Q
Honda Civic เป็นรถแบบไหน?มาดูที่นี่
Honda Civic เป็นรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คที่ได้รับความนิยมสูง มีหลายรุ่นให้เลือกเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่หลากหลาย ภายนอกดีไซน์โฉบเฉี่ยว เส้นสายตัวถังลื่นไหล รุ่นบางรุ่นเป็นแบบแฮทช์แบ็กที่ดูทันสมัย ไฟหน้าแบบบูมเมอแรงให้ความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
ด้านขุมพลัง มีทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นไฮบริด เช่น รุ่น 1.5 Turbo ใช้ระบบเทอร์โบชาร์จ ให้พละกำลังดี ส่วนรุ่นไฮบริดใช้เครื่องยนต์ควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยประหยัดน้ำมันแต่ยังคงให้สมรรถนะดีเยี่ยม
ภายในห้องโดยสารมีอุปกรณ์ครบครัน เช่น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หน้าจอกลางแบบสัมผัส ระบบความปลอดภัยพื้นฐานครบ ทั้ง ABS ระบบควบคุมการทรงตัว และถุงลมนิรภัยหลายจุด
ราคาจะแตกต่างกันตามรุ่น เช่น Honda Civic 1.5 Turbo EL+ ปี 2024 ราคา 1,039,000 บาท และ Honda Civic e:HEV EL+ ปี 2024 ราคา 1,099,000 บาท ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามงบประมาณและความต้องการ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Honda Civic มีอะไรบ้าง?
Honda Civic เป็นรถที่ได้รับความนิยมสูง และโดยรวมถือว่าทำผลงานได้ดีมาก แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีบางจุดที่สามารถปรับปรุงได้บ้าง โดยเฉพาะระยะห่างจากพื้นถนนที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับรถซีดานในระดับเดียวกัน ทำให้เวลาใช้บนถนนต่างจังหวัดหรือถนนที่มีน้ำขังในหน้าฝนอาจต้องขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
เรื่องเสียงภายในห้องโดยสาร ขณะขับที่ความเร็วสูงยังมีเสียงรบกวนเข้ามาอยู่บ้าง โดยเฉพาะเสียงเครื่องยนต์ในรอบสูง ซึ่งอาจทำให้รู้สึกล้าเล็กน้อยเมื่อขับในสภาพอากาศร้อนนาน ๆ ทั้งนี้ก็เป็นผลจากดีไซน์ที่เน้นความสปอร์ตของตัวรถ
อีกจุดที่มีผู้ใช้บางรายสะท้อนคือ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร อาจมีจังหวะที่ตอบสนองช้าลงเล็กน้อยในสภาพอากาศร้อนจัดอย่างในไทย
นอกจากนี้ แม้ออกแบบภายในจะดูทันสมัย แต่บางส่วนยังใช้วัสดุพลาสติกแข็งที่สัมผัสไม่เนียนเท่าที่ควร และเมื่อโดนแดดจัดเป็นเวลานาน อาจมีเสียงยืดหดของชิ้นส่วนบ้าง
ทั้งหมดนี้เป็นข้อสังเกตจากการใช้งานจริง ไม่ใช่ข้อบกพร่องของตัวรถโดยตรง โดยรวมแล้ว Honda Civic ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะกับการขับขี่ในเมืองของไทยเป็นอย่างดี.
Q
Honda Civic อยู่ใน Segment ไหน?
Honda Civic จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ระดับ C-Segment หรือที่เรียกว่ารถขนาดคอมแพ็ค ซึ่งเป็นรถที่มีขนาดกลาง เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานของครอบครัว
รถในกลุ่ม C-Segment มักมีข้อดีเรื่องความประหยัดน้ำมัน ขับง่าย จอดสะดวก และมีพื้นที่ภายในที่นั่งสบายพอสมควร สำหรับ Honda Civic เองก็ได้รับความนิยมในตลาด ด้วยตัวเลือกขุมพลังที่หลากหลาย ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาและรุ่นไฮบริด รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน และการควบคุมที่มั่นใจ
ภายในรถมีการจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัว รองรับการเดินทางของผู้โดยสารในชีวิตประจำวัน รวมถึงการขนของในระดับหนึ่ง จึงนับว่าเป็นรถ C-Segment ที่มีความสามารถรอบด้านและแข่งขันได้ดีในตลาดประเทศไทย.
Q
เครื่องยนต์ของ Honda Civic มีขนาดกี่ซีซี?
