได้แก่ Civic Hatchback และ Civic Sedan
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Honda Civic มีอะไรบ้าง?
Honda Civic เป็นรถที่ได้รับความนิยมสูง และโดยรวมถือว่าทำผลงานได้ดีมาก แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีบางจุดที่สามารถปรับปรุงได้บ้าง โดยเฉพาะระยะห่างจากพื้นถนนที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับรถซีดานในระดับเดียวกัน ทำให้เวลาใช้บนถนนต่างจังหวัดหรือถนนที่มีน้ำขังในหน้าฝนอาจต้องขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้น เรื่องเสียงภายในห้องโดยสาร ขณะขับที่ความเร็วสูงยังมีเสียงรบกวนเข้ามาอยู่บ้าง โดยเฉพาะเสียงเครื่องยนต์ในรอบสูง ซึ่งอาจทำให้รู้สึกล้าเล็กน้อยเมื่อขับในสภาพอากาศร้อนนาน ๆ ทั้งนี้ก็เป็นผลจากดีไซน์ที่เน้นความสปอร์ตของตัวรถ อีกจุดที่มีผู้ใช้บางรายสะท้อนคือ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร อาจมีจังหวะที่ตอบสนองช้าลงเล็กน้อยในสภาพอากาศร้อนจัดอย่างในไทย นอกจากนี้ แม้ออกแบบภายในจะดูทันสมัย แต่บางส่วนยังใช้วัสดุพลาสติกแข็งที่สัมผัสไม่เนียนเท่าที่ควร และเมื่อโดนแดดจัดเป็นเวลานาน อาจมีเสียงยืดหดของชิ้นส่วนบ้าง ทั้งหมดนี้เป็นข้อสังเกตจากการใช้งานจริง ไม่ใช่ข้อบกพร่องของตัวรถโดยตรง โดยรวมแล้ว Honda Civic ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะกับการขับขี่ในเมืองของไทยเป็นอย่างดี.
Q
Honda Civic อยู่ใน Segment ไหน?
Honda Civic จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ระดับ C-Segment หรือที่เรียกว่ารถขนาดคอมแพ็ค ซึ่งเป็นรถที่มีขนาดกลาง เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานของครอบครัว รถในกลุ่ม C-Segment มักมีข้อดีเรื่องความประหยัดน้ำมัน ขับง่าย จอดสะดวก และมีพื้นที่ภายในที่นั่งสบายพอสมควร สำหรับ Honda Civic เองก็ได้รับความนิยมในตลาด ด้วยตัวเลือกขุมพลังที่หลากหลาย ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาและรุ่นไฮบริด รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน และการควบคุมที่มั่นใจ ภายในรถมีการจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัว รองรับการเดินทางของผู้โดยสารในชีวิตประจำวัน รวมถึงการขนของในระดับหนึ่ง จึงนับว่าเป็นรถ C-Segment ที่มีความสามารถรอบด้านและแข่งขันได้ดีในตลาดประเทศไทย.
Q
เครื่องยนต์ของ Honda Civic มีขนาดกี่ซีซี?
ขนาดเครื่องยนต์ของ Honda Civic แต่ละรุ่นอาจแตกต่างกันไป รุ่นยอดนิยมบางรุ่นใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,498 ซีซี (1.5 ลิตร) เช่น Honda Civic 1.5T Turbo EL+ ปี 2024 ส่วนรุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS ปี 2024 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,993 ซีซี (2.0 ลิตร) นอกจากนี้รุ่นเก่าอย่างปี 2020 ยังมีเครื่องยนต์ขนาด 1,799 ซีซี (1.8 ลิตร) ด้วย ดังนั้น ขนาดซีซีของ Honda Civic จะขึ้นอยู่กับรุ่นและปีของรถที่คุณพูดถึง.
Q
Honda Civic ใช้เครื่องยนต์แบบไหน?
Honda Civic มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายแบบ โดยรุ่นเครื่องยนต์เบนซินยอดนิยมคือขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ อย่างรุ่น Honda Civic 1.5 Turbo EL+ ปี 2024 มีความจุ 1498 มิลลิลิตร ใช้ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า (PS) กำลังสูงสุด 131 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่อง 1700 - 4500 รอบต่อนาที มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับขี่นุ่มนวลและตอบสนองดี เหมาะทั้งการใช้งานทั่วไปและการเร่งแซง ส่วนรุ่นไฮบริด เช่น Honda Civic e:HEV EL+ ปี 2024 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์มีแรงม้าสูงสุด 141 แรงม้า ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงม้าสูงสุด 184 แรงม้า ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมแบบ ternary lithium และเกียร์ E-CVT ที่ช่วยให้การเปลี่ยนกำลังระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ราบรื่นมากขึ้น อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม เครื่องยนต์ทั้งสองแบบตอบโจทย์ผู้ใช้ที่มีความต้องการหลากหลาย ไม่ว่าจะเน้นพลังขับเคลื่อนหรือความประหยัดน้ำมัน.
