Q

Jaecoo J8 มีสีอะไร

Jaecoo J8 ยังไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทย แต่ในตลาดจีนมีตัวเลือกสีให้ถึง 6 สี ได้แก่ ขาวมุก เงินเมทัลลิก น้ำเงินเข้ม ดำโอปอล แดงเพลิง และเขียวมรกตที่โดดเด่น สีแต่ละสีใช้เทคนิคพ่นสีเมทัลลิกคุณภาพสูง มีความทนทานต่อรังสียูวีและสภาพอากาศได้ดีเป็นพิเศษ โดยสีเขียวมรกตและแดงเพลิงถูกออกแบบมาเพื่อกลุ่มผู้ขับขี่รุ่นใหม่ที่ชอบความสดใสและสปอร์ต เมื่อโดนแสงแดดจะเห็นประกายเมทัลลิกละเอียดสวยงาม ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับซุ้มล้อและชุดแต่งสปอร์ตสีเดียวกับตัวรถ เพื่อความสวยงามและความลงตัวของดีไซน์โดยรวม
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
JAECOO J8 เป็นรถยนต์ไฮบริดหรือเปล่า?
JAECOO J8 มีทั้งรุ่นเครื่องยนต์สันดาปและรุ่นปลั๊กอินไฮบริด รุ่นเครื่องยนต์สันดาปติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0T กำลังสูงสุด 249 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีด มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อ ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดใช้ระบบขับเคลื่อนผสมประกอบด้วยเครื่องยนต์ 1.5T และมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์มีกำลังสูงสุด 115 กิโลวัตต์ ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมสามธาตุจาก Gotion High Tech จึงไม่สามารถกล่าวได้ว่า JAECOO J8 เป็นรถไฮบริดเพียงรุ่นเดียว เนื่องจากมีระบบขับเคลื่อนหลายประเภทให้ผู้บริโภคเลือกตามความต้องการและความชอบ ไม่ว่าจะเป็นความแรงของเครื่องยนต์แบบดั้งเดิม หรือความประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของรถพลังงานใหม่ ทุกคนสามารถหาตัวเลือกที่เหมาะสมได้
Q
ขนาดยางสำหรับ Jaecoo J8 คือเท่าไหร่
Jaecoo J8 มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว การออกแบบล้อขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นและความมั่นคงในการควบคุมรถรวมถึงความเสถียรขณะเข้าโค้ง อย่างไรก็ตามเมื่อขับบนถนนลื่นในช่วงฤดูฝนของไทยหรือถนนชนบทที่ไม่ได้ลาดยาง แนะนำให้เลือกใช้ยางออลเทอร์เรนที่มีแก้มหนาเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและการลุยได้ดี ล้อขนาด 20 นิ้วจะส่งแรงสั่นสะเทือนมากกว่าล้อขนาด 18-19 นิ้วเมื่อผ่านทางชะลอความเร็ว แต่มีข้อดีที่การตอบสนองพวงมาลัยแม่นยำขึ้นขณะขับความเร็วสูง หากต้องการความนุ่มนวลมากขึ้นควรสอบถามกับตัวแทนจำหน่ายว่ามีล้อขนาดเล็กกว่าที่ติดตั้งจากโรงงานให้เลือกหรือไม่
Q
JAECOO J8 มีแรงบิดเท่าไหร่
JAECOO J8 ติดตั้งเครื่องยนต์ 2.0T ที่มีแรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร แรงบิดเป็นตัวชี้วัดสำคัญในวงการรถยนต์ แสดงถึงกำลังที่เครื่องยนต์ส่งออกจากเพลาข้อเหวี่ยง แรงบิดสูงช่วยให้รถมีพละกำลังเพียงพอเมื่อต้องออกตัว เร่งความเร็ว หรือขึ้นทางชัน โดยเฉพาะเมื่อต้องบรรทุกหนักหรือขับบนถนนที่มีสภาพไม่ดี ตัวเลขแรงบิดของ JAECOO J8 ร่วมกับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด ทั้งรุ่นขับสองล้อและขับสี่ล้อ มอบประสบการณ์ขับขี่ที่มั่นใจในทุกสถานการณ์ รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและเส้นทางพิเศษได้อย่างดี
Q
Jaecoo J8 ลุยน้ำได้ลึกแค่ไหน?