ขนาดเครื่องยนต์ของ Honda Civic แต่ละรุ่นอาจแตกต่างกันไป รุ่นยอดนิยมบางรุ่นใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,498 ซีซี (1.5 ลิตร) เช่น Honda Civic 1.5T Turbo EL+ ปี 2024 ส่วนรุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS ปี 2024 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,993 ซีซี (2.0 ลิตร) นอกจากนี้รุ่นเก่าอย่างปี 2020 ยังมีเครื่องยนต์ขนาด 1,799 ซีซี (1.8 ลิตร) ด้วย ดังนั้น ขนาดซีซีของ Honda Civic จะขึ้นอยู่กับรุ่นและปีของรถที่คุณพูดถึง.
Q
Honda Civic ใช้เครื่องยนต์แบบไหน?
Honda Civic มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายแบบ โดยรุ่นเครื่องยนต์เบนซินยอดนิยมคือขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ อย่างรุ่น Honda Civic 1.5 Turbo EL+ ปี 2024 มีความจุ 1498 มิลลิลิตร ใช้ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า (PS) กำลังสูงสุด 131 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่อง 1700 - 4500 รอบต่อนาที มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับขี่นุ่มนวลและตอบสนองดี เหมาะทั้งการใช้งานทั่วไปและการเร่งแซง
ส่วนรุ่นไฮบริด เช่น Honda Civic e:HEV EL+ ปี 2024 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์มีแรงม้าสูงสุด 141 แรงม้า ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงม้าสูงสุด 184 แรงม้า ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมแบบ ternary lithium และเกียร์ E-CVT ที่ช่วยให้การเปลี่ยนกำลังระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ราบรื่นมากขึ้น อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม
เครื่องยนต์ทั้งสองแบบตอบโจทย์ผู้ใช้ที่มีความต้องการหลากหลาย ไม่ว่าจะเน้นพลังขับเคลื่อนหรือความประหยัดน้ำมัน.
Q
ขนาด PCD (ระยะห่างรูน็อตล้อ) ของ Honda Civic คือเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะห่างรูน็อตล้อ) ของ Honda Civic ที่พบได้บ่อยที่สุดในตลาดไทยคือ 5×114.3 มิลลิเมตร หมายความว่ามีรูน็อต 5 รู เรียงเป็นวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของรุ่นที่ขายในไทย โดยเฉพาะในรุ่นเจเนอเรชันที่ 10 และ 11
อย่างไรก็ตาม หากต้องการเปลี่ยนล้อแม็กในไทย ควรตรวจสอบค่าต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น ค่า ET (Offset) และขนาดรูดุมล้อให้ตรงกับรถ เพราะถึงแม้ PCD จะตรงกัน แต่ล้ออาจไม่พอดีกับรถทุกรุ่น นอกจากนี้ เนื่องจากถนนในไทยมีความหลากหลาย ควรเลือกใช้ล้อคุณภาพดีเพื่อความปลอดภัย และควรปรึกษาศูนย์บริการก่อนเปลี่ยนล้อ โดยเฉพาะหากเป็นรุ่นพิเศษที่อาจมีสเปกต่างออกไป.
Q
Honda Civic มีฟังก์ชัน Apple CarPlay ไหม?
ไม่ใช่ทุกรุ่นของ Honda Civic ที่ติดตั้ง Apple CarPlay มาจากโรงงาน โดยในรุ่นใหม่ ๆ หลายรุ่นเริ่มรองรับระบบอัจฉริยะนี้มากขึ้น หากต้องการเช็กว่ารถของคุณมีหรือสามารถติดตั้ง CarPlay ได้หรือไม่ ควรดูจากรายการอุปกรณ์ของรถหรือสอบถามที่ศูนย์บริการ Honda โดยตรง
แม้บางรุ่นจะไม่มีมาแต่แรก ปัจจุบันก็มีอุปกรณ์เสริมที่สามารถเพิ่มฟังก์ชันนี้ได้ เช่นใน Honda Civic รุ่นปี 2022 เฉพาะรุ่นท็อปอย่าง Touring เท่านั้นที่รองรับ CarPlay แบบไร้สาย ส่วนรุ่นอื่นจะใช้ได้เฉพาะแบบมีสาย CarPlay ช่วยให้ผู้ขับสามารถควบคุมโทรศัพท์ด้วยเสียง ใช้นำทาง ฟังเพลง ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่.
Q
ยางที่ใช้ใน Honda Civic มียี่ห้ออะไรบ้าง?