Q
ขนาด PCD (ระยะห่างรูน็อตล้อ) ของ Honda Civic คือเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะห่างรูน็อตล้อ) ของ Honda Civic ที่พบได้บ่อยที่สุดในตลาดไทยคือ 5×114.3 มิลลิเมตร หมายความว่ามีรูน็อต 5 รู เรียงเป็นวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของรุ่นที่ขายในไทย โดยเฉพาะในรุ่นเจเนอเรชันที่ 10 และ 11 อย่างไรก็ตาม หากต้องการเปลี่ยนล้อแม็กในไทย ควรตรวจสอบค่าต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น ค่า ET (Offset) และขนาดรูดุมล้อให้ตรงกับรถ เพราะถึงแม้ PCD จะตรงกัน แต่ล้ออาจไม่พอดีกับรถทุกรุ่น นอกจากนี้ เนื่องจากถนนในไทยมีความหลากหลาย ควรเลือกใช้ล้อคุณภาพดีเพื่อความปลอดภัย และควรปรึกษาศูนย์บริการก่อนเปลี่ยนล้อ โดยเฉพาะหากเป็นรุ่นพิเศษที่อาจมีสเปกต่างออกไป.
Q
Honda Civic มีฟังก์ชัน Apple CarPlay ไหม?
ไม่ใช่ทุกรุ่นของ Honda Civic ที่ติดตั้ง Apple CarPlay มาจากโรงงาน โดยในรุ่นใหม่ ๆ หลายรุ่นเริ่มรองรับระบบอัจฉริยะนี้มากขึ้น หากต้องการเช็กว่ารถของคุณมีหรือสามารถติดตั้ง CarPlay ได้หรือไม่ ควรดูจากรายการอุปกรณ์ของรถหรือสอบถามที่ศูนย์บริการ Honda โดยตรง แม้บางรุ่นจะไม่มีมาแต่แรก ปัจจุบันก็มีอุปกรณ์เสริมที่สามารถเพิ่มฟังก์ชันนี้ได้ เช่นใน Honda Civic รุ่นปี 2022 เฉพาะรุ่นท็อปอย่าง Touring เท่านั้นที่รองรับ CarPlay แบบไร้สาย ส่วนรุ่นอื่นจะใช้ได้เฉพาะแบบมีสาย CarPlay ช่วยให้ผู้ขับสามารถควบคุมโทรศัพท์ด้วยเสียง ใช้นำทาง ฟังเพลง ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่.
Q
ยางที่ใช้ใน Honda Civic มียี่ห้ออะไรบ้าง?
ยางที่ใช้ใน Honda Civic ที่ขายในไทย ส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อจากญี่ปุ่น เช่น Yokohama, Dunlop และ Bridgestone โดยรุ่นของยางจะต่างกันตามรุ่นย่อยและปีที่ผลิต เช่น รุ่น 1.5T ตัวท็อป มักใช้ยาง Bridgestone POTENZA ที่เน้นสมรรถนะสูง ส่วนรุ่น 1.8L รุ่นเริ่มต้น อาจใช้ยาง Yokohama BLUEARTH หรือ Dunlop ENASAVE ที่เน้นความประหยัดและความนุ่มนวลในการขับขี่ ด้วยสภาพอากาศในไทยที่ร้อนและมีฝนบ่อย ยางติดรถเหล่านี้สามารถรองรับถนนลื่นในหน้าฝนได้ดี อย่างไรก็ตาม Honda อาจปรับเปลี่ยนยี่ห้อยางในแต่ละล็อตผลิตตามสถานการณ์ของซัพพลายเชน ทำให้รถรุ่นเดียวกันอาจมียางติดรถต่างกันเล็กน้อย แต่ทุกเส้นยังคงได้มาตรฐานที่เหมาะกับ Civic ถ้าอยากรู้ว่ายางติดรถจากโรงงานเป็นยี่ห้อไหน แนะนำให้ดูที่สติกเกอร์แรงดันลมยางที่เสาประตูฝั่งคนขับ หรือสอบถามศูนย์ Honda ใกล้บ้าน.