Jaecoo J8 มีความสามารถลุยน้ำลึกได้สูงสุด 680 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าโดดเด่นในกลุ่ม SUV ขนาดเดียวกัน เหมาะอย่างยิ่งกับถนนที่มีน้ำขังในช่วงฤดูฝนของประเทศไทย ตัวเลขนี้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดโดยระบบไฟฟ้าและตำแหน่งท่อดักอากาศได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัยตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตามขณะขับลุยน้ำควรรักษาความเร็วคงที่และหลังจากผ่านควรแตะเบรกเบาๆ เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรกเพิ่มเติม ความสามารถในการลุยน้ำยังขึ้นอยู่กับแรงยึดเกาะของยางและความเร็วของกระแสน้ำ หากใช้งานในพื้นที่น้ำท่วมบ่อยอย่างกรุงเทพควรพิจารณาติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่แนะนำโดยศูนย์บริการเช่นท่อดักอากาศแบบยกสูงเพื่อเพิ่มความปลอดภัย หลังจากลุยน้ำควรล้างทำความสะอาดใต้ท้องรถทันทีเพื่อป้องกันสนิมและการกัดกร่อน
Q
Jaecoo J8 ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไหน?
Jaecoo J8 มีระบบขับเคลื่อนให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์สันดาปและรุ่นปลั๊กอินไฮบริด รุ่นเครื่องยนต์สันดาปติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0T กำลังสูงสุด 249 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อและขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก รองรับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะไกล ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดมาพร้อมระบบขับเคลื่อนที่ผสานเครื่องยนต์เบนซิน 1.5T กับมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์มีกำลังสูงสุด 115 กิโลวัตต์ ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ NMC จากบริษัท Gotion High Tech ซึ่งระบบนี้รวมข้อดีของทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน ให้ทั้งพลังขับเคลื่อนที่ดีเยี่ยมและประหยัดเชื้อเพลิงพร้อมลดการปล่อยมลพิษ
Q
Jaecoo 8 มีความยาวเท่าไหร่
Jaecoo 8 มีความยาวตัวถัง 4820 มิลลิเมตร รถ SUV ขนาดกลางรุ่นนี้มีมิติตัวถังยาว 4820 กว้าง 1930 สูง 1699 ระยะฐานล้อ 2820 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงในตลาด ความยาวของรถช่วยให้การจัดวางภายในห้องโดยสารมีความสะดวกสบาย รองรับการจัดที่นั่งที่กว้างขวางโดยเฉพาะในรุ่นที่มีเจ็ดที่นั่งที่ให้พื้นที่กว้างขวางทั้งแถวที่สองและสาม อีกทั้งยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่เพียงพอรองรับได้ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันหรือการท่องเที่ยวระยะไกลกับครอบครัวและเพื่อนฝูง การทำความเข้าใจขนาดรถถือเป็นสิ่งสำคัญเมื่อต้องพิจารณาความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานจริง
Q
Jaecoo J8 ไฟฟ้าหรือไม่
Jaecoo J8 ไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ล้วน แต่ใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร รหัส SQRF4J20C โดยใช้เทคโนโลยีวงจรมิลเลอร์อัตคินสัน บล็อกกระบอกสูบอะลูมิเนียม และระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงตรง ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ ACTECO เจเนอเรชันที่สามที่พัฒนาโดยความร่วมมือระหว่าง Chery และบริษัทวิศวกรรม AVL จากออสเตรีย นอกจากนี้ Chery ยังเคยเผยโฉมรุ่นปลั๊กอินไฮบริด Jaecoo J8 PHEV ซึ่งรองรับโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรดที่ชาญฉลาด ประหยัด และปลอดภัย หากคุณมีแผนจะซื้อรถแนะนำให้ติดตามข้อมูลข่าวสารของรุ่นนี้อย่างใกล้ชิดหรือไปที่โชว์รูมเพื่อรับข้อมูลโดยละเอียดจะช่วยให้เลือกได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด
Q
Jaecoo J8 มีอุปกรณ์เสริมอะไรบ้าง
Jaecoo J8 มาพร้อมอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานได้จริงหลายรายการ ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุหนังสังเคราะห์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมฟังก์ชันเบาะนั่งแบบปรับอุ่น มาพร้อมหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาที่ช่วยให้ห้องโดยสารโปร่งโล่งยิ่งขึ้น ติดตั้งกล้องรอบคัน 360 องศาและระบบเซนเซอร์จอดรถหน้าและหลังช่วยให้จอดรถได้สะดวกยิ่งขึ้น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอุณหภูมิสำหรับผู้โดยสารตอนหลังรวมถึงแถวที่สามมีช่องแอร์และพอร์ตชาร์จ USB แยกต่างหากพร้อมแผ่นชาร์จไร้สายและหน้าจอมาตรวัด LCD ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบความปลอดภัยเป็นจุดเด่นประกอบด้วยระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง ADAS เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB และถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบป้องกันเครื่องยนต์ถูกขโมย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ภายนอกติดตั้งไฟหน้า LED ไฟตัดหมอก LED กระจกมองข้างปรับพับอัตโนมัติพร้อมระบบไล่ฝ้า ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและยกระดับประสบการณ์การเดินทาง
Q
J8 มีความเร็วสูงสุดเท่าไหร่
Jaecoo J8 มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานบนทางหลวงในประเทศไทย ระบบขับเคลื่อนได้รับการปรับจูนมาเป็นพิเศษเพื่อให้มีกำลังที่ต่อเนื่องควบคู่กับความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายทั้งในเมืองและพื้นที่ภูเขาในประเทศไทย แม้รถจะรองรับการใช้งานความเร็วสูงได้ดีแต่แนะนำให้ลดความเร็วลงเมื่อเจอสภาพถนนลื่นหรือในช่วงอากาศร้อนเพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์และเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่ ความมั่นคงในความเร็วสูงของรถรุ่นนี้มาจากการออกแบบช่วงล่างและล้อขนาด 20 นิ้วอย่างพิถีพิถัน อย่างไรก็ตามการขับที่ความเร็วสูงสุดเป็นเวลานานจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันและเร่งการสึกหรอของยาง การควบคุมความเร็วอย่างเหมาะสมจะช่วยให้รถแสดงสมรรถนะได้ดีที่สุด
Q
Jaecoo J8 มีแรงม้าเท่าไหร่
Jaecoo J8 มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0T กำลังสูงสุด 249 แรงม้า เครื่องยนต์รุ่นนี้ให้กำลังที่เพียงพอรองรับการใช้งานทั้งในเมืองที่ต้องเจอกับการหยุดและออกตัวบ่อยครั้งได้อย่างราบรื่น และยังตอบสนองดีในการขับทางไกลหรือใช้ความเร็วสูง เช่น การเร่งแซงบนทางด่วน Jaecoo J8 มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถเพิ่มความสามารถในการขับผ่านเส้นทางลื่นหรือทางออฟโรดเบาๆ ได้ดีขึ้น เพิ่มทั้งความสนุกในการขับขี่และความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