ยางที่ใช้ใน Honda Civic ที่ขายในไทย ส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อจากญี่ปุ่น เช่น Yokohama, Dunlop และ Bridgestone โดยรุ่นของยางจะต่างกันตามรุ่นย่อยและปีที่ผลิต เช่น รุ่น 1.5T ตัวท็อป มักใช้ยาง Bridgestone POTENZA ที่เน้นสมรรถนะสูง ส่วนรุ่น 1.8L รุ่นเริ่มต้น อาจใช้ยาง Yokohama BLUEARTH หรือ Dunlop ENASAVE ที่เน้นความประหยัดและความนุ่มนวลในการขับขี่
ด้วยสภาพอากาศในไทยที่ร้อนและมีฝนบ่อย ยางติดรถเหล่านี้สามารถรองรับถนนลื่นในหน้าฝนได้ดี อย่างไรก็ตาม Honda อาจปรับเปลี่ยนยี่ห้อยางในแต่ละล็อตผลิตตามสถานการณ์ของซัพพลายเชน ทำให้รถรุ่นเดียวกันอาจมียางติดรถต่างกันเล็กน้อย แต่ทุกเส้นยังคงได้มาตรฐานที่เหมาะกับ Civic
ถ้าอยากรู้ว่ายางติดรถจากโรงงานเป็นยี่ห้อไหน แนะนำให้ดูที่สติกเกอร์แรงดันลมยางที่เสาประตูฝั่งคนขับ หรือสอบถามศูนย์ Honda ใกล้บ้าน.
Q
ภาษีถนนของ Honda Civic ราคาเท่าไหร่? คำนวณยังไง?
ภาษีถนนประจำปีของ Honda Civic จะคิดตามขนาดความจุเครื่องยนต์ โดยมีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้:
– รุ่นที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1.0-1.6 ลิตร (เช่น Civic 1.5T เทอร์โบ) จะมีภาษีถนนอยู่ที่ประมาณ 1,200-1,500 บาทต่อปี
– รุ่นที่มีเครื่องยนต์ 1.6-1.8 ลิตร (เช่น Civic 1.8L) อยู่ที่ประมาณ 1,800-2,100 บาทต่อปี
การคำนวณภาษีจะยึดตามอัตราเฉลี่ยประมาณ 80-100 บาทต่อ 100 ซีซี ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังมีภาษีเพิ่มเติมตามอายุการใช้งานของรถ หากรถมีอายุเกิน 5 ปี จะมีการบวกเพิ่มอีกประมาณ 10%-30% แล้วแต่ปีที่ใช้งาน
แนะนำให้ตรวจสอบอัตราที่แน่นอนจากเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก (DLT) หรือสอบถามได้ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้าน และสามารถชำระภาษีผ่านธนาคารหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ได้เลย.
Q
น้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ Honda Civic ต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่?
ปริมาณน้ำมันเครื่องของ Honda Civic จะแตกต่างกันตามประเภทของเครื่องยนต์ โดยรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T (รหัส L15B) ต้องใช้น้ำมันเครื่องประมาณ 3.7 ลิตร (รวมการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง) ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรแบบธรรมดา (รหัส R18Z) ใช้ประมาณ 4.2 ลิตร
ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้เกรด 0W-20 หรือ 5W-30 ที่ทาง Honda แนะนำ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีและยืดอายุการใช้งาน ทั้งนี้ ควรเติมตามระดับที่วัดจากก้านวัดน้ำมันเครื่อง ไม่ควรเติมมากหรือน้อยเกินไป เพราะจะกระทบต่อการทำงานของเครื่องยนต์
ศูนย์บริการ Honda ในไทยมักใช้อุปกรณ์เฉพาะในการเติมน้ำมันอย่างแม่นยำ และแนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน สำหรับรถที่ขับในสภาพการจราจรติดขัด เช่น ในกรุงเทพฯ ควรพิจารณาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องถี่ขึ้นเพื่อรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดี.
Q
ราคารถมือสองของ Honda Civic อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ราคามือสองของ Honda Civic จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพรถ ระยะทางที่ใช้งาน และความต้องการในตลาด ดังนั้นราคาจึงอาจแตกต่างกันไป
ยกตัวอย่างรุ่นปี 2024 — Honda Civic 1.5 Turbo EL+ มีราคารถใหม่อยู่ที่ประมาณ 1,039,000 บาท ส่วนรุ่น e:HEV EL+ อยู่ที่ประมาณ 1,099,000 บาท และรุ่น e:HEV RS ราคาประมาณ 1,239,000 บาท
ถ้ารถอยู่ในสภาพดี วิ่งน้อย ราคามือสองก็จะสูงหน่อย แต่ถ้ามีร่องรอยการใช้งานหนัก หรือมีประวัติอุบัติเหตุ ราคาก็จะลดลง และถ้าตลาดมีความต้องการมาก ราคามือสองอาจสูงขึ้น แต่ถ้ามีรถเยอะกว่าคนซื้อ ราคาก็อาจลดลง
หากต้องการรู้ราคามือสองที่แน่นอน แนะนำให้ไปดูตามตลาดรถมือสอง แพลตฟอร์มออนไลน์ หรือสอบถามจากตัวแทนจำหน่าย Honda โดยตรง จะได้ราคาที่ตรงกับสภาพรถจริงมากที่สุด.