Q
ภาษีถนนของ Honda Civic ราคาเท่าไหร่? คำนวณยังไง?
ภาษีถนนประจำปีของ Honda Civic จะคิดตามขนาดความจุเครื่องยนต์ โดยมีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้: – รุ่นที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1.0-1.6 ลิตร (เช่น Civic 1.5T เทอร์โบ) จะมีภาษีถนนอยู่ที่ประมาณ 1,200-1,500 บาทต่อปี – รุ่นที่มีเครื่องยนต์ 1.6-1.8 ลิตร (เช่น Civic 1.8L) อยู่ที่ประมาณ 1,800-2,100 บาทต่อปี การคำนวณภาษีจะยึดตามอัตราเฉลี่ยประมาณ 80-100 บาทต่อ 100 ซีซี ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังมีภาษีเพิ่มเติมตามอายุการใช้งานของรถ หากรถมีอายุเกิน 5 ปี จะมีการบวกเพิ่มอีกประมาณ 10%-30% แล้วแต่ปีที่ใช้งาน แนะนำให้ตรวจสอบอัตราที่แน่นอนจากเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก (DLT) หรือสอบถามได้ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้าน และสามารถชำระภาษีผ่านธนาคารหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ได้เลย.
Q
น้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ Honda Civic ต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่?
ปริมาณน้ำมันเครื่องของ Honda Civic จะแตกต่างกันตามประเภทของเครื่องยนต์ โดยรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T (รหัส L15B) ต้องใช้น้ำมันเครื่องประมาณ 3.7 ลิตร (รวมการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง) ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรแบบธรรมดา (รหัส R18Z) ใช้ประมาณ 4.2 ลิตร ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้เกรด 0W-20 หรือ 5W-30 ที่ทาง Honda แนะนำ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีและยืดอายุการใช้งาน ทั้งนี้ ควรเติมตามระดับที่วัดจากก้านวัดน้ำมันเครื่อง ไม่ควรเติมมากหรือน้อยเกินไป เพราะจะกระทบต่อการทำงานของเครื่องยนต์ ศูนย์บริการ Honda ในไทยมักใช้อุปกรณ์เฉพาะในการเติมน้ำมันอย่างแม่นยำ และแนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน สำหรับรถที่ขับในสภาพการจราจรติดขัด เช่น ในกรุงเทพฯ ควรพิจารณาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องถี่ขึ้นเพื่อรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดี.
Q
ราคารถมือสองของ Honda Civic อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ราคามือสองของ Honda Civic จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพรถ ระยะทางที่ใช้งาน และความต้องการในตลาด ดังนั้นราคาจึงอาจแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างรุ่นปี 2024 — Honda Civic 1.5 Turbo EL+ มีราคารถใหม่อยู่ที่ประมาณ 1,039,000 บาท ส่วนรุ่น e:HEV EL+ อยู่ที่ประมาณ 1,099,000 บาท และรุ่น e:HEV RS ราคาประมาณ 1,239,000 บาท ถ้ารถอยู่ในสภาพดี วิ่งน้อย ราคามือสองก็จะสูงหน่อย แต่ถ้ามีร่องรอยการใช้งานหนัก หรือมีประวัติอุบัติเหตุ ราคาก็จะลดลง และถ้าตลาดมีความต้องการมาก ราคามือสองอาจสูงขึ้น แต่ถ้ามีรถเยอะกว่าคนซื้อ ราคาก็อาจลดลง หากต้องการรู้ราคามือสองที่แน่นอน แนะนำให้ไปดูตามตลาดรถมือสอง แพลตฟอร์มออนไลน์ หรือสอบถามจากตัวแทนจำหน่าย Honda โดยตรง จะได้ราคาที่ตรงกับสภาพรถจริงมากที่สุด.

ข้อดี

รูปทรงรถที่สวยงามและเนรมิต ด้วยการผสมผสานความสวยงามของเส้นโค้งรถเก๋งพร้อมกับการออกแบบหรูหราที่ลงตัวมาก
การออกแบบภายใน เข้าฉลุยด้วยความหรูหรา มีฟีเจอร์ครบครัน พร้อมสุดยอดความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่สะดวกสบาย
บริเวณหน้ารถตกแต่งด้วย 10 ใบถุงลมสำหรับความปลอดภัย, ส่วนบนของจอดรถมีเทคโนโลยีป้องกันการชนชั้นแนวหน้า
รถยนต์ปี 2022 ตัวใหม่ ม emphasis ที่ความหรูหรา เพื่อสร้างบรรยากาศที่สวยงาม
เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร ที่มั่นคงเหนียวแน่น ความเร็ว 158 ม้า บิดมอเม้น 187 นิวตันเมตร พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT

ข้อเสีย

รุ่นก่อนนี้มีความรู้สึกว่าร่างคันค่อนข้างกว้าง ซึ่งไม่เหมาะสมกับซีรี่ส์รถคันนี้
กล่องเกียร์ CVT ของเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรยับยั้งความสนุกในการขับขี่, การเปลี่ยนเกียร์ด้วยปั่นต้องใช้ความพยายามในการทำงาน
ลดความรู้สึกรุนแรงในการขับขี่และส่งผลทำให้ดูหรูหรา ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกไม่สบาย
ไม่มีระบบพลังงานผสม, มีเพียงเครื่องยนต์เบนซินธรรมดา, อาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการของบางผู้บริโภคในการประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อม

Q&A ล่าสุด

Q
วันวางจำหน่ายของ Porsche Taycan คือเมื่อไร
พอร์เช่ Taycan เป็นรถสปอร์ตไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรกของแบรนด์ ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายน 2019 และทยอยเข้ามาจำหน่ายในตลาดไทยแล้ว ลูกค้าสามารถสอบถามวันเวลาการส่งมอบรถที่แน่นอนได้กับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของพอร์เช่ โดยปกติแล้วรถใหม่จะเข้าประเทศไทยภายใน 6-12 เดือนหลังเปิดตัวทั่วโลก ขึ้นอยู่กับกระบวนการรับรองมาตรฐานและขั้นตอนการขนส่งในประเทศ สำหรับในไทย Taycan มาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จเร็วระบบ 800 โวลต์ที่รองรับเครือข่ายสถานีชาร์จในกรุงเทพฯ และเมืองหลักอื่นๆ ที่กำลังขยายตัวเพิ่มเรื่อยๆ นอกจากนี้การออกแบบจุดศูนย์ถ่วงต่ำยังเหมาะกับสภาพถนนโค้งมากของไทย ในส่วนของระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ยังได้รับการปรับแต่ง specifically ให้ทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อน แถมรัฐบาลไทยยังมีนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้า ทั้งลดภาษีนำเข้าและให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ เจ้าของ Taycan ในไทยจึงได้ทั้งสิทธิ์ลดภาษีและบริการชาร์จฟรีในบางจังหวัด แนะนำให้ผู้สนใจติดตามข้อมูลการจดทะเบียนรถนำเข้าจากกรมการขนส่งทางบก หรือสอบถามข้อมูลล่าสุดกับตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตโดยตรง อีกทั้งศูนย์พอร์เช่ยังมีบริการติดตั้งจุดชาร์จส่วนตัวให้อีกด้วย ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนสถานีชาร์จในคอนโดและหมู่บ้านในไทยได้อย่างตรงจุด
Q
ความยาวของ Porsche Taycan คือเท่าไร
รถ Porsche Taycan แต่ละรุ่นมีความยาวแตกต่างกันเล็กน้อย เช่น รุ่น Taycan 2024 และ Taycan GTS 2022 จะมีความยาว 4,963 มม. ส่วนรุ่น Taycan Turbo 2024 และ Taycan Turbo S 2024 จะสั้นลงมาหน่อยที่ 4,962 มม. ขณะที่รุ่นแรงอย่าง Taycan Turbo GT 2024 จะยาวที่สุดในกลุ่มที่ 4,968 มม. สำหรับรุ่น Cross Turismo อย่าง Taycan 4 Cross Turismo 2023, Taycan 4S Cross Turismo 2023 และ Taycan Cross Turismo 2023 จะมีความยาวเท่ากันที่ 4,974 มม. ความยาวของรถมีผลต่อพื้นที่ภายในและสัดส่วนภายนอก รถที่ยาวกว่ามักให้พื้นที่ขาและศีรษะที่กว้างขวางขึ้น ทำให้ผู้โดยสารนั่งสบายมากขึ้น แถมยังช่วยให้รถดูหรูหราและสง่าขึ้นด้วย
Q
แบตเตอรี่ของ Porsche Taycan มีขนาดเท่าไร
Porsche Taycan แต่ละรุ่นมีความจุแบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน ในรุ่นปี 2024 แบตเตอรี่ของ Taycan 2024 มีความจุ 89 kWh ส่วนรุ่น Taycan 4S 2024, Turbo 2024, Turbo S 2024 และ Turbo GT 2024 มีความจุแบตเตอรี่เท่ากันที่ 105 kWh สำหรับรุ่นปี 2023 อย่าง Taycan 4 Cross Turismo, Taycan 4S Cross Turismo และ Taycan Cross Turismo ก็มีความจุแบตเตอรี่ที่ 105 kWh เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ มีข่าวว่าในรุ่นปี 2025 Taycan จะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ โดยทุกรุ่นจะใช้แบตเตอรี่แบบใหม่ รุ่นมาตรฐานจะมีความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นเป็น 83.6 kWh และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงเป็นอ็อปชันเสริมสำหรับรุ่น Taycan และ 4S ส่วนรุ่น Turbo จะได้แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ความจุแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลโดยตรงต่อระยะทางขับขี่ที่ยาวขึ้น ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกหลากหลายตามความต้องการใช้รถของตนเอง.
Q
ราคาบริการของ Porsche Taycan คืออะไร ดูที่นี่ก่อนดีกว่า
ค่าใช้จ่ายในการบริการรักษารถ Porsche Taycan ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและศูนย์บริการ โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายพื้นฐานจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 ถึง 25,000 บาท ขึ้นอยู่กับรายการที่ต้องเปลี่ยน เช่น การตรวจสอบแบตเตอรี่ การเปลี่ยนน้ำมันเบรก หรือตัวกรองแอร์ เป็นต้น แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการ Porsche ที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเพื่อขอใบเสนอราคาที่แน่นอน สำหรับรถไฟฟ้าในประเทศไทยค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษามักจะถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเพราะไม่มีน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันเกียร์เหมือนรถทั่วไป แต่การดูแลระบบแบตเตอรี่ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ Porsche ในประเทศไทยมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครบวงจร รวมถึงศูนย์บริการอย่างเป็นทางการในเมืองหลักอย่างกรุงเทพฯ และภูเก็ต เพื่อให้การสนับสนุนผู้ใช้อย่างมืออาชีพ นอกจากนี้มาตรการส่งเสริมรถไฟฟ้าในประเทศไทย เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีรถยนต์ อาจส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผู้สนใจควรพิจารณารวมๆกัน
Q
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาของ Porsche Taycan คืออะไร ดูแนวคิดได้ที่นี่
พอร์เช่ Taycan ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ที่ประเทศไทย มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถทั่วไป แต่ก็ยังมีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบเดิม โดยค่าใช้จ่ายรายปีจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 ถึง 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและพฤติกรรมการขับขี่ ซึ่งครอบคลุมการตรวจเช็คระยะ การตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ การบำรุงรักษาระบบเบรก และการเปลี่ยนไส้กรองแอร์ เนื่องจากรถไฟฟ้าไม่มีเครื่องยนต์และเกียร์ ทำให้ไม่ต้องเสียค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือหัวเทียน แต่จุดสำคัญคือการดูแลแบตเตอรี่และการตรวจสอบระบบไฟฟ้าแรงสูง สภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทยอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ จึงแนะนำให้ไปตรวจเช็คกับศูนย์บริการอย่างเป็นทางการเป็นประจำเพื่อยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ ศูนย์บริการพอร์เช่ในไทยยังมีแพ็กเกจบริการพิเศษที่รวมถึงบริการช่วยเหลือบนถนนและบริการชาร์จเคลื่อนที่ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับเจ้าของรถ ส่วนเรื่องยาง เนื่องจาก Taycan เป็นรถที่มีสมรรถนะสูง แนะนำให้เลือกยางประสิทธิภาพสูงที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและตรวจสอบการสึกหรอเป็นประจำ ส่วนค่าเบี้ยประกันจะสูงกว่ารถทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันและแผนที่เลือก โดยรวมแล้วค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาของ Taycan สอดคล้องกับตำแหน่งรถระดับไฮเอนด์ แต่ด้วยโครงสร้างของรถไฟฟ้าที่แตกต่าง ทำให้ในระยะยาวอาจประหยัดกว่ารถยนต์น้ำมันระดับเดียวกัน
ดูเพิ่มเติม