การออกแบบส่วนนอกที่สไตล์ทำให้ดูน่าสนใจ
คุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยรับประกันความปลอดภัย
ส่วนภายในที่สบายให้การขับขี่ที่น่าพอใจ
ประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่ดีเพื่อการขับขี่ที่ราบรื่น

ข้อเสีย

การใช้เชื้อเพลิงอาจสูงขึ้นเล็กน้อย
ผู้ใช้บางคนรู้สึกว่าระบบโทรคมนาคมระหว่างผู้ขับและรถซับซ้อน
ระยะห่างขาในเบาะหลังอาจกว้างขึ้น

Q&A ล่าสุด

Q
Chery Omoda 5 เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือไม่?
รุ่น Chery Omoda 5 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยส่วนใหญ่จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ไม่ใช่ระบบสี่ล้อขับเคลื่อน โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์รุ่นทั่วไปมักจะเน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหน้าเป็นหลัก ระบบขับเคลื่อนแบบนี้เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและสภาพถนนทั่วไป สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้ดี แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดต้นทุนได้อีกด้วย แต่ในบางตลาด เช่น อินโดนีเซีย อาจจะมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและระบบสี่ล้อขับเคลื่อน ระบบขับเคลื่อนแต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกัน ระบบสี่ล้อขับเคลื่อนมักจะแสดงประสิทธิภาพโดดเด่นในสภาพถนนที่ซับซ้อน อากาศเลวร้าย หรือเมื่อต้องการกำลังส่งและความมั่นคงสูงกว่า เช่น ในถนนหิมะ ถนนโคลน หรือสภาพถนนออฟโรด ส่วนระบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ต้นทุนต่ำกว่า และให้ความสะดวกสบายรวมถึงประหยัดน้ำมันได้ดีกว่าในการขับขี่ในเมือง
Q
Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์น้ำมันเบนซินใช่หรือไม่?
ใช่แล้ว Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน แม้ว่าชื่อของมันอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นรถพลังงานใหม่ แต่จริงๆ แล้วมันคือรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน Omoda 5 ถูกออกแบบมาในตำแหน่ง SUV ขนาดกะทัดรัด ด้วยดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น หน้าตาหน้ารถมาพร้อมกับคอนเซปต์แบบไร้กรอบโครเมี่ยม เน้นลวดลายกริลโล่ขนาดใหญ่เล็กสลับกัน พร้อมไฟหน้าแบบแยกส่วนที่ดูเฉียบคมและจัดเรียงในรูปแบบเมทริกซ์ ด้านข้างเป็นสไตล์เรียวลู่หลังคาแบบลอยตัว เส้นสายตัวรถที่ตัดเป็นช่วงๆ เพิ่มความรู้สึกด้านเทคโนโลยี มาพร้อมล้อสปอร์ตสีดำ ขนาดตัวรถคือ 4400/1830/1585 มม. ระยะฐานล้อ 2630 มม. รถน้ำมันรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานประจำวันและความสนุกในการขับขี่ แถมยังให้ประสบการณ์ด้านสมรรถนะที่คุ้มค่า
Q
รถยนต์ Chery Omoda 5 SUV กำลังถูกเรียกคืนทันทีหรือไม่?
ณ เวลานี้ยังไม่มีข่าวสารอย่างเป็นทางการจาก Chery ที่ระบุว่า SUV รุ่น Omoda 5 จะมีการเรียกกลับในทันที โดยปกติแล้วการเรียกกลับรถยนต์จะเกิดขึ้นเมื่อพบข้อบกพร่องที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพการทำงานของรถ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตจะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดและแจ้งให้ผู้บริโภครับทราบผ่านช่องทางทางการ เช่น การประกาศจากเว็บไซต์ทางการ การแจ้งเตือนจากตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น หากผู้ใช้งานต้องการติดตามข้อมูลการเรียกกลับของรถรุ่นนี้ สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ทางการของ Chery บัญชีโซเชียลมีเดียทางการ หรือสอบถามโดยตรงที่ตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นที่ได้รับอนุญาต พวกเขาจะสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเกี่ยวกับสถานะของรถรุ่นนี้ เพื่อให้เจ้าของรถสามารถรับทราบและดำเนินการแก้ไขในกรณีที่มีการเรียกกลับ
Q
รถ Chery Omoda 5 ประหยัดน้ำมันไหม?
Chery Omoda 5 รุ่นต่างๆ จะมีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่น 1.5T ที่ระบุในรายการนั้นมีการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 7.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นพื้นฐานที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 7.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะสั้นในช่วงวันหยุด ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน หรือน้ำหนักบรรทุก ดังนั้นตัวเลขการใช้น้ำมันจริงของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมันที่สุด ควรขับขี่อย่างนุ่มนวล ใช้แอร์อย่างเหมาะสม และไม่ควรปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบานานเกินไป นอกจากนี้ Chery ยังแนะนำให้ใช้เชื้อเพลิง 95 RON สำหรับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรใช้เบนซิน 91 RON ก็เพียงพอ การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามที่กำหนดจะช่วยรักษาประสิทธิภาพของรถและช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น
Q
Chery Omoda 5 มีคะแนนความปลอดภัยเท่าไหร่?
รถ Chery Omoda 5 ในปี 2022 ได้รับการประเมินความปลอดภัย 5 ดาวจาก ANCAP ครับ ในส่วนการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ได้คะแนน 87% ส่วนเด็กได้ 88% ส่วนผู้ใช้ถนนที่เปราะบางได้ 68% และระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยได้ 83% รุ่นนี้ติดตั้งถุงลมนิรภัยถึง 7 ตัว รวมถึงถุงลมนิรภัยกลางสำหรับผู้โดยสารแถวหน้า นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบเบรกอัตโนมัติความเร็วต่ำ (AEB) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมช่วยควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยรักษาเลนในกรณีฉุกเฉิน ระบบตรวจสอบจุดบอด ระบบเตือนเมื่อถอยหลังพร้อมเบรกอัตโนมัติ ระบบตรวจสอบการละสายตาของคนขับ ระบบช่วยควบคุมในจราจรติดขัด ระบบแสดงข้อมูลความเร็วตามป้ายจราจร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และกล้องมองรอบคัน 360 องศา ด้วยฟีเจอร์และคะแนนแบบนี้บอกได้เลยว่าเรื่องความปลอดภัยนั้นค่อนข้างดีทีเดียว ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกมั่นใจได้ระดับนึงเลยล่ะ
ดูเพิ่มเติม