Q&A ล่าสุด
Q
ถ้าจะซื้อ Mercedes-Benz CLA รุ่นไหนดีที่สุด?
รถยนต์ Mercedes CLA แต่ละรุ่นมีจุดเด่นแตกต่างกันไป จึงยากที่จะตัดสินว่ารุ่นไหน "ดีที่สุด" ควรเลือกตามความต้องการและความชอบส่วนบุคคล หากต้องการความคุ้มค่า CLA 200 Urban เป็นตัวเลือกที่ดี โดยมีราคา 2,140,000 บาท ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ให้กำลังเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตามมาตรฐานผู้ผลิตอยู่ที่ 8.1 ลิตร/100 กิโลเมตร สามารถตอบสนองความต้องการการเดินทางพื้นฐานได้เป็นอย่างดี หากต้องการสมรรถนะและอุปกรณ์ที่สูงขึ้น CLA 250 AMG Dynamic น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยมีราคา 2,690,000 บาท ติดตั้งเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ให้กำลังมากขึ้น เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 7.1 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตามมาตรฐานผู้ผลิตอยู่ที่ 8.7 ลิตร/100 กิโลเมตร และยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ครบครัน ส่วนผู้ที่มีงบประมาณเพียงพอและชื่นชอบประสบการณ์การขับขี่สมรรถนะสูง CLA 45 AMG 4MATIC จะเป็นตัวเลือกในอุดมคติ โดยมีราคา 5,990,000 บาท สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 4.6 วินาที มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ สรุปแล้ว ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อควรไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
Q
CLA ขับดีไหม?
CLA เป็นรุ่นรถที่เหมาะสำหรับการขับขี่ CLA มีลักษณะภายนอกที่สวยงามและเท่ สไตล์หลังคาลาดและประตูไร้กรอบเป็นสิ่งที่ดึงดูด สามารถตอบสนองความต้องการด้านรูปลักษณ์ของผู้ขับขี่ ระบบภายในรถใช้โครงสร้างแบบครอบครัวของยี่ห้อเบนซ์ มีจอคู่ขนาด 12.3 นิ้ว สามารถทำงานอย่างราบรื่นและมีคุณภาพสูง เบาะนั่งมีหลายฟังก์ชัน ให้ความสบายดี ในด้านกำลังมีเครื่องยนต์ระดับความจุต่างๆ ให้เลือกหลายแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการในการขับขี่ที่แตกต่างกัน ขับขี่ได้อย่างมั่นคงและราบรื่น ระบบช่วงล่างตั้งค่าได้ดี ให้กำลังที่มีศักยภาพที่ความเร็วปานกลาง และการควบคุมดี นอกจากนี้ ผลการลดเสียงและรบกวนภายในรถยอดเยี่ยม สร้างสภาพแวดล้อมการขับขี่ที่เงียบสงบ อย่างไรก็ตาม CLA ก็มีข้อเสียบางอย่าง เช่น พื้นที่ด้านหลังไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ตัวสูง ช่องเก็บสัมภาระมีขนาดจำกัด และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูง โดยรวมแล้ว ถ้าสามารถยอมรับข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ได้ CLA จะเป็นตัวเลือกในการขับขี่ที่ดี
Q
เครื่องยนต์ของ CLA เป็นยังไงบ้าง?
เครื่องยนต์ของ CLA มีหลายรุ่น และมีลักษณะการทำงานที่แตกต่างกัน เช่น CLA 200 ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 230 กม./ชม. และเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.9 วินาที ตามข้อมูลทางการ ส่วน CLA 45 AMG 4 Matic ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม. และเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาที ให้กำลังขับที่แข็งแกร่ง สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร็วและพลัง ในแง่ของการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ละรุ่นก็มีความแตกต่างกัน เช่น CLA 180 Urban มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงรวมตามมาตรฐานอยู่ที่ 5.3 ลิตร/100 กม. ซึ่งถือว่าประหยัด นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังมีเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ก้าวหน้าและมีความน่าเชื่อถือสูง พร้อมทั้งระบบเทอร์โบชาร์จและระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทันสมัย ทำให้สามารถรักษาสมดุลระหว่างพลังและประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงได้ โดยรวมแล้ว เครื่องยนต์ของ CLA สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคทั้งในด้านกำลังขับขี่และการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
Q
CLA สีไหนสวยที่สุด?
CLA มีสีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งแต่ละสีก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยสีที่ "ดีที่สุด" นั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล หากคุณต้องการความเรียบหรูดูสง่า สีดำและสีขาวเป็นตัวเลือกที่ดี โดยสีดำให้ความรู้สึกมั่นคงและลึกลับ ส่วนสีขาว則ดูสะอาดและบริสุทธิ์ สำหรับ CLA 200 รุ่นใหม่ที่มีเส้นสายโค้งมนนั้นสีขาวได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ส่วนใครที่ชอบสีสันสดใสโดดเด่น อาจพิจารณาสีแดง สีน้ำเงิน หรือสีเหลือง ตัวอย่างเช่น Mercedes-Benz CLA 45 AMG ที่เปลี่ยนสีเป็นเหลืองไฟฟ้า จะให้ความรู้สึกมีพลังเยาวชนและดูโดดเด่นเป็นอย่างมากในกลุ่มรถยนต์ นอกจากนี้ยังมีสีอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย เช่น ดำจักรวาล เงินขั้วโลก แดงจูปิเตอร์ น้ำเงินจักรวาล ขาวขั้วโลก และเทาภูเขา เป็นต้น ในจำนวนนี้สีเทาภูเขาให้ความรู้สึกเรียบง่ายและเป็นประโยชน์ ดูสง่าและไม่แสดงคราบสกปรกได้ง่าย ทำให้ดูแลรักษาในชีวิตประจำวันได้สะดวก ส่วนสีขาวขั้วโลก則ดูสง่างามและคลาสสิก ให้ความรู้สึกมั่นใจในตัวเองและยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืนอีกด้วย
Q
Mercedes-Benz CLA ขับเร็วไหม?
Mercedes CLA มีเวอร์ชันต่างๆ และประสิทธิภาพความเร็วแตกต่างกัน เช่น Mercedes-Benz CLA-Class 45 AMG 4 Matic รุ่น 2020 มีความเร็วสูงสุดถึง 250 กม./ชม. และสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.6 วินาที ผลการเร่งนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ช่วยให้การออกตัวและการแซงทำได้รวดเร็ว รวมถึงสามารถเข้าสู่ความเร็วสูงได้อย่างรวดเร็วในการขับขี่บนทางหลวง ส่วน Mercedes-Benz CLA-Class 250 AMG Dynamic รุ่น 2020 มีความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. และเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 7.1 วินาที ประสิทธิภาพด้านกำลังยังคงดีเยี่ยม สามารถตอบสนองความต้องการด้านความเร็วและความตื่นเต้นในการขับขี่ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี สำหรับ Mercedes-Benz CLA-Class 200 Urban รุ่น 2020 มีความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. และเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 7.9 วินาที ขณะที่ Mercedes-Benz CLA-Class 180 Urban รุ่น 2020 มีความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. และใช้เวลา 10.3 วินาที ในการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. เมื่อเทียบกันแล้วความเร็วอาจไม่โดดเด่นนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับการขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน โดยสรุป รุ่นประสิทธิภาพสูงบางรุ่นของ CLA มีความเร็วที่เหนือกว่า ในขณะที่รุ่นมาตรฐานก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Honda วางจำหน่าย Civic TYPE R รุ่น Ultimate เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซทำให้เลิกขายในยุโรป
พงศธรJun 11, 2025

เปรียบเทียบ BYD Seal กับ Honda Civic: การต่อสู้ระหว่างรถยนต์น้ำมันและรถยนต์ไฟฟ้า!
ธนวัฒน์Sep 9, 2024

การออกแบบที่ทันสมัยและสปอร์ตของ Honda Civic รุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้บริโภควัยรุ่นหรือไม่
สุรเดชSep 3, 2024

2025 Honda Civic ปรากฏตัว เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในภายนอก รุ่น 1.5 Turbo จะเป็นรุ่นยกเลิก?
LienMay 22, 2024

Honda Civic Hybrid แตกต่างจาก Turbo อย่างไร
LienMay 7, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย